ฟู่ววววว.....
คลื่นพลังปราณอันแข็งแกร่งได้แปรเปลี่ยนเป็ระลอกคลื่นและแผ่ออกมาจากร่างของเขาเป็ระลอก และปกคลุมท้องฟ้าเหนืออาณาเขตตระกูลเยี่ยน ปีกสีเืบนหลังของเขาเพียงแค่กระพือปีกก็สามารถสร้างพายุ นั่นทำให้เจียงเฉินดูราวกับเทพเซียน
ในขณะนั้นทุกๆคนต่างแหงนหน้ามองไปยังเจียงเฉินที่อยู่้า รวมถึงหวงต้าที่เพิ่งตื่นด้วย
"์! ข้าเห็นสิ่งใดอยู่นี่? น้องเจียงเฉินได้ทะลวงเข้าสู่ขอบเขตแก่นแท้มนุษย์แต่เขาสามารถที่จะบินบนอากาศได้ มันยากที่จะเชื่อ มีแต่ระดับแก่นแท้์ถึงสามารถที่จะควบคุมพลังหยวนฟ้าดินและบินได้ด้วยแก่นแท้์ในร่างกาย! นี่...นี่มันปาฎิหารย์!"
"ดูปีกทั้งสองข้างที่หลังเขาสิ! ปีกสีแดงเืเ่าั้ทำให้เขาบินได้ เขาไม่ต้องควบคุมพลังหยวนฟ้าดิน! นี่มันน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก ข้าสงสัยว่าน้องเจียงเฉินทำได้เช่นไร?"
"ปีกสีเืคู่นั้นแผ่กลิ่นอายของสัตว์อสูรออกมา ข้าคิดว่าปีกเ่าั้เป็ของสัตว์อสูร! แต่ข้าสงสัยว่าน้องเจียงเฉินนำมาเป็ความสามารถตนเองได้อย่างไร! ผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้มนุษย์สามารถบินได้ นี่มันเกินจินตนาการของพวกเรา สมแล้วที่น้องเจียงเฉินเป็อัจฉริยะไร้ที่เปรียบ!"
เยี่ยนเจิ้นอวิ๋นและคนของเขาต่างมีสีหน้าตื่นเต้น ขณะที่พวกเขาได้เห็นการกำเนิดของปาฎิหารย์อีกเื่หนึ่ง ปีกโลหิตของเจียงเฉิน ได้ทำให้ในใจของพวกเขายุ่งเหยิง
"เฮ้อ....ตลอดชีวิตข้าคงไล่ตามน้องเจียงเฉินไม่ทันซะแล้วล่ะ....ดูเหมือนว่าข้าคงต้องให้เขาเป็แบบอย่างในอนาคตเสียแล้ว"
เยี่ยนหยางถอนหายใจออกมา เมื่อคนอย่างเจียงเฉินอาศัยอยู่ที่นี่นั้นส่งผลกระทบอย่างมากกับเขา
ณ บนท้องฟ้าผมสีดำของเจียงเฉินพลิ้วไหวตามสายลม ดวงตาของเขาเปล่งประกายดั่งดวงดารา เขาเป็ดั่งเทพเซียนจาก์ก็มิปาน การดูดซับดวงจิตอสูรเหยี่ยวปีกโลหิตได้ให้ประโยชน์แก่เขามหาศาลและมันยังทำให้ทักษะร่างแปลงัได้สำแดงพลังอันสุดยอดออกมา
ทักษะร่างแปลงัได้ดูดซับสายเืของเหยี่ยวปีกโลหิตโดยสมบูรณ์และสามารถให้ปีกโลหิตปรากฏออกมาได้ นี่มันเกินกว่าที่เจียงเฉินจินตนาการเอาไว้ มันทำให้เขาตกตะลึงแล้วเขาสามารถที่จะบินได้โดยที่เป็เพียงผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้มนุษย์ นี่มันเป็ผลประโยชน์ที่คนทั่วไปไม่สามารถได้
ไม่เพียงแค่นี้ เจียงเฉินยังได้รับการสืบทอดความสามารถทางดั้งเดิมของสายเืมาอีกด้วย ความสามารถดั้งเดิมที่สืบทอดมาจากเหยี่ยวปีกโลหิตคือ คลื่นเสียงเหยี่ยวเก้า์ มันเป็ทักษะคลื่นเสียงที่ทรงพลัง ทักษะนี้ไม่มีระดับ มันเติบโตตามระดับการบ่มเพาะของเจียงเฉิน
