“พวกเ้าเป็ยังไงบ้างทำไมอยู่ๆ ถึงเกิดลมกระโชกแรงและฝนตกแบบนี้ เ้ากบเขียวเ้าพอรู้สาเหตุ หรือไม่”
"มันเป็ปรากฏการณ์ธรรมชาติของป่าแห่งนี้ ต่อไปเ้าต้องระวังและศึกษา เวทอักขระในหนังสือโบราณเล่มนั้นให้รู้แจ้ง เพื่อที่เ้าจะได้ทำให้พรมของเ้าแข็งแรงกว่านี้ หรือเปลี่ยนรูปแบบเป็อย่างอื่นไปเลย ให้สามารถทนทานต่อดินฟ้าอากาศ เ้าต้องขยันเข้าใจหรือไม่อย่าให้ข้าต้องคอยบ่น"
เ้ากบเขียวพูดพร้อมกับทำเหลือบตาขึ้นไปมองบน ทำหน้าไม่แยแส มันเหมือนจะบอกว่านางโง่เองมีหนังสือไม่รู้จักเรียนวิชา ทั้งที่พวกคนใต้หล้าตามหายังไม่มีวาสนาได้เจอ นี่มันไม่ได้เลือกติดตามคนผิดใช่ไหม
ซีซีไม่สนใจเ้ากบนางมองพื้นที่ ที่พรมร่วงลงมา พวกนางตกลงมาระหว่างซอกเขาลึกกลางป่า
“น้องรองน้องเล็กเรามองหาที่พักคืนนี้เถอะ ช่วยกันมองหาถ้ำหลบฝนก่อน”
ขณะที่ทั้งสามพี่น้องมองหาถ้ำที่หลบฝนอยู่นั้น น้องเล็กที่ไม่ได้มองเท้าเดินสะดุดเข้ากับเถาวัลย์ หัวคะมำไปข้างหน้า พี่ทั้งสองคนใรีบตามไปคว้าน้องเล็ก แต่!ทั้งสามคนร่วงลงไปยังด้านล่างพื้นดินด้านล่าง
“น้องรองน้องเล็กพวกเ้าเป็ยังไงกันบ้าง” .
“ข้าปลอดภัยดีเ้าค่ะพี่ใหญ่ ” หลิวซิงร้องตอบ “ ข้าก็ปลอดภัยดีขอรับพี่ใหญ่ ”
“ข้าว่าน่าจะเป็อุโมงค์ พวกจะระวังตัวกันด้วย มีกลิ่นอับชื้นให้เอาถุงสมุนไพรกันแมลงพิษมาห้อยไว้ น้องรองเ้าหาเศษไม้แถวนี้มาจุดเป็ไฟส่องทาง ใช้ไฟจากปราณเยอะไม่ได้ระวังตัวกันด้วย อย่าเดินห่างกันเราต้องหาทางออกก่อน ที่เราตกลงมาเป็ทางแคบและค่อนข้างสูงปีนกลับลำบาก เดินหาทางออกก่อน ถ้าไม่เจอพวกเราค่อยก็จะกลับมาตรงนี้”
พวกนางพากันเดินเข้ามาลึกเรื่อยๆ ที่นี่เหมือนสุสานเก่าที่โดนปล้นไปแล้ว เจอแต่ซากปลัดหักพังถูกทำลาย ทุกอย่างว่างเปล่า แต่พวกนางก็ไม่ได้ลดระวังตัวลง แต่คนที่เข้ามาปล้นสุสานแห่งนี้เก่งพอตัว เพราะเหมือนจะมีกับดักมากมายแต่ก็ถูกทำลายไปจนหมด ทั้งสามเดินหาทางออกยังไม่เจอ ไม่มีแสงสว่างรอดออกมาจากจุดไหนเลย เดินมาจนสุดทางน้องเล็กเริ่มเหนื่อยแล้วจึงนั่งลงบนก้อนหินข้างผนัง
“พี่ใหญ่ข้าขอนั่งพักสักหน่อยนะเ้าค่ะ อากาศที่นี่ไม่ปลอดโปร่งข้ารู้สึกเหนื่อย”
“น้องเล็กน้องรอง นั่งพักเถอะพอหายเหนื่อยแล้วค่อยเดินหาทางออกต่อ ถ้าตรงนี้ไม่มีที่ออก เราคงต้องเดินย้อนกลับไปทางเดิมกัน”
น้องเล็กนั่งอยู่บนก้อนหิน พอหายเหนื่อยแล้ว นางนึกสนุกจึงะโลอยตัวจากก้อนหินลงมานั่งกับพื้น ทันใดนั้น
“ครืนนน!”
