บทที่ 184 รณทระนง
บนเวที มีร่างหนึ่งหยัดยืนอย่างภาคภูมิ ถือกระบี่เล่มยาวอยู่ในมือ ร่างกายของเขาแผ่รังสีความเย่อหยิ่งอันทรงพลังอย่างยิ่งออกมา มันราวกับเตาหลอม ไฟิญญาลุกโชน คลื่นความร้อนก็เดือดพล่านเพิ่มขึ้น
ไม่เพียงแต่ฉู่อวิ๋นจะไม่ถูกเผาไหม้ด้วยไฟิญญาเท่านั้น แต่เขายังรู้สึกราวกับตนเองได้เกิดใหม่ กำลังอาบน้ำอยู่ในบ่อน้ำพุร้อน มันสบายมาก พลังปราณหนาวจัดที่กลืนร่างกายของเขาก็หายไป
“นี่มันพลังอะไรกันเนี่ย?!” ในขณะนี้ ฉู่อวิ๋นใ แต่ก็ประหลาดใจอย่างยิ่งเช่นกัน เขายกมือขึ้น มองเห็นเปลวไฟไหลอยู่เหนือหมัดของเขาด้วยพลังที่ไม่มีใครเทียบได้
เขาพบว่าเปลวไฟเหล่านี้ไม่ใช่เปลวไฟบริสุทธิ์จริงๆ แต่ประกอบขึ้นจากพลังปราณแท้ มันปล่อยพลังอันมหาศาลออกมา!
“หรือว่า… นี่คือพลังที่แท้จริงของิญญาศักดิ์สิทธิ์?” ฉู่อวิ๋นยิ้ม ใจเต้นจนปั่นป่วน และเขาก็ได้ข้อสรุปที่น่าอัศจรรย์เช่นนี้ออกมา
“เวิ้ง—”
ในจุดตันเถียน ิญญาไฟหยางศักดิ์สิทธิ์ในวงแหวนห้าิญญากำลังลุกโชนอย่างตื่นเต้น ดูซุกซนและหยิ่งผยอง ราวกับเด็กเล็กที่อยากแสดงพลัง
ดูเหมือนนี่จะช่วยยืนยันการคาดเดาของฉู่อวิ๋นได้ เพราะมันมุ่งมั่นที่จะปกป้องที่ของตนเอง ไม่ยอมถูกให้พลังปราณน้ำแข็งเ่าั้รังแก
ยามนี้ ฉู่อวิ๋นก็ตระหนักได้ว่าร่างกายของเขาเต็มไปด้วยความทระนง รู้สึกมีพลังที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ร่างยุทธ์ของเขาแข็งแกร่งกว่าที่เคย!
“ดูเหมือนว่าก้อนหินผุพังของเ้าก็ไม่ได้มีประโยชน์มากนัก! ิญญายุทธ์ระดับแปดหรือ? ปล่อยอะไรพวกนั้นออกมา กำลังผ่ายลมหรือ?”
ฉู่อวิ๋นหัวเราะเบาๆ มองเสวี่ยหานเฟยที่สีหน้ามืดมนและพูดแดกดันออกไป ทำให้คุณชายชุยเสวี่ยเลิกคิ้ว ค่อนข้างขุ่นใจและงงงวยในเวลาเดียวกัน
“เหตุใดลมหายใจน้ำแข็งผนึกปีศาจจึงล้มเหลว?! เปลวเพลิงของเขาคืออะไร?!” เสวี่ยหานเฟยประหลาดใจ ไม่กล้าบุ่มบ่าม ้าสืบหาเื่ราวทั้งหมด
เพราะิญญายุทธ์ของเขาแข็งแกร่งมากจนแช่แข็งทุกสิ่งในโลกได้ ด้วยความสามารถนี้ ขอเพียงให้เวลาอีกหน่อย ในอนาคตย่อมได้รับยศยิ่งใหญ่
แต่คุณชายชุยเสวี่ยรู้สึกงงมาก “ซิวหลัวหน้าผี” คนนี้ สามารถรับมือพร์ิญญายุทธ์ ลมหายใจน้ำแข็งที่เขาทุ่มเทสุดกำลังได้อย่างไร? นี่มันแปลกมาก!
