ม่านบนรถถูกเปิด นิ้วมือเรียวยาวที่เปิดม่านราวกับเครื่องกระเบื้องเคลือบก็มิปาน
เงาร่างสีฟ้าครามออกมาจากตัวรถช้าๆตัวสูงโปร่งดูสง่างาม แค่ใบหน้าด้านข้างก็ดูคมคาย หล่อเหลาอย่างมิอาจหาใดเทียม
เพียงแต่ เมื่อเห็นใบหน้าทั้งหมดกลับดูค่อนข้างขึงขัง
คนผู้นี้ดวงหน้าเ็าดูเข้มงวดราวกับสามารถแช่แข็งผู้อื่นได้
เหตุใดพี่ชายท่านนี้ถึงดูเ็านัก
เมื่อเห็นผู้อื่นก็แย้มรอยยิ้มคิ้วงามของเซี่ยยวี่หลัวโก่งโค้ง รอยยิ้มของนางดูสบายประหนึ่งสายลมเย็นจันทร์กระจ่าง"ท่านซ่งก็มาด้วยงั้นหรือ"
เมื่อครู่ซ่งฉางชิงนั่งอยู่บนรถม้าก็มองเห็นสตรีที่อยู่ข้างนอกผ่านช่องผ้าม่านแล้ว
วันนี้นางสวมใส่ชุดฤดูร้อนสีเทาผืนบางถึงแม้สีจะมืดทึบ แต่เพราะดวงหน้างดงาม ริมฝีปากสีแดงฟันสีขาว ไม่จำเป็ต้องแต่งแต้มด้วยเครื่องประทินโฉมก็สามารถสวมใส่ชุดสีเทามืดทึบนั่นให้ดูโดดเด่นได้
ซ่งฉางชิงยังคงแสดงสีหน้าเหมือนเดิม"ฮูหยินเซียว"
สีหน้าเรียบสงบ น้ำเสียงเรียบสงบ
ซ่งฝูมองเขาแวบหนึ่ง ตลอดทางที่ขับรถม้ามาเขารู้สึกประหลาดใจยิ่งนัก วันนี้คุณชายเป็อะไรไป เขาที่ไม่เคยไปเยือนถึงบ้านผู้จัดหาวัตถุดิบคนใดเหตุใดจู่ๆ ถึงมาบ้านเซี่ยยวี่หลัว
นอกจากนั้น เขาบอกว่าต่อไปจะไม่ให้เซี่ยยวี่หลัวเป็ผู้จัดหาวัตถุดิบแล้วไม่ใช่หรือ? เหตุใดพอเห็นว่าฝนตก กลับมาหาถึงที่กัน
ซ่งฝูรู้สึกสงสัยอยู่ในใจเมื่อเห็นว่าคุณชายเข้าไปในบ้านแล้ว จึงรีบผูกรถม้าไว้ ก่อนตามเข้าไป
เซียวจินตื่นแต่เช้า บ้านเขาอยู่ข้างๆบ้านท่านปู่เซียว รถม้าคันหนึ่งเข้าหมู่บ้าน เขาย่อมรู้ว่านี่ไม่ใช่รถม้าของคนในหมู่บ้านเห็นรถม้าหยุดจอดที่บ้านท่านปู่เซียว ครู่เดียวก็ไปแล้ว เซียวจินรู้สึกประหลาดใจ นี่ไม่ใช่รถม้าของเซียวเหลียงแล้วเป็ของใคร?
เขาตามมาตลอดทาง ก็เห็นรถม้าจอดอยู่หน้าบ้านเซียวยวี่พอดี
เซียวจินรู้สึกอัดอั้นใจนักรถม้านี่จอดที่บ้านไหนก็ไม่จอด กลับมาจอดอยู่ตรงนี้!
ระหว่างที่เซียวจินกำลังครุ่นคิดก็เห็นเซี่ยยวี่หลัวออกมา พูดคุยยิ้มแย้มกับบุรุษวัยหนุ่มที่เป็คนขับรถม้า ผ่านไปครู่เดียวบนรถม้า… บนรถม้ายังมีอีกคนหนึ่งเดินลงมา
ดูจากเสื้อผ้าที่สวมใส่ต้องราคาแพงจนไม่อาจประเมินได้แน่นอน
เพียงแต่ เหตุใดถึงรู้สึกว่าคนผู้นี้ดูคุ้นตานัก?