ผนังถ้ำเปิดออกเพราะน้องเล็กเอามือไปโดนกลไกอยู่ข้างหินตอนที่ะโลงมา ทั้งสามมองหน้ากัน และก้าวเข้าไปในห้องนั้นทันที ห้องนี้ไม่ได้อับชื้นอย่างที่คิดไว้ กับโล่งมันมีอากาศมาจากที่ไหนสักแห่งหนึ่ง มีกลิ่นหอมของไม้จัน มีโลงศพงดงามวิจิตราตั้งอยู่ตรงกลางห้อง
“พวกเ้าระวังตัวอย่าพึ่งก้าวเข้าไปใกล้โลงศพนั่น อาจมีกลไกลวางอยู่ดูเหมือนยังไม่มีใครเข้ามาในห้องนี้”
พวกที่มาขุดสุสานคิดว่าโดนปล้นไปหมดแล้ว พวกเขาอาจจะเจอโลงศพของนางข้าหลวงหรือองครักษ์ ที่วางโลงศพหลอกเอาไว้ด้านนอกและของเส้นไหว้ และสมบัติบางส่วนเช่นอัญมณีแก้วแหวนเงินทอง พอพวกมาปล้นสุสานเจอ เลยไม่มีใครเข้ามาถึงด้านใน
นางหยิบก้อนมาสามก้อน แล้วลองโยนไปข้างหน้า
“ปัก ฉึก ฉึก!” เป็อย่างที่คาดไว้ ลูกธนูนับร้อยถูกยิงออกมาจากผนัง ถ้าพวกนางเดินผ่านไปแล้วก็คงเหลือแต่ร่างที่ไร้ิญญา
“พี่ใหญ่รู้ได้ยังไงขอรับว่ามี กลไกวางอยู่”
นางจะบอกน้องชายยังไงดีว่าเคยอ่านหนังสือและดูซีรี่ย์มา ส่วนมากจะเป็แบบนี้
“ข้าสังเกตจากที่เราเดินผ่านมาทุกที่วางกลไกไว้หมด แต่คนที่มาปล้นสุสานทำลายมันได้ ในเมื่อเราเข้ามาที่พวกนั้นยังไม่เคยเข้ามา มันต้องมีบ้างอยู่แล้วน่าจะมีอีกหลายจุด พวกเ้ายืนอยู่กับที่อย่าพึ่งเข้ามาให้ พี่ใหญ่ทดสอบก่อน”
ซีซีโยนหินก้อนที่สองออกไป กระทบกับพื้น
“ครืน!” พื้นตรงนั้นยุบลงไปข้างล่างทันที
มีแมลงสีดำไต่ขึ้นมาจากหลุมยุบจำนวนมาก สัญชาตญาณของนางร้องะโบอกน้องทันที
“วิ่งหนีเร็ว!”
