จวนแม่ทัพยามหลังฝนพรม กิ่งหลิวแกว่งไกว พัดโยกตามลมเม็ดฝนที่ค้างอยู่บนกิ่งหลิว กลิ้งไปมาอย่างซุกซนอยู่บนนั้นหยดน้ำกลางเกสรดอกกุหลาบแวววับดั่งผลึกแก้ว งดงามน่าชมนัก
ยามนี้อาหนูเพิ่งคิดได้ว่าสิ่งที่นางพูดเมื่อครู่เกินเลยไป เกรงคนจ้องจับผิดจะนำไปสร้างเื่จึงคิดอยากเดินไปข้างๆ หลิ่วจิ้ง จะได้สนทนากันให้บรรยากาศอึมครึมนี้ผ่อนคลายลงแต่เมื่อเห็นว่าหลิ่วจิ้งเดินคล่องแคล่วรวดเร็วนักนางกลับไม่กล้าแบกหน้าไปพูดจากับหลิ่วจิ้ง
ลังเลไปมาสักพัก จนอาหนูรีบเดินเข้ามาสองก้าวเพื่อมาอยู่ข้างหลิ่วจิ้งป้าจ้าวกลับเดินออกมาตรงทางแยกและเกือบจะชนอวี้จิ่น
“คารวะฮูหยินเ้าค่ะ นี่ฮูหยินกำลังจะไปเรือนเฉินจื่อใช่หรือไม่เ้าคะ?” ป้าจ้าวคารวะหลิ่วจิ้งไปพลาง มองตามทางไปพลางเพราะข้างหน้าตรงไปก็คือเรือนเฉินจื่อแล้ว
“อืม ป้าจ้าวมีเื่ใดจึงเร่งร้อนเพียงนี้”
“ขออภัยเ้าค่ะฮูหยิน เมื่อครู่เกือบจะชนท่านแล้วบ่าวคิดว่าหยดน้ำค้างหลังฝนตกนี้นำมาหมักสุราดอกบ๊วยได้พอดีจึงรีบมาที่นี่เ้าค่ะ”
ป้าจ้าวเอ่ยโดยไม่มีสีหน้ากระวนกระวายใด กลับดูผ่อนคลายเอามากๆเสียอีก
“ป้าจ้าวตั้งใจทำงานนัก เมื่อท่านแม่ทัพกลับมาข้าจะบอกกล่าวแก่ท่านแม่ทัพ”
หลิ่วจิ้งพูดจบก็ไม่ได้สนใจป้าจ้าวอีก พลางก้าวเท้าเดินไปข้างหน้าต่อ
ทิ้งป้าจ้าวให้ยืนหรี่ตามองหลิ่วจิ้งค่อยๆ เดินจากไปด้วยความไม่เข้าใจว่าองค์หญิงจะไปพูดสิ่งใดกับท่านแม่ทัพ
ระหว่างที่สนทนากัน พวกนางก็มาถึงหน้าประตูเรือนเฉินจื่อ
สาวใช้รุ่นเล็กสองคนที่ยืนเฝ้าประตูอยู่มองเห็นพวกของหลิ่วจิ้งเดินมาแต่ไกลจึงเปิดประตูเรือนรอรับไว้นานแล้ว
“คารวะฮูหยินเ้าค่ะ” สาวใช้รุ่นเล็กปรี่เข้ามาคารวะจากนั้นคนหนึ่งนำหน้าไป อีกคนรีบไปเตรียมน้ำชามาต้อนรับ
รอจนพวกของหลิ่วจิ้งเดินเข้าไปในลานเรือนเหมยเซียงก็กำลังถือน้ำอ่างหนึ่งออกมาพอดีคิดว่านางจ้าวคงเพิ่งตื่นมาล้างหน้ากระมัง
“ฮูหยิน ท่านมาหรือเ้าคะ” เหมยเซียงรีบเปิดม่านประตูเพื่อให้หลิ่วจิ้งเข้าไปได้อย่างสะดวก