ต้องรู้ว่า แม้ว่าเขาจะเป็เพียงนักรบระดับเจ็ดในขั้นมหาสมุทร แต่ตราบใดที่เขาใช้งานลมหายใจน้ำแข็งผนึกปีศาจ การจะหาคู่ต่อสู้ในขั้นมหาสมุทรที่เทียบเคียงได้ก็ไม่ใช่เื่ง่าย!
“ทำไม?! ทำไมเขาถึงเผาลมหายใจน้ำแข็งของข้าได้?!!!” เสวี่ยหานเฟยพูดกับตัวเองด้วยความโมโห ยิ่งคิดถึงเื่นี้มากเท่าไรก็ยิ่งรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เขาเกาหัว ไม่อาจยอมรับความจริงข้อนี้ได้เลย
จากนั้น เมื่อเขาก้มลงมอง ก็ต้องกัดฟันกรอด เพราะพบว่าหนามน้ำแข็งของพัดขนัน้ำแข็งถูกเผาไปหมดแล้ว และขนจากแผงคอัเองก็ไหม้เกรียมกลายเป็สีดำเช่นกัน
“พัดขนนกอันนี้ของเ้า เปลี่ยนชื่อได้แล้ว” พลังปราณของฉู่อวิ๋นที่เพิ่มขึ้น เขาพูดด้วยรอยยิ้ม “เรามาเรียกมันว่าพัดขนนกกระดูกดำกันดีกว่า ฟังดูดีจริงๆ~"
“เ้า!” หน้าอกของเสวี่ยหานเฟยกระเพื่อมขึ้นลงอย่างโกรธจัด แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไร เขาก็ต้องใและแปลกใจอีกครั้ง
“ฟิ้ว—”
มองเห็นิญญาน้ำค้างแข็งศักดิ์สิทธิ์ที่ควบคุมอากาศเย็นค่อยๆ เริ่มจางลง
โลกเล็กๆ ใบนี้อบอุ่นขึ้น หมอกมัวหายไป มองเห็นได้ชัดเจนขึ้น
อย่างที่ทราบกัน ิญญายุทธ์นั้นเป็ิญญาที่บรรจุเจตจำนงของฟ้าดินไว้ มันถึงเริ่มเก็บพลังของตนกลับไปเพื่อปกป้องตนเอง นี่หมายความว่า?
มันกำลังกลัว!
ิญญาน้ำค้างแข็งศักดิ์สิทธิ์ เป็ิญญายุทธ์ระดับแปด กลับกลัวบางสิ่งบางอย่าง นี่ทำให้เสวี่ยหานเฟยงุนงงอย่างที่สุด
“หืม? ดูเหมือนจะไม่หนาวขนาดนั้นแล้วนะ”
“อ๊ะ จู่ๆ เด็กหนุ่มหน้าผีก็ถูกไฟไหม้ เกิดอะไรขึ้น?”
ในขณะเดียวกัน เมื่อทุกคนเห็นว่าฉู่อวิ๋นถูกไฟเผาไหม้ ในตอนแรกพวกเขาก็ใ เพราะคิดว่าเขาจะถูกไฟคลอกตาย จากนั้นก็ตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ
หลายคนปิดปาก รู้สึกไม่รู้จะทำยังไงกับการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันนี้
โดยเฉพาะผู้เฒ่าบางคนที่ผ่านประสบการณ์มาโชกโชน กายใจสั่นไหวไม่หยุด ดวงตาขุ่นมัวเป็ประกาย ราวกับได้เห็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่อ
“รณทระนง... นี่คือรณทระนง!” ชายชราบางคนตกตะลึงและพูดไม่ออกเมื่อได้เห็นมัน พวกเขาตื่นตาตื่นใจเป็ที่สุด
“ว่ากันว่า มีเพียงนักรบระดับราชันย์เท่านั้นที่จะเปิดใช้งานสถานะนี้ได้ มันสามารถปรับปรุงคุณสมบัติต่างๆ ของร่างยุทธ์ได้ชั่วคราว ทั้งความแข็งแกร่งและความเร็ว ต่างก็เพิ่มขึ้นมาได้หลายเท่า!”