ทักษะยุทธประเภทคลื่นเสียงมันน่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าทักษะยุทธทั่วไปเพราะมันยากต่อการป้องกัน คลื่นที่รุนแรงเจาะทะลวงิญญาของผู้คนและจู่โจมแหล่งที่กำเนิดพลังของพวกเขา มันจะสร้างความเสียหายได้อย่างมหาศาล ด้วยทักษะนี้ทำให้เหยี่ยวปีกโลหิตเป็าาในหมู่เหยี่ยว
และนี่ยังไม่สามารถที่จะเทียบกับผลประโยชน์ที่เจียงเฉินได้รับ ผลกระทบของสายเืและพลังส่งผลให้เจียงเฉินสร้างแก่นแท้มนุษย์ได้ทันที ตอนนี้ภายในทะเลลมปราณของเจียงเฉินมีแก่นแท้มนุษย์สีทองเหมือนเสาขนาดั์ภายในทะเลปราณ ตราประทับัสิบห้าดวงล้อมอยู่รอบๆแก่นแท้มนุษย์ คล้ายๆกลุ่มของดาวรายล้อมดวงจันทร์
ใช่แล้ว ตราประทับัสิบห้าดวง เมื่อตอนที่เจียงเฉินได้ก้าวขึ้นสู่ขอบเขตฉีไห่ขั้นปลาย เขามีตราประทับัแปดดวงและเพราะพลังที่เก็บไว้อยู่ในเขาได้สร้างตราประทับัเป็สิบดวง ไม่เพียงแค่เขาได้ทะลวงเข้าสู่ระดับแก่นแท้มนุษย์ พละกำลังของเขายังเพิ่มขึ้นทวีคูณ และเขาได้สร้างตราประทับัเพิ่มขึ้นเป็สิบห้าดวง
ตามที่เจียงเฉินคาดการณ์ไว้ ในการที่จะทะลวงสู่ขั้นแก่นแท้มนุษย์ขั้นกลางนั้นต้องใช้ตราประทับัเป็สองเท่า เขาต้องสร้างตราประทับัให้ได้อย่างน้อยสามสิบดวง
การดูดซับดวงจิตอสูรเหยี่ยวปีกโลหิตนั้น ทำให้เจียงเฉินได้รับรู้ถึงความสุดยอดของทักษะร่างแปลงัและมันทำให้เจียงเฉินได้ตัดสินใจเลือกเส้นทางที่เขาบ่มเพาะหลังจากนี้ ตอนนี้เขาสามารถที่จะลืมทักษะยุทธทุกอย่างในชีวิตที่แล้วของเขายกเว้นทักษะยุทธพลังเก้าสุริยัน
เมื่อนึกถึง่เวลาหลังจากนี้ เจียงเฉินจะต้องดูดซับสายเืหายากอย่างต่อเนื่อง และได้รับความสามารถดั้งเดิมที่ทรงพลังมา มันจะน่ากลัวขนาดไหน ไม่กล้าที่จะคิด
ภายนอกตำหนัก ชายแก่ได้มองไปยังเจียงเฉินที่ลอยอยู่บนฟ้า ปากของมันอ้าค้าง สีหน้าตกตะลึงไม่ด้อยกว่าผู้ใด มันแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ตัวมันในฐานะสัตว์อสูรและเป็เผ่าพันธุ์เหยี่ยวด้วย ไม่มีผู้ใดจะสามารถเข้าใจเื่ที่เจียงเฉินดูดซับสายเืเหยี่ยวปีกโลหิตได้นั้นได้ดีไปกว่ามัน เื่แบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
"มันเป็ไปได้อย่างไร? เขาทำได้อย่างไรกัน? เขาเป็เพียงมนุษย์นะ แล้วเขาดูดซับสายเืของสัตว์อสูรได้อย่างไร? และเขาผสานเข้ากับร่างกายเขาอย่างสมบูรณ์ได้อย่างไร?"
