โดยที่ไม่ต้องรอนาน โต๊ะยาวทำจากไม้แข็งกล้าได้วางอยู่ด้านหน้้าร้านขายโอสถ และชายแก่ร่างท้วมนั่งอย่างสงบด้านหลังพร้อมยามรักษาการณ์
ในมือของเจียงเฉิงถือป้ายขนาดใหญ่มาตั้งอยู่หน้าทางเข้า และกล่าวออกมา
"สำหรับผู้ที่้าซื้อเม็ดยาหยวน จงอ่านนี่ให้ละเอียด"
เจียงเฉิงให้ความเคารพต่อนายน้อยเป็อย่างมาก และเขาได้อาสาตัวเองทันทีเมื่อได้ยินว่าร้านขายโอสถจะทำการขายเม็ดยามนุษย์หยวนที่มีประสิทธิภาพเต็มสิบส่วน เจียงเฉินจึงมอบหมายให้เขานำกำลังคนมาช่วยที่นี่ เจียงเฉิงตอบรับทันทีโดยไม่อิดออด
ฝูงชนได้เงียบลงเมื่อเจียงเฉิงวางแผ่นป้ายลง พวกเขาต่างจ้องมองไปยังแผ่นป้ายที่เขียนด้วยตัวอักษรสีดำ
[เม็ดยามนุษย์หยวนประสิทธิภาพเต็มสิบส่วน ราคา 4 เหรียญทองต่อเม็ด]
[สามารถนำเม็ดยาประสิทธิภาพหกส่วนกับ 3 เหรียญทองสามารถนำมาแลกกับเม็ดยาประสิทธิภาพเต็มสิบส่วนได้หนึ่งเม็ด]
[จำกัดจำนวน คนละ 3 เม็ดต่อวัน]
ป้ายกระดานได้เขียนกฎในการซื้อเม็ดยามนุษย์หยวนประสิทธิภาพเต็มสิบส่วนไว้อย่างชัดเจน การซื้อเม็ดยาหยวนจำเป็ต้องใช้เงิน และเมื่อจ่ายเงิน มันก็เป็ไปตามข้อตกลง นี่เป็ครั้งแรกที่เกิดอะไรเช่นนี้ขึ้นในเมืองเทียนเซียง
อย่างไรก็ตามเม็ดยาหยวนนี่มันน่าดึงดูดเกินไป ผู้คนไม่อาจตำหนิใดๆได้แม้ว่าจะมีเงื่อนไขในการซื้อก็ตาม คนส่วนใหญ่ต่างคิดว่านี่เป็การตัดสินใจที่ดี การจำกัดจำนวนการซื้อต่อวันสามารถกันพวกตระกูลมั่งคั่งมาเหมาพวกมันทั้งหมดได้
"เม็ดยาหยวนประสิทธิภาพเต็มสิบส่วนมีมูลค่า 4 เหรียญทอง นั่นราคา 4 เท่าของราคาเม็ดหยวนครั้งก่อนอีกนั่น"
"ราคานี่สมเหตุสมผลอยู่ นอกจากนี้เม็ดยามีประสิทธิภาพถึงสิบส่วน คุณภาพของมันไม่อาจนำเม็ดยาประสิทธิภาพหกส่วนมาเทียบได้ พวกเราใช้มันเพื่อทำการบ่มเพาะได้ยากลำบาก เวลากลืนเข้าไปแล้วจะต้องขจัดสิ่งปนเปื้อนออกจากเม็ดยาอัก...นอกจากนี้พวกเราไม่อาจขจัดสิ่งปนเปื้อนเหล่านัั้นได้ด้วย สิ่งปนเปื้อนเ่าั้จะสะสมอยู่ภายในร่างกายของพวกเรา แต่ถ้าหากพวกเรามีเม็ดยาหยวนที่มีประสิทธิภาพเต็มสิบส่วน พวกเราไม่จำเป็ต้องกังวลเกี่ยวกับสิ่งปนเปื้อนเ่าั้เลย ข้าล่ะอยากรู้นักว่าตระกูลเจียงสามารถปรุงมันขึ้นมาได้จริงๆน่ะหรือ ข้าหวังว่าพวกเขาคงไม่ล้อเล่นกับพวกเราหรอกนะ"
