เื่นี้เป็การย้ำเตือนเฉินเนี้ยนหรานจริงๆ
“อืม อีกเดี๋ยวข้าไปพูดกับจินจื่อ วันนี้เขาจะไปเอาของจากคุณหนูหลัวซาน แต่หวังว่าครั้งนี้จะได้ผ้ามามากสักหน่อย ไม่เช่นนั้นพวกเราจะเอาเสื้อผ้าส่งให้หรูฮุหยินไม่ทัน นางเป็ลูกค้ารายใหญ่จะมีปัญหาไม่ได้”
การค้าของทั้งสองคนเจริญรุ่งเรืองแต่ยังกังวลเื่ผ้าที่มาช้าเกินไป
เมื่อดูได้พอสมควรแล้ว ตอนที่เดินออกมากลับเจอจินจื่อทำหน้ามุ่ยกลับมา
“เอ๋ จินจื่อ วันนี้เ้าไปเอาสินค้ากลับมาเร็วนัก วันนี้ได้ผ้ากลับมาจากคุณหนูหลัวซานเท่าใดหรือ?”
จินจื่อถอนหายใจ
“นายหญิง อย่าพูดถึงเื่ผ้าอีกเลย วันนี้ข้าไปหาคุณหนูหลัวซาน แต่พวกท่านเดาสิว่าเป็อย่างไร ตอนที่ไปถึงปากทางหมู่บ้านเจอเข้ากับบุรุษของคุณหนูหลัวซานนางพาบุรุษที่อ้วนเหมือนหมูออกมาส่ง สองคนนั้นยังพูดเล่นกันสนุกสนาน ข้ารอให้คนคนนั้นส่งคนไปก่อนค่อยรับสินค้า แต่บุรุษของคุณหนูหลัวซานหัวเราะออกมาบอกว่าไม่มีสินค้าแล้ว ่นี้คุณหนูหลัวซานป่วย ไม่ทอผ้าแล้ว ต่อมาข้ารู้สึกว่าแปลกๆ จึงไปสืบมา ถึงได้รู้ว่ามีพ่อค้าไม่ทราบชื่อแย่งผ้าของเราไปหมดแล้วขอรับ”
ใจของเฉินเนี้ยนหรานกับหนิงเซียงกระตุกไป
“หรือก็คือมีคนแอบตัดแหล่งสินค้าของเรา เพื่อไม่ให้เราสามารถทำชุดสำเร็จรูปได้”
เมื่อไม่มีแหล่งสินค้า แม้จะมีแบบเสื้อผ้าที่งามมากเพียงใดย่อมทำไม่ได้ ไม่มีผ้าแล้ว ยังจะเอาสิ่งใดมาทำเสื้อผ้าให้ผู้อื่น ในตอนนั้นทั้งสองคนต่างรู้ดีว่า เื่นี้ลำบากแล้ว
“แม่นาง ดูเหมือนว่าคู่แข่งในความมืดของพวกเราจะลงมือแล้ว” หนิงเซียงพูดออกมาอย่างมั่นใจ
“อืม คงจะเป็เช่นนั้น อย่างไรพวกเราเพิ่งจะมาที่นี่ แต่กลับยึดครองตลาดของพวกเขาได้ไว ทำให้คนเ่าั้ไม่พอใจ เื่นี้จึงสมเหตุสมผล”
เื่การแข่งขัน ไม่ต้องพูดย่อมเป็เพราะว่าพวกนางที่เป็คนนอกมาแย่งส่วนแบ่งจากพวกเขาไป ทำให้คนอื่นๆ ไม่พอใจ
ัที่แข็งแกร่งยังมากดขี่งูตัวน้อย ไม่ต้องเดาเลยว่า พ่อค้าของที่นี่กำลังให้พวกนางได้รับบทเรียน
“ตอนนี้พวกเราจะทำอย่างไรดีเล่า? ไม่มีผ้า นั่นหมายความว่าแม้จะมีแบบผ้าใหม่ๆ ก็ไม่สามารถทำเสื้อผ้าออกมาได้ เมื่อเป็เช่นนี้ รายการสั่งตัดที่พวกเรารับมาจะต้องคืนกลับไปอย่างนั้นหรือ?”
