กูเฟยเยี่ยนเ็ปจนยากที่จะพรรณนาได้ ทว่าก็ยังคงยั่วยุอารมณ์องค์หญิงหวายหนิงต่อไป “ดูท่าว่าข้าจะพูดถูกต้องทุกประการ! ”
องค์หญิงหวายหนิงราวกับโกรธจนจะเป็บ้าไปแล้ว นางสั่งให้เด็กรับใช้เพิ่มแรงดึงเชือกอีก
กูเฟยเยี่ยนเ็ปจนเหงื่อไหลซึมออกมาและพูดไม่ออก
นางกัดฟันอดทนอย่างเงียบๆ รอคอยองค์หญิงหวายหนิงหักนิ้วของนาง! เมื่อนิ้วมือถูกหักแล้วหากว่าจะกระทำต่อไปก็จะต้องมีาแ เมื่อถึงเวลานั้นแม้ว่าองค์หญิงหวายหนิงจะไม่อยากหยุดก็ต้องหยุด
กูเฟยเยี่ยนได้หลับตาลงแล้วรอคอยถึงวินาทีที่จะเ็ปที่สุด
เพียงแต่ว่า! เด็กรับใช้คนหนึ่งกลับเตือนสติองค์หญิงหวายหนิงได้ทันเวลา “องค์หญิง หากกระทำต่อจะมีาแแล้วพ่ะย่ะค่ะ ไม่ควรใจร้อน! ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้องค์หญิงหวายหนิงจึงได้สติกลับมาจากความโกรธแค้นแล้วโยนเชือกทิ้งไป
อย่าว่าแต่การบีบนิ้วของกูเฟยเยี่ยนให้หักเลย แม้แต่ความคิดที่จะสังหารกูเฟยเยี่ยนนางก็มีแล้ว แต่ในครั้งนี้ต่างจากครั้งก่อนๆ ตรงที่นางไม่สามารถฆ่าคนในศาลต้าหลี่ได้ และไม่สามารถทิ้งร่องรอยไว้ในคดีนี้ได้! นางจำเป็ต้องบีบบังคับให้กูเฟยเยี่ยนยอมรับผิดด้วยตนเองกับใต้เท้าเจียง ก่อนที่ท่านพี่จิ้งหวางจะเสด็จเข้าเมืองมาเพื่อปิดคดีนี้
เพราะอย่างไรก็ตามลิ่วตันซางลู่นั้นไม่ใช่ของที่เป็อันตรายถึงชีวิต เมื่อถึงเวลานั้นหากท่านพี่จิ้งหวางสืบหาสาเหตุขึ้นมานางก็ค่อยไปออดอ้อนฟู่หวง! มีฟู่หวงคอยปกป้องแล้วนางไม่เชื่อว่า เพื่อแพทย์หญิงตัวน้อยคนนั้นแล้วท่านพี่จิ้งหวางจะยังจัดการอะไรนางได้อีก!
มือสร้างาแไม่ได้ก็ยังมีเท้าอยู่!
นางจะดูเสียหน่อยว่าความเ็ปไปถึงจิตใจนั้น กูเฟยเยี่ยนจะอดทนได้นานแค่ไหนกันเชียว!
“เปิ่นกงจู่ให้เ้าดื้อรั้น! อีกสักครู่เ้าอย่ามาขอร้องอ้อนวอนยอมรับผิดกับเปิ่นกงจู่เสียล่ะ! ”
สายตาขององค์หญิงหวายหนิงมองไปที่เท้าทั้งสองข้างของกูเฟยเยี่ยน เหล่าเด็กรับใช้เข้าใจในทันที จากนั้นจึงได้บุ่มบ่ามเข้าไปถอดรองเท้าของกูเฟยเยี่ยนแล้วใช้เครื่องมือลงโทษหนีบไปที่นิ้วเท้าของนาง ในครั้งนี้พวกเขาตั้งใจเพิ่มแรงมากเป็พิเศษ แม้ว่านิ้วจะไม่หักและไม่มีาแ ทว่าก็ได้บีบรัดมาครึ่งชั่วยามแล้ว
ครึ่งชั่วยามเชียวนะ!
ร่างกายของกูเฟยเยี่ยนค่อยๆ สั่นเทาอย่างควบคุมไม่อยู่ มันเ็ปมากจริงๆ !