ชายแก่บ่นกับตัวเอง แม้ว่าตัวมันอยู่มากว่าร้อยปีแล้ว ก็ไม่สามารถที่จะเข้าใจสิ่งนี้ได้
"นี่มันวิเศษเกินไปแล้ว เ้าหนุ่มนี่ไม่ธรรมดาจริงๆ อย่าบอกนะว่าเขาเป็บุตรแห่งโชคชะตางั้นรึ? หรือเขาคือเทพเซียนผู้มาจาก์งั้นรึ? กลิ่นอายสูงส่งที่แผ่ออกมาจากร่างของเขา เป็กลิ่นอายของผู้ที่อยู่เหนือทุกๆคน สายตาของเขาเยือกเย็นดุจสายน้ำและมันไม่มีหวั่นไหวเมื่อเผชิญหน้ากับข้า.....เขาได้มอบทักษะปีศาจ์อย่างสบายๆด้วยซ้ำ.....และตอนนี้เขาสามารถที่จะดูดซับสายเืของเหยี่ยวปีกโลหิตได้อีก? นี่เขายังคงเป็มนุษย์อยู่อีกหรือ?"
ชายแก่ชุดดำที่สยบให้แก่เจียงเฉิน ในความคิดของเขานั้นเจียงเฉินไม่ใช่มนุษย์ การประสบความสำเร็จของเขาในอนาคตนั้นเกินกว่าจินตนาการ
"โฮ่ง โฮ่ง.....บัดซบ! เ้าหนูนั่นทำแบบนั้นได้อย่างไรกัน? เ้าหนุ่มนี่จะต้องมีความลับที่ยิ่งใหญ่อยู่เป็แน่ เขาจะต้องบ่มเพาะด้วยทักษะเทวะาเป็แน่.....มนุษย์หลอมรวมกับสายเืของสัตว์อสูร? ได้เปิดหูเปิดตาบิดาหมาผู้นี้เสียจริง"
หวงต้าะโลงมายังลานกว้าง มันไม่สามารถที่จะสงบใจได้ ชายหนุ่มผู้นี้เต็มไปด้วยความลึกลับ เขาเหมือนหลุมไร้ก้นไม่มีผู้ใดสามารถมองทะลุตัวตนเขาได้ ตอนอยู่ที่เขาต้นกำเนิด เขาสามารถที่จะดูดซับสายเืของตัวมัน นั่นทำให้หวงต้างงแล้ว ตอนนี้เขายังดูดซับสายเืของเหยี่ยวปีกโลหิตอีกและเขาสามารถมอบทักษะปีศาจ์อีก เขาเป็ใครกันแน่?
ทุกๆคนจากตระกูลเยี่ยนได้มองไปยังชายหนุ่มที่มีปีกโลหิตสองข้างจากหลังของเขากำลังกระพือปีกอยู่นอกเหนือจากการตกตะลึงแล้วพวกเขายังรู้สึก...ไม่มีคำใดสามารถอธิบายความรู้สึกพวกเขาได้ในตอนนี้ ชายหนุ่มผู้นี้ดูราวกับเทพเซียน
ฝุ่บ....
