ฮูหยินซูเจินกล่าวพร้อมกับนั่งลงบนเก้าอี้ ตั้งอยู่เบื้องหน้าจางเทียนซือ ด้านหลังเป็แท่นบูชา มีหัวกะโหลกสีขาวตั้งอยู่ท่ามกลางเครื่องเซ่นสังเวยในถ้วยเล็กๆ
“คือ… ข้ามีเื่… ”
นางกล่าวไม่ทันจบประโยค…
พ่อหมอจางเทียนซือก็แทรกขึ้นราวกับมีตาทิพย์และฌานหยั่งรู้ ได้ด้วยอำนาจแห่งอาคมอันแกร่งกล้า
“ไม่ต้องบอกข้าก็รู้ว่าตอนนี้เ้ากำลังมีเื่ไม่สบายใจทำให้ชีวิตไม่มีความสุข… ”
จู่ๆ พ่อหมอก็โพล่งออกมา…
ทำเอาฮูหยินรู้สึกใ เส้นขนของนางลุกเกรียวไปทั้งร่างกับสิ่งที่ได้ยินจากปากของจอมอาคม
“ท่านรู้… ”
ฮูหยินอุทาน…
ตาจ้องมองใบหน้าคมคร้ามของจางเทียนซือ แม้ว่าเขาจะหัวโล้นแต่ก็มีหนวดเคราดกดำ ทั้งที่แผงหนวดเหนือริมฝีปากและที่สันกรามลงมาถึงคาง
ผิวเข้มคล้ำยิ่งทำให้อาจารย์ผู้นี้ดูคมคร้ามหล่อเหลาสมชายชาตรี เนื้อตัวของเขากำยำไปด้วยมัดกล้า
ที่เห็นได้ชัดเจนเพราะว่าจางเทียนซือไม่ได้สวมเสื้อ ร่างกาย่บนเปลือยเปล่า อวดแผงอกแน่นนูนไปด้วยมัดเนื้อและเส้นขนเซ็กซี่ ส่วน่ล่างมีเพียงกางเกงสีน้ำตาลบางๆ
หมอผีคนนี้แม้จะดูแปลก…
แต่ก็ตรงตามสเปคของฮูหยินที่ชื่นชอบผู้ชายผิวคล้ำตัวใหญ่และมีหนวดเคราเช่นนี้
นางไม่คิดว่าจะบังเอิญได้มาเจอผู้ชายลักษณะนี้ที่สำนักหมอผี และเป็จอมขมังเวทย์ผู้ที่กำลังจะช่วยทำพิธีขับไล่สิ่งชั่วร้ายแฝงเร้นอยู่ในตัวนาง
“ใช่… ข้ารู้ั้แ่ตอนที่รถม้าวิ่งเข้ามาภายในอาณาบริเวณสำนักของข้า และรู้ด้วยว่า่นี้พลังชีวิตของเ้าอ่อนแรง ิญญาชั่วร้ายก็เลยฉวยจังหวะเข้ามารบกวน… ”
ขณะกล่าวจางเทียนซือยกมือขึ้นมาลูบเครายาว ดวงตาจับจ้องทรวงอกอวบใหญ่สะดุดตาของฮูหยิน
“อะไรนะ… ”
ฮูหยินอุทาน…
น้ำเสียงสั่นบ่งบอกถึงความรู้สึกหวาดกลัวที่ผุดวาบขึ้นมาในใจ นางเอามือลูบแขนของตัวเองที่ตอนนี้เส้นขนลุกซู่ชูชันไปหมดแล้ว เมื่อได้ยินที่จางเทียนซือกล่าว
“ไม่เป็ไร… เดี๋ยวข้าจะช่วยเ้าเอง”
สายตาของหมอผียังไม่ละจากเรือนร่างเอิบอิ่มเย้ายวนของฮูหยินสาว
“ขอบคุณท่านอาจารย์ แต่จะใช้วิธีใดกำจัดิญญาชั่วร้ายที่กำลังรบกวนข้า… และถ้าเป็ไปได้ข้าอยากจะขอลงอาบน้ำในบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่หลังสำนักของท่าน”
ฮูหยินถาม…
เป็ที่เล่าขานกันมานานว่าที่ด้านหลังสำนักของจางเทียนซือแห่งนี้ มีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ซ่อนอยู่ รอบๆ บ่อ
น้ำในบ่อแห่งนี้นอกจากใช้ดื่มคลายร้อนแล้วยังช่วยขจัดสิ่งสกปรกชั่วร้าย เปลี่ยนชะตาร้ายให้กลับกลายเป็ดี
“อาการของเ้าไม่ธรรมดา”
จางเทียนซือหรี่ตา…
มองใบหน้าของซูเจินอย่างครุ่นคิด
“ร้ายแรงถึงขั้นนั้นเรียวรึพ่อหมอ”
