‘สำหรับหญิงสาวที่เติบโตในวังหลัง การเชื่อใจใครสักคนย่อมเป็เื่ยากใช่หรือไม่?’
ชิงซีครุ่นคิดอย่างใจเย็น
อันที่จริงตลอดระยะเวลาสี่พันปีที่ผ่านมานางมีชีวิตที่สมบูรณ์แบบทั้งที่อยู่ตัวคนเดียว นางมักพบเจอผู้คนที่น่ารักและมิตรภาพที่งดงามอยู่เสมอ อย่างไรก็ตาม นั่นอาจเป็เพราะไม่มีใครรู้ตัวตนของนาง
ถ้าพวกเขารู้ตัวตนของนางในฐานะประมุขแห่งตระกูลมู่ ใครกันจะคบหานางอย่างจริงใจ?
ประมุขตระกูลมู่ไม่สามารถมีเพื่อนแท้ได้
หลังจากพูดจบ นางก็มองอวิ๋นจื่อด้วยดวงตาที่สดใสและรอคอยคำตอบ
“ข้าแค่ไม่รู้ว่าจะอดทนให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปได้อย่างไร” ในที่สุดหญิงสาวก็เลิกลังเลและเล่าความจริงให้ชิงซีฟัง
บางทีในใจของอวิ๋นจื่อ ประมุขตระกูลใหญ่ผู้ร่ำรวย รู้จักมารดาของนาง และยอมเสี่ยงด้วยการนำเอาตระกูลที่มั่นคงของตนเองมาเดิมพันกับการให้ความช่วยเหลือนางเช่นนี้คงไม่มีทางหักหลังนางได้
ลึกๆ แล้วการเชื่อใจใครสักคนเป็เื่ยากสำหรับอวิ๋นจื่อ ตอนนี้คนสุดท้ายที่นางเชื่อใจได้เสียชีวิตภายใต้เงื้อมมือของชิงเกอโดยปราศจากเหตุผลที่เหมาะสม
อวิ๋นจื่อรู้ว่านางแทบไม่เหลือใครให้เชื่อใจอีกแล้ว
‘บางทีข้าควรลองเชื่อใจผู้อื่นดูสักครั้ง...เชื่อใจหญิงสาวผู้ลึกลับที่อยู่ตรงหน้าคนนี้’
จากนั้นนางก็กล่าวเสียงสั่นว่า
“ถ้าข้ามีชีวิตอยู่ได้ถึงร้อยปี ข้าคงใช้เวลาประมาณหนึ่งในห้าอยู่ร่วมกับเขา ไม่ใช่เื่ง่ายเลยที่ข้าจะเจอคนที่ข้าอยากใช้เวลาทั้งชีวิตร่วมกัน ข้าไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไป ชิงซี ข้า…”
“หยุดพูดเถิด ข้าเข้าใจแล้ว” ชิงซีตัดบท
อันที่จริงนางเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ในระยะเวลาสี่พันปีที่ผ่านมานางไม่เคยเป็ฝ่ายที่ต้องรอคอย
น่าจะเป็อย่างที่หมี่เจียเคยกล่าวเอาไว้
‘เหตุใดผู้คนที่จิตใจเ็าเหมือนน้ำแข็งในศาลาน้ำแข็งหิมะจึงต้องใส่ใจความสงบสุขของโลกมนุษย์ด้วย?’
ในใจของชิงซีเกิดความสงสัยขึ้นมาอีกระลอกหนึ่ง
ก่อนที่นางจะคลายความสงสัย หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าก็พูดขึ้นว่า
“ชิงซี ข้ารู้ว่าการที่ข้าเป็เช่นนี้ย่อมไม่ใช่เื่ดี แต่ข้าไม่รู้จริงๆ ว่าต้องทำอย่างไร”
แววตาที่ไร้เดียงสาของอวิ๋นจื่อทำให้ชิงซีนึกถึงตัวเองเมื่อหลายพันปีก่อนตอนที่นางอ้อนขอขาหมูตุ๋นจากหมี่เจีย
ชิงซีแอบยิ้มในใจ แต่ใบหน้าของนางกลับแสดงออกถึงความสุขุมเป็พิเศษ
“โอ้ ข้านึกขึ้นได้พอดี เ้าเคยได้ยินชื่อสำนักชิงซานหรือไม่?” ชิงซีถามด้วยรอยยิ้ม
สำนักชิงซาน?
นั่นคืออะไร? เป็สำนักฝึกยุทธ์หรือไม่?
เป็ไปได้ไหมว่าตระกูลมู่ติดต่อกับผู้คนในสำนักชิงซาน?
ไม่สิ ชื่อนี้ฟังดูคุ้นๆ ดูเหมือนมีคนเคยกล่าวถึงมันแล้ว
แต่ใครกัน?
อวิ๋นจื่อพยายามเค้นความทรงจำว่าใครเคยกล่าวถึงสำนักนี้ แต่ก็จำไม่ได้
ชิงซียิ้มบางๆ และกล่าวว่า “ข้ารีบร้อนเกินไป เ้าเป็คนจิตใจดี เพราะฉะนั้นการอาศัยอยู่ในสถานที่เช่นนี้จึงเป็เื่ยากสำหรับเ้า ข้ามีความสัมพันธ์อันดีกับประมุขสำนักชิงซาน ข้าสามารถส่งเ้าไปที่นั่นซึ่งเป็สำนักกระบี่อันดับหนึ่งเพื่อฝึกฝนทักษะการป้องกันตัว และมันย่อมส่งผลดีต่อเ้าด้วย เ้าคิดเห็นอย่างไร?”
