หั่วอี้กลับไม่รู้ว่าจื่ออิงคิดตกแล้วในเมื่อไม่สามารถทำให้หั่วอี้เลิกรากับสตรีเ่าั้ได้ เช่นนั้นเมื่อนางเข้าจวนก็ไปจัดการให้เรือนหลังเสื่อมทรามมืดมนเสีย ได้นางช่วยเติมเชื้อไฟ นางไม่เชื่อหรอกว่าในยามที่หั่วอี้มีสตรีมากมายข้างกายแล้วเขาจะยังรู้สึกเป็สุขอยู่ได้
เช่นนั้นก็เริ่มลงมีดที่นางจ้าวผู้นี้เสียเลยจื่ออิงยิ้มเย็นอยู่ในใจ แสร้งถามคล้ายไม่มีเจตนาใดว่า “จ้าวไฉ่เอ๋อร์น่ะหรือข้าเคยพบนางมาก่อน นางดุร้ายนัก ก็เพราะเหตุนี้อิงเอ๋อร์จึงไม่ยอมเข้าจวนแม่ทัพเสียทีจำได้ว่าครานั้นจ้าวไฉ่เอ๋อร์ยังบอกว่านางเป็นายผู้หญิงปกครองบ้านทุกวันต้องให้ข้าไปคารวะนางทั้งเช้าทั้งค่ำ”
จื่ออิงได้เห็นท่าทีไม่พอใจของหั่วอี้สมใจ แล้วพูดต่อว่า“หลายปีผ่านไป นึกไม่ถึงว่านิสัยของจ้าวไฉ่เอ๋อร์จะเปลี่ยนไปแล้ว หาไม่นางจะยอมรับการสั่งสอนจากองค์หญิงที่เพิ่งมาได้ไม่ถึงเดือนหรือยังไม่ต้องเอ่ยถึงว่าองค์หญิงจะทำเื่ไร้สมองเช่นนี้เลยทั้งที่รู้ว่าในจวนแม่ทัพนางเป็สตรีตัวคนเดียวที่มาจากแดนไกลแต่ยังหาญกล้าเป็ปรปักษ์กับจ้าวไฉ่เอ๋อร์ที่ปกครองดูแลจวนแม่ทัพมานานปีต่อให้องค์หญิงไม่ให้นางนั่งลงจริงๆ ว่ากันตามนิสัยของจ้าวไฉ่เอ๋อร์ถ้านางยอมฟังก็แปลกนะเ้าคะ? ต่อให้นางไม่คำนึงถึงตัวนางเองนางก็ต้องปกป้องลูกเป็สำคัญกระมังไม่แน่ว่าฮูหยินผู้เฒ่าจะไปรับปากเงื่อนไขใดกับนางไว้ด้วยซ้ำ”
สีหน้าของหั่วอี้แข็งทื่อขึ้นทันใดเมื่อได้ยินคำของจื่ออิง“เป็ดังนี้หรือ?” เขารำพึงกับตนเอง
จื่ออิงตัดสินใจอยู่ในใจไม่ว่าอย่างไรนางก็ไม่้าเอาแต่เป็ฝ่ายรออย่างเดียวอีกแล้ว ภูผาไม่มาหานางนางก็ไปหาภูผา หั่วอี้ ท่าน้าได้เสพสุขจากสตรีทุกนาง หารู้ไม่ข้าผู้นี้เป็คนเห็นแก่ตัวเสียอย่างยิ่งยอมแบ่งท่านกับสตรีอื่นไม่ได้โดยเด็ดขาด คอยดูเถิดผู้ที่หัวเราะเป็คนสุดท้ายจะต้องเป็ข้า
จื่ออิงโยนหินลงในใจหั่วอี้สำเร็จแล้ว นางรู้ว่าวันนี้ควรลงมือเพียงเท่านี้หาไม่แล้วหากทำให้หั่วอี้สงสัยขึ้นมา นอกจากไม่ได้กำไรแล้วยังต้องขาดทุนอีก
“โธ่เอ๊ย พี่อี้ ท่านมาช่วยอิงเอ๋อร์คิดดีกว่าว่าจะมอบของกำนัลใดให้ฮูหยินผู้เฒ่าดี”จื่ออิงหัวเราะเบาๆ
หั่วอี้คล้อยตามคำพูดของจื่ออิง หลังจากนึกทบทวนดูก็ได้สติขึ้นมาที่แท้แล้วยามเขาอยู่กับจื่ออิงนั้นเขารู้สึกสบายใจนัก เขานิ่งคิดสักพักจึงเอ่ยว่า“อิงเอ๋อร์ เ้าไม่ต้องเป็กังวลกับเื่นี้หรอก เพียงฮูหยินผู้เฒ่าได้พบเ้านางก็ดีใจจนยิ้มไม่หุบแล้ว เ้าก็คือของกำนัลที่ดีที่สุดสำหรับฮูหยินผู้เฒ่า”
จื่ออิงเงยหน้า แสร้งทำท่าตื่นเต้นยินดี“พี่อี้ชอบล้ออิงเอ๋อร์เล่นจริงๆ”
