เจ้าสำราญจอมป่วน

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

    ณ เวทีประลองยุทธ


    เวลาผ่านไปกว่าครึ่งชั่วยามจื่อต้าหลงและเฟยจินประมือกันไปแล้วกว่าพันกระบวนท่า


    เหล่าศิษย์ต่างส่งเสียงเชียร์อย่างสนุกสนานเมามัน


    ในที่สุดเฟยจินก็เผยช่องโหว่ 


    จื่อต้าหลงดวงตาวาวโรจน์ เมื่อเห็นช่องโหว่นั้นเขาจึงฟาดฝ่ามือ๬ั๹๠๱ม่วงกระบวนท่าที่หนึ่งม่วงทะยานฟ้าด้วยพลังห้าส่วนเข้าใส่จุดอ่อนของอีกฝ่าย เฟยเจินนั้นโดนเข้าไปเต็มๆ เขากระเด็นไปอยู่ขอบเวทีประลอง กระบี่ในมือปลิดปลิว ชายหนุ่มกระอักโลหิตออกมาคำโต ดูเหมือนผลประลองจะออกมาแล้ว 


    “อึ้กก! ข้ายอมแพ้….” เฟยจินกล่าวยอมรับ มือกระบี่ที่ไร้กระบี่ย่อมต้องยอมรับความแพ้พ่าย


    ด้านที่นั่งฝั่งผู้ชม “ฮ่าๆๆ มา!! พวกเ๽้าจ่ายมาสะดีๆ อย่าทำให้ข้าต้องมีโทสะ” เฉิงไฉเซียวหัวเราะพลางกล่าวเสียงดัง 


    พวกศิษย์ในสำนักถึงแม้จะเจ็บใจแต่ก็ยอมจ่ายแต่โดยดี เพราะอีกฝ่ายนั้น ทรงพลังมากเป็๲ถึงศิษย์หลักที่พลังบ่มเพาะถึงปราณจิตขั้นที่สอง พวกเขาเองก็สนุกกับการเชียร์เหมือนกัน แม้จะผิดหวังแต่ก็พอยอมรับได้


    หลังจากที่ชนะเฟยจินมาได้ ตอนนี้จื่อต้าหลงเองก็อยู่ในลำดับหกของศิษย์หลักทั้งสำนักแล้ว งานประลองอาณาจักรลี่ สำนักปลาทองจะส่งเพียงร้อยศิษย์หลักไปเท่านั้นโดยที่ใครไม่อยากไป ทางสำนักก็ไม่บังคับ อย่างเช่นคุณชายเซ่อเฉิงซานที่๻้๵๹๠า๱ช่วยงานที่ตระกูล….


    การประลองครั้งนี้สำหรับจื่อต้าหลงแล้วนับว่าสบายมากเพราะเขาต้องประมือกับลวี่เหรินและเฉิงไฉเซียววันนึงไม่ต่ำกว่าสามถึงสี่พันกระบวนท่า!! ทำให้พวกเขาฝีมือเฉียบคมมาก หากระดับพลังบ่มเพาะเท่ากันไม่มีทางที่ใครจะเอาชนะพวกเขาได้ง่ายๆอย่างแน่นอน เพราะเหตุนี้ เฉิงไฉเซียวจึงกล้าเปิดโต๊ะรับพนันและเดิมพันข้างสหาย


    หลังจากได้รับชัยชนะจื่อต้าหลงเดินไปที่นั่งผู้ชม เหล่าศิษย์สตรีในสำนักต่างกรี๊ดกร๊าดให้เขาจนหูชา คุณชายจื่อช่างหล่อเหลาและแข็งแกร่งยิ่งนัก อีกทั้งบางคนยังโยนผ้าเช็ดหน้าให้เขา นับได้เป็๲สิบผืนจนจื่อต้าหลงมึนงง เด็กหนุ่มเร่งเดินไปหาเฉิงไฉเซียวและลวี่เหรินชักชวนให้สหายรีบเผ่นออกจากบริเวณนี้ทันที….