“ไม่ได้!” เฉินเนี้ยนหรานส่ายหน้าหนักแน่น “เื่เช่นนี้ มีที่ไหนพวกเราบอกว่าจะยอมแพ้ก็ยอมแพ้ได้เลย หากยอมแพ้ให้กับคนพวกนั้น เชื่อสิว่าพวกเราจะสูญเสียสิทธิ์ในตลาดที่นี่ ข้าเชื่อว่าที่คนพวกนั้นใช้วิธีนี้ก็เพื่อบีบพวกเรา”
หนิงเซียงสางผม
“มารดาเอ๊ย แค่ทำกิจการเสื้อผ้า เหตุใดถึงได้ยุ่งยากเช่นนี้? เหมือนกับหอนางโลมของพวกข้า เมื่อมีความผิดปกติก็มีศัตรูโผล่ออกมา การแข่งขันมีอยู่ทุกที่ แต่พวกเราเป็ิญญาของยุคปัจจุบัน จะอย่างไรย่อมต้องสามารถจัดการกับคนพวกนี้ได้”
เฉินเนี้ยนหรานยิ้มสดใส “แน่นอน เอาล่ะ เื่นี้ให้ข้าคิดอีกทีแล้วกัน”
ยามกลับมาถึงกระโจม โจวอ้าวเสวียนไม่ได้อยู่ภายในนั้น ดูเหมือนว่า่นี้เขาจะขยันออกไปข้างนอก นางจึงไปนั่งเล่นกับถวนถวนอยู่ครู่หนึ่ง ซึ่งเด็กน้อยตอนนี้ยังพ่นฟองน้ำลายได้ด้วย
ตอนที่เห็นเฉินเนี้ยนหรานมาหา แขนเล็กๆ กวักเรียกไม่หยุด ปากก็ร้องแอ้ๆ อย่างกระตือรือร้น เป็การต้อนรับการมาของมารดาตนเอง
“เด็กน้อย เ้ายิ่งตัวหนักขึ้นเรื่อยๆ แล้ว ไม่รู้ว่าน้องสาวของเ้าตอนนี้เป็อย่างไรบ้าง เฮ้อ นานเพียงนี้แล้ว ที่เรือนกลับไม่มีจดหมายมา น่าเป็ห่วงเสียจริง”
พอคิดถึงเชวียนเชวียน ใจของเฉินเนี้ยนหรานพลันหนักอึ้งขึ้นมา
ความจริงแล้ว เื่ของลูกนางเคยปรึกษากับโจวอ้าวเสวียนแล้ว ตอนแรกเสนอความเห็นว่าจะรับลูกมา แต่ต่อมากลับคิดได้ว่าอย่างไรตรงนี้ก็เป็ชายแดน หากเกิดเื่วุ่นวายอะไรขึ้น สถานที่แห่งนี้นับเป็ที่ที่อันตรายที่สุด
แม้แต่ถวนถวน โจวอ้าวเสวียนก็วางแผนว่าจะส่งเขากลับไป ไม่ก็เลี้ยงดูในหมู่บ้านไปก่อน
จากการแอบย้ำเตือนของเขา เหมือนที่นี่จะเป็ชายแดน มีความเป็ไปได้ว่ามันจะไม่ปลอดภัย
หากวันหนึ่งปัญหาของแคว้นผีข่าไม่ได้รับการแก้ไข กลุ่มทหารแคว้นผีข่าที่ประจำการอยู่ที่เมืองหลัวหู แล้วยังมีพวกโจรในเมืองหลัวหูที่ยังไม่ถูกกำจัดอีก จะต้องมีสักวันที่เกิดอันตรายขึ้น
