“ปล่อยเขาไปก่อน”
เ่ิูชี้ไปยังทหารคนแรกข้างกาย
ชายอาภรณ์ดำปัดมือไม่ถือสา เขาว่า “ได้สิ” หันไปพูดกับทหารรักษาป้อม “เอาล่ะ ไสหัวไปได้แล้ว”
ทหารนายแรกอึ้ง เขามองเ่ิู
“ไปเถอะ” เ่ิูหัวเราะขม “พี่น้องข้า จงมีชีวิตอยู่ต่อ ให้ทุกคนได้รู้ว่าเกิดเื่อะไรขึ้นที่ป้อมหมายเลขห้าสิบห้า ประกาศความกล้าหาญของพี่ใหญ่เยี่ยนและทุกคนให้พวกเขารับรู้ ว่าอะไรคือเกียรติยศและเกียรติภูมิของทหารรักษาป้อมปราการ”
ทหารนายแรกมีแววลังเล
พริบตาต่อมา แววตาเขาก็หนักแน่นขึ้นมา
“ไม่ ข้าไปไม่ได้” ทหารนายแรกยืดกายตรง ชักดาบยาวมาตรฐานออกมาจากฝัก เขายืนขวางอยู่หน้าเ่ิูเมื่อกล่าวอย่างยืนหยัด “พี่ใหญ่ให้ข้าคุ้มครองใต้เท้า หากข้ายังไม่ตายก็ห้ามถอยหลังแม้แต่ก้าวเดียว สำหรับเกียรติยศและเกียรติภูมิของทหารรักษาปราการ ขอให้ดาบยาวนี้เป็ผู้ประกาศศักดา ไม่ต้องให้ใครสรรเสริญ ขอเพียงพวกเราทำได้ แม้จะไม่มีใครล่วงรู้ ก็ยังสมภาคภูมิในใจของตัวเอง”
เ่ิูไม่รู้จะพูดคำไหน
ชายอาภรณ์ดำมองภาพตรงหน้าอย่างเงียบเชียบ
เขาไม่เร่งรัด และไม่ร้อนใจ
เป็ที่ชัดเจนในมุมมองของเขา ว่าตัวเขารอมานานหลายวันเหลือเกิน รออีกสักหน่อยตอนทุกอย่างอยู่ในกำมือแล้วจะเป็ไร
“เ้าอยากได้ของวิเศษอะไรกันแน่?” เ่ิูมองบุรุษชุดดำ เขาคิดพลางเรียกกระบี่ฉ่าวชางมาไว้ในกำมือ ตัวกระบี่ดั่งน้ำหลากส่องแสงบนผนังน้ำแข็งมืดหม่น มีความหนาวเย็นประหลาดแผ่ออกมา เ่ิูก้าวมาข้างหน้าก้าวหนึ่งแล้วว่า “กระบี่นี่หรือ? ได้ ข้าให้เ้า”
ชายอาภรณ์ดำหัวเราะเฮยๆ “อาวุธิญญาพังๆ เล่มหนึ่งเท่านั้น จะอยู่ในสายตาข้าได้อย่างไร?”
เ่ิูคิดอีกรอบ เขาคว้าหมาหัวโตจะกละออกมาจากอก “อย่าบอกนะว่ามัน?”
หมาบื้อนอนคว่ำอยู่บนมือเ่ิู เหมือนมันจะกินเยอะจนผล็อยหลับไปแล้ว
บุรุษชุดดำเงียบไปพักหนึ่ง
จากนั้นเขาก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่แฝงด้วยความขุ่นเคือง “เ่ิู ความใจเย็นของข้ามีขีดจำกัดนะ เ้าอย่าใช้การกระทำอันโง่เขลานี่เสาะหาเส้นตายของข้าเลย”
เ่ิูยัดหมาหัวโตกลับที่เดิม
เขาคิดอย่างรอบคอบ ท้ายที่สุดก็นึกออกแล้วว่าชายคนนี้มาเพื่ออะไร
หลังลังเลครู่หนึ่ง เขาก็เรียกเอาคัมภีร์ท่วงทำนองเทพมารออกมาจากทะเลสำนึก วาดวางไว้บนมือแล้วเอ่ย “เอาเถอะ นี่คงจะเป็สิ่งที่เ้า้าเป็แน่ เอาไปซะ แต่ว่า ข้าอยากให้เ้าช่วยเขา” เ่ิูชี้ทหารนายแรกที่ข้างกาย
ไม่น่าอภิรมย์เลย
แต่ไม่มีทางเลือก
เ่ิูรู้คุณค่าของท่วงทำนองยุคเทพมารดี...มันไม่ต่างอะไรกับคลังแสงอันเป็เอก แม้จะเปิดเนื้อหาได้เล็กน้อย แต่เ่ิูก็ได้เก็บเกี่ยวอะไรมาไม่น้อย ส่งมันไปก็อาจเป็การทิ้งหนทางหัวเลี้ยวหัวต่อสู่การเป็ผู้แข็งแกร่งบันลือโลก
หากเปลี่ยนเป็สถานการณ์อื่น เ่ิูต่อให้ตายก็ไม่ยอมถวายมันให้ใคร
หัวเด็ดตีนขาด ก็ไม่มีทางส่งคัมภีร์ทองแดงให้กับใคร
แต่ตอนนี้ ข้างกายเขายังมีทหารรักษาปราการอยู่อีกคน
ทหารรักษาปราการทำอะไรให้เขามามากเกินพอแล้ว เ่ิูไม่้าให้ใครมาตายเพื่อเขาอีก
แต่ว่า...