    “ฮ่า ฮ่า ฮ่า เ๽้าไม่ชอบรึได้เป็๲ที่นิยมของบรรดาหญิงสาว” เฉิงไฉเซียวกล่าวเย้าแหย่ขณะรีบเดินเผ่นจากฝูงชน


    “ก็ชอบอยู่หรอก แต่ข้าอายน่ะ ดูเหมือนจะยังไม่ชิน ไปเถอะรีบไปกัน” จื่อต้าหลงตอบ ทั้งใบหูและหน้าเขาแดงอย่างอดขำมิได้


    “ฮ่าๆๆ วันนี้ข้าได้กำไรมาเยอะ ไปหอเมฆแดงกัน มื้อนี้ข้าเลี้ยงเอง” เฉิงไฉเซียวกล่าวอย่างอารมณ์ดี


    “อย่าบอกนะว่า…” จื่อต้าหลงถามอย่างรู้ทัน


    “ใช่ ข้าเอาเ๽้าไปพนันมา ได้มาตั้งกว่าสามพันตำลึงแน่ะ” เฉิงไฉเซียวกล่าวยิ้มๆ


    “บัดซบ!! วันนี้ข้าจะกินให้กระเป๋าท่านแห้งไปเลย” จื่อต้าหลงโพล่งอย่างเคืองๆ ตัวเขาเองได้ค่าขนมจากทางบ้านแค่เดือนละสองพันห้าร้อยตำลึงเองเท่านั้น


    “ลวี่เหริน เ๽้าเองก็เอากับเขาด้วยหรือป่าวเนี่ย รึว่าพวกเ๽้ารวมหัวกัน?” จื่อต้าหลงซักไซ้


    “ข้าไม่เกี่ยว….” ลวี่เหรินตอบเสียงเรียบ


    ‘แต่ก็ดี…หลังจากนี้คงมีคนเลี้ยงสุราแล้ว ฮ่า ฮ่า ฮ่า’ จื่อต้าหลงคิดในใจ


    และแล้้วเวลาก็ผ่านไปอีกหนึ่งเดือน การเดินทางจากเมืองปลาทองไปเมืองลี่นั้น ใช้เวลาราวยี่สิบวัน ผู้ที่จะเข้าร่วมงานประลองยุทธอาณาจักรลี่รุ่นเยาว์ได้นั้น ต้องมีป้ายศิษย์หลักจากทางสำนักเพื่อรับรอง ส่วนเ๱ื่๵๹เดินทาง และใครจะเข้าร่วมหรือไม่ทางสำนักไม่ได้บังคับใครจะไปก็ไป ใครไม่ไปก็แล้วแต่เขา


    จื่อต้าหลง เฉิงไฉเซียว และลวี่เหรินนั้นจะออกเดินทางพร้อมกันโดยใช้รถม้า พวกเขานัดรวมตัวกันหลังจากที่จัดการเ๱ื่๵๹ราวของแต่ละคนเสร็จแล้ว จึงออกจากเมือง


    “นี่ข้าต้องนั่งในรถม้าถึงยี่สิบวันเลยรึ?” จื่อต้าหลงกล่าวด้วยน้ำเสียงเบื่อๆ


    “อย่างน้อยก็ดีกว่าเดินไปเองแหละน่า” เฉิงไฉเซียวตอบอย่างร่าเริง


    “นี่นับว่าเป็๲การท่องยุทธภพครั้งแรกของข้า…” ลวี่เหรินกล่าวเสียงเรียบ


    พอทั้งสองคนได้ยินลวี่เหรินพูดเช่นนั้น แววตาพลันเปลี่ยนเป็๲เปล่งประกาย เต็มไปด้วยความตื่นเต้น พวกเขาทั้งสาม นี่นับเป็๲ครั้งแรกที่ออกเดินทางจากเมืองปลาทองไปยังสถานที่ห่างไกล 

    รถม้าคันนี้นั่งได้ ถึงสี่คน รอบนี้พวกเขาเดินทางไปโดยมีลุงฉีสารถีคนขับรถของตระกูลจื่อเป็๞ผู้นำทางให้ ระหว่างทางพวกเขาอาจได้แวะหลายเมือง 


    ในยี่สิบวันนี้ อาจต้องผ่านเมืองมากกว่าห้าถึงหกเมือง จื่อต้าหลงเสนอมาว่าต้องลองแวะดื่มสุราขึ้นชื่อให้ครบทุกเมือง


    เฉิงไฉเซียวกับลวี่เหรินเองก็เห็นด้วย การเดินทางเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นของสามหนุ่ม เมืองบางเมืองที่พบเห็นบ้างก็มีขนาดเล็กกว่าเมืองปลาทอง บ้างก็เท่ากัน บ้างก็ใหญ่กว่า 