"โอ้ว! ตระกูลเจียง้าที่จะซื้อเม็ดยาประสิทธิภาพหกส่วนคืนด้วย แต่ราคาของมัน...แพงมาก..ข้าใช้ 2 เหรียญทองในการซื้อเม็ดยาหยวนประสิทธิภาพหกส่วนสองเม็ด และหากว่าข้าจะนำไปแลกกับเม็ดยาหยวนประสิทธิภาพเต็มสิบส่วนล่ะก็ ข้าต้องเพิ่มเงินอีก 3 เหรียญทอง ทำให้รวมเท่ากับ 5 เหรียญทอง นี่มันแพงยิ่งกว่าซื้อเม็ดยาหยวนประสิทธิภาพเต็มสิบส่วนเต็มราคาเลยนะนี่"
"มันไม่ใช่แค่นั้นน่ะสิ นี่เป็การปล้นครั้งใหญ่! แต่หากว่ามีเม็ดยาหยวนประสิทธิภาพเต็มสิบส่วนอยู่จริงๆ ข้ายอมจ่ายมากขึ้นและยอมขายเม็ดยาประสิทธิภาพหกส่วนเสียดีกว่า"
ฝูงชนต่างพูดคุยกันหน้าประตู การนำเม็ดยาไร้ค่ามาแลกเปลี่ยนได้ดึงดูดสายตาของทุกๆคน ถึงแม้ว่าราคาจะสูงไปหน่อยก็ตาม แต่หากตระกูลเจียงนำเม็ดยาประสิทธิภาพเต็มสิบส่วนออกมาจริงๆ ผู้ใดมันจะโง่ใช้เม็ดยาประสิทธิภาพหกส่วนอีกเล่า?
"เป็เม็ดยาประสิทธิภาพเต็มสิบส่วนจริงๆเรอะ?"
มีใครบางคนะโออกมา จนถึงตอนนี้ผู้คนยังสงสัยว่าเม็ดยาประสิทธิภาพเต็มสิบส่วนมีอยู่จริงๆหรือ
"หยุดแหกปากโวยวายซะ ใคร้าซื้อจงต่อแถว หากไม่้าซื้อก็ไสหัวไปซะ!"
เจียงเฉิง(หัวหน้ายาม)ที่ยืนอยู่บนบันไดใช้มือชี้ไปยังฝูงชน แสดงท่าทางหยื่งยโสออกมา
"ข้าซื้อๆ ขอข้าเม็ดหนึ่ง นี่ 4 เหรียญทอง"
ชายร่างอ้วนสวมชุดหลากสีก้าวเข้ามาและวางกองเงินไว้บนโต๊ะ ชายผู้นี้เป็หนึ่งในผู้ที่มั่งคั่งที่สุดในเมืองเทียนเซียงแห่งนี้ และเขาเป็ผู้เชี่ยวชาญฉีจิงระดับเจ็ด อีกเพียงก้าวเดียวก็จะทะลวงสู่ระดับแปด หากว่าเขาได้เม็ดยาประสิทธิภาพเต็มสิบส่วนมา มีโอกาสสูงที่เขาจะทะลวงระดับ
เงิน 4 เหรียญทองมิใช่เงินจำนวนน้อยๆ ตระกูลสามัญในเมืองเทียนเซียงไม่มีกำลังมากพอที่จะซื้อ
มีคำพูดที่ว่าเส้นทางแห่งการฝึกตน พร์มิใช่ทุกสิ่ง เงินเองก็เป็ปัจจัยสำคัญต่อการฝึกตน หากคนๆนั้นไม่มีทั้งพร์และไม่มีเงิน ก็คงเป็เื่ยากลำบากสำหรับเขาที่จะประสบความสำเร็็จในเส้นทางฝึกตน
"ได้เลย เอ้านี่ เม็ดยาหยวนประสิทธิภาพเต็มสิบส่วนของเ้า ถือดีๆล่ะ"
โจวเป่ยเฉินส่งมอบกล่องขนาดเท่าฝ่ามือให้ชายร่างอ้วน ชายร่างอ้วนรับกล่องมาและเปิดนำเม็ดยาออกมา
