บทที่ 129 เพิ่มอายุขัยได้ไหม
ภายในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลเมืองปิงเฉิง
เมื่อเครื่องช่วยหายใจหยุดการทำงาน คลื่นหัวใจบนเครื่องกลายเป็เส้นตรง คนในห้องฉุกเฉินตกอยู่ในความเงียบ
“ผมอยากรู้ว่าใครที่เป็คนดึงเข็มสีเงินออกจากตัวผู้หญิงคนนี้”
นายแพทย์เจิ้งชักสีหน้า กวาดตามองทุกคนที่อยู่ในห้องฉุกเฉิน
“ไม่มีใครพูดใช่ไหม?”
บรรยากาศกดดัน ผ่านไปเนิ่นนาน สุดท้ายอู๋เต๋อโหยวที่อยู่ในกลุ่มก็ได้เดินออกมาด้วยท่าทางกล้าๆ กลัวๆ
“หมอเจิ้ง ผมเองครับ”
“โอเค” เจิ้งเฉิงพยักหน้าให้เขาเล็กน้อย “ที่สามารถยื้อชีวิตเด็กผู้หญิงคนนี้เอาไว้ได้ก็เพราะเข็มเงินนี่ คุณทำได้ดีจริงๆ…”
“หมอเจิ้งครับ ผม…”
“ไม่ต้องอธิบายกับผมให้มากความหรอก ไปคุยกับทางญาติของคนไข้นู่น”
เมื่อพูดจบ ไฟในห้องผ่าตัดก็ดับลง หมอเจิ้งเดินออกมาจากห้องผ่าตัดเป็คนแรก
“จูซือเหลียง!”
เย่จื่อเฉินถลาเข้ามาหยุดอยู่หน้าห้องฉุกเฉินด้วยดวงตาแดงก่ำ พอจูซือเหลียงเห็นเขา ใบหน้าหนักใจนั้นก็ก้มหน้าลงทันที
“ขอโทษ…”
พลั่ก!
ปล่อยหมัดลงบนใบหน้าของจูซือเหลียง แรงเยอะจนถึงขั้นทำให้มุมปากของเขามีเืซึมออกมาทันที
“ขอโทษ คุณมันก็ดีแต่ขอโทษ คุณทำอะไรได้บ้างไหม!”
“ผม…”
แอด
ประตูห้องผ่าตัดถูกผลักออก นายแพทย์เจิ้งเดินออกมาจากข้างใน
การผ่าตัดไม่สำเร็จ ใบหน้าของบุคคลที่เก่งกาจท่านนี้เต็มไปด้วยความหมองหม่น
เขาได้เตรียมตัวรอรับคำต่อว่าของญาติผู้เสียชีวิตไว้แล้ว แต่ในตอนที่เขาเงยหน้าขึ้นมา เขากลับเห็นผู้วิเศษคนหนึ่ง
“เสี่ยวเย่”
เย่จื่อเฉินเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าเคร่งเครียดที่เจือไว้ด้วยความประหลาดใจของเจิ้งเฉิง
นายแพทย์สูงอายุท่านนี้โชคไม่ดีจริงๆ
ถ้ายังเป็แบบนี้ต่อไป ดูเหมือนคำยกย่องว่าเก่งกาจของเขาจะรักษาไว้ไม่ได้แล้ว
“การผ่าตัดไม่สำเร็จใช่ไหม?” เขาเลิกคิ้วถามพร้อมเดินเข้าไปหยุดอยู่ตรงหน้าเจิ้งเฉิง “ดูจากความรู้ทางการแพทย์ของคุณแล้ว น่าจะไม่มีทางทำผิดพลาดในเื่ง่ายๆ แบบนั้นได้นะครับ บอกผมมา ใครเป็คนดึงเข็มเงินนั่นออก”
“เธอเป็คนฝังเข็มเหรอ”
เจิ้งเฉิงตากระตุก ตอนที่หยางอี่ฉือมาถึง เขาเห็นแล้วว่าบนร่างของเธอได้ฝังเข็มเอาไว้
เข็มสุริยันต่อชีวิต
นี่เป็วิธีการฝังเข็มที่มีให้เห็นแค่ในตำราแพทย์แผนจีน
ตอนนั้นเขายังคิดในใจอยู่เลยว่าบุคคลที่มีความสามารถท่านไหนเป็ผู้ฝังเข็ม คิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็เพื่อนตัวน้อยคนนี้
“คุณคิดว่าไงล่ะ?” เย่จื่อเฉินกลอกตา แล้วพูด “ตกลงว่าใครเป็คนดึงเข็มออกมา!”
