[เ้านาย ครั้งนี้ท่านดวงดีไม่เลวทีเดียว!]
“อย่าบอกข้า อย่าบอกข้าเด็ดขาด!”
[เ้านาย ฟ่านฟ่านไม่ได้หลอกลวงท่าน ครั้งนี้ดวงของท่านกำลังพุ่งแรงเชียว!]
“จริงหรือ” เฟิ่งเฉี่ยนเคลือบแคลงสงสัย นางลืมตาขึ้นข้างหนึ่งก่อน เมื่อเห็นตัวอักษรแถวหนึ่งปรากฏขึ้นว่า 《ตำราทักษะการเดินหมากล้อม เวอร์ชั่น 2.0》นางตื่นเต้นดีใจจนแทบจะกรีดร้องเสียงแหลมออกมา นางลืมดวงตาทั้งคู่ เมื่ออ่านอย่างละเอียดอีกครั้ง เป็ 《ตำราทักษะการเดินหมากล้อม เวอร์ชั่น 2.0》จริงๆ!
นางตื่นเต้นจนต้องยกมือขึ้นปิดปากของตน และะโโลดเต้นอยู่ตรงนั้นอยู่นาน นางไม่อาจควบคุมความตื่นเต้นดีใจไว้ได้อีก นางจึงร้องะโออกมาว่า “จับได้แล้ว! จับได้แล้วจริงๆ ด้วย! เย้--”
ด้านนอกห้องครัว ได้ยินเสียงร้องะโจากข้างใน ทุกคนต่างสงสัยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับนาง
ภายในห้องนอนของมู่ไท่ฟู่ เดิมทีมู่ไท่ฟู่ไม่อาจลุกจากเตียงได้ มาตอนนี้เขานั่งอยู่ที่โต๊ะ ได้กลิ่นหอมของหมูสามชั้นในน้ำซอส มู่ไท่ฟู่รู้สึกเจริญอาหารเป็พิเศษ เขาหยิบตะเกียบด้วยท่าทีไม่อาจรอได้อีกต่อไปพร้อมกับเอ่ยชื่นชม “ฝีมือการทำอาหารของแม่นางเฟิงช่างล้ำเลิศ! ข้ายังคิดถึงข้าวผัดไข่ที่นางทำเสมอ! ไม่รู้ว่าหมูสามชั้นในน้ำซอสนี้จะมีรสชาติอย่างไร”
มู่ไท่ฟู่ยื่นมือออกไปคิดจะคีบหมูสามชั้น มู่ชิงหว่านรีบห้ามปราม “ท่านปู่ สิ่งของที่สตรีนางนั้นทำไม่อาจกินส่งเดชเ้าค่ะ ใครจะรู้ว่านางใส่ยาพิษไว้ในนั้นหรือไม่”
มู่ชิงเซียวขมวดคิ้วตำหนิว่า “น้องหญิงสาม เหตุใดจนป่านนี้แล้วเ้ายังมีอคติต่อแม่นางเฟิงอีก แม่นางเฟิงรักษาอาการป่วยของท่านปู่จนหายดี เป็ผู้มีพระคุณของสกุลมู่ของพวกเรา!”
“แต่นางยังทำร้ายข้า! บัญชีนี้จะคิดอย่างไร” มู่ชิงหว่านเบะปากอย่างไม่ยินยอม นางกุมาแบริเวณหัวไหล่ที่ยังไม่หายดี “คิดจะให้ข้าเลิกอคติกับนาง นอกจากถึงวันที่ข้าตายเท่านั้นแหละ!”
มู่ชิงเซียวตวาดด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด “น้องหญิงสาม!”
มู่ไท่ฟู่มองคนทั้งสองสลับไปมาแล้วโบกมือ “พอได้แล้ว อย่าทะเลาะกันอีกเลย! จะกินข้าวอย่างสงบใจสักมื้อก็ไม่ได้!”