"ช่างเป็เม็ดยาที่ทรงพลังยิ่ง เป็เม็ดยาที่มีผิวเรียบเนียนและโปร่งแสง เม็ดยาประสิทธิภาพเจ็ดส่วนที่ข้าซื้อมาจากตระกูลมู่หรงเทียบไม่ได้เลย นี่เป็เม็ดยาประสิทธิภาพเต็มสิบส่วนจริงๆ!ราคา 4 เหรียญทอง นับว่าถูกมาก"
ชายร่างอ้วนะโออกมาด้วยความตื่นเต้น บรรดาฝูงชนที่อยู่รอบๆลอบสังเกตุสีเม็ดยาในมือของเขา เป็สิ่งที่พวกเขาไม่เคยพบเห็นมาก่อน...แต่พวกเขารู้ว่าเม็ดยานี้ยอดเยี่ยมนัก
"์ เป็เม็ดยาประสิทธิภาพเต็มสิบส่วนจริงๆด้วย! แม้ว่าราคาของมันจะแพงขึ้นสี่เท่า แต่พลังงานที่อยู่ภายในนั้นมีมากขึ้นกว่าสามเท่าตัว นอกจากนี้เม็ดยายังไม่มีสิ่งปนเปื้อนอยู่ ท่านเ้าเมืองช่างใจกว้างนักที่ขายในราคานี้"
"ข้าจะซื้อมันเม็ดหนึ่ง แม้ว่าข้าจะต้องขายทุกอย่างที่ข้ามีก็ตาม...ข้าเป็ผู้เชี่ยวชาญฉีจิงระดับห้า หากว่าได้เม็ดยาหยวนประสิทธิภาพเต็มสิบส่วนก็จะทะลวงเข้าสู่ฉีจิงระดับหกได้ทันที และข้าจะสามารถหางานดีๆทำได้"
"เม็ดยาหยวนประสิทธิภาพเต็มสิบส่วน ข้าไม่เคยเห็นมันมาก่อน"
ฝูงชนต่างกู่ร้องออกมา มันยืนยันแล้วว่าเม็ดยานี้เป็เม็ดยาที่มีประสิทธิภาพเต็มสิบส่วน ทำให้ไม่มีใครที่ไม่ตื่นเต้นกับมัน สำหรับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตฉีจิง เม็ดยามนุษย์หยวนนับได้ว่าเป็สมบัติที่ไม่อาจประเมินค่าได้ ถึงแม้มั่งคั่งเพียงใดก็ไม่อาจหาซื้อได้
"ขอข้าเม็ดหนึ่ง ข้าจะขายของทั้งตัวข้าเพื่อซื้อมันเม็ดหนึ่ง"
"ข้าด้วยๆ"
ชายแก่ร่างท้วมฉีกยิ้มกว้างถึงหู เม็ดยานี้ยอดเยี่ยมมากและฝูงชนให้ความสนใจอย่างมาก ความ้าสูง และของจะหมดในเร็วๆนี้ พวกเขามั่นใจว่าจะต้องได้รับกำไรแน่นอน
"มารดามันเถอะ คนอื่นใช้เม็ดยาประสิทธิภาพเต็มสิบในการบ่มเพาะ เม็ดยาประสิทธิภาพเจ็ดส่วนที่พวกเรามีกลายเป็ขยะไปเลย ข้าจะนำพวกมันไปแลก"
ชายคนหนึ่งนำเม็ดยาประสิทธิภาพเจ็ดส่วนออกมาพร้อมกับเงิน 3 เหรียญทอง เขา้านำพวกมันไปแลกกับเม็ดยาประสิทธิภาพเต็มสิบส่วน
"พวกเราไม่รับแลกกับเม็ดยาของตระกูลมู่หรง"
ชายแก่ร่างท้วมกล่าวออกมาโดยไม่ลังเล บนเม็ดยามีลวดลายเอกลักษณ์เฉพาะที่แตกต่างกันระหว่างตระกูลมู่หรงและตระกูลเจียง มันง่ายที่จะแยกความแตกต่าง นอกจากนี้มีเพียงตระกูลมู่หรงที่ขายเม็ดยาประสิทธิภาพเจ็ดส่วน
อะไรกัน? ไม่รับแลก?
