ไป๋หลี่ิชวนตกตะลึงเพราะไม่สามารถป้องกันได้จึงปล่อยให้ผงยาพิษกระจายไปทั่วใบหน้า
กูเฟยเยี่ยนตัดสินใจหันหลังวิ่งออกไปอย่างเด็ดขาด เมื่อสักครู่นี้ที่หมอนี่เอ่ยแนะนำหุบเขาเยาเถากับนาง เขาพูดถึงทางออกไว้อย่างชัดเจนแล้ว แน่นอนว่านางต้องหลบหนีไปทางนั้น
ดูเหมือนว่าไป๋หลี่ิชวนจะไม่กลัวกูเฟยเยี่ยนหลบหนีไปเลยแม้แต่น้อย เขาเพียงแค่เหลือบมองแผ่นหลังของนางแวบหนึ่งแต่ไม่ได้ไล่ตามออกไป เขาลูบไปบนใบหน้าพลางมองผงยาพิษที่อยู่บนฝ่ามือ ริมฝีปากเกิดการโค้งมนเป็รอยยิ้มขี้เล่นขึ้นมา “จิจิจิ น่าสนใจขึ้นเรื่อยๆ เลย! ”
ไม่ใช่ว่าเขาไม่ได้เตรียมตัวป้องกัน แต่เป็เพราะค้นตัวกูเฟยเยี่ยนั้แ่แรกแล้วและไม่พบยาพิษบนร่างนาง ไม่นึกเลยว่านังหนูคนนี้จะคว้ายาพิษออกมาจากอากาศได้! นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน?
ในขณะนี้หญิงรับใช้ที่หลบอยู่ด้านข้างก็รีบร้อนเข้ามายื่นผ้าเช็ดหน้าหอมกรุ่น “นายท่าน นี่มันสกปรกมากเลย! นู๋ปี้ช่วยท่านเช็ดออก” ไป๋หลี่ิชวนหันไปมองพลันเอ่ยถามด้วยความยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ “พิษนี้คร่าชีวิตผู้คนได้ เ้าไม่กลัวหรือ? ”
หญิงรับใช้เหลือบมองแวบหนึ่งด้วยความสงสัย นางยังไม่ได้รอให้เขาตอบตกลงก็เดินเข้าไปเพื่อที่จะดึงมือของเขามา ไป๋หลี่ิชวนดอมดมกลิ่นบนฝ่ามือแล้วยื่นมือไปให้หญิงรับใช้
เมื่อเห็นเช่นนี้หญิงรับใช้ก็ยิ่งสบายใจลง นางมองออกว่าในสายตาของนายท่านแล้วพิษนี้ไม่ร้ายแรงอะไร หากััก็ไม่เป็อะไร หญิงรับใช้ไม่เพียงแค่ช่วยเขาเช็ดมือด้วยความระมัดระวัง แต่ยังเป็ห่วงและ้าช่วยเขาเช็ดใบหน้าด้วยการกระทำที่ยกไม้ยกมือ เล่นหูเล่นตาดึงดูดผู้คน
ไป๋หลี่ิชวนมองอยู่ในสายตา เขาหัวเราะพลางถือโอกาสโน้มกายลงมาเพื่อที่จะนำใบหน้าที่ดึงดูดผู้คนให้หลงใหลเขยิบเข้าใกล้แล้วให้หญิงรับใช้ค่อยๆ เช็ด เรียกได้ว่าหญิงรับใช้เช็ดด้วยความสนอกสนใจ อย่าว่าแต่ให้นางเป็คนเช็ดเลย แม้แต่ให้มองดูก็อดไม่ได้ที่จะฟุ้งซ่านขึ้นมา ไป๋หลี่ิชวนหลับตาลงด้วยสีหน้าที่เรียกว่าเพลิดเพลิน ก่อนจะยิ้มบางเบาแล้วเอ่ยออกมาว่า “น่าสนใจ แม้แต่พิษนี้ก็น่าสนใจมาก! เป็พิษที่แม้แต่ข้าก็ไม่รู้จัก”
ทันทีที่ไป๋หลี่ิชวนเอ่ยคำพูดเช่นนี้ออกมา มือของหญิงรับใช้ก็แข็งทื่อในทันที “นายท่าน นี่…พิษนี่…”