เขาเดินเข้าไปในบ้านเซี่ยยวี่หลัวแล้ว
บุรุษแปลกหน้าสองคน พูดคุยยิ้มแย้มกับเซี่ยยวี่หลัวดูแล้วน่าจะรู้จักกันมาก่อน นอกจากนั้น ยังเข้าไปในบ้านของเซี่ยยวี่หลัว ความสัมพันธ์ของคนเหล่านี้มีอะไรแอบแฝงหรือไม่?
เซียวจินคิดถึงพิรุธของเซี่ยยวี่หลัวที่ภรรยาตนเองเคยบอกไว้หรือว่า บุรุษผู้นี้จะเป็ชู้รักของเซี่ยยวี่หลัว?
นี่ถือเป็เื่ใหญ่!
เซียวจินไม่กล้าไป แอบซ่อนอยู่ในมุมมืดรอให้คนด้านในออกมา
ซ่งฉางชิงเดินตามเซี่ยยวี่หลัวเข้าไปในบ้านเด็กสองคนย่อมรู้จักซ่งฉางชิงเหมือนกัน ต่างก็เอ่ยเรียกท่านซ่งอย่างมีมารยาท
ซ่งฉางชิงเม้มริมฝีปากเล็กน้อยซ่งฝูรีบยื่นส่งขนมที่ตัวเองนำมาด้วย “ฮูหยินเซียว นี่คือขนมที่ให้เด็กสองคนทานเล่น”
เซี่ยยวี่หลัวรู้สึกประหลาดใจ“นี่… จะรับไว้ได้อย่างไร! ”
ซ่งฝูมองซ่งฉางชิงที่อยู่ข้างๆยืนกรานจะส่งมอบขนมใส่ไปในมือเซี่ยยวี่หลัว เซี่ยยวี่หลัวไม่มีหนทางอื่น ได้แต่รับไว้“เช่นนั้นก็ขอบคุณท่านซ่งมาก! ”
“ไม่ต้องเกรงใจ! ” ซ่งฉางชิงเม้มริมฝีปากเบาๆพร้อมกล่าวอย่างเรียบสงบ
บ้านเรือนในหมู่บ้านชนบทส่วนใหญ่ล้วนคล้ายคลึงกันมีห้องเล็กจำนวนหนึ่ง ลานบ้านหนึ่งลาน เก็บกวาดทั้งในและนอกอย่างเรียบร้อย สะอาดหมดจดด้านข้างมีเรือนหลังคากระเบื้องสองห้อง ก้อนอิฐดูใหม่มาก เหมือนว่าเพิ่งปลูกสร้างเสร็จ
เมื่อเห็นซ่งฉางชิงมองไปทางเรือนหลังใหม่เซี่ยยวี่หลัวจึงกล่าว “นั่นคือเรือนหลังใหม่ที่เพิ่งสร้างเสร็จ สามีของข้าไม่มีห้องหนังสือจึงปลูกเรือนทำห้องหนังสือให้เขาได้ตั้งใจอ่านตำรา! ”
เมื่อได้ยินคำว่าอ่านตำราซ่งฉางชิงก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย “คุณชายเซียวเป็คนเรียนหนังสือ? เหตุใดถึงไม่เห็นเขา? ”
“ปีนี้เขาไปสอบซิ่วไฉ”เซี่ยยวี่หลัวกล่าวอย่างตรงไปตรงมา “อีกเจ็ดถึงแปดวันก็น่าจะกลับมาแล้ว”
“พี่สะใภ้ใหญ่จะทำให้พี่ใหญ่รู้สึกประหลาดใจพอพี่ใหญ่กลับมา ต้องดีใจมากแน่เ้าค่ะ! ” เซียวจื่อเมิ่งที่อยู่ข้างๆ กล่าวเสียงใสสีหน้าดีอกดีใจ
ห้องหนังสือมีหน้าต่างหนึ่งบานหันไปทางสวนหลังบ้าน
สามารถมองเห็นชั้นวางตำราขนาดใหญ่ด้านในสุดของห้องนั้นบนชั้นวางตำรามีตำราวางอยู่เต็ม บนหน้าต่างมีผ้าม่านโปร่งแขวนอยู่ เมื่อลมพัด ก็โบกพลิ้วไปตามสายลมตรงมุมผ้าม่านโปร่งที่พลิ้วไหว สามารถมองเห็นลายปักรูปต้นไผ่สีเขียวมรกตเลือนราง ดูคล้ายของจริงยิ่งนัก
