"เกิดอะไรขึ้นกับนางงั้นหรือ?" เหนียนอีหลานเอ่ยปากถามโดยที่แทบจะไม่รู้ตัว เสียงของนางอ่อนแรงมากเสียจนอธิบายไม่ถูก ราวกับถูกดูดพละกำลังที่มีทั้งหมดออกมา
“นางกำนัลคนนั้นเสียชีวิตในห้องของนางในเช้าวันต่อมา ได้ยินว่านางถูกบางอย่างกัด ร่างกายอาบไปด้วยเื ใบหน้าไม่เหลือเค้าเดิม” เหนียนยวี่เอ่ยเื่นั้น พลางเมียงมองชื่นชมความหวาดกลัวบนใบหน้าของเหนียนอีหลานที่มีเค้ารุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
ร่างกายอาบไปด้วยเื ใบหน้าไม่เหลือเค้าเดิม...
เพียงครู่หนึ่ง ในหัวของเหนียนอีหลานพลันปรากฏรูปลักษณ์ของฟางเหอที่นางเพิ่งเห็นไป มิใช่ว่าร่างกายนางต้องอาบเื และใบหน้าต้องไม่เหลือเค้าเดิมหรือ?
นี่หมายความว่าอย่างไร?
เมื่อเดาออก เหนียนอีหลานปล่อยมือที่ถือผ้าปูที่นอนทันที
“ว่ากันว่าการตายของนางกำนัลคนนั้นเกิดจากิญญาขององค์หญิงจี้เยวี่ย ยามที่องค์หญิงจี้เยวี่ยยังมีชีวิตอยู่ คนที่รักนางมากที่สุดคือฮองเฮาอวี่เหวิน หากิญญาของนางยังคงเร่ร่อนวนเวียนอยู่ในสวนร้อยสัตว์เช่นนั้นจริง การที่นางได้ยินใครบางคนสาปแช่งฮองเฮา ระบายความโกรธใส่ฮองเฮาอวี่เหวิน เช่นนั้นคงเป็หนึ่งในเหตุผลที่ฆ่านางทิ้ง” เหนียนยวี่ไม่ให้โอกาสเหนียนอีหลานหอบหายใจเลยแม้แต่น้อย รีบพูดต่อว่า
นึกไม่ถึง เหนียนอีหลานที่ฟังนางเอ่ยคำกล่าวอ้างพวกนี้แล้ว แววตานางจะยิ่งดูลุกวาว ฉายแววตื่นตระหนก
“องค์หญิงจี้เยวี่ย...เ้ากำลังจะบอกว่า ฟางเหอ...ฟางเหอเองก็ถูกองค์หญิงจี้เยวี่ยฆ่าหรือ?” เหนียนอีหลานหันมองเหนียนยวี่ ด้านหน้าสวนร้อยสัตว์คืนนั้น ฟางเหอเป็คนปิดประตูสวนร้อยสัตว์ และขังฮองเฮาอวี่เหวินไว้ข้างในนั้น...
“ท่านพี่ ท่านกำลังพูดเื่อะไร?” เหนียนยวี่ขมวดคิ้ว เหลือบมองผ้าที่ห่อร่างนั้น “ฟางเหอไม่ได้ไปสวนร้อยสัตว์ด้วยซ้ำ ทั้งยังไม่ได้ละเมิดอะไรองค์หญิงจี้เยวี่ยและฮองเฮาอวี่เหวินเลย องค์หญิงจี้เยวี่ยจะทำร้ายนางได้อย่างไร? เว้นแต่..."
เหนียนยวี่กล่าว ฉับพลันนั้นดูเหมือนนางััถึงอะไรบางอย่างได้ สบตามองเหนียนอีหลานอย่างใ “คืนวันเทศกาลฉีเฉี่ยวคืนนั้น ฟางเหอเองก็เข้าวังหลวงเช่นกัน หรือนางจะ...”
