ณ อาคารสูง 50 เมตรซึ่งยังสร้างไม่เสร็จดีในมหานครหลินไห่ ชายชราคนหนึ่งยืนอยู่ท่ามกลางซากกำแพงที่ผุพังอย่างโดดเดี่ยว อาคารพาณิชย์ซึ่งอยู่ถัดไปถูกกั้นไว้ด้วยถนนสายหนึ่ง มันช่างดูคึกคักและมีชีวิตชีวา อาคารได้รับการต่อเติมจนกระทั่งสูงหนึ่งร้อยเมตร แต่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะสิ้นสุดลง
อาคารซึ่งยังก่อสร้างไม่เสร็จดีนี้เป็สถานที่แลกเปลี่ยนซึ่งจิติญญาผูกพันกล่าวไว้ในโทรศัพท์ เขาระบุเวลาไว้ที่ 22 นาฬิกา กลางวันคนพลุกพล่านลายตา หากเกิดอะไรขึ้น จะไม่เอื้อต่อการหลบหนี
เสิ่นิขับรถจี๊ปมาถึงตอน 21:58 นาฬิกา ประตูโลหะขึ้นสนิมที่ดูเหมือนกับบ้านผีสิงเปิด-ปิดอย่างอัตโนมัติด้วยรีโมทควบคุมจากระยะไกล
แสงไฟหยุดอยู่ที่คราบตะกรันหน้าอาคาร เสิ่นิสำรวจรอบทิศ ความมืดมิดให้ความรู้สึกราวกับบ้านผีสิง ขณะนั้น โทรศัพท์ในอ้อมแขนของเซี่ยวอี๋ก็ดังขึ้น ชื่อที่แสดงบนหน้าจอคือจิติญญาผูกพัน
“ฉันมาถึงแล้ว ออกมาสิ” เสิ่นิรับโทรศัพท์พลางแบกกระสอบขนาดใหญ่ลงมาจากที่นั่งคนขับ ข้างในนั้นเหมือนมีหมูที่พยายามจะกระโจนออกมา
“เดินขึ้นหน้ามา 3 ก้าว” จิติญญาผูกพันเหมือนกับตุ๊กตาหุ่นยนต์ เมื่อเสิ่นิเดินและหยุดอยู่ตรงตำแหน่ง “ดี ตรงนี้แหละ อย่าขยับ”
เสิ่นิยืนขามั่น ะุหนึ่งนัดแล่นผ่านใบหูของเขาไป เจาะเข้ากับรถจี๊ปที่อยู่ด้านหลัง
“HK417...ปืนสไนเปอร์” เสิ่นิไม่ได้ตื่นกลัวเลยแม้แต่น้อย เขาหลับตาลงและสดับฟังเสียงปืน พรับ พรับ ที่ลอดผ่านโทรศัพท์มา นอกจากนี้ยังมีเสียงของการขึ้นลำกล้องซึ่งช่วยในการจำแนกอาวุธของศัตรูอีกด้วย
จิติญญาผูกพันยิงเพิ่มอีกสองนัด เขาจู่โจมไปที่ถังน้ำมันของรถจี๊ป มีเสียงดังและเกิดะเิขึ้น รถจี๊ปทั้งคันะเิพร้อมกับกระเด้งขึ้น ก่อนจะกลายเป็กองเพลิงในพริบตา
เสิ่นิรู้ว่าะุนัดนั้นไม่ได้หมายจะเอาชีวิตตน แต่เพื่อปรับความแม่นยำของอาวุธปืน วัดระยะะุ และตัดไม้ตายสุดท้ายของตนในการที่จะหลบหนี
“แกเป็หนี้รถฉันคันหนึ่ง” เสิ่นิกล่าวเตือนในโทรศัพท์
“รถพังๆ อย่างนั้นฉันให้ 5 หมื่นเลย รอเปลี่ยนตัวประกันเสร็จแล้วจะจัดการให้” จิติญญาผูกพันเรียกได้ว่าใจกว้างไม่เบา
“รู้เอาไว้ซะ นั่นเป็รถโบราณที่พ่อฉันได้มาั้แ่สมัยาโลกครั้งที่สอง มันเคยโลดแล่นอยู่บนชายหาดนอร์มังดี เคยพาแฟนสาวของนายพลและนักการเมืองของสหรัฐ Dwight D. Eisenhower...”