โลกนี้ไม่ใช่โลกที่ปลอดภัย แต่เป็สถานที่วุ่นวาย หากเกิดเื่วุ่นวายขึ้นมา ย่อมมีความเป็ไปได้ที่ลูกจะได้รับาเ็
เพราะเหตุนี้ เฉินเนี้ยนหรานจึงเห็นด้วยกับความคิดของโจวอ้าวเสวียน แล้วไม่รับเชวียนเชวียนมา เพียงแต่ หากจะส่งถวนถวนกลับไป นางย่อมไม่้า เพราะเหตุนี้เื่นี้จึงพับเก็บไป
“นายหญิงเ้าคะ วันนี้ตอนที่คุณชายจะออกไปได้กำชับไว้ว่า ให้พวกเราทานข้าวกันก่อนเลยเ้าค่ะ เขาอาจกลับมาไม่ได้” แม่นมที่อยู่ด้านข้างรายงาน
“อืม รู้แล้ว ส่วนถวนถวนรบกวนเ้าใส่ใจให้มากเสียหน่อยนะ อย่าให้เขาได้รับาเ็ ข้าจะไปทำงานแล้ว”
หลังจากสั่งงานเสร็จ เฉินเนี้ยนหรานกลับไปเริ่มออกแบบในกระดาษออกแบบ
พอดีกับที่ตอนนี้หนิงเซียงกำลังหงุดหงิด ั้แ่รู้ว่าตู้ซินถงคบอยู่กับองค์หญิงสาม นางก็เงียบลงมาก แม้จะไม่สนใจ ไม่อยากจะไปคิด แต่ภายในใจกลับยังว้าวุ่น
บุรุษคนนั้นทำร้ายตนเองเช่นนี้จริงๆ หรือ?
บางครั้งนางรู้สึกไร้ค่าแทนตู้ซินถง
ร่างกายบุรุษดีๆ แต่งเป็นั่นแต่งเป็นี่ มีเพียงอย่างเดียวคือไม่เคยแต่งเป็ตนเองจริงๆ ไม่รู้ว่าหลายปีมานี้เขามีชีวิตความเป็อยู่อย่างไร
“แม่นาง ข้ายกส้มมาให้”
ในปากของหนิงเซียงกินส้มอยู่ แต่มือก็ยังถืออีกจานมาด้วย
“อืม วางไว้ตรงนั้นเถิด” เฉินเนี้ยนหรานตอบกลับโดยที่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นไปมอง ก้มหน้าก้มตาวาดภาพลงในกระดาษออกแบบ
หนิงเซียงยื่นหน้าไปดู “ผิดแล้ว ขนาดที่เ้าวาดมันผิดแล้ว ควรจะเป็หนึ่งหลีหมี่ [1] ถึงจะถูก”
“ตลับลูกปืน [2] นั้นของเ้าก็ผิดแล้ว ควรจะเป็เช่นนี้...”
นางชี้แนะไปไม่กี่ประโยค แต่กลับทำให้เฉินเนี้ยนหรานที่ฟังอยู่จ้องนางด้วยความตกตะลึง
“หนิง...หนิงเซียง เ้าเข้าใจเื่เครื่องจักรด้วยหรือ?”