ปีกโลหิตของเจียงเฉินกระพือ เขาลงมาจากท้องฟ้าช้าๆ เขาจับไหล่ของเขาและหดปีกโลหิตเข้าสู่ร่างกายเขา
"เ้าหนูบอกมาให้ไวเลย ทักษะเทวะใดที่เ้าทำการบ่มเพาะอยู่? เ้าดูดซับสายเืของสัตว์อสูรได้อย่างไร"
หวงต้ามาอยู่ข้างๆเจียงเฉินและถามตรงๆ
"ข้าไม่บอกเ้าหรอก"
เจียงเฉินจ้องหวงต้าก่อนและเขาได้ออกจากเรือนที่พักไป
"บัดซบ! อะไรทำให้เ้าจองหองเช่นนี้?"
หวงต้าเชิดหน้าขึ้นฟ้าแล้วมันก็ตามเจียงเฉินไปในขณะที่แกว่งหาง
"นายท่าน"
ชายแก่ชุดดำมองเจียงเฉินเดินออกมา เขารีบก้มหัวให้และพูดออกมา
"นายท่านมีพลังที่ไม่สามารถคาดเดาได้ ท่านจะประสบความสำเร็จสูงสุดในอนาคตเป็แน่"
ก่อนหน้านี้ชายแก่ยอมเรียกเจียงเฉินว่านายท่านเพราะกลัวเมล็ดพันธุ์ที่หวงต้าหว่านไว้ในััเทวะของมันก่อนหน้านี้ แต่ตอนนี้ตวมันได้เรียกเจียงเฉินว่านายท่านด้วยความ้าของมนเอง
"เ้าเหยี่ยวดำ เ้ามีนามว่าอะไร?"
เจียงเฉินมองไปยังชายแก่ ดวงตาของเขาเปล่งประกายเหมือนดวงดาราเหมือนเขาเป็จอมราชันย์ผู้มองลงไปยังเหล่าข้าราชบริพาร
"นายท่านสามารถเรียกข้าว่า เฒ่าเฮยได้ขอรับ"
ชายแก่ชุดดำพูดออกมาด้วยความเคารพ
"ตกลง เฒ่าเฮยข้าขอถามเ้าหน่อย จากนี้ต่อไปเ้าประสงค์ที่จะยอมจำนนต่อข้าหรือไม่?"
เจียงเฉินถาม
"ความปรารถนาของท่านคือคำสั่งสำหรับข้าขอรับ นายท่าน!"
ชายแก่ไม่กล้าที่จะแสดงอาการใดๆที่ไม่สุภาพ ตัวมันเข้าใจถึงศักยภาพของตนเองอย่างดี มันสามารถไปได้สูงสุดคือระดับแก่นแท้์ขั้นสูงสุด มันเป็เื่ยากมากสำหรับมันที่จะสร้างแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ แต่เจียงเฉินได้มอบทักษะปีศาจ์และมอบโอกาสให้แก่เขาที่จะสามารถทะลวงเข้าสู่ขอบเขตราชันย์ปีศาจได้ หรือบางทีอาจจะไปถึงขั้นจักรพรรดิ์ปีศาจก็เป็ได้ สำหรับเขาแล้วนี่เป็เปลี่ยนโชคชะตาของเขา นอกจากนี้เจียงเฉินเป็บุรุษแห่งปาฏิหารย์ และการประสบความสำเร็จในอนาคตของเขานั้นไม่สามารถคาดเดาได้ มันจะดีกว่าที่จะติดตามเขา เขาสามารถที่จะได้รับผลประโยชน์ในอนาคตนั้นมากมายนัก