“ให้ 1 แสนเลย ถ้ายังพล่ามอยู่อีก ฉันจะส่งแกไปอยู่กับรถของแก ตอนนี้เปิดให้ฉันเห็นก่อน ผู้หญิงคนนั้นน่ะ” จิติญญาผูกพันกล่าวด้วยความกระตือรือร้น
“เอาล่ะ ในเมื่อแกอยากดู” เสิ่นิวางกระสอบลงบนพื้น ก่อนจะเปิดปากถุงและดึงคนที่อยู่ข้างในออกมา เมื่อเห็นใบหน้าอันแสนคุ้นเคย จิติญญาผูกพันก็ถึงกับตกตะลึง
“คุโด้?! แกเอาตัวเขามาที่นี่ทำไม?!” เสียงของจิติญญาผูกพันสั่นเครือ
“แกนี่เื่มากจริง ที่ทำมาทั้งหมดก็เพื่อช่วยมันไม่ใช่เรอะ? ตอนนี้ฉันก็ช่วยมันออกมาแล้ว ยังจะมีอะไรไม่ดีอีก?” เสิ่นิกล่าวอย่างดูิ่
“ไม่ใช่แบบนี้! ไม่ใช่แบบนี้! สิ่งที่ฉัน้าก็คือการที่เขาสามารถเดินออกมาจากสถานีตำรวจได้อย่างไร้มลทิน ไม่ใช่แหกคุก! ชีวิตเขาจะพังพินาศ! ฉันเฝ้าปกป้องเขา ไม่ให้เขาทำมันพังมาโดยตลอด แกไอ้สาระแน!” จิติญญาผูกพันทุ่มพลังงานในการด่าสุดตัว
“แกมันพวกความรู้สึกบอด แกไม่เข้าใจหรือยังไง? ั้แ่ที่แกเริ่มส่งเงินให้ลูกชายผู้ซึ่งไม่เคยได้มีโอกาสได้พบหน้าแก ชีวิตลูกแกก็ถูกแกทำลายจนย่อยยับไปแล้ว ถ้าแกสนใจลูกจริง ทำไมถึงไม่สอนเขาว่าการฆ่าคนมันไม่ถูกต้อง? ให้ฉันเดานะ เพราะแกก็อาศัยการฆ่าคนเลี้ยงชีพยังไงล่ะ มีคำจีนโบราณกล่าวไว้ว่า หัวไม่ดีหางก็คงหาดีไม่ได้ ใช่หรือเปล่า? "
ในขณะที่จิติญญาผูกพันถูกเสิ่นิด่าทอ ในลำโพงโทรศัพท์กลับได้ยินเสียงเหนี่ยวไกอย่างชัดเจน
“ไอ้ชั่ว! แกคิดจะทำอะไร?” จิติญญาผูกพันมองลอดผ่านกล้องอินฟราเรดเล็งไปยังตำแหน่งของเสิ่นิ ลูกชายของเขา คุโด้ กำลังหันหลังอยู่ ทำให้ปิดกั้นวิสัยทัศน์ในการมองเห็นเสิ่นิไปโดยสิ้นเชิง
“รู้ไหม? ข้อตกลงของแกมันช่างไม่ยุติธรรม ที่แกจับมาคือผู้ช่วยฉัน แต่ที่อยู่กับฉันคือลูกชายแก ผู้ช่วยตายก็หาใหม่ได้ แต่ลูกชายตาย แกมีอีกคนได้หรือเปล่าล่ะ?” มุมปากของเสิ่นิเผยรอยยิ้มอันดื้อดึง
“อย่านะ! ไอ้ชั่ว! อย่าทำอะไรลูกฉัน! ฉันฆ่าแกแน่! ไม่ว่าแกจะหนีไปที่ไหน ฉันก็จะตามหาแกจนพบ ฉันจะฆ่าแกให้ได้!” จิติญญาผูกพันขู่เสิ่นิซึ่งๆ หน้า แต่ยิ่งคุกคามก็ยิ่งสื่อให้รู้ว่าเขานั้นหวาดกลัวมากแค่ไหน