เพราะมีคนมาเพิ่มสองคนเซี่ยยวี่หลัวทำอาหารไว้สำหรับสามคนเท่านั้น ได้แต่ไปทำเพิ่มอีกเล็กน้อยที่ห้องครัวหน่อไม้ดองก็ตักเพิ่มอีกหนึ่งจานเล็ก ทอดไข่ดาวสองฟอง ก่อนจี่แผ่นแป้งใส่ไข่ผสมต้นหอมอีกจำนวนหนึ่งคาดว่าเพียงพอแล้ว จึงยกไปที่ห้อง
ซ่งฉางชิงรออยู่ในห้องโถงเขามองดูการจัดวางข้าวของในบ้าน ภายในห้องดูเรียบง่ายมาก เรียบง่ายจนแทบจะเรียกได้ว่าขัดสนทว่า แม้จะขัดสน กลับยังััได้ถึงกลิ่นอายของความอบอุ่น
หน้าต่างเปิดอยู่ ผ้าม่านโปร่งที่แขวนอยู่บนนั้นก็โบกพลิ้วไปตามสายลมลมพัดโชยหอบเอากลิ่นหอมของดอกไม้เข้ามา
หลังบ้านปลูกดอกไม้ไว้ด้วย?
ซ่งฉางชิงเดินไปดู เมื่อเห็นสวนหลังบ้านดูราวกับดินแดนเทพเซียนก็ตกอยู่ในภวังค์เหม่อลอย
สวนขนาดใหญ่ ใช้ไม้ไผ่ทำเป็รั้วล้อมรอบไว้ริมกำแพง ปลูกดอกไม้ป่าไว้จำนวนไม่น้อย มีเถาวัลย์เลื้อย บางต้นที่เติบโตดี เถาวัลย์เลื้อยขึ้นไปบนกำแพงแล้วบางต้นที่ผลิดอกเร็ว ดอกไม้บนต้นก็เบ่งบานแล้ว
ดอกไม้เล็กสีแดง สีขาวและสีชมพู ราวกับกำลังประชันความงามกันอยู่บนกำแพง
แปลงผักขนาดเล็กที่ขุดไว้เป็ร่องอย่างเป็ระเบียบบนนั้นปลูกผักไว้จำนวนหนึ่ง ได้รับการดูแลเอาใจใส่ จึงเจริญเติบโตได้ดี
ล้วนแต่ผ่านการดูแลบ่มเพาะอย่างใส่ใจพอจะดูออก ว่านายหญิงของบ้านนี้เป็คนขยันแข็งขันและมีความสามารถมาก
บนมุมผ้าม่านโปร่งที่ถูกลมพัดจนพลิ้วไหวปักลายดอกไม้ป่าขนาดเล็กที่เหมือนกับในสวนหลังบ้าน
ดอกไม้สีแดงที่ทำให้เห็นแล้วรู้สึกอิจฉา
โจ๊กยังร้อนอยู่ มีเพียงคนละหนึ่งชามเซี่ยยวี่หลัวยกอาหารที่ทำขึ้นใหม่เข้ามา เชิญซ่งฉางชิงและซ่งฝูนั่งลง ตักโจ๊กให้คนละหนึ่งชามวางไว้ตรงหน้าพวกเขา
“มีเพียงอาหารบ้านๆ ทั่วไปหวังว่าท่านซ่งจะไม่รังเกียจ! ” เซี่ยยวี่หลัวยิ้มพร้อมกล่าว
ขณะที่นางเอื้อนเอ่ยวาจาก็แย้มรอยยิ้มอยู่ตลอด คิ้วงามโก่งโค้ง แค่เห็นก็รู้สึกอารมณ์ดีเป็พิเศษ!
ซ่งฉางชิงมองดูอาหารบนโต๊ะ
ธรรมดามากจริงๆ
ไข่ดาว ไข่ต้ม ยังมีแผ่นแป้งใส่ไข่ผสมต้นหอมโจ๊กหนึ่งชาม ล้วนเป็อาหารพื้นๆ ที่เขาเคยกิน เพียงแต่ ของสีเขียวขาวที่มีกลิ่นแปลกประหลาดนั่นคืออะไร?
กลิ่นเปรี้ยวๆ ทั้งยังหอมๆแค่ได้กลิ่น ก็แทบน้ำลายไหลแล้ว
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้