มู่ชิงหว่านออดอ้อน “ท่านปู่ พี่รองเขารังแกข้า! เขาเอาแต่ทำดีกับคนที่เขาชอบ ไม่เคยใส่ใจความเป็ความตายของข้า ข้าไม่ชอบเขาเ้าค่ะ!”
มู่ไท่ฟู่วางตะเกียบลง อบรมสั่งสอนด้วยท่าทีเข้มงวด “หว่านเอ๋อร์ เป็คนต้องแยกแยะบุญคุณความแค้นให้ชัดเจน! เ้าไม่ชอบหน้าแม่นางเฟิงได้ แต่เ้าจะทำร้ายนางลับหลังไม่ได้ ในเมื่อนางช่วยชีวิตของปู่! เื่นี้พี่รองของเ้าทำถูกแล้ว แม่นางเฟิงมีบุญคุณต่อสกุลมู่ของพวกเรา พี่รองของเ้าช่วยเหลือนางล้วนเป็เื่สมควร!”
มู่ชิงหว่านกัดริมฝีปากได้แต่พยักหน้า ทว่าในใจกลับเต็มไปด้วยคับแค้นใจอย่างที่สุด
เมื่อเฟิ่งเฉี่ยนและมู่ชิงเซียวออกไปจากจวนสกุลมู่ มู่ชิงหว่านรีบพาสาวใช้สะกดรอยตามไปเงียบๆ
นางอยากจะรู้นักเชียวว่าพวกเขาทั้งสองทำลับๆ ล่อๆ หรือไปทำเื่ที่ไม่อาจพบหน้าผู้คนได้
เมื่อเฟิ่งเฉี่ยนและมู่ชิงเซียวกลับไปถึงชุมนุมเดินหมากอีกครั้ง พบว่าคนในชุมนุมเดินหมากเพิ่มมากขึ้นอีกหนึ่งเท่าตัว ภายในห้องโถงใหญ่เต็มไปด้วยผู้คน ทุกคนล้วนแต่รอชมการเดินหมากในตอนบ่ายนี้
เห็นเฟิ่งเฉี่ยนปรากฎตัว กลุ่มคนเ่าั้พากันคึกคักขึ้นมาทันที
“มาแล้วมาแล้ว!”
“ดูสิ นางก็คือคนที่เอาชนะท่านาุโหานติดๆ กันสองกระดาน!”
“ได้ยินว่านางเป็เพียงนักเดินหมากมือสมัครเล่นคนหนึ่ง และเป็นางกำนัลเล็กๆ คนหนึ่ง”
“จริงหรือหลอก นางกำนัลคนหนึ่งก็เอาชนะท่านาุโหานที่เป็ยอดฝีมือระดับเจ็ดได้เช่นนั้นหรือ”
“จริงแท้แน่นอน! ตอนเช้ามีคนมากมายเห็นกับตาตนเอง!”
“ค่ายกลเจดีย์สามเหลี่ยมของนาง เยี่ยมยอดจริงๆ!”
“โดยเฉพาะกระดานที่สอง ถือได้ว่าเป็การเดินหมากที่ควรได้รับการบันทึกเอาไว้!”
“สนุกสนานจริงๆ!”
“การเดินหมากในตอนบ่ายจะต้องมีสีสันเช่นเมื่อเช้าแน่นอน แทบจะทำให้คนรอดูไม่ไหว!”
ต่อมาเฟิ่งเฉี่ยนเดินเข้าไปในชุมนุมหมากล้อม มีคนมากมายเข้ามาทักทายนาง และมองนางด้วยแววตาเป็มิตร
“แม่นางเฟิง การเดินหมากกระดานเมื่อเช้าสนุกจริงๆ! เลื่อมใสๆ!”
“แม่นางเฟิง ตอนบ่ายต้องพยายามนะ! พวกเรารอดูการต่อสู้ที่เต็มไปด้วยสีสันของเ้า!”