หลิ่วจิ้งเข้าไปในห้องก็ถูกดอกไม้เล็กๆ กระถางหนึ่งบนหัวเตียงของนางจ้าวดึงดูดสายตาทันที
ยามนี้นางจ้าวกำลังนั่งอิงอยู่บนเตียง เหมือนว่าเพิ่งตื่นนอน
“คารวะฮูหยิน” นางจ้าวพูดพลางคิดจะลงจากเตียงมาคารวะหลิ่วจิ้งแต่พอจะลุกขึ้นก็โก่งคอจะอาเจียนหลายครา
หลิ่วจิ้งเห็นดังนั้นจึงหันเหสายตาของตนจากดอกไม้เล็กๆนั่นกลับมาที่ตัวนางจ้าว
“ฮูหยินใหญ่พักผ่อนเป็พอแล้ว เป็คนท้องคนไส้ ไม่ต้องคารวะข้า”
หลิ่วจิ้งยิ้มให้พลางเดินเข้าไปหานางจ้าว
“คารวะฮูหยินใหญ่เ้าค่ะ” อาหนูทักทายนางจ้าวคำหนึ่งอย่างฝืนใจอย่างยิ่ง
นางจ้าวปรายตาดูอาหนูคราหนึ่ง เพียงพยักหน้าเป็การตอบรับ
อาหนูก็มิได้ทุกข์ร้อน ใบหน้านางยิ้มครึ่งไม่ยิ้มครึ่ง ไม่รู้ว่าคิดสิ่งใดอยู่ในใจ
หลิ่วจิ้งหันไปพยักหน้าให้อวี้จิ่น อวี้จิ่นจึงเดินไปข้างหน้าและนำกล่องในมือส่งให้นางจ้าว
“ฮูหยินใหญ่เ้าคะ ฮูหยินบ้านข้านำสิ้งนี้มาให้ท่านเ้าค่ะ”
เหมยเซียงที่คอยรับใช้อยู่ข้างๆ เอื้อมมือไปรับนางกำลังจะวางกล่องไว้บนโต๊ะ อาหนูกลับเอ่ยปากขึ้นก่อนว่า “ฮูหยินใหญ่เ้าคะท่านไม่ลองดูหน่อยหรือว่าฮูหยินมอบของดีอันใดให้ท่าน? เมื่อครู่ข้าเห็นแล้วยังตาร้อนทีเดียว ยามนี้ฮูหยินใหญ่ก็ตัวใหญ่ขึ้นเยอะต้องกินของที่บำรุงผิวพรรณสักหน่อย จะได้มีผิวดีๆ ออกไปพบเจอผู้คนจึงจะดีนะเ้าคะ”
เหมยเซียงค้างมืออยู่กลางอากาศ พลันรู้สึกว่าไม่ควรเอากล่องวางไว้บนโต๊ะเสียแล้ว
“เหมยเซียง เ้าช่างไม่รู้ความจริงๆ นี่เป็ของกำนัลจากฮูหยินอย่างไรก็ควรส่งให้ข้าดูและตอบคำฮูหยินเสียก่อน เหตุใดเ้าจึงเอาวางไว้บนโต๊ะเช่นนั้นเล่า”
“ขออภัยเ้าค่ะฮูหยิน บ่าวไตร่ตรองไม่รอบคอบเองจะนำไปให้ฮูหยินใหญ่เดี๋ยวนี้เ้าค่ะ” เหมยเซียงย่อเข่าต่ำให้หลิ่วจิ้งจนแทบจะคุกเข่าลงพื้นอยู่แล้ว
หลิ่วจิ้งสะบัดมือให้เหมยเซียง ลูกไม้ขัดแข้งขัดขาเหล่านี้หลิ่วจิ้งเห็นมานักแต่นักแล้ว
เหมยเซียงเห็นว่าหลิ่วจิ้งมิได้ถือโทษนางจึงรีบนำกล่องไปมอบให้นางจ้าว ทั้งช่วยเปิดกล่องออกให้นางจ้าวดูด้วย