“เด็กหนุ่มคนนี้... เด็กหนุ่มคนนี้คือราชันย์ยุทธ์หรือ?!?! นี่ฝันไปหรือ? มันเป็ไปไม่ได้ เป็ไปไม่ได้!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น หินหนึ่งก้อนเกิดคลื่นนับพัน ผู้คนจำนวนมากสนใจขึ้นเรื่อยๆ ที่ได้รับรู้ถึงบางอย่างจนไม่อาจหุบปากที่อ้าค้างอยู่ได้จนแทบจะนั่งไม่ติด
มีคนตบหน้าตัวเองด้วยซ้ำ นั่นคือนักพรตสำนักเพียนจี[1] ดวงตาของเขาสั่นเทาและหวาดกลัวจนคิดว่าตนเองตาฝาด
ต้องรู้ว่า ในการฝึกยุทธ์ ต้องค่อยๆ เดินไปทีละก้าว ค่อยๆ ก้าวไปหาท้องฟ้าทีละขั้น
จุดเริ่มต้นของการฝึกยุทธ์คือการฝึกฝนขั้นมนุษย์ หรือที่รู้จักกันในชื่อสี่ขั้นแห่งมนุษย์ คือ ขั้นขอบเขตควบแน่นพลังปราณ ขั้นมหาสมุทร ขั้นพื้นพิภพ และขั้นเทียมฟ้า
หลังจากฝึกระดับพลังยุทธ์ขั้นแห่งมนุษย์สำเร็จแล้ว นักรบจะมีโอกาสทะลวงไปสู่ขั้นถัดไปคือขั้นราชันย์!
นั่นคือขั้นใหม่ของการฝึกยุทธ์ นักรบจะได้เลาะหนังเปลี่ยนกระดูก[2] แต่งตั้งยศถาบรรดาศักดิ์ ตั้งตนเป็าา เหยียดหยามวีรชน มองดูโลกาด้วยความยโส
และรณทระนง คือสัญลักษณ์ของการเลื่อนขั้นเป็ขั้นราชันย์ ร่างกายถูกรายล้อมด้วยเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ พลังยุทธ์และพลังปราณสามารถปรับปรุงความแข็งแกร่ง ความเร็ว และการป้องกันได้ในระยะเวลาอันสั้น ทั้งยังมีคุณภาพที่ทรงพลังมาก
“หรือเ้าหนุ่มนี่คือราชันย์ยุทธ์? เขาถึงกับปลุกรณทระนงได้เชียวนะ?”
“ไม่น่าเชื่อเลย ทุกรุ่นทุกสมัยล้วนมีอัจฉริยะ อัจฉริยะพวกนี้แต่ละคนเก่งกาจกว่าอีกคน เขาเป็ราชันย์ยุทธ์จริงหรือ!?”
ทุกคนตกตะลึง ทั้งลานตกอยู่ในความโกลาหล สถานการณ์วุ่นวายเป็อย่างมาก แม้แต่เสวี่ยจิงหง ฉู่เจิ้นหนานและคนอื่นๆ ก็นั่งไม่ติดที่ ขนลุกชันด้วยความกลัว
ถ้ามีราชันย์ยุทธ์แล้วยังจำเป็ต้องสู้อีกหรือ? ยังจะประลองอะไรอีก แค่ตวัดกระบี่เบาๆ เพียงครั้งเดียวก็สามารถสังหารเ้าสำนักหรือผู้นำตระกูลที่นี่แล้ว แม่น้ำเืไหลหลาก ความกล้าหาญไร้ผู้ใดเทียบ
นั่นคือวิถีแห่งราชันย์ วิถีมนุษย์สามัญไหนเลยจะเทียบได้?