“แม่นางเฟิง เ้าเป็เพียงนักเดินหมากมือสมัครเล่นคนหนึ่งจริงๆ หรือ เ้าร่ำเรียนวิชาการเดินหมากล้อมจากอาจารย์ท่านใด สะดวกที่จะเปิดเผยหรือไม่”
“แม่นางเฟิง มีเวลาว่างเมื่อใด สอนข้าสักหน่อยเถิด”
“แม่นางเฟิง ข้าสนับสนุนเ้าอย่างไร้เงื่อนไข! ตอนบ่ายจะต้องเอาชนะให้ได้เล่า!”
“แม่นางเฟิง ข้าสนับสนุนเ้าเช่นกัน! อย่าทำให้พวกเราผิดหวัง!”
“แม่นางเฟิง...”
ได้รับไมตรีจิตจากฝูงชน หัวใจของเฟิ่งเฉี่ยนอุ่นซ่าน
มองออกว่าพวกเขาชื่นชมนางจากใจจริง
สำหรับคนที่ชื่นชอบการเดินหมากจริงๆ แล้วสังคมของพวกเขาง่ายดายยิ่งยวด ไม่มีการเสแสร้งแกล้งทำ ฝีมือการเดินหมากของผู้ใดเก่งกาจ พวกเขาก็จะนับถือและเลื่อมใสคนนั้น ง่ายดายและตรงไปตรงมา!
ยามนี้หานหลินเยว่เดินออกฝ่ากลุ่มคนออกมาหยุดอยู่เบื้องหน้าเฟิ่งเฉี่ยน นางยิ้มเยื้อนกล่าวว่า “แม่นางเฟิง ข้าคือหานหลินเยว่ เป็ผู้ดูแลชุมนุมหมากล้อมเทียนหยวน ขอต้อนรับการมาของท่านอย่างเป็ทางการ!”
เฟิ่งเฉี่ยนลอบพิจารณานาง ตอนเช้านางมัวแต่จดจ่อสมาธิอยู่กับการเดินหมาก จึงไม่ได้สังเกตเห็นนาง ตอนนี้เมื่อมองอีกฝ่ายอย่างพินิจพิจารณาแล้ว พบว่าฝ่ายตรงข้ามเป็หญิงงามที่มีบุคลิกน่าดูชมอย่างหายากนางหนึ่ง
อาภรณ์สีอ่อนที่สวมอยู่บนกาย การตัดกันของสีดำและขาว เหมือนเช่นหมากดำและหมากขาวบนกระดานหมาก เรียบง่ายดูเป็กันเองทว่ากลับยิ่งส่งให้บุคลิกสูงส่งสง่างาม รูปโฉมของนางมิได้โดดเด่นเหนือผู้อื่น ทว่าที่เหนือกว่าคือบุคลิก คนทั้งคนดูแล้วสุขุมนิ่งลึก มีสติปัญญาเฉียบแหลม ให้ความรู้สึกเรียบง่ายทว่าสูงศักดิ์ ทำให้ผู้คนพบเห็นแล้วไม่อาจลืมเลือน!
“ขอบคุณแม่นางหาน!” เฟิ่งเฉี่ยนแย้มยิ้มและตอบกลับอย่างเกรงใจ
หานหลินเยว่คล้ายลังเลใจอยู่ครู่หนึ่งจึงเอ่ยปากออกมาว่า “ขออภัยที่ข้าขอถามคำถามแม่นางเฟิงสักคำถามหนึ่ง”
“เชิญแม่นางหานพูดมาได้เลย!” เฟิ่งเฉี่ยนกล่าว
หานหลินเยว่ “ได้ยินท่านปู่ของข้าบอกว่า แม่นางมาเพราะแมวเทพสองหางหรือ”
ดวงตาของเฟิ่งเฉี่ยนทอประกายวาบ นางรีบกล่าวว่า “ถูกต้อง! ข้าคิดจะเสนอราคาสูงลิ่วเพื่อซื้อแมวเทพสองหางของห่านไท่ฟู่ ไม่ทราบว่าแม่นางหานจะอำนวยความสะดวกได้หรือไม่”
แววตาของหานหลินเยว่พลันหม่นวูบ นางส่ายหน้า ยืนกรานหนักแน่น “ขออภัยด้วยแม่นางเฟิง! สกุลหานไม่มีทางมอบแมวเทพให้กับท่านเด็ดขาด!”