เพียงแต่ว่านางล้วนไม่เคยหันไปมองที่เท้าทั้งสองข้างของนางเลย นางจ้องมองไปที่องค์หญิงหวายหนิงมาโดยตลอด ดื้อรั้นราวกับว่าเป็เด็กน้อยที่ไม่สำนึกเสียใจ เซี่ยเสี่ยวหม่านที่ถูกคุมตัวอยู่ด้านข้างไม่สามารถเอ่ยอะไรออกมาได้ เขาทำได้แค่เพียงส่ายหน้าไม่หยุด ใบหน้าที่มักจะโหดร้ายต่อผู้อื่นอยู่เสมอ ในตอนนี้เต็มไปด้วยความเ็ปใจ
องค์หญิงหวายหนิงคิดไม่ถึงว่ากูเฟยเยี่ยนจะอดทนได้ขนาดนี้ ในใจของนางเต็มไปด้วยความล้มเหลวผิดหวัง ทว่านางจำเป็ต้องปล่อยกูเฟยเยี่ยนไว้ชั่วครู่แล้วหันไปที่เซี่ยเสี่ยวหม่าน
ภายนอกหน้าต่างทางฝั่งบูรพามีความสว่างขึ้นมาแล้ว ฟ้าใกล้จะสว่างแล้ว เื่นี้ไม่อาจยื้อไปจนถึง่เช้าได้ กูเฟยเยี่ยนไม่ยอมรับผิดเช่นนั้นก็ทำได้เพียงให้เซี่ยเสี่ยวหม่านสุนัขนู๋ไฉยอมรับผิดออกมา!
นางโน้มตัวลงไปกระซิบบริเวณใบหูของเซี่ยเสี่ยวหม่าน “หม่านกงกง เ้าเป็คนฉลาด เ้าอยากจะลิ้มรสเครื่องมือลงโทษบีบนิ้วหรือว่าจะกล่าวโทษกูเฟยเยี่ยนว่าเป็คนร้ายตัวจริง! เ้าต้องตัดสินใจให้ดีนะ! เปิ่นกงจู่ให้เวลาเ้าหนึ่งถ้วยชา คิดให้ดี! ”
เดิมทีเซี่ยเสี่ยวหม่านก็โกรธแค้นอยู่แล้ว เมื่อได้ยินเช่นนี้ก็ยิ่งเกิดโทสะมากขึ้นอีก ทันทีที่ผ้าปิดปากถูกนำออกไปเขาก็ะโด่าทอออกมามากมาย “องค์หญิงหวายหนิง ท่านมีเจตนาอะไรที่จะให้ข้าทรยศจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ย? ท่านเหิมเกริมไม่เกรงกลัวผู้ใด ไร้กฎไร้ระเบียบ ทันทีที่จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยเสด็จกลับมาจักต้องจัดการกับท่านแน่! ”
กูเฟยเยี่ยนหันหลังให้กับเซี่ยเสี่ยวหม่านจึงไม่ทราบว่าด้านหลังเกิดอะไรขึ้น แต่เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ของเซี่ยเสี่ยวหม่านแล้วจึงรู้ว่าองค์หญิงหวายหนิงกำลังขู่บังคับเซี่ยเสี่ยวหม่านให้สารภาพ นางกระวนกระวายใจเพราะไม่ว่าอย่างไรเซี่ยเสี่ยวหม่านก็ยังเป็เพียงแค่เด็ก ร่างกายและกระดูกยังไม่เติบโตเต็มที่ เขาจะสามารถทนต่อความทรมานเช่นนี้ได้อย่างไร?
กูเฟยเยี่ยนเ็ปจนไม่อยากจะพูดอะไรออกมาแต่นางก็ยังพูดออกมา “องค์หญิงหวายหนิง ทำไม บังคับข้าไม่สำเร็จแล้ว ก็จะไปบังคับหม่านกงกงแล้วอย่างนั้นหรือ? นี่คือเ้ายอมจำนนต่อข้าแล้วหรือ? ข้านึกว่าเ้าจะมีฝีมือเสียอีก แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเ้าก็แค่สร้างสถานการณ์ขู่ขวัญตบตาก็เท่านั้น เหอะๆ ! ”
การยั่วยุเช่นนี้หากไม่ใช่รนหาที่ตายแล้วจะคืออะไร?
