ผลจากการสอบสวนของซ่างกวนฟูเหรินทำให้กูเฟยเยี่ยนรู้สึกประหลาดใจมาก
ระยะเวลาเพียงแค่ครึ่งวัน ซ่างกวนฟูไม่เพียงแค่ทำให้ซ่างกวนเทาสารภาพเื่ราวทุกอย่างออกมาได้ แต่ยังสารภาพถึงที่อยู่ของซ่างกวนยิงหงอีกด้วย
ที่แท้ซ่างกวนยิงหงก็คือญาติห่างๆ ของซ่างกวนเทา หลังจากที่ออกมาจากห้องยาสำนักหมอหลวงก็หลบซ่อนตัวอยู่นอกชานเมืองจิ้นหยางมาโดยตลอดเพื่อรอคำสั่งการของเขา
คนรับใช้ยื่นตั๋วเงินจำนวนหนึ่งให้กูเฟยเยี่ยนพลางกล่าวด้วยความเคารพนอบน้อม "ศาสตราจารย์แพทย์กู นี่คือสิ่งที่ฟูเหรินให้ข้าน้อยนำมาส่งคืน ฟูเหรินกล่าวว่าคนของผู้ใดผู้นั้นก็ไปจัดการเอง ท่านจะไม่ขอตัวเวินอวี่โหรวกับซ่างกวนยิงหงจากท่านแล้ว"
กูเฟยเยี่ยนรับตั๋วเงินสามแสนเ่าั้มาอย่างมีความสุข หญิงสาวจึงกล่าวโดยหัวเราะว่า "วางใจได้ ข้าจะจัดการให้เรียบร้อยเอง! "
หลังจากที่ส่งคนรับใช้ออกไป กูเฟยเยี่ยนก็ให้เหมยกงกงทูลรายงานผลลัพธ์ของเื่นี้ต่อเทียนอู่ฮ่องเต้โดยการส่งจดหมายผ่านนกพิราบไปที่เมืองจิ้นหยาง และแนะนำให้ส่งมอบคดีนี้ให้ศาลต้าหลี่จัดการ นางไม่้าจัดการเื่เช่นนี้ด้วยตนเอง การที่ให้เทียนอู่ฮ่องเต้รับสั่งให้ศาลต้าหลี่เป็ผู้จัดการลงโทษเพราะประการแรกคือการส่งสัญญาณเตือนผู้ที่หลงเหลืออยู่ในห้องยาสำนักหมอหลวง ประการที่สองคือ้าให้ตระกูลฉีกับเสนาบดีหน่วยทหารดูว่าถ้า้าหาเื่นาง ไม่มีทาง!
หลังจากที่จัดส่งหนังสือเร่งด่วนเรียบร้อยแล้ว กูเฟยเยี่ยนจึงครุ่นคิดภายในใจ อีกไม่กี่วันเวินอวี่โหรวน่าจะร้องไห้ เพียงแต่ว่าสำหรับบุคคลเช่นเวินอวี่โหรวแล้ว นางี้เีเสียเวลาไป “ให้ความสนใจ” สิ่งที่นางมีความสนใจมากยิ่งกว่าก็คือ…ปิงไห่!
กูเฟยเยี่ยนถือตั๋วเงินสามแสนเ่าั้เดินไปมาบริเวณทางเดินของโรงเตี้ยมพลางคิดหาวิธี ไม่ทราบว่าทำไมภายในใจของหญิงสาวราวกับลูกศรที่พุ่งตรงอยากจะกลับบ้าน นางแทบอยากจะออกไปตามหาม้าเพื่อตรงไปที่ปิงไห่ทันที
เมื่อไม่กี่วันก่อนกูเฟยเยี่ยนสอบถามเด็กในโรงเตี้ยมเรียบร้อยแล้ว เด็กในโรงเตี้ยมกล่าวว่าให้ตรงไปทางประตูตอนใต้ของเมืองลั่วเสีย ข้ามผ่านที่ราบสูงไปก็จะพบกับทะเลน้ำแข็งปิงไห่ และเมื่อยืนอยู่บนที่ราบสูงก็สามารถมองเห็นทะเลน้ำแข็งทั้งหมดได้ นอกจากนี้เขายังกล่าวอีกว่าจากเมืองลั่วเสียไปยังปิงไห่อย่างเร็วต้องใช้เวลาหนึ่งคืนจึงจะไปถึง
กูเฟยเยี่ยนคิดไปคิดมา สุดท้ายจึงตัดสินใจออกเดินทางในค่ำคืนนี้ ดังนั้นนางจึงเดินไปเคาะประตูห้องของเหมยกงกง
เหมยกงกงกำลังจะไปหานางเพื่อเจรจาถึงเื่ของการออกเดินทางกลับไปยังเมืองจิ้นหยาง ครั้นเห็นนางมาหาจึงรีบเชิญเข้ามาในห้อง “ศาสตราจารย์แพทย์กู ครั้งนี้ท่านได้สร้างผลงานอันยิ่งใหญ่! เหล่านู๋เขียนจดหมายทูลรายงานฝ่าาทั้งหมดแล้ว”
กูเฟยเยี่ยนฟังออกว่านี่คือการแย่งเอาความดีความชอบของผู้อื่นมาเป็ของตน หญิงสาวจึงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “นี่เป็เื่ของห้องยาสำนักหมอหลวงอยู่แล้ว ดังนั้นจึงเป็หน้าที่ของข้า เพียงแต่…ข้าทำให้ฝ่าาสูญเสียเงินจำนวนสามแสนเหรียญทองไปโดยเปล่าประโยชน์ เฮ้อ ไม่รู้ว่าฝ่าาจะเกิดโทสะหรือไม่? ”
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา ดวงตาแก่ชราที่อ่อนเพลียของเหมยกงกงก็สว่างไสวขึ้นในทันใด
คำพูดของกูเฟยเยี่ยนคือจะช่วยเขาในเื่ของสวัสดิการอย่างไม่ต้องสงสัย! กูเฟยเยี่ยนเอ่ยมาขนาดนี้แล้วแสดงว่าหลังจากที่กลับไปนางจะไม่ทูลรายงานต่อฝ่าาว่าหอการค้าเสวียนคงได้คืนเงินจำนวนสามแสนเหรียญทองมาแล้ว ซึ่งกล่าวได้อีกนัยหนึ่งว่า กูเฟยเยี่ยนคืนเงินจำนวนสามแสนให้กับจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ย เมื่อกลับไปแล้วเขายังสามารถขอเงินจำนวนนี้กับฝ่าาได้!