เมื่อเห็ดหลินจือดอกเท่าจานกลมปรากฏอยู่ตรงหน้านางจ้าวก็รีบลุกขึ้นมานั่งหลังตรงอดใจจะเอื้อมมือไปลูบเห็ดหลินจือเืดอกนั้นไม่ได้
เวลานั้นเอง เหมยเซียงก็รีบกระแอมขึ้นมาสองสามครา นางจ้าวจึงทำท่าคล้ายว่านึกบางสิ่งขึ้นได้และรีบหดมือที่ยื่นออกไปครึ่งหนึ่งกลับมา
แล้วนางก็แสร้งโก่งคออาเจียนอีกหลายทีอาหนูเห็นดังนั้นก็รีบร้อนเอาผ้าเช็ดหน้าในมือปิดปลายจมูกด้วยท่าทีกึ่งตั้งใจกึ่งไม่ตั้งใจ
“ให้ฮูหยินเยาะเอาเสียแล้ว คนท้องคนไส้ไม่อาจควบคุมตนเองได้ บทจะอาเจียนก็อาเจียนขึ้นมาเสียอย่างนั้นไม่รู้ว่าเมื่อคุณชายน้อยคลอดออกมาแล้วจะยิ่งเหน็ดเหนื่อยอีกเท่าใดไฉ่เอ๋อร์ขอบคุณของกำนัลของฮูหยินแทนลูกที่ยังไม่คลอดด้วยเ้าค่ะ”
นางจ้าวพูดพลางนั่งประสานมือคำนับหลิ่วจิ้ง
เหมยเซียงรีบนำกล่องในมือนางไปวางไว้บนโต๊ะข้างเตียงแล้วหยิบยาลูกกลอนมาป้อนนางจ้าวสองสามเม็ด
“ฮูหยินใหญ่ไม่ต้องเกรงใจเช่นนั้นยามนี้ทั้งจวนแม่ทัพล้วนฝากความหวังไว้ที่ตัวฮูหยินใหญ่ทุกคนต่างเห็นว่าเด็กในท้องสำคัญนัก พิธีรีตองเล็กน้อยนี้ก็ละเว้นเสียเถิด”
หลิ่วจิ้งพูดพร้อมกับเข้าไปประคองให้นางจ้าวนอนเอนหลังให้สบายสักหน่อย
นางจ้าวยิ้มให้หลิ่วจิ้งด้วยท่าทีคล้ายว่าซาบซึ้งพลางเอ่ยขอบคุณหลายครา
“ระยะนี้สุขภาพของฮูหยินใหญ่เป็อย่างไรบ้าง อยากอาหารหรือไม่หาก้าสิ่งใดก็จงสั่งความไปที่ห้องบัญชีโดยตรงได้เลย ไม่ต้องไปถามข้าก่อน ยามนี้ต้องให้ความสำคัญกับครรภ์ของฮูหยินใหญ่เป็หลักอยากทานสิ่งใดก็ให้ห้องครัวทำให้”
หลิ่วจิ้งสั่งความเสียงบางเบากับนางจ้าวจากนั้นแสร้งปรายตามองของที่จัดวางอยู่ภายในห้องนอน
“ข้าเคยได้ยินคนเฒ่าคนแก่พูดกันในวังว่าเมื่อสตรีที่กำลังตั้งครรภ์ได้เห็นของสวยๆงามๆ ได้กลิ่นหอมที่ทำให้จิตใจปลอดโปร่งก็จะส่งผลดีต่อครรภ์นัก
ดูท่าว่าฮูหยินใหญ่ก็คงทราบเื่นี้เช่นกัน ข้าเห็นว่าดอกไม้เล็กๆนี้น่าชมนัก