หั่วอี้เดินเล่นกับจื่ออิงจนทั่ว จื่ออิงออกมาวันนี้กลับปลูกฝังความระแวงให้แก่หั่วอี้ได้โดยบังเอิญยามนี้นางเห็นว่าบรรลุเป้าหมายแล้ว ความยินดีที่มาอย่างไม่คาดคิดเช่นนี้นางต้องกลับไปดีอกดีใจให้หนำใจและนาง้าให้หั่วอี้มีเวลากลับไปจัดการเื่ที่บ้านด้วย หลังเดินต่ออีกสักพักจื่ออิงจึงอ้างว่าเหนื่อยร่ำลากับหั่วอี้และแยกย้ายกันกลับจวน
จื่ออิงคิดไม่ผิด คำพูดของนางสร้างเงามืดในใจของหั่วอี้เขาเดินกลับจวนเงียบๆ ตลอดทางเขาใคร่ครวญถึงความเข้าใจที่ตนมีต่อนางจ้าวและคิดว่าคล้ายคลึงกับสิ่งที่จื่ออิงวิเคราะห์ออกมา
นางจ้าวถือดีว่าอยู่มาก่อนใครแต่ไรมาไม่เคยเห็นสตรีคนใดของเขาอยู่ในสายตาซึ่งนี่ก็เป็สาเหตุที่เขาไม่ได้ให้ความรักกับนางมากกว่าที่เป็อยู่
ดูท่าว่าเมื่อคืนเขาจะใจร้อนเกินไป ไม่ให้โอกาสองค์หญิงได้อธิบายเลยแม้สักครั้งแต่กลับตัดสินไปก่อนแล้วว่านางเป็คนที่ลงมือกับนางจ้าวเพราะความริษยา
เมื่อคิดถึงว่าร่างบอบบางขององค์หญิงถูกเขาจับยกขึ้นสูงและตอนนั้นเขาเกือบโยนนางออกไปแล้วจริงๆ เขาก็รู้สึกไม่ชอบใจนางจ้าวขึ้นมาทันทีแต่เขาก็ยังคงคาดหวังเฝ้ารอลูกในท้องของนางจ้าว เพราะนั่นเป็ลูกคนแรกหลังจากวัยแรกรุ่นไม่ประสีประสาจนกลายมาเป็ผู้ใหญ่เต็มตัวแล้วจะไม่ให้เขาตั้งตารอได้อย่างไร
เมื่อเขารู้ข่าวว่าองค์หญิงกล้าแตะต้องเด็กคนนี้เขาจึงโกรธเป็ฟืนเป็ไฟและลงมือรุนแรงกับนาง
ความรู้สึกเช่นนี้ยิ่งทำให้จิตใจของหั่วอี้กลัดกลุ้ม คิดถึงตรงนี้ชายหนุ่มก็เร่งฝีเท้าเกิดความคิดว่าอยากจะฟังคำอธิบายขององค์หญิงบ้าง
หั่วอี้รีบเร่งกลับจวนด้วยคำถามมากมายในหัวเขาไม่ได้ไปเยี่ยมฮูหยินผู้เฒ่าในทันทีเหมือนเช่นปกติ แต่มุ่งหน้ากลับไปที่เรือนหลักก่อน
หั่วอี้ก้าวเท้ายาวๆ เข้าไปในห้องของหลิ่วจิ้งอย่างคุ้นเคยในห้องไม่มีคนอยู่ตั่งนั่งยาวที่เคยจัดวางอยู่ในห้องถูกหลิ่วจิ้งให้คนย้ายออกไปแล้วในห้องยังไม่มีเครื่องเรือนใหม่เข้ามา ทำให้ห้องยิ่งดูว่างเปล่าเสมือนใจเขายามนี้ที่ว่างเปล่านัก
“คนเล่า? หรือว่าไปที่สวนหลังจวน?” หั่วอี้สะกดความร้อนใจที่เขาอยากพบหลิ่วจิ้งเอาไว้หันหลังออกจากห้องและมุ่งหน้าไปที่สวนหลังจวน
“คารวะท่านแม่ทัพ”หั่วอี้เพิ่งเดินอ้อมสะพานเก้าโค้งไปหนึ่งสะพานก็ได้พบกับพ่อบ้านหวัง
พ่อบ้านหวังกำลังจะไปสอบถามแต่ละเรือนว่า้าของใดเพิ่มหรือไม่เมื่อเห็นท่านแม่ทัพที่เดินมาอย่างเร่งร้อนจึงรีบเข้าไปทักทายเขา
“ฮูหยินเล่า? เห็นฮูหยินหรือไม่?” หั่วอี้เอ่ยเสียงเย็นเฉียบ
“ฮูหยินพาอวี้จิ่นกับอิ๋งเหอไปซื้อของแล้วขอรับ” พ่อบ้านหวังรีบตอบ
