น้ำเสียงของหญิงสาวดังเรียบเรื่อย ทว่าหนักแน่นพอจะให้ทุกคนได้ยินชัดเจน ครอบครัวหลี่ต่างตะลึงงัน ดวงตาหลายคู่เบิกกว้าง บางคนขยับกายเล็กน้อยอย่างไม่รู้ตัว บางคนถึงกับกลืนน้ำลายและหัวใจเต้นแรงโดยไม่ทราบสาเหตุ
ไม่ใช่แค่เพราะจำนวนเงินที่มากมายเกินคาด แต่เพราะ…ไม่มีใครคิดว่า สตรีน้อยร่างบางผู้นี้จะสามารถนำพาครอบครัวหลี่ของพวกเขาให้ร่ำรวยได้ เสียงกระซิบเริ่มดังขึ้นในหมู่พวกเขา
“นั่น…ทั้งหมดที่ได้จากการขายเห็ดสนจริงๆ หรือ”
ร่างบางพยักหน้า
ภายใต้สายตานับสิบที่จับจ้อง เซี่ยชิงหลียังคงยืดหลังตรงไม่กล่าวคำใดเพิ่มเติม เพียงแค่ปล่อยให้เสียงของเหรียญเงินและแรงะเืจากการกระทำครั้งนั้น…เป็คำตอบแทนทุกอย่าง
“นี่เป็เพียงการเริ่มต้น เห็ดสนตอนนี้แม้จะมีมากมายในป่าทว่าก็ขึ้นปีละหนึ่งครั้งเท่านั้น เราไม่สามารถใช้มันทำธุรกิจหาเงินอย่างถาวรได้ ดังนั้น...ข้าจึงมีความคิดหนึ่ง พวกท่านอยากจะลองฟังดูหรือไม่”
คำพูดใดที่หญิงสาวเปล่งออกมา บัดนี้ทุกคนในตระกูลหลี่ต่างพยักหน้าเห็นด้วยราวกับถูกนางสะกดจิต ร่างบางขัดเขินเล็กน้อยเมื่อถูกจ้องเป็ตาเดียว ราวกับมองเห็นลูกนกตัวน้อยๆ กำลังเฝ้ารออาหารจากมารดา
“ได้! ในเมื่อเห็นด้วยกันทุกคน่นี้พวกท่านก็ขึ้นเขาเก็บเห็ดกันไปก่อน เมื่อใดที่ข้าคิดสร้างโอกาสทำเงินได้ข้าจะแจ้งให้ทุกคนทราบ เอาล่ะแยกย้ายเถอะ”
ข่าวคนตระกูลหลี่สามารถหาเงินได้มากมายถูกลือออกไปในหมู่บ้าน วันนั้นยามเมื่อเกวียนวัวของพวกเขาวิ่งผ่านชาวบ้านหลายคนต่างเห็นกับตา ดูจากข้าวของที่ซื้อกลับมาทำให้หลายคนนึกอิจฉา ทว่าไหนเลยจะกล้าเข้ามาวุ่นวาย
นอกจากหัวหน้าหมู่บ้านจะอยู่ข้างพวกเขาแล้ว บุรุษบ้านหลี่ก็มีหลายคน หากมีคนตาไม่ดีใจกล้ามาก่อเื่ให้พวกเขาขุ่นเคืองใจ ถือว่าคนผู้นั้นดวงซวย จะต้องถูกคนบ้านหลี่ตีจนหน้าบวมเป็หัวหมู
ผ่านไปอีกหลายวัน
ชีวิตครอบครัวของเซี่ยชิงหลีดำเนินไปอย่างเรียบง่าย ทุกคนต่างขะมักเขม้นทำงานหาเงินเพราะอีกไม่นานฤดูกาลเก็บเห็ดสนกำลังจะผ่านไป
หลี่หลันฮวาอาการาเ็ใกล้หายดีแล้ว สามารถเดินเหินทำงานเบาๆ ในเรือนได้ หลังจากออกจากตระกูลเซี่ยร่างกายที่เคยขาดสารอาหารของนางเมื่อได้รับการบำรุงก็แข็งแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทุกวันเห็นคนในบ้านขึ้นเขาเก็บเห็ดสนหารายได้ ตัวนางเองก็รู้สึกคันไม้คันมืออยากจะหาเงินเช่นเดียวกัน