ชายคนนั้นรู้สึกหงุดหงิด แต่เมื่อนึกถึงความสัมพันธ์อันตึงเตรียดระหว่างสองตระกูลก็พอเข้าใจ
"ทุกคนจงฟังให้ดี พวกเราจะไม่รับแลกเม็ดยาใดๆที่มาจากตระกูลมู่หรง หากว่าพวกเ้ามีเม็ดยาจากตระกูลมู่หรง เช่นนั้นก็อย่าได้นำมันมาแลกเปลี่ยนกับพวกเรา"
เจียงเฉิงะโออกมาเสียงดัง
"ไม่นะ เมื่อวานข้าเพิ่งซื้อเม็ดยาหยวนจากตระกูลมู่หรงไปตั้งสิบเม็ด"
"ตระกูลเจียงและตระกูลมู่หรงไม่อาจอยู่ร่วมกันได้ การที่จะไม่รับแลกกับเม็ดยาจากตระกูลมู่หรงนั้นเป็เื่ปกติ ท่านย่าทวดมันเถอะ บิดาจะไม่ซื้อเม็ดยาจากตระกูลมู่หรงอีก"
"บัดซบ คนอื่นๆใช้เม็ดยาประสิทธิภาพเต็มสิบส่วนเพื่อกระตุ้นการบ่มเพาะ ข้าเองก็จะไม่ใช้เม็ดยาที่มีประสิทธิภาพต่ำกว่านั้นเด็ดขาด หากว่าข้ารู้ว่าจะวางขายก่อนหน้านี้ข้าคงจะไม่ซื้อเม็ดยาใดๆจากตระกูลมู่หรง...ข้าล่ะเซ็งนัก"
หลายๆคนแสดงออกถึงความเสียดายและเสียใจที่ซื้อเม็ดยาจากตระกูลมู่หรง สำหรับการที่ตระกูลเจียงไม่ยอมแลกเปลี่ยนเม็ดยาจากตระกูลมู่หรง พวกเขาไม่รู้สึกที่จะต่อต้านใดๆเมื่อคิดถึงความสัมพันธ์ฉันท์คู่แข่งระหว่างสองตระกูล
ในสามวันถัดมา ร้านขายโอสถคับคั่งไปด้วยผู้คนราวกับตลาดสด อิทธิพลของเม็ดยาหยวนประสิทธิภาพเต็มสิบส่วนมากมายนัก ความ้ามันมีมากจนสินค้าหมดหลายครั้งครา นี่ต้องขอบคุณตระกูลร่ำรวยที่หาหนทางในการซื้อเม็ดยาหยวนมากขึ้น
โจวเป่ยเฉินและชายแก่ร่างผอมก็ไม่ได้มีเวลาว่างนัก พวกเขาสามารถปรุงยาได้ดีขึ้นหลังจากที่ฝึกฝนทักษะฝึกฝนิญญาที่เจียงเฉินมอบให้แก่พวกเขา ทางด้านเจียงเฉิน เขาจำเป็ต้องหลอมรวมเม็ดยาประสิทธิภาพหกส่วนให้เป็เต็มสิบส่วน นี่เป็เื่ง่ายดายสำหรับเขา ง่ายกว่าดื่มน้ำเสียอีก
เม็ดยาสังเคราะห์ถูกขายในราคา 4 เหรียญทอง ขณะที่เม็ดยาส่วนใหญ่ที่พวกเขาขายไปล้วนมาจากเม็ดยาที่พวกเขาขายไปก่อนหน้า แต่ตอนนี้มันถูกสังเคราะห์กลายเป็เม็ดยาประสิทธิภาพเต็มสิบส่วน วิธีการดำเนินกิจการเช่นนี้ มันช่างน่าสะพรึงนัก