ซูเจินรู้สึกกลัว…
“ใช่… ต่อให้เ้าลงไปอาบน้ำในบ่อก็ช่วยอะไรไม่ได้ เพราะว่าิญญาของปีศาจร้ายฤทธิ์มันเยอะ มีเพียงสิ่งเดียวที่จะจัดการกับมันได้ก็คือต้องทำให้พลังหยางซึ่งเป็ความร้อนในตัวของเ้ามีมากพอจะสู้กับสิ่งชั่วร้าย”
จางเทียนซืออธิบาย…
ฮูหยินซูเจินฟังแล้วใ…
ครั้นแล้วก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาแปลกๆ เมื่อเห็นหมอผีเอื้อมมือไปหยิบถาดไม้ที่มีแท่งปลัดขิกหลายขนาด วางเรียงรายอยู่ในชาม
รูปทรงของมันทำให้ฮูหยินรู้สึกหวิววาบในอารมณ์ขึ้นมาทันทีที่ได้เห็น
“สิ่งนี้แหละจะช่วยเติมพลังหยางให้กับร่างกายของเ้า… ”
จางเทียนซือกล่าวพร้อมกับวางถาดไม้ใส่แท่งปลัดขิกลงตรงหน้า
“เติมพลังหยางด้วยปลัดขิก… เอ่อ… ยังไง… ”
หัวคิ้วของฮูหยินสาวชิดเข้าหากัน…
ความสงสัยเร่งเร้าให้นางต้องเอ่ยถาม ตายังเพ่งมองแท่งปลัดขิกซึ่งมีหลากหลายขนาด เริ่มั้แ่ไซซ์เท่าๆ กล้วยไข่ไปจนถึงกล้วยหอม
“เดี๋ยวถึงตอนทำพิธีเ้าก็จะรู้เอง… ”
จางเทียนซือยังไม่ตอบว่าต้องทำอย่างไร…
ก่อนจะสั่งให้ซีห่าวออกไปรออยู่นอกห้อง กำชับเสียงเข้มว่าขณะทำพิธีห้ามใครเข้ามาขัดจังหวะเป็อันขาด
ครู่ต่อมา…
เมื่อฮูหยินอยู่ด้วยกันสองต่อสองภายในห้องทำพิธีที่มีเพียงแสงสลัวของแท่งเทียนปักเอาไว้บนหัวกะโหลกสีขาวขุ่น มีคราบน้ำตาเทียนไหลย้อยลงมาเคลือบหนาจนแทบไม่เห็นสีเดิมของหัวกะโหลก
“ดูจากแววตาของเ้า ข้าก็รู้ว่าเ้าไม่ค่อยมีความสุขในเื่อย่างว่า… ”
จู่ๆ จางเทียนซือก็ตัดบทเปลี่ยนเื่สนทนา เื่อย่างว่าก็หมายถึง ‘เื่เซ็กส์’ ของชีวิตอยู่
“ท่านอาจารย์รู้ได้ยังไงว่าข้าไม่มีความสุขในเื่อย่างว่า… ”
ซูเจินถามด้วยความใ…
จอมขมังเวทย์คนนี้ราวกับมีดวงตาวิเศษมองทะลุเข้าไปถึงความรู้สึกนึกคิดของนาง
จริงดังที่เขาว่า…
สาเหตุที่นางตัดสินใจเดินทางมาที่สำนักหมอผีแห่งนี้ก็เพราะว่าชีวิตไม่ค่อยมีความสุข
เหมือนว่าบางอย่างขาดหายไปจากชีวิต ‘บางอย่าง’ ที่เอ่ยปากบอกใครไม่ได้ แต่ทว่าขมังเวทย์ผู้นี้สามารถล่วงรู้ได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ
“แล้วมันจริงอย่างที่ข้าว่าไหมล่ะ… ”
เขาหรี่ตามองใบหน้าหมดจดงดงามของนาง ค่อยๆกวาดสายตาสำรวจเรือนร่างอย่างพินิจพิจารณา
“จริงค่ะ… ”
ซูเจินตอบตามตรง…
ช่างน่าแปลกที่นางรู้สึกมีความผ่อนคลายขึ้นมาอย่างประหลาด เมื่อได้พูดคุยกับจอมขมังเวทย์ได้สักพัก
ตอนนี้ซูเจินรู้สึกว่าเขาไม่ได้เป็เพียงแค่หมอผี แต่ยังเป็จิตแพทย์ที่ให้คำปรึกษาเื่ราวชีวิตได้เป็อย่างดี
“ข้ารู้ว่าเ้าไม่มีความสุขเพราะว่าพลังในดวงตาของเ้าดูแ่โรย เป็ผลมาจากพลังหยินในตัวของเ้าอ่อนแรงเหลือเกิน… ”