"ไม่...ไม่ใช่” อาจเพราะเหนียนอีหลานรู้สึกหวาดกลัวมากเกินไป มิทันได้รอฟังเหนียนยวี่เอ่ยจบ เหนียนอีหลานพลันโพล่งแทรกขึ้นมา รีบเอ่ยปฏิเสธคำพูดของเหนียนยวี่ ทั้งยังปฏิเสธการคาดเดาในใจของตัวเอง
"เป็ไปไม่ได้ เป็ไปไม่ได้อย่างแน่นอน" เหนียนอีหลานยังคงส่ายหัว
เื่นี้ไม่มีทางเกิดจากิญญา แต่ทว่าหากมิใช่ดวงิญญาทำ เช่นนั้นฟางเหอจะหายตัวและเสียชีวิตอย่างไร้เหตุไร้ผลเช่นนี้ได้อย่างไร ทั้งยังเื่ที่ยามนี้ร่างของนางมาอยู่บนเตียงอย่างแปลกประหลาดเช่นนี้อีก?
คงมิใช่...
คงมิใช่ว่าิญญาขององค์หญิงจี้เยวี่ย...หานางเจอด้วยงั้นหรือ?
"ยวี่เอ๋อร์ ช่วยข้าด้วย ... " เหนียนอีหลานพูดโดยไม่รู้ตัว คว้าจับมือเหนียนยวี่ ความตื่นตระหนกในดวงตายิ่งเร่งเร้าขึ้น
เหนียนยวี่เห็นท่าทีตอบสนองของเหนียนอีหลานในสายตา เงยหน้ามองไปรอบด้านที่สายตามองเห็น ท่ามกลางควันของธูปหอมที่ยังคงลอยวนเป็เกลียว นางรู้ดีว่าภายใต้ผลข้างเคียงของธูปหอม บวกกับเื่ที่นางจงใจสร้างขึ้นเพื่อหลอกให้เหนียนอีหลานหวาดกลัว สติปัญญาของเหนียนอีหลานยามนี้อ่อนล้าดั่งสายฉินที่ถึงขีดจำกัด ด้วยแรงจากภายนอกเล็กน้อย สายฉินก็สามารถขาดได้ทันที
แรงกดดันนี้ช่าง...
เหนียนยวี่ปล่อยให้นางจับมือตนเอง ตอนนี้พวกนางควรจะมาได้แล้ว!
เป็ไปตามที่คาด เพียงครู่เดียว ฝีเท้าย่ำก้าวดังขึ้นนอกประตู เสียงฝีเท้าดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เหนียนอีหลานที่ตกอยู่ในสภาวะตื่นตระหนก จึงไม่รู้ว่าจะควรทำอย่างไรดี นางเมียงมองทั่วทุกมุมห้องเตรียมป้องกัน ประหนึ่งว่าิญญาขององค์หญิงจี้เยวี่ยจะมาเยือนที่นี่จริงๆ
นางในยามนี้ มิได้สังเกตด้วยซ้ำว่าประตูถูกผลักเปิดออก
"ฮองเฮา..." เหนียนยวี่หันมองผู้ที่เข้ามา มุมปากยกยิ้มเสี้ยวหนึ่ง แรงกดดันนั้น ยามนี้มาแล้วหรือ
ผู้ที่เดินตามหลังฮองเฮาอวี่เหวิน มีทั้งองค์หญิงใหญ่ชิงเหอ จิ้นหวางเฟยและท่านหญิงอิ้งเสวี่ย
เป็ดั่งที่เหนียนยวี่คาดการณ์ไว้ พวกนางคือคลื่นลูกแรก หลังจากนี้จะมีคลื่นลูกที่สองและลูกที่สามตามมา...
คำเอ่ยเรียกว่า "ฮองเฮาอวี่เหวิน" ของเหนียนยวี่เมื่อครู่ ทำให้เหนียนอีหลานตัวสั่นสะท้าน ใบหน้าที่แต่เดิมซีดเซียว กลับยิ่งไร้สีเืมากขึ้น
ฮองเฮาหรือ?
เหตุใดฮองเฮาอวี่เหวินถึงมาอยู่ที่นี่ได้?