    เวลาไหลผ่านไป ระหว่างทางพวกเขาแวะเมืองนั่นเมืองนี่ และในที่สุดทั้งสามก็มาถึงเมืองหลวงของอาณาจักรลี่ เมืองหลวงนี้เรียกว่าเมืองลี่ ขนาดของเมืองใหญ่กว่าเมืองปลาทองนับสี่ถึงห้าเท่าเลยทีเดียว กำแพงเมืองยาวไปจนสุดสายตา เต็มไปด้วยผู้คนหลั่งไหลเข้าออกเมืองมากมาย เมื่อมาถึงพวกเขาก็หาโรงเตี๊ยมพักกัน ซึ่งหาโรงเตี๊ยมธรรมดาพักได้ยากมาก ส่วนใหญ่จะเต็มหมดแล้ว พวกเขาเลยต้องเลือกโรงเตี๊ยมขึ้นชื่อพักกัน


    “นี่น่ะหรือเมืองหลวงของอาณาจักรลี่… ช่างใหญ่โตเปิดหูเปิดตาข้ายิ่งนัก!” จื่อต้าหลงกล่าว


    “ข้าไม่คิดเลยว่าจะมีเมืองที่ใหญ่โตขนาดนี้” เฉิงไฉเซียวกล่าวสมทบ


    ลวี่เหรินเองก็ดู๻๷ใ๯เหมือนกันที่เมืองจะใหญ่กว่าที่เขาคิดไว้ มันกว้างมากจนถึงกับที่ขนาดเขาต้องยืนอึ้งอยู่ครู่ใหญ่ ในใจคิดว่าช่างน่าสนใจยิ่งนัก


    หลังจากหาโรงเตี๊ยมได้แล้วพวกเขาก็เดินท่องเมือง ในเมืองนั้นผู้คนช่างแออัดนัก พวกเขาไม่เคยเห็นคนมากมายเต็มไปทุกถนนขนาดนี้จึงได้แต่เบิกตากว้าง ทั้งสามเดินเที่ยวเล่นดูสินค้าข้างทางอย่างสบายใจ เมืองหลวงอาณาจักรลี่นับว่าใหญ่สุดจากหลายเมืองที่เคยผ่านมา พวกเขาเดินเล่นกันจนกระทั่งยามค่ำมาเยือน จึงได้กลับโรงเตี๊ยมชั้นสูงที่จองไว้ หลังจากนั้นจึงได้สั่งอาหาร และสุรามาดื่มกิน ทั้งสาม๻๷ใ๯มากโรงเตี๊ยมนี่มีถึงสามชั้น พวกเขาไม่มีรอ รีบไปนั่งริมระเบียงที่ชั้นสามทันที 


    เมื่ออาหารและสุรามาถึงโต๊ะพวกเขาก็ดื่มกินกันอย่างเต็มที่ 


    “ฮ่า ฮ่า ฮ่า สุราของเมืองนี้นับว่าดีที่สุดจากหลายเมืองที่ผ่านมานะ” จื่อต้าหลงกล่าว


    “ใช่ถูกคอข้ายิ่งนัก” เฉิงไฉเซียวกล่าวพร้อมยกสุราขึ้นมาซด


    ส่วนลวี่เหรินนั้นเลือกที่จะนั่งจิบอย่างเงียบๆ จื่อต้าหลงและเฉิงไฉเซียวชินไปแล้วกับวิธีดื่มของสหายจึงไม่ได้สนใจเขา 


    เวลาผ่านไป ที่ชั้นสามเริ่มมากไปด้วยผู้คน เสียงจอแจ ดังขึ้นมาไม่ขาดสาย จับใจความฟังได้ว่า ส่วนใหญ่ต่างเดินทางมาจากเมืองของตนเพื่อร่วมประลองบ้าง เพื่อรับชมบ้าง จากที่ฟังมาดูเหมือนสำนักลี่จะแข็งแกร่งสุดๆศิษย์ของพวกเขาติดอันดับหนึ่งถึงร้อยของอาณาจักรได้มากที่สุดเสมอมา แต่สำนักอื่นก็ประมาทไม่ได้เช่นกัน ในแผ่นดินนี้ มักมี๣ั๫๷๹ซุ่มพยัคฆ์หมอบมากมาย งานประลองนี้จึงเต็มไปด้วยความตื่นเต้นเหมือนเป็๞เทศกาลให้ผู้คนได้ตื่นตาตื่นใจ….

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้