หนิงเซียงกลืนกลีบส้มในปาก ก่อนจะตอบอย่างมั่นใจ
“ไม่ได้เข้าใจมากนักหรอก แต่มองจากภาพวาดของเ้าข้าก็รู้แล้ว เพราะยามอยู่ที่นั่น ข้าเคยมีเพื่อนสนิทคนหนึ่งทำพวกนี้ ไม่มีอะไรทำก็มองนางวาดไปวาดมา ข้าจึงจำขนาดได้ แต่หากเ้าให้ข้าวาดคงไม่ไหวเช่นกัน”
“ฮ่าๆ...” เฉินเนี้ยนหรานะโลุกขึ้นไปกอดนางแล้วหมุนไปมา
“กรี๊ด...หนิงเซียงเ้าเก่งมากเลย เก่งมากเลย ข้าไม่้าให้เ้าเข้าใจมัน ข้าแค่อยากให้เ้ารู้ว่าขนาดที่ข้าวาดมันถูกหรือผิด พวกเราร่วมมือกันย่อมต้องสามารถวาดมันออกมาได้แน่”
์ นี่มันเป็รองเท้าขาดๆ แต่กลับมาเจอเข้ากับช่างซ่อมรองเท้าจริงๆ
นางจำโครงสร้างส่วนใหญ่ของเครื่องจักรได้ แต่กลับจำขนาดไม่ได้ มีรายละเอียดลงลึกของอะไหล่ที่ไม่ค่อยรู้แน่ชัดเท่าไร ผู้ใดจะคาดคิดว่าหนิงเซียงกลับเสริมสิ่งที่ขาดไปได้ครบถ้วน คนคนนี้ที่วันๆ เอาแต่กินนอนและเกียจคร้าน ทั้งยังคิดที่จะอยู่กับหอนางโลมยุ่งความรัก แต่โชคดีที่ชาติก่อนนางถูกเพื่อนลากไปทำงานฝีมือ จึงทำให้เข้าใจเื่ขนาดโครงสร้างของเครื่องจักร
อีกทั้ง ระหว่างที่ทำเฉินเนี้ยนหรานค้นพบเื่น่าใว่า ความจำของหนิงเซียงดีไม่เลวเลยทีเดียว
“อ่อ ความจำหรือ เื่นี้ข้าไม่เลวจริงๆ จำได้ว่าตอนแรกที่ข้าเข้าเรียน ตอนนั้นมักจะได้ที่หนึ่ง น่าเสียดาย ต่อมาเกิดเื่กับครอบครัว ข้ามักจะถูกคนหัวเราะเยาะ บอกว่าลูกสาวของคนขายตัว บอกว่าข้าเกิดมาเพื่อขายรอยยิ้ม ข้าจึงยอมแพ้เื่การเรียน...”
“ตอนมัธยมเรียนไม่จบ ออกไปทำงานบริการที่ร้านเหล้าจริงๆ...ตอนนี้มาคิดๆ ดูแล้ว ความจริงแล้วก็เสียใจภายหลังมากอยู่เหมือนกัน จนถึงตอนนี้ข้าทำได้แค่หาเงิน บางครั้งเหตุผลที่ลึกล้ำเล็กน้อยกลับไม่เข้าใจ”
“แม่นาง เ้ารู้หรือไม่ ตอนแรกที่คนคนนั้นทิ้งข้าไปยังเมืองหลวง ข้าพูดประโยคหนึ่งว่า คนเช่นเ้าดูแล้วมีความรู้ความฉลาด แต่ในความเป็จริง เ้าเป็แค่ร่างกลวง หนิงเซียง สตรีเช่นเ้าไม่มีทางได้ยืนในที่สูงกับข้าได้ความหมายของเขาข้าเข้าใจดีมาก นั่นคือข้าไม่เหมาะกับเขา โลกของเขา ข้าไม่เข้าใจ โลกของข้าเขาก็ดูถูก...เ้าว่าเขาดูถูกข้าแล้วเหตุใดถึงยังคบหากับข้า?”
“หลังจากข้ามีลูก เขาเพียงใช้สายตาเย้ยเยาะมองมายังข้า บอกว่าหนิงเซียง เด็กคนนี้เ้าคิดจะทำอย่างไร? จะให้สืบทอดเส้นทางของข้า หรือให้เขาใช้สถานะเป็ลูกนอกสมรส ให้เขามีชีวิตที่ถูกคนในเรือนของเขาหัวเราะเยาะ...เหอะๆๆ...แม่นาง...เ้าไม่มีทางเข้าใจ คนคนหนึ่งฆ่าคนจนไม่เหลือสภาพ เขาไม่ได้ใช้มีด แต่ใช้คำพูดเพียงแค่ไม่กี่คำ กลับสามารถทำให้ข้าตกลงไปถึงนรก โดยที่ไม่สามารถพลิกตัวกลับมาได้...”