“คนที่อยากฆ่าฉันมีเยอะแยะ เพิ่มแกเข้าไปอีกคนจะเป็ไรไป” “ปัง!” เสิ่นิเหนี่ยวไก ควันปืนลอยขึ้นระหว่างคนทั้งสอง
แรงะุอันทรงพลัง ทำเอาคุโค้ คินดะอิจิมาชิลอยลิ่วไป ร่างของเขากระแทกลงกับตะกรันบนพื้น เืสีแดงสดบนหน้าอกเปียกชุ่มเครื่องแบบนักโทษ กระจายออกทั่วทิศทาง
“ไอ้งั่งบดถนน!!!” จิติญญาผูกพันที่ร้องไห้จนตาแดงก่ำพุ่งเข้าหาเสิ่นิอย่างบ้าคลั่ง ะุไล่ตามฝีเท้าของเขาไปจนฝุ่นคลุ้งไปทั่ว
หลังจากวิ่งผ่าดงะุปืนแล้ว เสิ่นิก็กระโจนขึ้นไปบนกองตะกรันดิน ในขณะที่จิติญญาผูกพันกำลังจะยิง ชายหนุ่มก็เผยตำแหน่งให้เขาทราบ ก่อนจะตอบสนอง
“ฉันจะฆ่าแก! แกมันไอ้สัตว์นรก ฆ่าคนไร้อาวุธ!!!” จิติญญาผูกพันคำรามใส่โทรศัพท์
“เหอๆ แกวางปืนไรเฟิลในมือลงสิ ฉันรับปากว่าจะไม่ฆ่าแก” เสิ่นิไม่เคยเห็นคนญี่ปุ่นหน้าไม่อายแบบนี้มาก่อน
“วันนี้ ฉันจะต้องสังหารไอ้คนไร้ยางอายอย่างแกให้จงได้!” เขาดึงผ้าคลุมตัวออก ก่อนจะลุกขึ้นอย่างโกรธแค้น หมึกสีดำที่วาดอยู่บนใบหน้าราวกับใกล้จะร้องไห้ออกมา ปากกระบอกปืนยกสูงขึ้นเกิดเป็เส้นโค้งอันงดงาม
“เวร ไอ้มนุษย์เตี่ย!” เสิ่นิได้ยินเสียงอันคุ้นหูดังขึ้นจากโทรศัพท์ เขาสับขาวิ่งออกไปเบื้องหน้า ก่อนจะมุดหลบอยู่ที่ด้านหลังของถุงดินถุงเล็กๆ ตูม! ะเิกลายเป็ซากปรักหักพัง เศษหินปลิวว่อนทำเอาแผ่นหลังของเสิ่นิเขียวช้ำ แต่นั่นก็ไม่อาจทำให้ชายหนุ่มหยุดเพียงเท่านี้
“มาสิ! มาล่อเตี่ยข้าเลย! ไอ้ขี้ขลาด!” ยืนอยู่ที่ริมขอบของอาคารชั้น 4 จิติญญาผูกพันกระหน่ำยิงจนลูกะุหมด เขาจึงตั้งปากกระบอกปืนขึ้นเพื่อบรรจุะุอีกครั้ง เขาไล่ต้อนเสียจนเสิ่นิต้องคลานเข้าไปซ่อนตัวอยู่ในท่อน้ำทิ้ง
ความห่างจากตำแหน่งของเสิ่นิถึงตัวอาคารประมาณ 100 เมตร ปืนลูกโม่ 05 ในมือของเขาไม่สามารถยิงถึงระยะนั้นได้ กล้องอินฟราเรด HK417 ของจิติญญาผูกพันมองเห็นในยามปลอดแสง เขาจึงสามารถมองเห็นสีหน้าที่คละฝุ่นของเสิ่นิได้อย่างชัดเจน