ยามนี้ เมื่อทุกคนมองฉู่อวิ๋นที่เต็มไปด้วยความหยิ่งผยอง ต่างก็หวาดกลัวจนแทบจะคุกเข่าลงกับพื้น เขาไปถึงขั้นราชันย์ั้แ่อายุยังน้อยเลยหรือ? จะต้องโด่งดังไปทั่วใต้หล้าอย่างแน่นอน
“ไม่! เขาจะเป็ราชันย์ยุทธ์ได้อย่างไร? ถ้าเป็จริง เขายังจะมาประลองอะไรอีก?” เสวี่ยหานเฟยะโเสียงดัง รักษาท่าทีให้สงบ พยายามสงบสติอารมณ์ เพราะเขาเคยต่อสู้กับฉู่อวิ๋นมาก่อนและรู้รายละเอียดบางอย่างเกี่ยวกับเขา จึงชี้ส่วนที่น่าสงสัยให้เห็น
“หานเฟยพูดถูก เด็กหนุ่มคนนี้อาจจะไม่ใช่ราชันย์ยุทธ์ เขาอาจจะแค่แสดงวิชายุทธ์แปลกๆ” เสวี่ยจิงหงก็กระแอมในลำคอและะโ ตอนนี้เขารู้สึกหวาดกลัวจริงๆ
หลังจากนั้นไม่นาน ทุกคนก็สงบลง จัตุรัสที่มีเสียงดังวุ่นวายก็ค่อยๆ กลับมาเงียบ แต่ยังคงเต็มไปด้วยความสงสัย
คนหลายคนรวมถึงเ้าสำนักบางคนต่างกำลังงงงวย ในเมื่อนี่ไม่ใช่ราชันย์ยุทธ์ ทำไมเขาถึงแสดงรณทระนงออกมาได้เล่า?
“เมื่อหลายปีก่อน ข้าได้มีบุญเห็นการต่อสู้ของราชันย์ยุทธ์ ข้าไม่มีทางจำผิดแน่ เปลวไฟของเ้าหนุ่มคนนี้เป็รณทระนงจริงๆ”
ชายชราตัวสั่นค้ำไม้เท้า ผมสีดอกเลาและดวงตาขุ่นมัวเป็ประกาย คล้ายกำลังนึกย้อนกลับไปในอดีต แล้วบอกความจริงเพื่อขจัดข้อสงสัยของหลายๆ คน
ชายชราคนนี้เป็ผู้าุโที่ได้รับความเคารพนับถือสูง คำพูดของเขาน่าเชื่อถือ ดังนั้นจึงไม่มีใครสงสัยในสิ่งที่เขาพูด
“แต่เด็กหนุ่มคนนี้อย่างมากก็เป็นักรบขั้นมหาสมุทร มีวิธีใดบ้างที่จะทำให้เกิดรณทระนงได้?” ผู้นำตระกูลคนหนึ่งถามเสียงดัง จนทุกคนพยักหน้าตาม ด้วยต่างมีคำถามเดียวกัน ใบหน้าเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม
ทว่าชายชรากลับถอนหายใจและส่ายหัว ไม่รู้ว่าต้องใช้วิธีใด
จากนั้น ผู้ชมหลายคนก็มองดูหลิงจื้ออีกครั้ง ้าคำตอบจากเขา แต่ชายชราแห่งตระกูลหลิงไหนเลยจะรู้มากขนาดนั้น เขาเองก็สับสนและตกตะลึงเช่นกัน ซ้ำสติยังไม่กลับเข้าร่างดีด้วยซ้ำ
ทุกคนต่างมองหน้ากันไปมาอยู่นาน
เสวี่ยหานเฟยขมวดคิ้ว เหงื่อไหลตามไรผม เขาก็ไม่กล้าโจมตีเข้าไปตรงๆ
ชายชราผมหงอกอีกคนหนึ่งถอนหายใจด้วยดวงตาที่สดใส เขาเป็ผู้าุโจากนิกายโบราณและมีอายุร่วมสองร้อยปี
เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเทา “ข้ารู้แล้ว! ตามบันทึกโบราณ ไม่มีวิธีใดที่จะกระตุ้นรณทระนงได้... แต่ขอเพียงนักรบกลืนกินิญญาศักดิ์สิทธิ์แห่งฟ้าดินเข้าไป มันก็สามารถเปิดใช้งานได้เช่นกัน!”