“เฮอะๆๆ แกล้งโง่แกล้งบ้าหรือ?” ชายชุดดำหัวเราะต่ำเตี้ย ในเสียงหัวเราะนั้นมีความโกรธขึ้งราวกับูเาไฟใกล้ะเิ “ดูท่าก่อนหน้านี้ข้าจะเป็มิตรไปหน่อย เ้าถึงไม่รู้จักความเป็ความตาย ข้าจะถามเ้าอีกครั้งนะ จะส่งหรือไม่ส่ง?”
เ่ิูชะงัก
หรือคนๆ นี้ไม่ได้มาเพื่อท่วงทำนองยุคเทพมารหรือ?
แต่นอกจากของชิ้นนี้แล้ว เ่ิูจะยังมีของชิ้นไหนที่เรียกว่าของวิเศษได้อีกเล่า?
ทหารรักษาป้อมที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็มองเ่ิูอย่างใ
เขาไม่เข้าใจ ว่าทำไมถึงให้มือเปล่ากับอีกฝ่าย
หรือจะจงใจยั่วโมโห?
ในทางกลับกัน ไม่ว่าจะเป็อย่างไร ใต้เท้าเย่คือผู้ถูกเสมอ เขาเป็ผู้สืบทอดตราวีรบุรุษอันทรงเกียรติเชียวนะ แม้จะต้องถวายชีวิตเพื่อปกป้องเขาก็คุ้มค่า เพราะทหารทุกนายล้วนรู้อยู่แก่ใจดีว่า ตราวีรบุรุษนั้นมีความหมายว่าอะไร คนที่จะได้รับดวงตราแห่งวีรบุรุษได้ย่อมจะต้องช่วยชีวิตทหารมาหลายหมื่นชีวิต กรำศึกาใหญ่ แค่เอ่ยถึงจุดนี้ ทหารทุกนายย่อมตายเพื่อเขาได้อยู่แล้ว
มาถึงป่านนี้ ทหารนายแรกก็ไม่กระวนกระวายอีกต่อไป
เขาสูดลมหายใจลึก รวบรวมกำลังเตรียมสำหรับศึกครั้งสุดท้าย
“เ้า้าของวิเศษอะไรกันแน่?” เ่ิูประคองคัมภีร์ทองแดงไว้ในมือยามว่าเสียงกร้าว
ชายชุดดำไม่ตอบ
ปราณสีดำเส้นแล้วเส้นเล่าหลั่งเป็คลื่นออกมาจากกายเขา
กลิ่นอายน่ากลัวรังให้เ่ิูและทหารนายแรกหายใจติดขัด กำเนิดใจที่ไม่อาจต่อต้าน
“เห็นทีเ้าจะเป็พวกไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา” เขาปรี่เข้ามาหาทีละก้าวๆ
เ่ิูโกรธจัด เขาอ้าปากจะเอ่ย ฉับพลันก็มีความคิดหนึ่งแล่นเข้าหัว เขาเบนหน้ามองทหารข้างกาย สลับกับสีหน้าของชายอาภรณ์ดำ นึกเื่ไม่คาดฝันขึ้นมาได้ในบัดดล...