เมื่อได้รับคำอนุญาตจากบุตรสาว วันนี้จึงเตรียมตัวขึ้นเขาพร้อมกับคนอื่นๆ แม้แต่แม่เฒ่าโจวที่หายป่วยเพราะได้ดื่มยาต้มสูตรของเซี่ยชิงหลี พอร่างกายแข็งแรงขึ้นก็คิดขึ้นเขาตามสามีด้วยเช่นกัน ที่เรือนจึงเหลือเพียงเซี่ยจื่ออี้และหลี่เถาเถาลูกสาวของหลี่เยว่สิง
เซี่ยชิงหลีที่พึ่งตื่นนอนเดินออกจากห้องเพื่อล้างหน้า เมื่อเห็นลุงคนที่สองกำลังทุบบางอย่างอย่างขะมักเขม้นอยู่ที่ลานหน้าเรือน จึงเดินเข้าไปดู
“ลุงรอง...ท่านกำลังทำอะไร”
ชายวัยกลางคนหยุดมือลงเพื่อสนทนากับหลานสาว
“ออ..นี่คือกิ่งสน ลุงกำลังทำที่ขัดฟัน”
“ลุงรอง ขอข้าดูหน่อยได้หรือไม่”
หญิงสาวหยิบกิ่งสนแห้งที่ยังสดใหม่ขึ้นมาดม ปลายของมันด้านหนึ่งถูกปาดเปลือกด้านนอกออก เผยเนื้อไม้ด้านในที่มียางบางๆ ซึมออกมา มีกลิ่นหอมฉุนเย็นเฉพาะตัว
นางมองลุงรองยกค้อนขึ้นทุบกิ่งไม้นั้นซ้ำไปซ้ำมากับหินข้างตัวอย่างชำนาญ การกระทำของเขาเพียงพอให้ปลายกิ่งแตกเป็เส้นฝอยเล็ก ๆ ราวกับขนแปรง
เ้านี่สินะที่นางใช้ทำความสะอาดช่องปากในทุกวัน
หญิงสาวยกขึ้นแตะริมฝีปาก ก่อนจะใช้มันขัดซี่ฟันอย่างช้าๆ และสม่ำเสมอ กลิ่นสนหอมเย็นแทรกเข้าสู่โพรงจมูกขณะเนื้อไม้ถูไถผ่านผิวฟันทำความสะอาดอย่างเป็ธรรมชาติ โดยไม่ต้องพึ่งน้ำยาหรือแปรงสีฟันใด ๆ
ในดินแดนห่างไกลที่ไร้ซึ่งสิ่งอำนวยความสะดวก การใช้กิ่งสนขัดฟันเช่นนี้ไม่ได้เป็เพียงแค่การทำความสะอาดช่องปากเท่านั้น แต่มันคือภูมิปัญญาเก่าแก่ที่ยังคงหลงเหลืออยู่ เป็การใช้ชีวิตด้วยความเคารพต่อธรรมชาติและเรียบง่ายอย่างแท้จริง
เื่นั้นก็เื่นั้น แต่บัดนี้ในหัวเล็กๆ ได้เกิดความคิดหนึ่งผุดขึ้น หรือว่าเ้านี่อาจทำเงินให้ครอบครัวของตน และยังสามารถช่วยชาวบ้านให้มีรายได้เพิ่มขึ้นด้วย
เซี่ยชิงหลีรีบกลับเข้าเรือนไปหาพี่ชายเพื่อขอให้เขาวาดรูปบางอย่างให้ตน ไม่นานหญิงสาวก็กลับมาพร้อมรูปวาดในมือ
“ลุงรองท่านดูนี่ บอกข้าหน่อยว่าคิดอย่างไรเกี่ยวกับมัน”
หลี่เอ้อหลางหยิบกระดาษจากมือของเซี่ยชิงหลีมาดู ทว่าชายวัยกลางคนก็ไม่แสดงสีหน้าใดๆ เพราะเขาไม่เข้าใจในสิ่งที่หลานสาว้าจะสื่อ
“หลีเอ๋อเ้านี่คือรูปอะไร หรือว่าเป็อาวุธใหม่ที่หลานพึ่งคิดค้น”
เซี่ยชิงหลีกลอกตาให้กับจินตนาการของหลี่เอ้อหลาง
“ลุงรองเ้านี่คือแปรงสีฟัน”
“แปรงสีฟันหรือ มันคืออะไรล่ะ”
“มันก็คือสิ่งที่จะสามารถทดแทนกิ่งสนขัดฟัน และเป็สิ่งที่ทุกคนทั่วทั้งแคว้นจะต้องใช้ในอนาคต”
ชายวัยกลางคนมองท่าทางภาคภูมิใจของหลานสาว แต่แล้วก็ยังไม่เข้าใจ
เซี่ยชิงหลีรีบวิ่งกลับเข้าไปในห้องเพื่อทำสิ่งที่คิดให้สำเร็จ มีแปรงสีฟันย่อมต้องมียาสีฟันด้วย ยาสีฟันที่ทำจากสมุนไพรเพื่อสุขภาพของช่องปาก