ใน่สามวันนี้ ร้านขายโอสถตระกูลมู่หรงที่เคยคึกคัก ปัจจุบันไม่มีลูกค้าแม้แต่รายเดียว ตลาดโอสถแห่งเมืองเทียนเซียงถูกตระกูลเจียง กระทั่งผู้คนที่ภักดีต่อตระกูลมู่หรงยังแปรพักตร์ไปอยู่กับตระกูลเจียง
มนุษย์มักให้ความสำคัญกับความเป็จริง หากว่าพวกเขาได้เม็ดยาประสิทธิภาพเต็มสิบส่วนแล้ว พวกเขาก็จะไม่ใช้เม็ดยาที่มีคุณภาพต่ำกว่านี้ สามารถจินตนาการได้ว่าขณะที่ทุกคนใช้เม็ดยาประสิทธิภาพเต็มสิบส่วนเพื่อกระตุ้นการบ่มเพาะ แต่ตัวเองกลับใช้เม็ดยาที่มีคุณภาพต่ำกว่าอย่างเม็ดยาหยวนประสิทธิภาพหกส่วน ไม่ต้องสงสัยเลยว่าตัวเขาจะถูกทิ้งไว้ด้านหลัง
ใน่รุ่งสางในวันที่สี่ ยังมีฝูงชนจำนวนมากรออยู่ด้านหน้าร้านขายโอสถ และแถวของมันยิ่งต่อยาวกว่าเมื่อสามวันก่อนเสียอีก
เจียงเฉินได้พักหลังจากผลิตเม็ดยาประสิทธิภาพสิบส่วนและแน่ใจว่ามันเพียงพอสำหรับทุกคน ตรงหน้าทางเข้าร้านขายโอสถ เขาได้วางโต๊ะสองตัวลงและนั่งไขว่ห้าง
โจวเป่ยเฉินและชายแก่ร่างผอมนั่งลงข้างๆเขา ขณะที่เจียงเฉิงยืนอยู่ด้านหลังเจียงเฉิน ดั่งองครักษ์ผู้ซื่อสัตย์
"นายน้อย ในสามวันมานี้กิจการกำลังร้อนแรงเลยทีเดียว"
เจียงเฉิงกล่าวอย่างเริงร่า
"อืม ดี"
เจียงเฉินผงกหัว อยู่ในการคาดการณ์ของเขา
หลังจากได้ชมการค้าขายและการแลกเปลี่ยนเม็ดยาอย่างดุเดือดกว่าชั่วโมง เจียงเฉินเริ่มหาวออกมาเพราะเขารู้สึกเบื่อ
ในตอนนั้นเอง ชายสองคนในชุดดำและสวมหมวกไผ่ปิดบังใบหน้าครึ่งหนึ่งของพวกเขาได้เดินเข้ามา คนเหล่านี้ได้ดึงดูดความสนใจของเจียงเฉินทันที
"ข้า้ายามนุษย์หยวนสามเม็ด นี่ 12 เหรียญทอง"
ภายในถุงผ้าบรรจุเหรียญทองไว้สิบสองเหรียญได้ถูกโยนลงบนโต๊ะ เสียงที่ดังก้องออกมาจากหมวกไม้ไผ่แฝงด้วยความหยิ่งยโส ผู้คนสามารถบอกได้ว่าเ้าของเสียงนี่เป็เด็กหนุ่ม
เจียงเฉินสามารถบอกได้ทันทีว่าชายผู้นี้อยู่ในขอบเขตฉีจิงระดับเก้า และอีกคนหนึ่งเป็ขอบเขตฉีไห่ขั้นต้น
"ถอดหมวกไม้ไผ่นั่นซะ"
เจียงเฉินกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเกียจคร้าน
"ข้ามาซื้อเม็ดยา มันเกี่ยวอันใดกับหมวกไม้ไผ่ของข้า?"