จิตสำนึกของเหนียนอีหลานลอบรู้สึกไม่เชื่อ หรือจะเอ่ยได้ว่าไม่อยากจะเชื่อ
ทว่าเหนียนยวี่ไม่ยอมให้เหนียนอีหลานไม่เชื่อ เหนียนยวี่รีบคุกเข่าลงบนพื้นและดึงเหนียนอีหลานให้คุกเข่าลง "ท่านพี่ ฮองเฮาอวี่เหวินมาแล้ว รีบคำนับเร็วเ้าค่ะ"
"คำเตือน" ของเหนียนยวี่ ทำให้เหนียนอีหลานมิอาจหลีกเลี่ยง ครั้นหันกลับไปดู นางเห็นสตรีผู้หนึ่งยืนอยู่ที่ประตู แม้นางจะไม่ได้สวมชุดแบบในวังหลวง ทว่ายังคงดูน่าเกรงขาม และทำให้ผู้คนมิอาจจ้องมอง
ฮองเฮาอวี่เหวิน...
นั่นคือฮองเฮาอวี่เหวินอย่างแท้จริง!
เดิมทีนางควรจะคำนับ ทว่า่เวลาที่นางเห็นฮองเฮาอวี่เหวิน ร่างกายของนางพลันแข็งทื่อ เื่ราวในคืนนั้นที่ด้านหน้าสวนร้อยสัตว์ผุดประดังประเดเข้ามาในหัว ภาพที่ฮองเฮาอวี่เหวินเข้าไปในสวนร้อยสัตว์ รวมถึงเสียงร้องให้ช่วยของเด็กน้อย สลับวนเวียนเข้ามาในหัวนางไม่หยุด
“เหนียนอีหลาน เ้าเห็นเปิ่นกงแล้วยังไม่ทำความเคารพอีกหรือ?” ฮองเฮาอวี่เหวินเอ่ยปาก นางเห็นเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างชัดเจน ทันทีที่เข้าประตูมา ความสงบของเหนียนยวี่ ความตื่นตระหนกหวาดกลัวในดวงตาเหนียนอีหลาน และอีกหนึ่งร่างไร้ิญญาบนพื้น
ฮองเฮาอวี่เหวินอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว นึกคิดถึงตอนที่อยู่ในตำหนักชีอู๋ก่อนหน้านี้ ั้แ่ต้นจนจบเื่ เหนียนยวี่มิได้เอ่ยเลยว่าใครคือคนที่ลวงนางให้เข้าไปในสวนร้อยสัตว์ ทว่าทันทีที่นางได้เห็นสถานการณ์เช่นนี้ คนที่ชาญฉลาดเช่นนาง จึงเดาเื่นี้ออกได้ทันที
เหนียนอีหลาน...
นึกไม่ถึงเลยว่าจะเป็คุณหนูใหญ่สกุลเหนียนผู้นี้
"ไม่ ฮองเฮา ไม่...มิใช่หม่อมฉัน มิใช่หม่อมฉัน...”
หากการปรากฏตัวของฮองเฮาอวี่เหวิน ทำให้สติปัญญาของเหนียนอีหลานขาดผึง ในยามนั้นเอง เสียงที่ดังขึ้นอย่างกะทันหันของฮองเฮาอวี่เหวินได้ปลุกอีกตัวตนของเหนียนอีหลานให้ตื่นขึ้น
เหนียนอีหลานคุกเข่าลงบนพื้น โน้มศีรษะคำนับให้ฮองเฮาอวี่เหวินอย่างเร่งรีบ “ฮองเฮาเพคะ โปรดไว้ชีวิตหม่อมฉันด้วย เป็ฟางเหอ มิใช่หม่อมฉันเพคะ หม่อมฉันไม่เกี่ยวเพคะ...”