“กูเฟยเยี่ยน เ้า…”
เซี่ยเสี่ยวหม่านยังไม่ทันได้เอ่ยจบกูเฟยเยี่ยนก็ขัดจังหวะขึ้นมา นางไม่เพียงแต่ยั่วอารมณ์เท่านั้น แต่นางยังยุแหย่อีกด้วย “องค์หญิงหวายหนิง เ้ามีความสามารถควบคุมตัวข้ามาได้ ทว่ากลับไม่มีความสามารถไต่สวนเปิ่นเสี่ยวเจี่ย หึๆ ไม่แปลกใจเลยที่ฉีอวี้จะไม่ยอมปฏิเสธข้าแล้วไปแต่งงานกับเ้า! ”
คำพูดเหล่านี้ทิ่มแทงไปที่าแขององค์หญิงหวายหนิงเต็มๆ นางโกรธจนแทบบ้าแล้วหันหลังกลับไปนำเครื่องมือบีบนิ้วใส่ลงไปที่นิ้วของกูเฟยเยี่ยนอีกครั้ง “กูเฟยเยี่ยน เปิ่นกงจู่จะทำให้เ้าได้รับรู้ถึงความสามารถของเปิ่นกงจู่! ”
องค์หญิงหวายหนิงดึงเชือกอย่างรุนแรงโดยไม่คำนึงถึงผลที่จะตามมาใดๆ ทั้งสิ้น เด็กรับใช้้าจะโน้มน้าว แต่นางไม่เพียงจะไม่ให้โน้มน้าวแล้วยังให้เด็กรับใช้ดึงเชือกอีกด้านหนึ่งอย่างสุดแรง!
กูเฟยเยี่ยนเ็ปจนอดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นมา ในหัวสมองของนางล้วนว่างเปล่า ในที่สุดสีหน้าแห่งความเ็ปก็ได้ปรากฏขึ้น เซี่ยเสี่ยวหม่านพยายามอย่างสุดชีวิตที่จะดิ้นรนแล้วะโเสียงดัง ั์ตาของเขานั้นเปียกชื้นมาสักพักแล้ว
“องค์หญิงหวายหนิง ท่านปล่อยนางนะ! ”
“องค์หญิงหวายหนิง ท่าน้าไต่สวนก็มาไต่สวนที่ข้า ท่านปล่อยนางนะ! ”
……
ทันใดนั้นท่ามกลางเสียกะโร้องของเซี่ยเสี่ยวหม่านก็มีเสียงหนึ่งดังกังวานแทรกเข้ามา “จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยเสด็จ…จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยเสด็จ! ” เซี่ยเสี่ยวหม่านหยุดชะงักไป ปฏิกิริยาตอบสนองแรกคือคิดว่าตนเองหูฝาดไป
กูเฟยเยี่ยนก็ได้ยินถึงเสียงนี้เช่นกัน นางลอบยิ้มกับตนเองว่าคงได้ยินเสียงเพ้อฝัน นางรู้อยู่แก่ใจว่าเป็ไปไม่ได้ ทว่าก็ยังตั้งตารอคอยอยู่ ดังนั้นนี่คือภาพลวงตาอย่างนั้นหรือ? ต่อให้คำโกหกของเซี่ยเสี่ยวหม่านเป็จริงก็ไม่มีทางรวดเร็วขนาดนี้ นี่ฟ้ายังไม่สว่างเลยนะ!
แน่นอนว่าองค์หญิงหวายหนิงก็ได้ยินเช่นกัน มือของนางหยุดชะงักแล้วหันไปมองที่ประตูห้องโดยไม่รู้ตัว นางไม่เห็นถึงจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ย ทว่าในขณะนั้นเองเสียประกาศนั้นก็ได้ดังขึ้นมาอีก “จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยเสด็จ…”
เสียงประกาศสามครั้ง จากที่ไกลมาที่ใกล้ ไม่ผิดอย่างแน่นอน!