ไป๋หลี่ิชวนไม่ได้พูดล้อเล่น เขาไม่รู้จักผงยาพิษที่กูเฟยเยี่ยนใช้จริงๆ รู้เพียงแค่ว่านี่คือพิษที่ออกฤทธิ์ช้าและจะไม่ได้กำเริบในเร็วๆ นี้
เขาหยิบผ้าเช็ดหน้าหอมกรุ่นของหญิงรับใช้ ก่อนจะก้าวเดินไปส่องกระจกด้านข้างอย่างละเอียด ผ่านไปชั่วขณะเขาก็เช็ดผงเ่าั้ออกจากเส้นผมแล้วนำผ้าเช็ดหน้าหอมกรุ่นผืนนั้นใส่ลงไปที่ลิ้นชักเล็กๆ ใต้กระจก
แม้ว่าเขาจะสนใจยาพิษตัวนี้มาก ทว่าเขาสนใจแพทย์หญิงตัวน้อยคนนี้มากกว่า
เขาไปเล่นเป็เพื่อนนางก่อนแล้วค่อยกลับมาครุ่นคิดยาถอนพิษก็ไม่สาย
หากเขาคาดเดาไม่ผิด พิษตัวนี้คือพิษเช้ามืด ่เช้าวางยาพิษ่มืดถึงจะออกฤทธิ์ หาก่มืดวางยาพิษเช่นนั้นก็จะออกฤทธิ์ใน่เช้า
เขาไม่ทราบว่าแพทย์หญิงตัวน้อยคนนี้ซ่อนยาพิษไว้ได้อย่างไร เขาคาดเดาเอาไว้ว่าความตั้งใจเดิมของนางน่าจะไม่ใช่การวางยาพิษแต่เป็เพราะบนมือนางไม่มีสิ่งอื่นใดที่สามารถใช้ได้แล้ว นาง้าโอกาสในการหลบหนีจึงนำพิษนี้มาขู่ขวัญเขา
ไป๋หลี่ิชวนก้าวเดินออกไปก้าวใหญ่ หญิงรับใช้อยากร้องไห้แต่ก็ร้องไม่ออก “นายท่าน…นายท่าน! ”
หญิงรับใช้อยากจะไล่ตามออกไป แต่ท้ายที่สุดก็ไม่กล้าหุนหันพลันแล่น เมื่อแน่ใจแล้วว่านายท่านไม่สนใจนาง นางจึงวิ่งหนีออกไปราวกับหนีตาย ์ทราบดีว่าพิษนี้คือพิษอะไร นางจะไปล้างมือ!
ไป๋หลี่ิชวนไล่ตามออกไปจากบ้านไม้ แต่ก็มองไม่เห็นร่างของกูเฟยเยี่ยนมาสักพักแล้ว เมื่อเป็เช่นนี้เขาจึงมุ่งตรงไปที่ทะเลสาบโดยไม่กังวลถึงสิ่งใดเลยแม้แต่น้อย
ด้านนอกของหุบเขาเถาเยามีลำธารลึก ภายในลำธารลึกมีแม่น้ำที่ทอดยาวเข้าไปในหุบเขาลึก เมื่อมาถึงหุบเขาเถาเยาก็ได้กลายมาเป็ทะเลสาบลึกแห่งหนึ่งที่น้ำในทะเลสาบใสราวกับก้อนเมฆ ปลาที่ว่ายน้ำมากมี ดูเหมือนว่าจะตื้นแต่ความจริงแล้วลึกพันฉื่อ เขาตั้งชื่อทะเลสาบแห่งนี้ว่าทะเลสาบดอกท้อ ทางเข้าออกเดียวของหุบเขาเถาเยาสู่โลกภายนอกก็คือถ้ำใต้หน้าผาตั้งตระหง่านสูงชันด้านข้างของทะเลสาบลึก
ในขณะนี้กูเฟยเยี่ยนมาถึงทะเลสาบดอกท้อแล้ว นางมองไม่เห็นเรือลำเล็กที่ไป๋หลี่ิชวนเอ่ยแนะนำไปเมื่อสักครู่นี้
นางหันไปมองป่าดอกท้อด้านหลังที่ไร้ซึ่งผู้คนแล้วหันมามองน้ำในทะเลสาบด้านหน้าที่ใสสะอาดไร้ซึ่งสกปรกด้วยความสั่นเทาที่ทนไว้ไม่ไหว!