ในโลกอาวุธปืน ไม่มีปาฏิหาริย์ มีเพียงแค่ระยะของความเป็จริงอันกระจ่างเท่านั้น ไม่มีเื่ที่ว่าจะล้มปีศาจซึ่งอยู่ห่างไปแปดร้อยไมล์ได้ด้วยะุเพียงนัดเดียว
“ออกมาน่า! ฆาตกรที่ฆ่าลูกฉัน! มาฆ่าฉันสิ! ความบ้าบิ่นของแกเมื่อครู่นี้อยู่ไหนล่ะ?” จิติญญาผูกพันดันะุลงรังเพลิง เสียงเปลี่ยนะุดังกังวานไปถึงจุดที่เสิ่นิยืนอยู่
เสิ่นิอาศัยความช่วยเหลือจากเครื่องมือสื่อสาร ทำให้เขาออกตัวได้เร็วขึ้น แต่เพียงแค่หนึ่งหรือสองก้าวเท่านั้น แรงะุก็แหวกว่ายเผาไหม้มา อานุภาพของมันรุนแรงราวกับสาดปืนลูกซอง เพียง่สั้นๆ ผมเผ้าของเสิ่นิก็คลุ้งฝุ่น เป็รอยแผลฟกช้ำไปทั่วตัว
ปืนครกปะทะกับปืนไรเฟิล ราวกับเสิ่นิได้กลับไปอยู่ในสมรภูมิรบอัฟกานิสถาน ตอนนั้นเขามีสไนเปอร์อันเบ้อเริ่มอยู่ในอ้อมแขน แต่ในขณะนี้กลับมีแค่ปืนลูกโม่ 05 อันกระจิริด
“ตาแก่ แกยังมีโอกาสอีกครั้ง” แผ่นหลังของเสิ่นิพิงอยู่ที่รถบรรทุกขึ้นสนิม เขาพูดใส่ลำโพงด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น
“แต่แกไม่เหลือโอกาสแล้ว!” จิติญญาผูกพันไม่เข้าใจความหมายของเสิ่นิ เขายกปากกระบอกปืนขึ้นด้วยความคล่องแคล่วและะเิยิงอีกครั้ง
ณ ่เวลาที่เขาเหนี่ยวไกนั้น เสิ่นิก้าวออกมาจากด้านหลังของรถบรรทุก นั่นทำให้ระยะห่างระหว่างทั้งสองคนนั้นหดสั้นลงเหลือ 49.9 เมตร ดวงตาของเสิ่นิเป็ประกาย ในขณะที่วิ่งหนีเป็หนูติดจั่น เขาก็ได้คำนวณที่ตั้งของจิติญญาผูกพันเอาไว้แล้ว ต่อให้หลับตาในตอนนี้ ก็ยังเห็นภาพโดยสมบูรณ์
“ปัง!” เสียงะเิดังตามมา เสิ่นิเหนี่ยวไก และเพียงชั่วพริบตาเดียว ะุทั้งสามนัดก็พุ่งเข้าที่หน้าอกของจิติญญาผูกพัน ไหล่และปืนของเขาเซไปทางด้านหน้า เสื้อเกราะเซรามิกกันะุขนาดเล็กได้ในระยะจำกัด แม้แต่ความเ็ปบนหน้าอกก็ยังไม่เด่นชัด
มีเพียงะุที่โดนแก้มเท่านั้นที่ก่อให้เกิดความเสียหาย ราวกับใบมีดเปิดแผลบนใบหน้า เืพุ่งทะลักออกมา
“ไอ้สารเลว!” ในที่สุดจิติญญาผูกพันก็ได้ลิ้มรสของเือันแสนโอหัง ชายชราลดศีรษะลงซุ่มจู่โจม ่ระยะสั้นๆ แต่ความแม่นยำของะุก็ลดลงเป็อย่างมาก เสิ่นิแทบจะวิ่งเข้าไปที่ชั้นล่างของอาคารได้อย่างง่ายดาย