ทุกคนวิ่งออกมาจากในห้องอย่างว่องไว แต่ก็ช้ากว่าแมลงที่มีจำนวนมาก ที่แทรกซึมออกมาจากทุกจุด
“มันคือแมลงบ้าอะไรเนี่ย”
ทั้งสามหันหลังชนกันอยู่กลางห้อง แมลงสีดำล้อมเข้ามาเรื่อยๆ น้องรองน้องเล็กใช้ไฟจากปลายนิ้วมือ เพื่อขับไล่แมลง พวกมันชะงักเพียงครู่เดียวก็เดินหน้าเข้ามาต่อ
ซีซีคิดหาทางรอด โยนยาพิษไปหาพวกแมลง มันแค่ชะงักเท่านั้น “ทำไงดี ทำไงดี คิดไม่ออก แมลงเหล่านี้ไม่กลัวอะไรเลยมันทนทานแต่ว่ามันดูน่าขยะแขยงมาก มันจำนวนเยอะและเพิ่มปริมาณเข้ามา ”น้องเล็กตัวสั่นแต่นางก็ไม่กล้าร้อง
“เ้ากบเ้าอยู่ไหนมาช่วยพวกข้าด้วย”
เงียบไร้เสียงตอบ “ ถ้าข้าไม่รอดเ้าก็ไม่รอดอยู่ดีเ้ากบ จะตั้งอักขระก็ไม่ทันไม่มีอุปกรณ์อะไรให้ใช้เลย”
“ นี่ข้ายังตามหาพ่อแม่ไม่เจอยังเอาชีวิตตัวเองและน้องๆ มาทิ้งที่นี่รึ ไม่ได้! ไม่ได้เด็ดขาด ”
พวกแมลงสีดำเหมือน้าให้เหยื่อใกลัวก่อนแล้วค่อยกัดกิน มันหลอกล่ออยู่รอบๆและพากันเบียดเข้ามาทีละนิด ทีละนิด สามพี่น้องจากที่หันหลังชนกันกลายเป็กอดกันกลม
ซีซีคิด “ถ้ารอดชีวิตไปได้ข้าจะขยันหมั่นเพียรศึกษาให้มีวิชาจะได้ไม่ต้องกลัวสิ่งเหล่านี้ ”น้องรองกับน้องเล็กก็คิดเหมือนกัน
น้องรอง “ ถ้าข้าเก่งกว่านี้ข้าก็สามารถปกป้องพี่ใหญ่และน้องเล็กได้ข้ามันไม่ได้เื่จริงๆ ถ้าข้ารอดจากตรงนี้ไปได้ข้าจะขยันให้เป็สิบเท่า ”
แมลงสีดำหลายหมื่นตัว มันคงเบื่อล้อเล่นกับเหยื่อแล้วมันเดินเข้ามาพร้อมกัน
ซีซีถึงจะตายก็ขอสู้จนวินาทีสุดท้าย นางหยิบกริชออกมา น้องรองกวาดแกว่งกระบี่ น้องเล็กถือกระบี่ไม้ท้อแดง สามคนหันหลังชนกันอีกครั้ง
สู้ไปได้สักพักแมลงที่มีจำนวนเยอะกว่าพวกนางไม่สามารถต่อสู้กับมันได้ ทั้งสามแทบทรงตัวไม่อยู่ ดีที่ทุกคนกินยาแก้พิษเข้าไป หลิวหย่างโดนมันกัดที่หัวไหล่ กลิ่นของเืทำให้พวกมันบุกเข้ามาหนาแน่นขึ้น ในขณะที่ทั้งสามคนพี่น้องรู้สึกสิ้นหวังอยู่นั้น
“แผล็บ ๆ!!”
เสียงที่ดังขึ้น ทำให้ทั้งสามเงยหน้าขึ้นมองเห็นเ้ากบตัวเขียว ที่ขยายตัวใหญ่ กำลังตวัดลิ้นจัดการกับพวกแมลงสีดำพวกนั้น แมลงบางตัวเห็นเ้ากบพากันวิ่งหลบหนี วิ่งหนีกันหัวซุกหัวซุน
ทั้งสามคนพี่น้องเขาอ่อนทรุดลงกับพื้นหมดเรี่ยวแรง ซีซีนำโอสถเพิ่มพลังออกมาให้น้องทั้งสองและตัวเองกิน นางทำแผลให้น้องรอง น้องเล็กและนางไม่โดนกัดแต่โดนเล็บของมันกวนหลายที่เหมือนกัน
“เ้ากบเ้าหายไปไหนมาข้า เรียกหาเ้า .. เ้าก็เอาแต่เงียบ” ซีซีพูดไปด้วยความเหนื่อยอ่อน พวกนางเหมือนตายแล้ว เกิดใหม่จริงๆ