“แต่เ้ายังคงคิดถึงเขาไม่ลืม? เช่นนี้เ้าไม่กำลังเหยียดหยามตนเองอยู่หรือ?”
เฉินเนี้ยนหรานอดจะพูดความในใจออกมาตรงๆ ไม่ได้
“แน่นอนสิ ข้ามันคนต่ำต้อยนี่” หนิงเซียงยิ้มแหยออกมาอย่างช่วยไม่ได้
“ดังนั้นแม่นาง เ้าจะต้องจำเอาไว้ มีบุรุษคนหนึ่งดีกับเ้าแล้ว อย่าได้ทอดทิ้งเขา อย่าเหมือนข้าที่ถูกคนอื่นเล่นสนุก ทั้งยังเอาแต่รั้นจะกลับไป ความจริงแล้ว บางครั้งข้าแยกไม่ออกว่าที่ข้ารั้นเช่นนี้คืออยากจะกลับไป หรืออยากจะพิสูจน์ตนเองให้เขาเห็นว่า แม้ไม่มีเขาข้าก็ยังสามารถมีชีวิตได้ดี ข้าแยกไม่ออกว่าข้ารักเขาหรือเกลียดเขา ตอนที่เขาดีกับข้า เขา...ใส่ใจมากเป็พิเศษ แต่ตอนที่แยกจากกัน คำพูดพวกนั้นของเขาและท่าทาง มันทำให้ข้าเ็ป”
เฉินเนี้ยนหรานยักไหล่ สำหรับความรู้สึกแปลกๆ ของอีกฝ่าย นางไม่สามารถเข้าใจได้จริงๆ
“ช่างเถิด ไม่พูดแล้ว จริงสิ ตู้ซินถงเป็อย่างไรบ้าง? เ้าไม่คิดจะคบกับเขาบ้างหรือ?”
“ไม่คิด เขากับข้าเป็คนประเภทเดียวกัน หากข้าเดาไม่ผิด เขาเองก็เป็คนที่เหยียดหยามตนเอง”
หนิงเซียงพูดเสียงเย็น แต่เฉินเนี้ยนหรานที่เป็คนฟังกลับรู้สึกหวาดกลัว
บางครั้ง ชีวิตคนเรา เราไม่มีทางเข้าใจ
“หนิงเซียง ไม่ว่าจะคิดอย่างไร ข้ายังหวังให้เ้าให้ความสำคัญกับความรู้สึก ขอแค่เ้ามอบความจริงใจออกไป ย่อมจะได้ความจริงใจกลับมา หากเ้ายังรอให้คนอื่นมามอบมันให้เ้าก่อน ความรู้สึกเช่นนี้ไม่มีทางนาน ข้าอยากให้เ้าให้ความสำคัญในทุกๆ วันนะ”
หนิงเซียงยิ้มอ่อนมาให้นาง ก่อนจะหมุนตัวออกไป
หลังจากแก้กระดาษแผ่นนั้นไปหลายรอบจนมั่นใจแล้ว แบบร่างแผ่นนั้นถูกพวกนางแก้จนเสร็จก็เสียเวลาไปหนึ่งวันหนึ่งคืน
เชิงอรรถ
[1] หลีหมี่ หมายถึงเิเ
[2] ตลับลูกปืน เป็อุปกรณ์ที่ใช้รองรับการหมุนของเพลา โดยตลับลูกปืนมีหน้าที่ถ่ายทอดแรงที่เกิดขึ้นจากเพลาลงไปสู่ฐานเครื่องยนต์ และลดแรงเสียดทานระหว่างผิวัั ทำให้ช่วยเพิ่มสมรรถนะของเครื่องจักรกลต่างๆ ลดการสึกหรอ