ช่างเป็ดอกไม้ที่แปลกตาเสียจริง แม้จะบอกว่ามันมีขนาดเล็ก แต่ก็เป็เช่นนกกระจอกตัวน้อยควรมีสิ่งใดก็ล้วนมีครบ น่าอัศจรรย์ยิ่งดอกไม้เล็กๆ นี้ฮูหยินใหญ่ได้มาจากที่ใดหรือ งดงามนัก”
หลิ่วจิ้งพูดพลางยกกระถางดอกไม้นั้นขึ้นมาพิจารณาดูอย่างถี่ถ้วน
อาหนูไม่รู้ว่าเหตุใดหลิ่วจิ้งถึงต้องดูอย่างละเอียดเพียงนั้น นางจึงพลันตื่นตระหนกใจเต้นขึ้นมา
“ดอกไม้เล็กๆ นี้ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ ผ่านมาหลายวันแล้วก็ยังคงดูสดใหม่น่าชมราวกับเพิ่งเบ่งบานใหม่ข้าเห็นแล้วอารมณ์ดีนัก เอ่ยถึงดอกไม้นี้ก็นับว่าเป็ผลงานของอาหนูนะเ้าคะไม่ทราบเหมือนกันว่าอาหนูไปนำของที่หายากเช่นนี้มาได้อย่างไร”
“โอ้ อาหนูยังมีดอกไม้นี้อีกหรือไม่ ข้าเห็นแล้วรู้สึกชอบนักหากยังมีก็ช่วยนำมาให้ข้าสักกระถางเถิด”
หลิ่วจิ้งอมยิ้มมองไปทางอาหนูด้วยสีหน้าเฝ้าคอย
“ต้องขอให้ฮูหยินโปรดอภัยด้วยเ้าค่ะอาหนูก็มีเพียงกระถางนี้กระถางเดียว คิดว่าเมื่อมอบให้ฮูหยินใหญ่นางจะได้อารมณ์ดีจึงมอบให้ฮูหยินใหญ่ไปก่อนหน้าแล้ว รอให้อาหนูลองสอบถามดูก่อนนะเ้าคะหากหามาได้อีกอาหนูจะต้องนำมามอบให้ฮูหยินแน่นอนเ้าค่ะ”
อาหนูทำท่าเหมือนตนทำเื่ผิดพลาดไปราวกับว่าหลิ่วจิ้งจะโทษที่นางข้ามหน้าข้ามตาฮูหยิน
“อาหนูช่างมีน้ำใจนัก เห็นทีว่าของขวัญของข้าจะเทียบมิได้กับของหายากเช่นนี้เสียแล้ว”
หลิ่วจิ้งพูดพลางเอาดอกไม้กระถางนั้นวางกลับไว้บนโต๊ะ “เอาเถิดฮูหยินใหญ่ก็พักผ่อนให้ดีๆ เสีย พวกเราก็จะไม่ร่ำไรให้นานเกินไป หาไม่คุณชายน้อยออกมาก็จะมาเอาเื่พวกเราว่ามารบกวนเขาพักผ่อนเอาได้”
หลิ่วจิ้งยิ้มหวานดั่งดอกไม้ คล้ายว่าเมื่อครู่นางไม่ได้เอ่ยอะไรไปเช่นนั้น
“ส่งฮูหยินเ้าค่ะ โปรดให้อภัยที่ข้าอ่อนเพลียนักไม่สะดวกไปส่งเ้าค่ะ” นางจ้าวโค้งตัวลงอยู่บนเตียง นับเป็การส่งพวกของหลิ่วจิ้งกลับ
“ฮูหยินใหญ่ดูแลตนเองให้ดีๆ เถิด มิต้องลุกขึ้นมา”
หลิ่วจิ้งพูดพลางก้าวเท้าออกไปจากห้อง
_____________________________