“ซื้อของ ซื้อของใด?” หั่วอี้ยิ่งไม่เข้าใจเข้าไปอีกคล้ายมีบางสิ่งที่อยู่เหนือการควบคุมของเขา
“ท่านแม่ทัพไม่ทราบหรือขอรับ? เป็เช่นนี้ แต่เช้าตรู่ฮูหยินก็มาสอบถามบ่าว เพราะนางไม่คุ้นเคยกับพื้นที่และผู้คนของแคว้นเรายิ่งนักวันนี้จึงพาอวี้จิ่นและอิ๋งเหอออกไปเดินชมเมืองไปเรื่อยเสียก่อนดูว่าจะเริ่มจัดการงานจัดซื้อที่ฮูหยินใหญ่มอบหมายให้อย่างไรดีขอรับ”พ่อบ้านหวังััได้ว่าท่านแม่ทัพอารมณ์ไม่ดี จึงตอบไปอย่างระมัดระวัง เพียงแต่พูดไปพูดมาเขาก็ยังไม่ได้พูดถึงประเด็นสำคัญสักทีทำเอาหั่วอี้ยิ่งเหลืออดกว่าเดิม
“ซื้อของๆ ข้าถามว่าซื้อของใด”หั่วอี้ไม่มีความอดทนมากพอจะฟังพ่อบ้านหวังอธิบายอย่างละเอียด
“เื่นี้น่ะหรือขอรับ” ที่สุดพ่อบ้านหวังก็เข้าใจสิ่งที่ท่านแม่ทัพถามแล้วคิดได้ว่าที่แท้ท่านแม่ทัพไม่เข้าใจเื่นี้นี่เอง
พ่อบ้านหวังเหงื่ออาบหน้า นับวันความเป็ไปในจวนนี้จะยิ่งพิกลขึ้นเรื่อยๆเขาแทบจะก้าวตามทุกคนในจวนไม่ทันแล้ว
“เรียนท่านแม่ทัพ เป็ดังนี้ขอรับวานนี้ฮูหยินใหญ่มอบหมายงานให้ฮูหยินโดยให้ฮูหยินเพียงผู้เดียวรับผิดชอบไปจัดซื้อของทุกอย่างที่ต้องใช้ในงานวันเกิดฮูหยินผู้เฒ่าปีนี้ สิ่งที่ต้องซื้อทั้งหมดรวมถึงเื่ กิน (จัดซื้อวัตถุดิบทั้งหมดในการทำอาหาร)เดินทาง (การเดินทางและที่พักของญาติจากเมืองไกลที่เชิญมาที่เมืองหลวง) ใช้ (สิ่งของทุกอย่างที่ต้องใช้สอยและประดับตกแต่งในงานเลี้ยง)เชิญ (ส่งเทียบเชิญที่จวนของแขกสำคัญ) เชิญ (ควรเชิญคณะงิ้วใดมาแสดงที่จวน) ถาม (สอบถาม…)”
พ่อบ้านหวังพยายามพูดให้ละเอียดที่สุดเท่าที่จะทำได้ ท่านแม่ทัพจะได้รู้ว่าฮูหยินต้องทำสิ่งใดบ้างแต่เขายังไม่ทันพูดจบก็ถูกหั่วอี้ขัดคำขึ้นมาเสียก่อน
“เ้าหมายถึงฮูหยินใหญ่มอบหมายให้ฮูหยินจัดการทั้งหมดนี้เพียงคนเดียวหรือ?” แววตาเ็ปของหลิ่วจิ้งเมื่อคืนปรากฏขึ้นตรงหน้าหั่วอี้ เขาเพิ่งเข้าใจยามนี้เองว่าในดวงตาที่มีน้ำตาคลอนั้นเก็บงำความน้อยเนื้อต่ำใจและความเ็ปเอาไว้มากมายเพียงใด
เขากำมือแน่นตามความเคยชิน เป็การแสดงออกว่าเขากำลังโมโห
“ขอรับๆ ท่านแม่ทัพ ฮูหยินใหญ่บอกว่านางไม่สะดวกออกไปข้างนอกมิเช่นนั้นก็จะไม่รบกวนให้ฮูหยินทำงานแทนขอรับ”พ่อบ้านหวังเองก็รู้สึกสงสารที่ฮูหยินต้องแบกรับงานเหล่านี้ ทั้งที่ปีก่อนๆมาล้วนต้องให้คนเกือบยี่สิบคนรับผิดชอบ
หั่วอี้หันหลังมุ่งหน้าไปทางเรือนเฉินจื่อ เพิ่งเดินไปไม่กี่ก้าวก็ต้องหยุดเดินจู่ๆ เขากลับรู้สึกรังเกียจที่จะพบหน้านางจ้าวขึ้นมาจับใจ คิดไปคิดมาจึงเปลี่ยนทิศทางและมุ่งหน้าไปยังเรือนของฮูหยินผู้เฒ่าแทน
_____________________________