ทันใดนั้น อู๋เต๋อโหยวก็ได้เดินออกมาจากห้องผ่าตัดด้วยท่าทางกล้าๆ กลัวๆ นายแพทย์เจิ้งเฉิงหันไปมองที่เขาเล็กน้อย เย่จื่อเฉินจึงเข้าใจในทันที
“รองผู้อำนวยการอู๋”
“ทำไมเธอถึงได้มาอยู่ที่นี่?”
ระหว่างอู๋เต๋อโหยวกับเย่จื่อเฉินนั้นได้เคยมีเื่บาดหมางใจกันมาก่อน แต่ทั้งคู่กลับมาเจอกันที่นี่ หนังตาของเขากระตุก
“เธอเป็ญาติคนไข้เหรอ?”
“ผมเป็คนฝังเข็ม”
เย่จื่อเฉินตาแดงก่ำ ก่อนจะกำหมัดต่อยไปที่จมูกของอู๋เต๋อโหยว
เืไหลรินออกมาจากจมูกของอู๋เต๋อโหยว เย่จื่อเฉินถลึงตาก่นด่า
“ไม่มีปัญญาทำอะไรสักอย่าง ดีแต่อ้างถึงจรรยาบรรณแพทย์ในโรงพยาบาล ขอบอกเอาไว้เลยนะคุณอู๋เต๋อโหยว เื่ของเราสองคนมันยังไม่จบ”
พูดจบ เย่จื่อเฉินก็เดินเข้าไปในห้องผ่าตัด
ทีมแพทย์ที่อยู่รอบๆ ไม่มีใครขวางทาง ตามการส่งสายตาของนายแพทย์เจิ้งเฉิง และเมื่อเย่จื่อเฉินเข้ามาในห้องผ่าตัดแล้ว เย่จื่อเฉินก็หันไปะโบอกจูซือเหลียง
“ทำสิ่งที่คุณควรทำซะ”
“เข้าใจแล้ว”
จูซือเหลียงพยักหน้ารับ แล้วเดินเข้าไปหาอู๋เต๋อโหยว
ตุบ
ขาทั้งสองข้างอ่อนแรง อู๋เต๋อโหยวคุกเข่าลงกับพื้น
เขารู้ดี ว่าอนาคตของเขาจบลงแล้ว
เมื่อเข้ามาอยู่ในห้องผ่าตัด ภายในห้องไม่ค่อยเหมือนกับเมื่อครั้งของคุณซู เพราะไม่เห็นิญญาของหยางอี่ฉือในห้องผ่าตัด
“เธอมาได้สักที ฉันมารอเธอตั้งนานแล้ว”
จู่ๆ ยมทูตขาวก็โผล่ออกมาจากกำแพง เดิมทีเธอจะต้องดึงิญญาของหยางอี่ฉือออกมาแล้ว แต่ก่อนหน้านี้เย่จื่อเฉินบอกว่าให้เธอรอก่อน และเธอเองก็อยากเจอเขาเหมือนกัน จึงยังไม่ได้ลงมือ
“แล้วิญญาของหยางอี่ฉือ…”
“ยังอยู่ในตัวเธอ ฉันยังไม่ได้ดึงออกมา”
ยมทูตขาวเอ่ยเสียงเบา และเพราะเธอใส่หมวกทรงสูงสีขาวเอาไว้ด้วย เย่จื่อเฉินจึงไม่รู้ว่าเธอยิ้มหรือไม่ยิ้ม
“เธอสิ้นอายุขัยแล้วเหรอ?”
“อืม” ยมทูตขาวพยักหน้า “ก่อนที่จะมา ฉันอ่านบันทึกความเป็ความตายมาแล้ว เธอสิ้นอายุขัยแล้วจริงๆ”
สิ้นอายุขัยแล้ว
ก็หมายความว่าชีวิตเธอต้องจบแบบนี้
บัดซบ
ด่าตัวเองในใจ ถ้าไม่ใช่เพราะจูซือเหลียงประมาท ถ้าไม่ใช่เพราะอู๋เต๋อโหยวไปแตะต้องเข็ม เธอก็ไม่ต้องเป็แบบนี้
ถ้าจะต่ออายุสามารถขอลูกท้อมาจากซุนหงอคงได้ แต่สำหรับิญญาที่ตายไปแล้วจะต้องใช้ยาฟื้นคืนชีพของไท่ซางเหล่าจวิน
ซุนหงอคงยังพอพูดง่าย แต่ไท่ซางเหล่าจวิน…
ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เรียกได้ว่าตึงเครียดมากๆ
ติ๊ง!
าาฉู่เจียง : พญายมราชกลับมาอย่างปลอดภัยแล้ว ขอบใจมาก
เยี่ยม!