เซี่ยจื่ออี้เมื่อเห็นน้องสาววิ่งกลับเข้าห้องก็รู้สึกสงสัย พี่ชายมองใบหน้าด้านข้างของน้องสาวที่กำลังตั้งอกตั้งใจเขียนบางสิ่งในกระดาษ
มือข้างหนึ่งของนางจับพู่กันด้ามยาวอย่างมั่นคง จุ่มลงในหมึกดำเข้ม แล้วค่อยๆ ลากปลายขนพู่กันเขียนอักขระลงบนกระดาษทีละตัว อย่างตั้งใจ
ฮั่วเซียง藿香 แก้กลิ่นปาก ติงเซียง丁香 (กานพลู) แก้ระงับอาการปวดฟันและฆ่าเชื้อ ซีซิน細辛 บรรเทาอาการอักเสบในช่องปาก ไป๋จื่อ 白芷 และโป้เหอ (สะระแหน่) แต่งกลิ่นให้หอมเย็น สือเอี้ยน食鹽 ขัดฟันบำรุงเหงือก หยาเ้า牙皂 เพิ่มฟองและลดคราบ กันเฉ่า甘草 (ชะเอมเทศ) ลดการระคายเคือง
ทุกคำที่นางเขียนลงไปคือตำรับที่นางศึกษามาจากตำรายาเก่าภายในห้องเก็บหนังสือของอาจารย์ เมื่อลายมือสุดท้ายถูกเขียนจบ หญิงสาววางพู่กันลงบนจานรองอย่างเบามือ พัดให้หมึกแห้งแล้วพับกระดาษอย่างบรรจง
พรุ่งนี้เช้า นางจะไปอำเภอหลิงหนาน ร้านขายยาสมุนไพรจินสุ่ยถังน่าจะมีสมุนไพรเหล่านี้ สมุนไพรบางอย่างขึ้นเองตามธรรมชาติ คงต้องให้ทุกคนลงมือช่วยกัน และหากทุกอย่างเป็ไปตามที่ตั้งใจ ไม่ช้าเกินรอ ยาสีฟันตำรับนี้จะกลายเป็สิ่งที่ทุกคน้า สิ่งเหล่านี้จะนำพาครอบครัวของนางและชาวบ้านร่ำรวย
ครอบครัวหลี่ขึ้นเขาเก็บเห็ดสนอีกครั้ง แม้ชาวบ้านจะคะยั้นคะยอถามเกี่ยวกับวิธีทำเงินของพวกเขาอย่างไร คนบ้านหลี่ยังคงปิดปากเงียบสนิท เพราะนั่นคือคำสั่งอันเด็ดขาดของเซี่ยชิงหลี
่นี้ฝนเริ่มตกห่างๆ นั่นหมายความว่าอีกไม่นานฤดูฝนกำลังจะผ่านไป การเก็บเห็ดสนนี้ก็คงจบลงด้วยเช่นกัน ตอนนี้ตระกูลหลี่ทำเงินได้หลายร้อยตำลึง ทว่ายังไม่ได้แบ่งสันปันส่วนว่าใครจะได้เท่าไหร่ และเงินทั้งหมดเก็บอยู่ที่แม่เฒ่าโจว
“นี่!! หลี่ิเจ๋อ เ้ามานี่สักเดี๋ยวสิ”
ระหว่างทางขึ้นเขา จูเป่าเอ๋อกวักมือเรียกคู่หมั้นหนุ่มให้เข้าไปหาตน เซี่ยชิงหลีมองผู้หญิงคนนี้แล้วรู้สึกไม่ถูกตาเพราะคำพูดของนางในครั้งก่อน นอกจากนางแล้วบัดนี้แม้แต่ครอบครัวบ้านลุงรองที่เคยชมชอบนางก็มองจูเป่าเอ๋อเปลี่ยนไป เพราะการกระทำของนางในวันนั้น
“มีอะไรหรือ”
ชายหนุ่มถามคู่หมั้นสาวด้วยน้ำเสียงเ็า ท่าทางของเขาที่เปลี่ยนไปกลับไม่ทำให้หญิงสาวเอะใจแม้เพียงสักนิด กลับกันเพราะความอยากรู้อยากเห็นของนางทำให้มองข้ามสีหน้าเ็าของชายหนุ่ม
“ไม่มีอะไร ข้าแค่อยากรู้ว่าพวกเ้ากำลังจะไปไหนกัน”
คำถามนั้นของนางทำให้ความรู้สึกผูกพันั้แ่วัยเยาว์ของหลี่ิเจ๋อขาดสะบั้นลง ชายหนุ่มสะบัดกายเดินจากไปไม่ยอมตอบคำถามของนาง