ชายผู้นั้นกล่าวออกมา ครั้งนี้ความยโสในน้ำเสียงของเขามากยิ่งขึ้น
"เพราะสถานการณ์ในเมืองเทียนเซียงน่ะสิ หากว่าเ้าจำเป็ต้องปกปิดตัวตนเพื่อมาซื้อเม็ดยาของพวกเรา...พวกเ้าคงจะเป็คนจากตระกูลมู่หรง"
เจียงเฉินกล่าวออกมาพร้อมยิ้มให้ แม้ว่าทั้งสองจะสวมหมวกไม้ไผ่ปิดบังใบหน้า เขาก็สามารถบอกได้ง่ายๆว่าพวกเขาเป็ใครเพราะความจริงที่พวกเขาปกปิดตัวตนเอาไว้ การซื้อเม็ดยามิใช่สิ่งที่น่าอาย เว้นแต่ว่าพวกเขาจะเป็คนจากตระกูลมู่หรง
ได้ยินคำว่าตระกูลมู่หรง สายตาจำนวนมากได้ตกไปยังทั้งสองร่างนั้นทันที ท่าทางของโจวเป่ยเฉินและคนอื่นๆได้แปรเปลี่ยนเป็เ็า
"ฮึ่ม!"
ชายหนุ่มแค่นเสียงเ็า ยกมือขึ้นเตรียมที่จะปลดหมวกไม้ไผ่ออก แต่มือของเขาถูกชายชุดดำที่อยู่ด้านหลังคว้าเอาไว้
"ท่านลุงหุ่ย ในเมื่อพวกเราถูกจับได้แล้ว ก็มิมีความจำเป็ที่จะต้องปิดบังต่อไปแล้วนี่"
ชายหนุ่มผู้นั้นกล่าวขึ้น เขาได้ถอดหมวกไม้ไผ่ออก เขาเป็ชายหนุ่มอายุราว 17-18 ปี ใบหน้าหล่อเหลาและแฝงไปด้วยความเย่อหยิ่ง
ชายชุดดำที่อยู่ด้านหลังถอนหายใจออกมา เขาได้ถอดหมวกไม้ไผ่ออกมาเช่นกัน เป็ชายแก่อายุราวห้าสิบกลางๆ พลังปราณกล้าแกร่ง เป็ผู้เชี่ยวชาญฉีไห่ขั้นต้น
เจียงเฉินมองไปยังดวงตาของชายหนุ่ม ภายในเมืองเทียนเซียงแห่งนี้ การที่มีระดับการบ่มเพาะที่ขอบเขตฉีจิงระดับเก้าด้วยอายุเพียงแค่นี้ นี่มันหาได้ยากยิ่งนัก ยิ่งไปกว่านั้นเจียงเฉินมองไปยังคนผู้นี้ยิ่งมองยิ่งคุ้น ดังนั้นเขาจึงลองค้นหาจากความทรงจำเ้าของร่างคนก่อน และได้พบทุกอย่างที่เกี่ยวกับชายผู้นี้ทันที
ชายหนุ่มที่มีความสามารถโดดเด่นที่สุดในตระกูลมู่หรง มู่หรงฮ่าว อายุเพียงแค่สิบแปดปีก็สามารถไปถึงจุดสูงสุดของฉีจิงระดับเก้าได้ และมีโอกาสสูงที่จะทะลวงเข้าสู่ขอบเขตฉีไห่ก่อนอายุ 19 อีกด้วย
ตัวตนเช่นนี้ คู่ควรแล้วที่จะหยิ่งยโส แต่น่าเสียดาย เขาต้องมาเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ผิดคนและผิดสถานที่ และผิดเวลา
"ฮึ่ม! มู่หรงฮ่าว เ้ามาที่นี่เพื่อมาก่อเื่วุ่นวายงั้นเรอะ?"
โจวเป่ยเฉินแค่นเสียงเ็า หยิบถุงเหรียญทองที่ตั้งอยู่บนโต๊ะและตั้งใจจะโยนมันทิ้ง แต่เจียงเฉินได้หยุดเขาไว้
"ท่านลุงโจว เหตุใดท่านถึงต้องโยนเงินทิ้งทั้งๆที่มันส่งถึงหน้าประตูด้วยเล่า"