จากที่หมดหวังแล้วรอดมาได้ เ้ากบสีเขียวหลังจากจัดการกับพวกแมลงพวกนั้นแล้ว ก็หันมาคุยกับทั้งสามพี่น้อง
“ข้าก็เดินช่วยพวกเ้าหาที่พักหลบฝนไง ข้าเดินจนพบที่พักแล้วเดินกลับไปเรียกพวกเ้าแต่ไม่เจอ ข้าก็ออกตามหา ่ที่เ้าเรียกหาข้าอาจจะอยู่ไกลกันเกินไปทำให้สื่อสารกันไม่ได้ ข้าอยู่บนพื้นดินเ้าอยู่ในสุสาน ข้าเจอหลุมมีรอยคนร่วงลงมา ข้าเลยตามลงมาและมาช่วยพวกเ้าทันพอดี”
“ทันกับผีอะไรว่า ข้าแทบไม่รอดแล้ววันหลังเ้าต้องอยู่ในกระเป๋าข้าห้ามออกไปไหน”
“ซีซีถ้าเ้ามีสติกว่านี้เ้าน่าจะคิดออก คทาทำไมเ้าไม่นำออกมาสาปแช่งพวกมัน แล้วเ้าใช้กริชเล่มเดียวจะสู้อะไรพวกมันได้อย่างไร ต่อไปพวกเ้าทั้งสามพี่น้องต้องขยันฝึกฝนมากกว่านี้รู้ไหม”
เ้ากบพูดแล้วก็ทำหน้าหยิ่งยโส ยกหัวขึ้นตามองเพดาน ไม่สนใจว่านางจะคิดอะไร
“นี่ข้ามีสัตว์อสูรพันธสัญญาหรือว่ามีอาจารย์กันแน่ ”หลังจากนั้นเ้ากบก็หันหลังเดินเข้าไปในห้องที่พวกนางวิ่งออกมา
“พวกเ้าตามข้ามาในห้องนี้มีของดีอยู่” ทั้งสามคนวิ่งตามหลังเ้ากบไป มีเ้ากบอยู่พวกเขาก็อุ่นใจ
“เ้ากบข้าขอถามเ้าหน่อย เ้าแมลงสีดำพวกนั้นมันคือตัวอะไร แล้วเ้ากินมันไปจะไม่เป็อะไรรึหมือน พวกมันจะมีพิษนะ”
“ ข้าจะเป็อะไรได้กบก็กินแมลงอยู่แล้ว จะมีพิษหรือไม่มีพวกมันก็เป็อาหารของข้า ยิ่งมีพิษข้ายิ่งมีพลังมากขึ้น เ้าไม่สังเกตดูว่าสีของข้าเข้มขึ้น แมลงสีดำที่เ้าถามพวกมัน เป็แมลงกินซากศพ”
หลังจากซีซีได้ยินคำตอบแล้วรู้สึกขยะแขยงสัตว์พวกนี้มาก มันมีจำนวนเยอะและยั้วเยี้ยไปหมด นางและน้องคงฝันร้ายไปอีกหลายคืน
เ้ากบะโไปอยู่ข้างโลงศพ “ เ้าเปิดดูว่าข้างในมีอะไรข้ารู้สึกได้ว่ามีของดีอยู่ในนี้”
หลิวหยางอาสาเป็ผู้เปิดโลงศพ น้องเล็กยืนถือกระบี่ท้อแดงอยู่ใกล้ๆ โลงศพที่คงอยู่มาหลายพันปีแล้ว ไม่รู้ว่าเป็ของใครกษัตริย์ยุคไหน นางยืนมองอยู่ใกล้ๆ ไม่มีการเขียนชื่อหรือจารึกไว้ข้างโลงศพ แต่ดูจากความวิจิตรตระการตาของโลงศพ คงเป็ของจักรพรรดิสักสมัยใดสมัยหนึ่ง
เ้ากบได้บอกหลิวหยาง “เวลาเปิดโลงศพแล้วห้ามดูศพให้รีบถอยออกมาก่อนเผื่อพลังงาน ที่สะสมไว้นานอยู่ในโลงศพนั้น ”หรือก็คืออากาศพิษนั่นเอง
น้องรองทำตามคำแนะนำของเ้ากบ เมื่อผลักโลงศพออกแล้วรีบถอยออกมา รอสักพักหนึ่งไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งสามคนจึงเดินเข้าไปดูโลงศพใกล้ๆ
