ณชิตามองผ่านบานกระจกใสออกไปยังหน้าร้าน เห็นเด็กชายสองคนที่เธอเพิ่งบอกให้กลับไปเรียน ยังคงนั่งขวางประตูอยู่ท่าเดิม เธอถอนหายใจเบาๆ แล้วส่ายหน้าอย่างระอา
บอกให้กลับไปเรียนก็ไม่ยอมไป...
คนบางคนไม่มีโอกาสได้เรียน ต้องดิ้นรนสุดชีวิตเพื่อคว้าโอกาสนั้น แต่คนที่มีโอกาส กลับละเลยมันเสียดื้อๆ ...
เธอบ่นพึมพำกับตัวเองเบาๆ ด้วยความรู้สึกเสียดายแทนเด็กทั้งสอง และนั่นเองที่ทำให้ความคิดของเธอย้อนกลับไปยังวันวาน... เมื่อหกปีก่อน
ตอนนั้นเธอกำลังจะก้าวเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย เป็่หัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิต แต่แทนที่ฝันของเธอจะได้เริ่มต้น เหตุการณ์ไม่คาดฝันกลับพังทุกอย่างลงในพริบตา
อุบัติเหตุทางรถยนต์...
พ่อกับแม่จากไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ ทิ้งเธอไว้เพียงลำพังกับความว่างเปล่า และเส้นทางชีวิตที่เปลี่ยนจากหน้ามือเป็หลังมือ
เธอต้องย้ายไปอยู่กับอาสาวที่ต่างประเทศ อาสาวที่บอกอย่างไม่อ้อมค้อมว่า
“ทำงานอย่างเดียว ไม่ต้องเรียนหรอก เสียเวลาเปล่าๆ”
แต่เธอไม่ยอม เธออยากเรียน อยากมีอนาคตที่ดีกว่านี้
สุดท้ายอาก็ยอมตกลง... แต่มีข้อแม้ว่า
“ถ้าอยากเรียน ก็ต้องหาเงินเอง”
อาสาวของเธอแต่งงานกับชาวอังกฤษ เปิดร้านอาหารไทยเล็กๆ ที่นั่น ครอบครัวไม่ได้จน แต่ก็ไม่ได้ร่ำรวย ขนาดส่งเสียเธอเรียนได้ไม่ลำบากนัก แต่ด้วยนิสัยประหยัดจัดของอาสาว จึงไม่ยอมควักเงินให้แม้แต่เพนนีเดียว
ณชิตาไม่มีทางเลือก นอกจากกัดฟันรับเงื่อนไขนั้นไว้ แล้วลุยเต็มที่
เธอทำงานทุกอย่างที่พอจะทำได้ไปพร้อมๆ กับเรียนหนังสือ ไม่ปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์ แค่เสี้ยวนาทีก็หยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน ขยันจนแทบไม่มีเวลาหายใจ...
จนในที่สุด เธอก็สามารถคว้าปริญญาตรีได้สำเร็จภายในเวลาเพียงสามปี
หลังเรียนจบ เธอสมัครงานกับบริษัทเล็กๆ แห่งหนึ่ง ไม่ใช่บริษัทดัง ไม่ใช่งานในฝัน แต่เธอเลือก เพราะมันอยู่ใกล้บ้าน จะได้มีเวลากลับมาช่วยอาสาวเตรียมอาหารในตอนเช้า และหลังเลิกงาน
เงินเดือนที่ได้ในแต่ละเดือน เธอแบ่งให้กับอาสาวบางส่วนตามที่ถูกคาดหวัง และเก็บอีกส่วนไว้เป็ทุนก้อนเล็กสำหรับอนาคตของตัวเอง
เกือบสามปีของการอดทน และรอคอย วันหนึ่งเธอก็มีเงินมากพอที่จะเริ่มต้นอะไรบางอย่าง และนั่นคือเหตุผลที่ทำให้เธอกลับมาเริ่มธุรกิจเล็กๆ ที่บ้านเกิด เปิดร้านเกมคาเฟ่ ณชิตาคาเฟ่ แห่งนี้
“สี่โมงแล้ว!” เต้อุทานขึ้นอย่างดีใจสุดขีด หลังนั่งแช่อยู่หน้าร้านมาสองชั่วโมงครึ่ง ทั้งร้อน ทั้งเมื่อย ทั้งเจ็บก้นไปหมด
“เข้าได้!” ธนภัทรตอบสั้นๆ พร้อมสะบัดศีรษะชี้ไปทางประตูร้านอย่างหมายมั่น
ทั้งสองเดินดุ่มเข้าร้านอย่างไม่ลังเล คราวนี้ไม่ต้องแอบ ไม่ต้องโดนไล่
“เน็ตหนึ่งชั่วโมง กับชานมเย็นหนึ่งแก้วครับ” เต้เป็คนเริ่มสั่งด้วยน้ำเสียงที่แฝงความปลาบปลื้มของคนรอเวลาอย่างอดทน
“เฮลบลูบอยผสมน้ำเปล่าแก้วนึง เน็ตสามชั่วโมง” ภัทรสั่งต่อแบบไม่มองหน้าเ้าของร้าน แล้วเสริมเสียงดังฟังชัด
“…ป้า!”
คำเรียกที่จงใจใส่น้ำหนักตรงท้ายทำให้คนฟังสะอึกเบาๆ แต่ ณชิตายังคงยิ้มรับไว้อย่างสุภาพ เธอรับรู้ถึงอารมณ์ประชดประชัน และความไม่พอใจที่แผ่ชัดออกมาจากเด็กหนุ่มตรงหน้า แต่ในฐานะเ้าของร้าน... เขาก็ถือว่าเป็ลูกค้า
เธอก้มลงกดรหัสใช้งานที่หน้าจอคอมพิวเตอร์หน้าร้าน ก่อนพิมพ์กระดาษสองใบแล้วยื่นให้ทั้งคู่
“น้ำชงเสร็จ เดี๋ยวพี่เอาขึ้นไปเสิร์ฟให้นะคะ”
“อย่านานนะ ร้อน! นั่งรอหน้าร้าน ร้อนจนจะเป็ลมแล้ว!” ภัทรกระแทกเสียงใส่ ก่อนจะคว้ากระดาษรหัสจากมือเธอไป
เขาเดินนำขึ้นบันไดไปยังชั้นสองโดยไม่หันมองกลับมาสักแวบ ปล่อยให้ณชิตายืนอยู่เงียบๆ กับรอยยิ้มจางๆ ที่ดูจะฝืดฝืน
พฤติกรรมแบบนี้... ไม่น่ารักเลยจริงๆ
เธอถอนหายใจเบาๆ ไม่ได้โกรธ แต่รู้สึกห่วงมากกว่า เด็กคนนี้... น่าจะมีเื่ที่เก็บไว้ในใจไม่น้อยเลย ถึงแสดงพฤติกรรมแบบนี้ออกมา
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้