หญิงสาวแลบลิ้นเลียริมฝีปากแล้วถามว่า “เหตุใดเ้าถึงอยากให้ข้าฝึกกระบี่?”
นางไม่เคยจับกระบี่มาก่อนด้วยซ้ำ!
หญิงสาวรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย ในความทรงจำของนาง มีเพียงผู้หญิงน่ารำคาญอย่างโจวยี่เท่านั้นที่ใช้กระบี่เป็
ชิงซียิ้มอย่างเ็าและกล่าวว่า “เ้ารู้หรือไม่ว่าเหตุใดโจวยี่ถึงยังมีชีวิตอยู่?”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ความเศร้าโศกและความขุ่นเคืองของอวิ๋นจื่อยิ่งเพิ่มมากขึ้นไปอีก นางกล่าวว่า “ชิงซีโปรดให้ความกระจ่างด้วย”
ชิงซีจึงเริ่มเท้าความั้แ่ต้น
น้ำเสียงของนางราบเรียบเป็พิเศษ ทำให้อวิ๋นจื่อตื่นตระหนกอยู่ในใจ
ปรากฏว่าเมื่อครั้งโจวยี่ยังเด็ก นางเป็ศิษย์ที่ประมุขคนก่อนแห่งสำนักชิงซานโปรดปรานมากที่สุด ต่อมาก่อนที่ประมุขคนนั้นจะตาย เขาได้ส่งมอบตำแหน่งประมุขให้กับศิษย์อีกคนและคำสั่งเสียสุดท้ายของเขาคือสำนักชิงซานจะต้องปกป้องโจวยี่ให้ถึงที่สุด
ดังนั้นโจวยี่จึงยังมีชีวิตอยู่
เหตุใดคนบาปที่ทำลายราชวงศ์ถึงอยู่รอดปลอดภัย ทั้งยังได้รับการปกป้องจากสำนักกระบี่อันดับหนึ่งของยุทธภพ?
อวิ๋นจื่อไม่พอใจเป็อย่างมาก
หลังจากฟังคำพูดของชิงซี อวิ๋นจื่อก็ตกอยู่ในความเงียบ ถ้านาง้าฆ่าผู้หญิงคนนั้น นางจะต้องกลายเป็ศัตรูของสำนักชิงซาน ตอนนี้ด้วยความสามารถของนางเองหรือแม้แต่ความช่วยเหลือจากตระกูลมู่ นางย่อมไม่มีทางทำสำเร็จแน่
ทันใดนั้นชิงซีก็กล่าวว่า
“เ้ารู้หรือไม่ว่าเหตุใดโจวยี่ถึงไม่ให้คนฆ่าเ้าในตอนนั้น? เหตุใดชางอู๋หลิงถึงหายไป?”
“เพราะเหตุใด?”
อวิ๋นจื่อถามอย่างอ่อนโยน
คืนนั้นโจวยี่บอกนางแล้ว แต่คำพูดของนางจะเป็เื่จริงหรือไม่?
อารมณ์ที่อธิบายไม่ได้ดูเหมือนจะผุดขึ้นในใจของอวิ๋นจื่อ
แม้ว่าจะมีคำตอบอยู่ในใจแล้ว แต่อวิ๋นจื่อก็ยัง้าคำยืนยัน
นางรู้สึกกระวนกระวายและรอคอยคำตอบจากชิงซี
คำถามแรกของชิงซีกระตุ้นให้อวิ๋นจื่อเกิดความสงสัยเป็อย่างมาก ส่งผลให้นางแทบไม่มีเวลาขบคิดเกี่ยวกับคำถามที่สอง
นางคิดว่าถ้านางอยู่ในฐานะเดียวกับโจวยี่ นางจะไม่ปล่อยให้โอกาสงามๆ เช่นนี้หลุดลอยไปอย่างแน่นอน
ในขณะที่อวิ๋นจื่อกำลังจะถามออกไป เสียงของชิงซีก็ดังขึ้นอีกครั้ง
“อันที่จริงเ้าไม่ต้องกังวล ถ้าต้องมีใครสักคนตายระหว่างเ้ากับโจวยี่ คนคนนั้นย่อมไม่ใช่เ้าอย่างแน่นอน”
“เพราะเหตุใด?”
นางถามด้วยความสงสัย
แม้ว่าคำตอบที่ได้รับอาจทำให้สิ่งที่นางเข้าใจมาตลอดหลายปีพังทลายลงก็ตาม
นาง้าคำยืนยันเกี่ยวกับสิ่งที่โจวยี่พูดในคืนนั้น
ชิงซีมองอวิ๋นจื่อแปลกๆ แล้วกล่าวว่า “เพราะนางเคยรักบิดาของเ้ามาก บิดาของเ้า…” นางหยุดไปชั่วครู่ก่อนจะกล่าวต่อว่า “เขาก็รักนางมากเช่นกัน”
‘อันที่จริงบิดาของเ้าไม่ใช่คนที่เ้าเคยคิดมาโดยตลอด’
ชิงซีกัดลิ้นของตัวเองและไม่พูดประโยคสุดท้ายออกไป นางไม่รู้ว่าหญิงสาวที่ไร้เดียงสาอย่างอวิ๋นจื่อจะทนรับเื่นี้ได้หรือไม่ มิหนำซ้ำเื่นี้ยังเป็ปัญหาของคนรุ่นก่อนที่ไม่เกี่ยวข้องกับอวิ๋นจื่ออีกด้วย
ชิงซีคิดว่าเื่นี้คงต้องรอไปก่อน
แต่ปฏิกิริยาของอวิ๋นจื่อนั้นเฉยเมยมาก ราวกับว่านางรู้อยู่แล้ว
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้