เย่จื่อเฉินเงยหน้าพูดกับยมทูตขาว “พญายมราชกลับไปที่นรกแล้ว คุณไม่ต้องดึงิญญาไปหรอก อยู่กับผมที่นี่ก่อนแป๊บเดียว เดี๋ยวเธอคนนี้อายุขัยก็จะเพิ่มขึ้นแล้ว”
“พญายมราชกลับมาแล้ว?” ยมทูตขาวถามขึ้น “เธอช่วยท่านกลับมาได้จริงๆ ด้วย”
แต่ในตอนนี้เย่จื่อเฉินไม่มีกะจิตกะใจจะคุยกับเธอนัก และกำลังจดจ่ออยู่ที่การคุยกับาาฉู่เจียง
เย่จื่อเฉิน : ผม้าคุยกับพญายมราช
าาฉู่เจียง : ได้
หลังจากที่าาฉู่เจียงตอบกลับมาได้สักพัก ที่ห้องแชทก็ได้มีข้อความปรากฏขึ้นมาอีก
พญายมราช : ข้าคือพญายมราช
เย่จื่อเฉิน : ผมเป็คนที่ช่วยให้ท่านกลับมายังนรกได้
ภายในห้องโถงนรกห้องที่หนึ่ง พญายมราชได้อ่านข้อความในโทรศัพท์ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองาาฉู่เจียง
“ท่านพี่ คนนี้เคยติดต่อกับข้า แล้วบอกว่าสามารถช่วยให้ท่านให้รอดออกมาได้”
พอนึกย้อนไปถึงคำพูดของยี่หนึงจินกุน ตอนอยู่ที่ประตู์ทิศใต้ สีหน้าของพญายมราชก็จริงจังขึ้นมา ก่อนจะตอบกลับไป
พญายมราช : ท่านกับยี่หนึงจินกุน…
เย่จื่อเฉิน : ผมให้ยี่หนึงจินกุนปล่อยท่านเองแหละ
เย่จื่อเฉินแสร้งทำเป็ตอบกลับอย่างเย่อหยิ่ง
พญายมราช : ถ้าอย่างนั้นก็ขอบคุณท่านมากจริงๆ
คำพูดของพญายมราชนั้นจริงใจมากๆ ถึงเขาจะไม่ปล่อยให้ทาง์จับผิดเขาได้ แต่ถ้าทาง์จะจับเขาขังไว้ที่นั่นหลายร้อยปีก็ยังทำได้
คนคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ
ยิ่งความสัมพันธ์ของ์กับนรกในตอนนี้คือตึงเครียดมาก ถ้าปล่อยให้เขาเป็ชนวนนำทาง ์กับนรกต้องได้สู้กันแน่ๆ
่นี้เ้าแม่กวนอิมก็ได้ล่าถอยหลบซ่อน จักรพรรดิเทียนฉีกับาาผีทั้งห้าก็เอาแต่เก็บตัวเงียบ
เขาจึงเป็ใหญ่ในนรกตอนนี้ ถ้าเขาเป็อะไรขึ้นมาจริงๆ ละก็…
แบบนั้นเขาก็ต้องเป็แพะรับบาปจริงๆ
เย่จื่อเฉิน : ถ้าจะขอบคุณก็ไม่ต้องพูดเยอะ
เย่จื่อเฉินแสร้งทำว่าตัวเองนั้นเป็ผู้ลึกลับ อีกฝ่ายพอเห็นการตอบกลับมาแบบนี้ก็รู้สึกกลัวขึ้นมา
พญายมราช : เข้าใจแล้ว ถ้าอย่างนั้นท่าน…
เย่จื่อเฉิน : ตอนนี้ผม้าให้ท่านช่วยผม
พญายมราช : เชิญท่านว่ามา
ตอนนี้อีกฝ่ายเป็ใคร ทั้งพญายมราชและาาฉู่เจียงก็ยังไม่แน่ใจ โดยเฉพาะความสัมพันธ์ของอีกฝ่ายที่ใกล้ชิดกับทาง์ขนาดนั้นอีก
พวกเขาไม่กล้าที่จะดูถูกจริงๆ
เย่จื่อเฉิน : ในนรกของพวกท่าน ใครเป็คนรับผิดชอบบันทึกความเป็ความตาย
พญายมราช : ข้าเอง
เย่จื่อเฉิน : ดี!
เย่จื่อเฉินตัดสินใจถามออกไป
เย่จื่อเฉิน : ผม้าให้ท่านเพิ่มอายุขัยให้กับมนุษย์บนโลก ได้หรือไม่?
พญายมราช : เพิ่มอายุขัย?
พญายมราชนิ่งไป นี่เป็เื่ที่ไม่ได้เกิดขึ้นในนรกมานานนับหมื่นปีแล้ว
เย่จื่อเฉิน : ใช่ เพิ่มอายุขัย ได้หรือเปล่า?
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้