“เด็กหนุ่มคนนี้โชคดีอย่างไม่น่าเชื่อ! ยังหนุ่มอยู่แต่กลับได้กลืนิญญาศักดิ์สิทธิ์แล้ว?”
“และคุณลักษณะของิญญาที่กลืนกินไป จะกำหนดรูปร่างและสีของพลัง…”
“เขากลืนิญญาศักดิ์สิทธิ์ที่มีคุณสมบัติเป็ไฟ!”
“เวิ้ง—”
เมื่อได้ยินคำพูดของชายชรา ทุกคนในกลุ่มผู้ชมต่างก็ประหลาดใจ สีหน้าของพวกเขาดูตื่นตระหนก จากนั้นก็หายใจเข้าลึกๆ รู้สึกงงแล้วงงอีก
ิญญาศักดิ์สิทธิ์แห่งฟ้าดิน คือวัตถุิญญาสูงสุด เป็แหล่งกำเนิดยุทธ์ที่เกิดจากธรรมชาติ คุณค่าคณานับ ไม่ต้องพูดถึงนักรบในขั้นมนุษย์ แม้ว่าจะแข็งแกร่งอย่างราชันย์ยุทธ์ พวกเขาก็ยังโลภต่อมัน
“เด็กหนุ่มหน้าผีคนนี้สามารถกลืนิญญาศักดิ์สิทธิ์ได้ั้แ่อายุยังน้อย?! ์!”
“มีรณทระนงอยู่ เสวี่ยหานเฟยจะยังมีโอกาสชนะหรือไม่?”
“ิญญาศักดิ์สิทธิ์! เขาถึงกับ...สามารถกลืนิญญาศักดิ์สิทธิ์ได้จริงๆ!”
ทุกคนตื่นเต้นและจ้องมองฉู่อวิ๋นด้วยดวงตาที่ลุกเป็ไฟ ต่างตกตะลึง อิจฉาริษยา และรู้สึกโลภ ไม่เคยคิดว่าในงานอันยิ่งใหญ่นี้ จะได้เห็นผู้ที่กลืนกินิญญาศักดิ์สิทธิ์ ทั้งยังอ่อนวัยถึงเพียงนี้
ในไม่ช้า มันก็แพร่กระจายเหมือนไฟลามทุ่ง ทุกคนที่นี่ล้วนรู้แล้วว่าฉู่อวิ๋นมีิญญาเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ เสียงอุทานดังขึ้นไม่หยุด
แน่นอนว่า ในยามนี้ ไม่เพียงแต่บางคนเท่านั้นที่ประหลาดใจ แต่ยังมีคนที่้าฉวยประโยชน์จากฉู่อวิ๋นด้วย
แม้ว่าจะทำให้ตระกูลหลิงขุ่นเคือง แต่ก็ต้องได้ิญญาศักดิ์สิทธิ์มา! นี่คือสิ่งที่คนตาร้อนบางคนคิด
ชั่วขณะหนึ่ง จัตุรัสศาลเ้าปรากฏคลื่นใต้น้ำทั่วสารทิศ ทุกฝ่ายต่างมองหาโอกาส คิดต่อสู้แย่งชิงิญญาศักดิ์สิทธิ์ของฉู่อวิ๋นต่อหน้าผู้คน
ดูเหมือนว่าที่นี่กำลังจะเกิดเื่วุ่นวายขึ้น
เมื่อทุกคนมีความคิดของตัวเอง สีหน้าของเสวี่ยหานเฟยบนเวทีก็บูดบึ้งเช่นกัน เขาไม่พอใจมากและรู้สึกเหมือนถูกมองข้าม
เดิมที เขายังคงเป็จุดสนใจของทุกคน เพราะิญญายุทธ์ระดับแปด ิญญาน้ำค้างแข็งศักดิ์สิทธิ์ ทว่าตอนนี้ รณทระนงของฉู่อวิ๋นกลับดึงดูดความสนใจของทุกคนไป เขาขโมยแสงสว่างอันเฉิดฉาย และกลายเป็คนที่มีชื่อเสียงขึ้นมา
สำหรับคุณชายชุยเสวี่ยแล้ว จะทนได้อย่างไร? แม้แต่พัดขนนกยังถูกเผา ถูกปรนนิบัติคล้ายคนโง่เขลา ถูกละเลย
“ฮึ่ม! รณทระนงวิเศษนักหรือ? ข้าจะยังทำลายเ้าอยู่ดี!”