พวกเขามองไม่เห็นคัมภีร์ทองแดง
มิน่าเล่า
ตอนที่เ่ิูเรียกเอาคัมภีร์ทองแดงออกมานั้นได้ทำใจไว้แล้ว ไม่นึกเลยว่าจะออกมาเป็แบบนี้
ความลับของท่วงทำนองยุคเทพมารมากมายเหลือเกิน ตลอดมามีเพียงเขาคนเดียวที่จะมองเห็นมันได้ นอกจากตัวเขาแล้ว แม้จะเป็ยอดฝีมือเช่นชายชุดดำตรงหน้า อย่าเอ่ยว่ามองเห็นหรือเปล่าเลย แค่รู้สึกถึงยังรู้สึกไม่ได้เลย
แต่อย่างไรก็เป็เื่น่ายินดีนักอยู่ดี
เขาได้ไม่ต้องกังวลอีกว่าจะมีใครชิงเอาคัมภีร์ทองแดงนี้ไป
ทว่าตอนนี้ เื่ไม่น่าอภิรมย์ครั้งใหญ่กลับบังเกิดขึ้นแล้ว
ชายชุดดำมองไม่เห็นคัมภีร์ทองแดง นึกว่าเ่ิูขายผ้าเอาหน้ารอด ชวนให้โมโหและใกล้จะทำความลำบากให้เขา
ทำอย่างไรดี?
เ่ิูชักร้อนรน
พริบตาต่อมา ทหารนายแรกก็เลือกแทนเ่ิูไปแล้ว
“ฆ่า!”
ทหารคำรามต่ำ สองมือจับดาบยาววิ่งออกไปเหมือนวาฬเพชฌฆาตสังหารบุรุษชุดดำ
“ใต้เท้ารีบหนีไป” เขาะโลั่น
เ่ิูไม่ไป
เพราะพลังของศัตรูแกร่งมาก ไม่มีทางหนีรอด
เสียงหัวเราะอึมครึมดั่งนกฮูกดังขึ้น เขาเพียงสะบัดชายผ้าครั้งเดียว ร่างทหารก็เหมือนโดนเครื่องกระทุ้งบดขยี้ เืสดสาดทะลักอย่างบ้าคลั่ง ดาบยาวในมือแตกหักเป็ชิ้นๆ กระดูกกระเดี้ยวหักดังกร๊อบ เหมือนจะหักหมดแล้วทั้งร่าง
เ่ิูร้องลั่น เขาเหยียดแขนรับนายทหาร
“ใต้เท้า...” ทหารนายแรกอยู่ใน่ฟื้นตื่นจากความตายชั่วแวบ ใบหน้ามีรอยยิ้มบางเบา “ข้าไม่ได้ขายขี้หน้าพี่ใหญ่ ข้าพิทักษ์...เกียรติยศเกียรติภูมิ...ของทหารรักษาปราการแล้ว”
เ่ิูโอดครวญเศร้าสลด โกรธแค้นจนแทบคลั่ง
ทหารคนสุดท้ายข้างกายเขาอยู่ได้เพียงระยะสั้นๆ น่าเสียดายที่ตัวเขาไม่อาจช่วยเหลืออะไรได้เลย
“ใต้เท้า...ข้า...ข้ามีน้องชายคนหนึ่ง...อยู่ที่ด่านโยวเยี่ยน...ชื่อ...ชื่อเย่ฉงอวิ๋น เขา...เขา” ทหารพูดพลางกระอักเืออกมาเป็สายธาร ในนั้นมีเศษอวัยวะภายในปะปนมาด้วย ร่างกายกระตุกอย่างรุนแรง
เ่ิูเข้าใจเจตนาของเขา
“วางใจเถอะ รอข้าไปถึงด่านโยวเยี่ยน ข้าจะตามหาเขา ปกป้องเขา เ้าวางใจเถอะ...ข้าสาบาน” เ่ิูข่มความโศกศัลย์กลับลงไปยามเอ่ยคำสาบาน
ทหารนายแรกจากไปอย่างสงบ
เขาอ่อนวัยที่สุดในหมู่ทหารรักษาปราการ
เพื่อหน้าที่ของตัวเอง เพื่อปกป้องเกียรติยศตัวเองจึงสิ้นใจ
เ่ิูกอดศพชายหนุ่มร่างนี้ไว้ เนิ่นนานไร้ถ้อยคำ เงยหน้าคำรามก้องฟ้า ผมดำเริงรำอย่างบ้าคลั่ง กระตุ้นกำลังภายในอันยุ่งเหยิงในร่าง อดกลั้นความทรมานเหมือนเข็มนับหมื่นทิ่มแทง พุ่งเข้าใส่บุรุษชุดดำราวกับเสียสติ...
บุรุษชุดดำยกมือขึ้น
ปั้ง!
เสียงกัมปนาทแสบแก้วหู
เ่ิูรู้สึกเจ็บอก ความหวานแลบแล่นในลำคอ ตัวปลิวไปไกลลิบ
นั่นคือภาพสุดท้ายของเขา
ก่อนจะสลบไสล
...
...