"ดี! ไม่นานหลังจากนี้ข้าจะออกจากที่นี่และมุ่งไปยังแคว้นฉี หน้าที่ของเ้าคือพำนักอยู่ที่นี่ ภายในอาณาเขตของตระกูลเยี่ยนขณะที่บ่มเพาะด้วยทักษะปีศาจ์ ตราบที่เ้าทำหน้าที่ได้ดีเ้าจะได้รับส่วนแบ่งของผลประโยชน์ในอนาคต"
เจียงเฉินพูด ตอนนี้เข้าได้ทะลวงเข้าสู่ขอบเขตแก่นแท้มนุษย์แล้วและเื่ระหว่างเขากับตระกูลหลี่ก็ได้สิ้นสุดแล้ว นี่เป็เวลาออกเดินทางครั้งใหม่สำหรับเขา อย่างไรก็ตามสิ่งที่กังวลมากที่สุดคือตระกูลเจียงและหากเฒ่าเฮยสามารถที่จะปกป้องพวกเขาได้ เขาจะได้ออกจากที่นี่โดยไร้กังวล
เจียงเฉินไม่ได้ขอให้เฒ่าเฮยไปอาณาเขตตระกูลเจียงโดยตรง แต่ขอเขาให้คุ้มกันตระกูลเยี่ยนแทน เหตุผลนั้นง่ายๆ เขา้าให้ตระกูลเจียงอยู่ที่เมืองเทียนเซียง และทำให้สถานะของเขาต้อยต่ำเข้าไว้ สอง มันไม่ได้แตกต่างกันมากนักที่จะขอให้เฒ่าทมิฬปกป้องตระกูลเยี่ยนหรือตระกูลเจียง เพราะว่าด้วยบุญคุณที่เจียงเฉินได้ทำไว้ต่อตระกูลเยี่ยน ต่อเยี่ยนเจิ้นอวิ๋นจะต้องสละชีพตระกูลเยี่ยนก็จะปกป้องความปลอดภัยของตระกูลเจียงไม่ว่าอย่างไรก็ตาม นั่นเป็เหตุว่าหากตระกูลเยี่ยนปลอดภัย ตระกูลเจียงเองก็จะปลอดภัยเช่นเดียวกัน
"เฒ่าเฮยจะทำงานให้ดีที่สุดและขอรับประกันว่าตระกูลเยี่ยนนั้นจะต้องปลอดภัย!"
เฒ่าเฮยได้โค้งอย่างสุภาพต่อเจียงเฉิน ตอนนี้เขา้าสภาพแวดล้อมที่เสถียรมั่นคงในการบ่มเพาะทักษะปีศาจ์ ตระกูลเยี่ยนได้กลายเป็ผู้ปกครองเพียงหนึ่งเดียวของเมืองชื่อ และสถานที่แห่งนี้เหมาะสมที่จะทำการบ่มเพาะอีกด้วย
ในตอนนั้นเอง เยี่ยนเจิ้นอวิ๋นและคนของเขาได้มาถึง บนใบหน้าของพวกเขาเผยท่าทีปิติยินดี
"ขอแสดงความยินดีกับน้องเจียงเฉินที่ทะลวงเข้าสู่ขอบเขตแก่นแท้มนุษย์ได้สำเร็จ! นี่เป็ข่าวที่น่ายินดีอย่างยิ่ง"
เยี่ยนเจิ้นอวิ๋นประสานมือแสดงความยินดี
"ท่านผู้นำเยี่ยน ข้ากำลังจะไปหาท่านอยู่พอดี หลังจากนี้ข้าจะเข้าไปยังแคว้นฉี ตอนนี้เื่ราวต่างๆในเมืองชื่อได้ถูกแก้ไขอย่างสมบูรณ์แล้ว จากนี้ต่อไปก็คงไม่มีขุมพลังไหนที่สามารถเป็คู่ต่อสู้ตระกูลเยี่ยนได้อีก นอกจากนี้หลังข้าออกจากที่นี่แล้ว ข้าได้ให้เฒ่าเฮยอยู่คุ้มครองตระกูลเยี่ยน ช่วยข้าจัดหาสถานที่เงียบๆให้เฒ่าทมิฬทำการบ่มเพาะหน่อยได้หรือไม่ขอรับ?"