เสวี่ยหานเฟยะโด้วยใบหน้าน่ากลัว โยน “พัดขนไก่” ทิ้งไป ตบมือของเขาเข้าด้วยกัน กระตุ้นให้เกิดอากาศเย็นจัด จากนั้นจึงกำมือแน่น เหยียดมือไปสองข้างซ้ายขวา แล้วดึงกระบี่น้ำแข็งออกมา
ด้วยเสียง “ฟุ่บ” เขากลายเป็ภาพเงาและเริ่มใช้พลังอันมหาศาลเข้าโจมตีก่อน ราวกับว่า้าบุกก่อนเพื่อแสดงพลังอันแท้จริงของตนเอง
“ควับ!”
แสงเย็นเยียบสองดวงกะพริบเป็รูปกากบาทขนาดใหญ่ อากาศเย็นจัดหมุนวนในความว่างเปล่า ก่อตัวเป็กระแสน้ำค้างแข็งสูงถึงหนึ่งร้อยหมี่ กระแทกเข้าหาฉู่อวิ๋น ก่อให้เกิดพายุลมหนาว!
เมื่อเห็นการโจมตีครั้งใหญ่นี้ ฉู่อวิ๋นก็รีบตั้งสติและดึงกระบี่หลี่หั่วออกมาทันที
ท้ายที่สุดแล้ว คู่ต่อสู้ของเขาคือนักรบขั้นมหาสมุทรระดับสูง แม้ว่าฉู่อวิ๋นจะมีรณทระนงอยู่ แต่เขาก็ไม่รู้วิธีใช้มัน จึงไม่กล้าประมาท
ดวงตาของเขาหรี่ลง เขาดึงกระบี่ออกมาแล้วก้าวไปข้างหน้า กลายเป็ก้อนไฟที่พุ่งออกไป พยายามสลัดกระแสน้ำแข็งนี้ไปให้พ้นทาง!
“ตูม--!”
เสียงอันดังนี้ทำให้เวทีแตกแยก
ทันทีที่ก้าวเข้าไป ฉู่อวิ๋นก็พูดไม่ออก เพราะพบว่าพละกำลังของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก เขาะโขึ้นไปบนท้องฟ้าเสียงดัง “ฟุ่บ” และข้ามกระแสน้ำแข็งที่พุ่งมาได้จนหมด จนทำให้เสวี่ยหานเฟยตกตะลึง
แม้แต่ผู้ชมทั้งหมดก็พากันเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าด้วยสีหน้างุนงง...
“นี่เรียกว่าป้องกันได้ที่ไหน…” บนท้องฟ้า ร่างที่ลุกเป็ไฟตกตะลึงและดีใจ
ทันใดนั้น ดวงตาของฉู่อวิ๋นก็หรี่ลง เขาเงื้อกระบี่ขึ้นในอากาศ หวังจะโจมตีลงไป!
----------
[1] สุดยอด
[2] เกิดใหม่