ฤดูกาลนี้คือต้นฤดูร้อนเดือนสี่ แม้ว่าสภาพอากาศจะเริ่มอบอุ่นขึ้นแล้ว แต่ภายในป่าเขายังคงร่มเย็นอยู่มาก อีกทั้งอุณหภูมิภายในหุบเขาต่ำกว่าอุณหภูมิภายนอกมากอย่างเห็นได้ชัด ด้วยเหตุนี้แล้วดอกท้อภายในนี้จึงเบ่งบานออกมาใน่เวลานี้
น้ำในทะเลสาบในตอนนี้จะต้องเย็นะเืถึงกระดูกเป็แน่!
จิ้งจอกใหญ่หลายใจตัวนั้นบอกว่าใน่เวลาเดือนที่สี่เขาได้ว่ายน้ำอยู่ในลำธารลึกด้านนอกแล้วพบเจอทางเข้าแห่งนี้โดยบังเอิญ กูเฟยเยี่ยนไม่เข้าใจว่าหมอนั่นมาว่ายน้ำในสถานที่แบบนี้ทำไม เขาไม่กลัวหนาวหรือ? หรือว่าสมองของเขามีปัญหาจริงๆ?
หลังจากที่พิจารณาภูมิประเทศและหน้าผาสูงชันเบื้องหน้าด้วยความจริงจังแล้วกูเฟยเยี่ยนก็จากไป
นางอยากจะหลบหนีออกไปทว่าไม่ใช่ตอนนี้ การเผชิญหน้ากับจิ้งจอกเฒ่าที่ไม่เดินเกมตามหลักทั่วไป นางจำเป็ต้องไม่เดินเกมตามหลักทั่วไปยิ่งกว่า!
นางเพียงแค่มาสำรวจเส้นทางก่อนเพื่อให้แน่ใจว่าคำพูดของจิ้งจอกใหญ่หลายใจตัวนั้นเชื่อถือได้หรือไม่
หลังจากที่กูเฟยเยี่ยนออกมาก็วิ่งเข้าไปที่ป่าดอกท้อ นางแสร้งทำเป็หลงทางแต่แท้จริงแล้วคือกำลังเดินเล่น เดินไปด้วยจดจำเส้นทางไปด้วยและสำรวจภูมิประเทศโดยรอบไปด้วยเช่นกัน
ทุ่งดอกท้อแห่งนี้สวยงามจริงๆ
ระหว่างทางที่นางกับจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยกลับมาจากหุบเขาเสินหนงก็ได้พบกับป่าดอกท้อไม่น้อยเลยทว่าไม่งดงามเท่าที่นี่ แน่นอนว่านางในตอนนั้นก็ไม่มีอารมณ์ชื่นชมด้วยเช่นกัน
กูเฟยเยี่ยนเดินไปเรื่อยๆ ไม่ช้าก็หวั่นไหวไปกับภาพเบื้องหน้า
นางพบว่าไม่ไกลนักมีต้นดอกท้อที่สูงเป็พิเศษตั้งตระหง่านราวกับต้นไทรใหญ่อยู่หนึ่งต้น พุ่มไม้นั้นเหมือนกับร่มดอกท้อขนาดใหญ่ ทันทีที่สายลมพัดพา ร่มดอกท้อนั้นก็จะโรยราไปด้วยกลีบบุปผาราวกับฝนดอกไม้
“สวยจังเลย! ”
กูเฟยเยี่ยนถูกดึงดูดเข้าไปแล้ว นางรีบวิ่งเข้าไปจนไปถึงใต้ร่มไม้ก่อนจะแหงนศีรษะขึ้นไปมอง
กลีบดอกท้อประหนึ่งฝนดอกไม้ที่หอมกรุ่นร่วงโรยลงมาตกอยู่บนศีรษะและปลายจมูกของหญิงสาว นางเป่าไปเบาๆ กลีบดอกไม้ที่เพิ่งจะหล่นลงไปก็มีกลีบดอกไม้ใหม่ร่วงโรยลงมา
มีสตรีคนไหนที่ไม่ชอบดอกไม้กัน?