เจียงเฉินพูด
เมื่อได้ยินสิ่งที่เจียงเฉินพูด พวกเขาได้สะดุ้งก่อนและได้มีความสุขอย่างมาก ส่วนเื่ที่เจียงเฉินจะออกจากที่นี่และเข้าไปยังแคว้นฉีนั้นทุกคนได้เตรียมใจแล้วมันต้องเกิดขึ้นเร็วๆนี้ เจียงเฉินเป็ัในหมู่ผู้คน เขาจะทะยานขึ้นไปบนฟ้าในไม่ช้าก็เร็ว เขาคงไม่อยู่ในเมืองเล็กๆอย่างเมืองชื่อนานนัก
สิ่งใดที่ทำให้คนจากตระกูลเยี่ยนตกตะลึงคือเจียงเฉินจะให้เหยี่ยวดำอยู่ที่นี่ พวกเขาได้เห็นถึงความสามารถของเหยี่ยวดำแล้ว มันเป็ราชันย์สัตว์อสูรแก่นแท้์อย่างแท้จริง ตระกูลเยี่ยนได้เป็ผู้ปกครองแต่เพียงผู้เดียวของเมืองชื่อ และตอนนี้พวกเขาได้ราชันย์สัตว์อสูรแก่นแท้์มาพำนักอยู่ที่ตระกูลของพวกเขา พวกเขาเป็ผู้ปกครองที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเมืองนี้
"น้องเจียงเฉินได้ทำอะไรหลายอย่างให้แก่ตระกูลเยี่ยนของข้า ข้าเยี่ยนเจิ้นอวิ๋นไม่รู้จะตอบแทนความบุญคุณนี้อย่างไรดี! ข้าอยากจะเชิญตระกูลเจียงย้ายมาอยู่ที่นี่และข้าจะยกเยี่ยนหยวี่โหรวครึ่งหนึ่งให้ตระกูลเจียงเป็ผู้ดูแล"
เยี่ยนเจิ้นอวิ๋นพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง เยี่ยนหยวี่โหรวเป็กิจการหลักของตระกูลเยี่ยนและมันเป็สมบัติที่มีเพียงพวกเขาเท่านั้นที่ นี่เป็การตัดสินใจครั้งใหญ่ของเยี่ยนเจิ้นอวิ๋นในการยกสิทธิ์ให้ครึ่งหนึ่ง ไม่มีผู้ใดในตระกูลเยี่ยนคัดค้านเื่นี้กับเยี่ยนเจิ้นอวิ๋น เพราะในอนาคตเยี่ยนเฉินหยวี่และเจียงเฉินได้แต่งงานกัน ตระกูลเยี่ยนและตระกูลเจียงจะกลายเป็ครอบครัวเดียวกันทันที
นอกจากนี้หากมองในมุมมองที่แตกต่างกัน แม้จะดูเหมือนตระกูลเจียงต้องพึ่งพิงต้นไม้ใหญ่อย่างตระกูลเยี่ยน แต่ในความจริงแล้วทุกๆคนต่างเข้าใจกันดีว่าตระกูลเยี่ยนตะหากที่ไปพึ่งตระกูลเจียง
" ท่านผู้นำเยี่ยน ท่านช่างใจกว้างยิ่งนัก! บิดาข้าอาศัยอยู่ที่เมืองเทียนเซียง ข้าไม่คิดว่าพวกเขาจะย้ายมาและอีกอย่างข้าไม่้าให้ตระกูลเจียงนั้นมีสถานะที่สูงนัก ให้ตระกูลเจียงปกครองเมืองเทียนเซียงเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว ข้าหวังว่าท่านผู้นำตระกูลเยี่ยนจะดูแลตระกูลเจียงในอนาคตนะขอรับ"
เจียงเฉินพูด เขาไม่ได้ตั้งใจที่จะให้ตระกูลเจียงย้ายมายังเมืองชื่อ ตอนนี้ทุกอย่างในเมืองชื่อได้รับการแก้ไขหมดแล้ว เขาจะกลับไปยังเมืองเทียนเซียงในวันรุ่งขึ้นและจะใช้เวลาสักสองสามวันกับบิดาของเขาก่อนจะออกไปอีกครั้ง