ปฏิกิริยาของเหนียนอีหลานในสายตาขององค์หญิงใหญ่ชิงเหอ จ้าวอิ้งเสวี่ยและจิ้นหวางเฟยสองแม่ลูกล้วนแล้วแต่งุนงง
แต่มีสิ่งหนึ่งที่พวกนางรู้คือ ฮองเฮาอวี่เหวินและเหนียนยวี่เกี่ยวข้องกับเื่นี้
องค์หญิงใหญ่ชิงเหอนึกถึงเื่ที่พูดคุยส่วนตัวกับเหนียนยวี่และฮองเฮาอวี่เหวินที่ตำหนักชีอู๋วันนี้ นี่เป็หนึ่งในเป้าหมายที่เหนียนยวี่พาฮองเฮาอวี่เหวินมาที่นี่ใช่หรือไม่?
นางเหลือบมองเหนียนยวี่ที่กำลังคุกเข่าอยู่บนพื้น ในใจองค์หญิงใหญ่ชิงเหอยิ่งรู้สึกสนใจในตัวเหนียนยวี่ผู้นี้มากขึ้น
ทางด้านจ้าวอิ้งเสวี่ย นางก็เข้าใจไม่ต่างกัน ของกำนัลชิ้นใหญ่ที่เหนียนยวี่ให้เหนียนอีหลานมาอยู่ตรงหน้านางแล้ว อย่างไรก็ตาม เดิมทีนางคิดว่าของกำนัลชิ้นใหญ่ของเหนียนยวี่มีเพียงร่างไร้ิญญาของฟางเหอ ทว่าไม่คาดคิดเลยว่า ฮองเฮาอวี่เหวินเองก็เป็ส่วนหนึ่งของกำนัลชิ้นใหญ่ชิ้นนี้เช่นกัน
เพราะเหตุนี้ สายตาที่จ้าวอิ้งเสวี่ยมองเหนียนยวี่อดไม่ได้ที่จะเปลี่ยนไป คุณหนูรองจวนเหนียนผู้นี้ ดูเหมือนว่าจะร้ายกาจยิ่งกว่านางเสียอีก
เปลี่ยนไปเป็ฮองเฮาได้เลย!
"เหนียนอีหลาน เ้าทำผิดอะไรงั้นหรือ?" ฮองเฮาอวี่เหวินตรัสด้วยน้ำเสียงแหลมสูงขึ้นทันที เค้าลางในใจนางเมื่อครู่นี้เป็เพียงการคาดเดา ทว่าปฏิกิริยาต่อมาของเหนียนอีหลานที่เผยออกมา ทำให้นางมั่นใจในความคิดนั้นทันที
เหนียนอีหลาน
ที่แท้เป็เหนียนอีหลานจริงๆ!
คุณหนูใหญ่สกุลเหนียนนางนี้ ช่างหาญกล้าเสียจริง!
แม้นางจะเพ่งเล็งเหนียนยวี่ ทว่าในเมื่อนางเห็นเหนียนยวี่เข้าไปในสวนร้อยสัตว์ เช่นนั้นแน่นอนว่าเหนียนอีหลานก็ต้องเห็นนางเข้าไปด้วยเช่นกัน นึกไม่ถึงเลยว่านางจะหาญกล้าเช่นนี้ ถึงขั้นกล้าปิดประตูสวนร้อยสัตว์เลยงั้นหรือ?
ไม่เพียงเท่านี้ คืนนั้นเหนียนอีหลานเองก็อยู่ด้านนอกสวนร้อยสัตว์ แสดงว่านางต้องย่อมได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือของเด็กน้อย!
สูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง สีหน้าฮองเฮาอวี่เหวินดุดันอย่างมิอาจบรรยายได้ แม้แต่ความสง่างามน่าเกรงขามที่ติดตัวมา ยังกดดันผู้คนจนหายใจไม่ออกยิ่งกว่าเดิม
และภายใต้แรงกดดันนั้น ยิ่งทำให้เหนียนอีหลานสูญเสียสติสัมปชัญญะมากกว่าเดิม
“ไม่...ฮองเฮาเพคะ เหนียนอีหลานไม่ใช่คนที่ปิดประตู ฟางเหอ...ใช่ ฟางเหอนางสาวใช้ชั้นต่ำนั่นเป็คนปิดประตูเพคะ”