“เหตุใดเล่า” เฟิ่งเฉี่ยนไม่กระจ่างแจ้ง “ข้ายินดีเสนอราคาสูงลิบลิ่วเพื่อขอซื้อ! พวกท่านมีเงื่อนไขอะไร ให้เสนอมาได้เลย!”
สีหน้าท่าทางของหานหลินเยว่พลันสงบนิ่งและดูห่างเหินพันโยชน์ “หวังว่าแม่นางเฟิงจะรักษาคำพูดที่ได้ให้ไว้! หากแพ้การเดินหมากกระดานนี้ ให้ออกไปจากชุมนุมเดินหมาก ต่อไปห้ามมารบกวนพวกเราอีก!”
เฟิ่งเฉี่ยนงงงันกับท่าทีของนางอย่างที่สุด ไม่เข้าใจว่าเหตุใดนางจึงยืนกรานหนักแน่นที่จะไม่ส่งมอบแมวเทพ เฟิ่งเฉี่ยนคิดจะตามไปถามให้รู้เื่ ทว่าหานหลินเยว่กลับหมุนตัวเดินจากไปอย่างรวดเร็ว
“แม่นางหาน!”
นางคิดจะตามไปทว่ากลับถูกชายหนุ่มของชุมนุมเดินหมากขัดขวาง “แม่นางเฟิง ตอนนี้ผู้ที่เข้ามาชมการเดินหมากมีจำนวนมาก ดังนั้นทางชุมนุมจึงตัดสินใจใช้กระดานหมากใหญ่ที่อยู่ในห้องโถงใหญ่เพื่อให้การประลองหมากกระดานนี้เป็ไปอย่างเปิดเผย ท่านมีความเห็นเป็อื่นหรือไม่”
เฟิ่งเฉี่ยนส่ายหน้าอย่างไม่ใส่ใจ “ข้าไม่มีปัญหา”
ชายหนุ่มพูดอีกว่า “อีกประการหนึ่ง เพื่อให้ท่านและท่านาุโหานมีพื้นที่ใช้ความคิดในการเดินหมากที่ดียิ่งขึ้น ทางชุมนุมจึงได้ตัดสินใจใช้พวกท่านใช้ห้องพิเศษคนละห้อง คือ ห้องเสวียนและห้องหวง ในการประลอง!”
เฟิ่งเฉี่ยนประหลาดใจ วิธีการเดินหมากเช่นนี้ถือว่าเป็ของแปลกใหม่ ให้ผู้เดินหมากทั้งสองแยกกัน ย่อมไม่ได้รับผลกระทบและการรบกวนจากฝ่ายตรงข้าม เพื่อไม่ให้กระทบต่ออารมณ์ในการเดินหมาก
หากดูจากสถานการณ์เมื่อเช้านี้แล้ววิธีการเดินหมากโดยการยั่วยุของนางทำให้หานไท่ฟู่มีโทสะไม่น้อย อย่างน้อยๆ ก็ส่งผลกระทบต่อการเดินหมากของเขา
ชัดเจนเหลือเกินว่านี่เป็การวางแผนเพื่อหานไท่ฟู่!
ทว่านางอย่างไรก็ได้ นางได้ร่ำเรียน 《ตำราทักษะการเดินหมากล้อม เวอร์ชั่น 2.0》แล้ว นางมีความมั่นใจเต็มเปี่ยม
“ได้ ข้าไม่มีความเห็นอันใด”