ในโลงศพไม่เหลืออะไรแล้วแม้แต่กระดูก จะมีก็แต่มงกุฎแหวนและสร้อย ที่วางอยู่ตำแหน่งหน้าอกชุด ที่ขาดยุ้ยและมีดาบวางอยู่ใกล้ๆ
“พี่ใหญ่พี่รอง ข้าไม่อยากให้ในอนาคตพวกเราต้องเสียชีวิตลง แล้วนอนแบบนี้มันดูอ้างว้างเดียวดาย พวกท่านสัญญากับข้าได้ไหมว่า พวกเราจะบำเพ็ญเพียรถึงขั้นเป็เซียนที่มีอายุเป็ะ”น้องเล็กพูดด้วยเสียงเศร้าสร้อยพร้อมน้ำตาคลอ
“พี่รองกับพี่ใหญ่จะพยายามมาสุดความสามารถให้พวกเราสามารถอยู่ด้วยกันนานที่สุด หลายพันปีเ้าพอใจหรือไม่” น้องเล็กพยักหน้ายิ้มทั้งน้ำตา ซีซีเห็นแบบนั้นจึงกอดน้องเล็กไว้ในอ้อมแขน
"น้องเล็กของเราน่ารักที่สุด "
“ไหนๆ ก็บุกมาถึงนี่แล้ว เ้าของร่างคงไปเกิดนานแล้วสมบัตินี้พวกเ้าก็เอาไปเถอะ พวกเ้าเกือบตายเพราะศพ ยืดเป็สินาไปเลย อีกอย่างถ้าเ้าของหวงสมบัติ จะต้องทิ้งเสี้ยวจิตไว้คอยดูแลร่างนี้ นี่แสดงว่ามันนานมาแล้วจนเ้าของร่างไปเกิดใหม่แล้ว”
ได้ยินดังนั้นทั้งสามคนจึงไปเลือกสมบัติ โดยน้องรองเลือกกระบี่ น้องเล็กชอบสิ่งสวยงามจึงเลือกมงกุฎ นางเป็คนเลือกคนสุดท้าย ที่ได้ไปก็คือแหวนและสร้อยคอ หลิวหยางชอบกระบี่มาก
“นี่คือกระบี่ดีเพราะอยู่ที่นี่มาหลายพันปีมันดูดซับพลังงานที่อยู่แถวนี้เข้าไปเยอะ หยดเืใส่ของเ้าลงบนกระบี่”เ้ากบให้หลิวหยางหยดเืลงกระบี่ กระบี่ที่ดูเก่าแก่กลับเปล่งประกายออกสว่างจ้า เขาดีใจมากที่ได้กระบี่จักรพรรดิมาเป็อาวุธคู่กายเขาจับกระบี่ชี้ขึ้นแล้ว ร่ายรำกระบี่ที่ร่ำเรียนมาจากเขานกกระเรียนได้อย่างอ่อนช้อยและเข้มแข็งในตัว
หลังจากนั้นเ้ากบได้เดินนำทางพวกเด็กๆ ออกมาจากสุสาน แต่ไม่ใช่ทางเดิมเ้ากบพาเดินเลาะมาเจอกับต้นไม้นานาพรรณที่แข่งกันออกดอกออกผลเต็มไปหมด
“เ้ากบที่นี่ที่ไหนเ้าแน่ใจนะว่าไม่ได้ พาพวกข้าหลงน่ะ”
“ไม่ได้หลงแต่ข้าก็ไม่รู้ว่าที่นี่คือที่ไหนเหมือนกัน มันดูสว่างจ้าพวกเ้าเข้าไปอยู่ในสุสานนานเท่าไหร่”
“ตอนเราร่วงลงไปพวกเรากำลังมองหาที่หลบฝนและที่พัก นี่แสดงว่าเราเดินอยู่ในสุสานหนึ่งคืน ไม่น่าข้ารู้สึกหมดแรงขนาดนี้ ที่นี่ดูอากาศดีมากพลังปราณก็เข้มข้น แถมผลไม้มีเยอะให้เราเลือกกิน พวกเราหาที่พักแล้วนั่งโคจรพลังกันที่นี่กันเถอะ”
ทั้งสามคนหาที่พักได้แถวบริเวณนั้น ซีซีกางกระโจมเวทอักขระและจัดการพื้นที่อีกเล็กน้อย น้องและน้องเล็กช่วยกันหาฟืนและเก็บผลไม้มาอย่างละพล ต้องเอามาให้พี่ใหญ่ดูก่อนว่าทานได้หรือไม่ ถ้าผลไม้ใดที่มีแสงออกมา แสดงว่าทานได้พวกเด็กทั้งสองมองไม่เห็น มีแต่พี่ใหญ่เท่านั้นที่มองเห็นแสง