ไม่รู้ผ่านไปนานเท่าไร
เ่ิูตื่นขึ้นช้าๆ
ร่างกายเหมือนแช่อยู่ในน้ำอุ่น ความรู้สึกร้อนกรุ่นๆ สบายอย่างบอกไม่ถูก เหมือนกลับไปอยู่ในครรภ์มารดาอีกครายังไงยังงั้น เป็ความรู้สึกจากธรรมชาติ เลิศล้ำนัก เ่ิูยากจะอธิบายเช่นกัน
เขาพยายามส่ายหน้าปลุกตัวเองให้ตื่นเต็มตา
เกิดอะไรขึ้น?
ที่นี่ที่ไหน?
ไม่ใช่ข้าถูกบุรุษชุดดำฆ่าหรอกหรือ?
เ่ิูฉงนหนัก
รอบด้านมืดมัวไปหมด ตัวเขาเหมือนแช่อยู่ในของเหลวอะไรสักอย่าง รู้สึกประหลาดเหลือจะเอ่ย
ข้ายังไม่ตาย?
ถูกใครช่วยอย่างนั้นหรือ?
ที่น่าใยิ่งกว่าคืออาการาเ็ของเขา เหมือนจะดีขึ้นมาแปดในสิบ อวัยวะภายในไม่เ็ปอีกต่อไป กำลังภายในเองก็เคลื่อนไหวสะดวกขึ้นมาก
ตอนนี้เอง...
“เฮอะๆ เ้าตื่นแล้วหรือ?”
น้ำเสียงอันคุ้นเคยแล่นเข้าหูจากด้านข้าง
เสียงของบุรุษชุดดำ
เ่ิูหยั่งรู้แล้วว่าเขาคิดอะไรง่ายไป
“ที่นี่ที่ไหน?” เ่ิูร้องเสียงดัง
เขาพบว่าตนขยับมือเท้าไม่ได้เลย
ในของเหลวที่โอบล้อมไว้ทั้งตัวนี้ มีแรงกดดันน่ากลัวพิศวงแช่แข็งเขาไว้อย่างแ่า ให้เขานั่งขัดสมาธินิ่งๆ อย่างเชื่อฟัง
“อย่ากลัวไป เ้าอยู่ในที่ปลอดภัย” เสียงชายอาภรณ์ดำแว่วมา มีความหยอกล้อที่ทำให้คนตัวสั่น “หนูตัวกะเปี๊ยกอย่างเ้า ไม่ซื่อตรงเลยสักนิด ในเมื่อไม่ยอมส่งของวิเศษให้ข้า ข้าก็จะใช้วิธีอื่นกับเ้าแล้วล่ะ”
เ่ิูขนลุกชันอย่างไร้ที่มา
“ไม่นึกเลยนะไม่นึกเลย ว่าคนเยี่ยงเ้าจะมีกายศักดิ์สิทธิ์โลหิตัอันหาได้ยาก ในกายมีเืเนื้อของัศักดิ์สิทธิ์ไหลเวียนอยู่ ฮ่าๆๆ กายศักดิ์สิทธิ์โลหิตัสาบสูญไปหลายพันปีแล้ว ข้าดันมาเจอเข้าซะได้ ฮ่าๆ เป็อุบัติการณ์ที่น่ายินดีจริง” น้ำเสียงแฝงความพอใจและตื่นเต้นอย่างเสียสติ
“กายศักดิ์สิทธิ์โลหิตั? มันคืออะไรน่ะ? ร่างกายของข้าแท้ๆ จะมีเืัไหลเวียนอยู่ได้อย่างไร?”
เ่ิูฉงนเกินจะทนแล้ว
ได้ยินเสียงหัวเราะคลั่งไคล้ของบุรุษชุดดำแว่วมา “ที่เรียกว่าหายยามอรุณได้ยามสายัณห์นี่ท่าจะจริง ฮ่าๆๆ ์ยังปรานีข้า ฮ่าๆ ไม่เจอของวิเศษก็ไม่เป็ไร รอข้าฟอกเ้าเป็ยาเม็ดมนุษย์ได้ก่อนเถอะ มันจะเพิ่มอายุให้ข้าห้าร้อยปีจากเวลาอันยืนยาวของข้า ชุบชีวิตกลับคืนเป็หนุ่มสาว ฮ่าๆ นี่มันโอกาสทองยิ่งกว่าของวิเศษเสียอีก!”
เสียงหัวเราะร่าอย่างยินดีดังก้องจากสี่ทิศ
บัดนี้เองที่เ่ิูรู้สึกถึงแสงที่ศีรษะ
มีเส้นแสงสาดส่องลงมา
บุรุษชุดดำผู้มีรอยยิ้มตื่นเต้นใกล้เคียงกับดุร้ายปรากฏอยู่เบื้องบน
เ่ิูยืมเส้นแสงนั่นมาช่วยมองจนเห็นว่าตนถูกขังอยู่ในหม้อโบราณทองเหลืองสูงใหญ่สองใบ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้