องค์หญิงหวายหนิงตกตะลึงจนตาค้าง ทางด้านของกูเฟยเยี่ยนนั้นตระหนักได้แล้วว่าตนเองไม่ได้เพ้อฝันไปเอง นางสงบสติอารมณ์แล้วรีบหันไปมองประตูหน้าห้องขัง นางพบว่ามีร่างสูงเข้มแข็งมีพลังค่อยๆ ก้าวเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆจากส่วนที่มืดครึ้ม คนผู้นั้นไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็จิ้งหวางจวินจิ่วเฉิน
เขาไม่ได้หยุดตัวลงที่หน้าประตู แต่ก้าวเท้าเข้ามาด้านในห้องขัง เขาทั้งสูงและ ตั้งตระหง่านราวกับต้นสนอีกทั้งยังรูปงามสูงส่ง คิ้วที่ให้ความรู้สึกเ็าและงดงามของเขาขมวดเป็ปมแน่นราวกับว่าไม่มีความสุขเป็อย่างมาก ถึงแม้ว่าท่าทางของเขาจะดูไม่มีความสุขแต่ก็ยังงดงามอยู่ดี
ประสาทััที่ตึงเครียดของกูเฟยเยี่ยนผ่อนคลายลงในชั่วพริบตาเดียว ความเ็ปเมื่อสักครู่นี้นางไม่แม้แต่จะอยากร้องไห้ แต่วินาทีนี้กลับดีอกดีใจจนอยากจะร้องไห้ออกมา ผู้หนุนหลังของนางกลับมาแล้ว นางปลอดภัยแล้ว!
กูเฟยเยี่ยนดีใจจนพูดไม่ออก แต่เซี่ยเสี่ยวหม่านกลับร้องไห้สะอึกสะอื้นะโเสียงดังลั่น “เตี้ยนเซี่ย นู๋ไฉถูกปรักปรำ แพทย์หญิงกูถูกปรักปรำ! หากเตี้ยนเซี่ยเสด็จมาช้ากว่านี้ก้าวเดียวก็จะไม่ได้พบพวกเราอีกแล้ว! เตี้ยนเซี่ย…ฮึกๆ…”
จวินจิ่วเฉินไม่ได้สนใจเซี่ยเสี่ยวหม่านในทันที สายตาเ็าของเขากวาดมองไปที่ขาทั้งสองข้างที่ไม่ได้ใส่รองเท้าของกูเฟยเยี่ยน ในไม่ช้าก็สังเกตได้ถึงเครื่องมือบีบนิ้วที่ยังสวมใส่อยู่บนนิ้วเท้าของกูเฟยเยี่ยน
ในเวลานี้องค์หญิงหวายหนิงจึงได้สติกลับคืนมา นางใจนมือไม้ลนลานรีบร้อนนำเครื่องมือลงโทษบีบนิ้วที่อยู่บนมือของกูเฟยเยี่ยนดึงออกไป เดิมทีนิ้วมือทั้งสิบนิ้วของกูเฟยเยี่ยนก็เ็ปจนยากที่จะทนไหวอยู่แล้ว เมื่อถูกดึงเช่นนี้จึงเ็ปมากขึ้นกว่าเดิมอีก นางอดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเข้ามาลึกๆ
ในขณะนี้เองสายตาของจวินจิ่วเฉินได้เ็ามากขึ้นกว่าเดิม ดูเหมือนว่าเขา้าที่จะก้าวเข้าไป แต่ก็หยุดเอาไว้ เขาไม่ได้กล่าวอะไรออกมาทำเพียงแค่ออกคำสั่งอย่างเ็า “ทหาร ถ่ายทอดคำสั่งลงไป เปิดการพิจารณาคดีนี้ในทันที เปิ่นหวางจะไต่สวนด้วยตนเอง! เซี่ยเสี่ยวหม่าน เ้าพาแพทย์หญิงกูไปทายาก่อน! ”
หลังจากที่เขาเอ่ยจบก็ได้มองไปที่กูเฟยเยี่ยนอีกครั้ง ก่อนที่จะหันหลังออกไปด้วยความเด็ดขาด
องค์หญิงหวายหนิงตกตะลึงอยู่ที่เดิม เหล่าเด็กรับใช้ปล่อยตัวเซี่ยเสี่ยวหม่านอย่างรู้ตัวและไม่กล้าขยับเขยื้อน เซี่ยเสี่ยวหม่านรีบพุ่งตัวไปประคองกูเฟยเยี่ยนขึ้นมา มือทั้งสองข้างและเท้าทั้งสองข้างของกูเฟยเยี่ยนล้วนเจ็บไปหมดจึงต้องให้เซี่ยเสี่ยวหม่านคอยประคองไว้จึงจะลุกขึ้นยืนได้ นางยืนขึ้นมาแล้วกลับไม่ได้ออกไปในทันที แต่เอ่ยน้ำเสียงเ็าต่อองค์หญิงหวายหนิง “เหตุการณ์มีมาถึงสามครั้งแล้ว ข้าจะไม่ให้โอกาสเขาอีกต่อไป! ”
องค์หญิงหวายหนิงกลั่นแกล้งนางมาถึงสามครั้งแล้ว
มัน…เพียงพอแล้ว!