“นับแต่นี้เป็ต้นไป ที่นี่คือโลกของฉัน” เสิ่นิวางสายและหมุนรังเพลิง เขาทิ้งปลอกะุทั้งสี่นัดลงพื้นก่อนจะบรรจุะุใหม่
“โลกของแกเรอะ? มีแต่นรกเท่านั้นแหละที่คู่ควร!” ิญญาผูกพันนั่งลงบนพื้น เขาเปลี่ยนลำกล้องขนาด 12 นิ้วที่มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับะเิ M4A1 สองลูกภายในเวลา 5 วินาที เขาถอดเครื่องยิงะเิออกและติดตั้งด้ามจับแบบกลยุทธ์เข้าไป ะุแบบนัดถูกแทนที่ด้วยแผงะุ 100 นัด...
ชายชราใช้ะุแบบแกนเหล็กแรงะเิสูง มันเป็อาวุธหนักซึ่งสามารถสกัดรถถังรุ่นเก่าได้อยู่หมัด! เนื่องจากะุส่งผลเสียต่อตัวปืนสูงมาก ส่งผลให้ความทนทานของ HK417 ที่มีอายุการใช้งานของกระบอกสูบจาก 20,000 รอบลดลงเหลือ 500 รอบ
หลังจากยิงไปได้ 500 นัด ไม่เพียงแต่จะต้องทิ้งลำกล้อง แม้แต่ตัวปืนเองก็ต้องทิ้งเช่นกัน
แต่มันไม่สำคัญ ตราบใดที่ได้ล้างแค้นไอ้เสิ่นินั่นให้ตายได้ ก็นับว่าคุ้มค่ามากแล้ว!
ภายในอาหารหลังใหญ่ซึ่งยังสร้างไม่เสร็จ มีเพียงโครงร่างของอาคารเท่านั้น กลับไม่มีแสงจันทร์ลอดผ่านเข้ามาได้ เสิ่นิไม่มีอุปกรณ์สำหรับมองตอนกลางคืน เขามีแค่ไฟฉายและกล้องจากโทรศัพท์มือถือเท่านั้นที่ให้แสงสว่างได้ ฝีเท้าของเขาเบามากจนกระทั่งหนูยังอาย เทคนิคการหายใจแบบเต่า หน้าอกของเขาสูดลมเฉกเช่นอากาศที่พัดผ่านตามธรรมชาติ ต่อให้เคลื่อนไหวก็ทำให้เกิดเสียงเงียบที่สุด เขาสามารถโจมตีได้สงบนิ่งราวกับว่าเขาอยู่เฉยๆ
ในขณะที่สลับมือสลับเท้าปีนขึ้นบันไดอันมืดมิดไป เสิ่นิก็พบกับดักทุ่นะเิเข้า มันถูกตรึงไว้ด้วยเส้นไหมสีดำอย่างง่ายๆ จากบันไดชั้นหนึ่งขึ้นไปถึงชั้นสองเพียงสิบกว่าขั้น กลับมีเส้นกับดักเกือบ 30 เส้น ต่อให้เสิ่นิบินเข้ามา ก็ไม่พ้นต้องะเิเป็เถ้าถ่าน
“ดูเหมือนว่าจะได้ลองยิมนาสติกซึ่งไม่ได้ฝึกมานานหลายปี” เสิ่นิถอนหายใจก่อนจะบิดคอ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้