นางโตจนถึงป่านนี้นี่เป็ครั้งแรกที่ได้พบกับทิวทัศน์ที่งดงามขนาดนี้ นางดีใจจนอดไม่ได้ที่จะหมุนไปรอบๆ ยิ้มแย้มแจ่มใส นางคิดว่าสถานที่งดงามเช่นนี้ เหตุใดจึงมีเพียงปีศาจจิ้งจอกใหญ่หลายใจพักอาศัยอยู่คนเดียว? หากว่ามีเซียนดอกท้อรูปงามและอ่อนโยนมันจะดีเพียงใดกัน
ในขณะที่กูเฟยเยี่ยนเล่นสนุกสนาน ไป๋หลี่ิชวนก็ทะยานลงมาด้านข้างอย่างเงียบเชียบ เขาขมวดขึ้นเล็กน้อยแล้วขบคิดพิจารณานาง ยิ่งพิจารณามากเท่าใดมุมปากของเขาก็ยกขึ้นมากเพียงนั้น
เขาไม่พบนางที่ทะเลสาบดอกท้อจึงคิดว่านางดำน้ำลงไปแล้ว เขาตั้งใจลงไปค้นหานางในน้ำทว่าก็ไม่พบ เขาใช้เรี่ยวแรงไปมากถึงจะพบเจอนางที่ทุ่งบุปผาส่วนลึกแห่งนี้
นังหนูคนนี้ยังรู้ตัวว่าตนเองคือตัวประกันหรือไม่? ไม่หลบหนีไปก็ช่างแล้ว แต่นึกไม่ถึงเลยว่าจะยังมีอารมณ์มาเล่นสนุกที่นี่?
ดูเหมือนว่าไป๋หลี่ิชวนจะติดเชื้อจากเสียงหัวเราะของกูเฟยเยี่ยน เขาอารมณ์ดีมากขึ้นและอดไม่ได้ที่จะส่ายหน้าไปพลางหัวเราะ “ฮ่าๆ ฮ่าๆ…” ทันทีที่เขาส่งเสียงออกมา กูเฟยเยี่ยนก็หยุดชะงักพลันหันกลับไปมอง
และแทบจะในเวลาเดียวกันที่นางหันมามอง ทันใดนั้นไป๋หลี่ิชวนก็ทะยานเข้ามาโอบไปที่เอวบางของนางแล้วพานางหมุนไปรอบๆ ก่อนจะค่อยๆ วางนางให้ล้มตัวนอนลงไปบนพื้นดิน
เขานอนตะแคงอยู่ข้างกายนาง มือข้างหนึ่งรองศีรษะ มืออีกข้างหนึ่งปัดกลีบดอกท้อที่ร่วงโรยลงมาบนใบหน้าของนางอย่างเนือยๆ
สีหน้าของกูเฟยเยี่ยนเปลี่ยนไปแล้ว
นางอยากจะดิ้นรนแต่ไป๋หลี่ิชวนยื่นขายาวสง่ามาทับขาทั้งสองข้างของนาง มือทั้งสองข้างของกูเฟยเยี่ยนกำลังจะเคลื่อนไหว แต่ร่างสูงใหญ่ของไป๋หลี่ิชวนได้ทาบทับลงมาทำให้ร่างกายนางอยู่ภายใต้ร่างกายเขาโดยสมบูรณ์…