กล่าวได้อีกนัยหนึ่งว่ากูเฟยเยี่ยน้าติดสินบนเขา!
จำนวนเงินสามแสนนั้นไม่ใช่ตัวเลขน้อยๆ เลย! เหมยกงกงรู้สึกเบิกบานใจ แต่ก็มีความระมัดระวัง “ศาสตราจารย์แพทย์กู ท่านจะ…”
กูเฟยเยี่ยนยิ้มแย้ม “พวกเราต่างก็ทำงานให้กับฝ่าา วันข้างหน้าก็ต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ฝ่าาระแวงข้ามาโดยตลอด ซึ่งเป็ธรรมดาของมนุษย์อยู่แล้ว ข้าจึงหวังว่าในวันข้างหน้าเหมยกงกงจะช่วยข้าพูดจาบ้าง”
เหมยกงกงกังวลว่ากูเฟยเยี่ยนจะหยิบยกเื่อื่นขึ้นมา แต่เมื่อได้ยินนางเอ่ยเช่นนี้ เขาทั้งดีใจและปีติยินดีเป็อย่างยิ่ง! กูเฟยเยี่ยนเห็นแสงสว่างในดวงตาของเขา แต่ตัวเขานั้นเห็นว่ากูเฟยเยี่ยนกำลังเปล่งประกาย
เหมยกงกงพยักหน้าอย่างรวดเร็ว “แน่นอน แน่นอน! ศาสตราจารย์แพทย์กูวางใจได้เลย ถึงแม้ว่าสามแสนเหรียญทองจะไม่ใช่ตัวเลขน้อยๆ ทว่าเหล่านู๋มีวิธีโน้มน้าวฝ่าา ฝ่าาจะไม่เกิดโทสะอย่างแน่นอน”
จากอุปนิสัยของจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ย เป็ไปไม่ได้ที่พระองค์จะกล่าวถึงรายละเอียดเหล่านี้กับฝ่าาอีกครั้ง อีกทั้งกูเฟยเยี่ยนดำเนินการได้อย่างงดงาม ฝ่าาสำราญใจมาก ดังนั้นพระองค์จะไม่ถือสาจำนวนเงินตรงนี้ ถ้าเขาโน้มน้าวอีกเล็กน้อย เื่นี้ก็น่าจะเรียบร้อย
ดวงตาของกูเฟยเยี่ยนทอประกายถึงแผนการร้าย หญิงสาวเอ่ยด้วยรอยยิ้มอีกครั้ง “เหมยกงกง ครั้งนี้พวกเราต่างก็ทำงานหนักกันแล้ว พวกเราไปดื่มฉลองกันดีหรือไม่? ”
เหมยกงกงอารมณ์ดีมากจึงตอบตกลงโดยไม่แม้แต่จะคิด กูเฟยเยี่ยนสั่งกับแกล้มและสุราชั้นยอดหลายเหยือกมาส่งที่ห้อง และฉวยโอกาสที่เหมยกงกงไม่ได้สังเกต ใส่ยานอนหลับเข้าไปในสุรา
ผ่านไปไม่นานเหมยกงกงก็หมดสติไป หญิงสาวจัดแจงเหมยกงกง จากนั้นจึงออกไปซื้อม้าและพุ่งตรงไปยังปิงไห่! ยานอนหลับของนางสามารถทำให้เหมยกงกงหมดสติได้เพียงแค่สามวันเท่านั้น นางจะต้องกลับมาภายในสามวัน กูเฟยเยี่ยนคำนวณเอาไว้เรียบร้อยแล้วว่าจะออกเดินทางตลอดทั้งคืนนี้ รุ่งสางวันพรุ่งนี้ก็จะไปถึงที่ปิงไห่ และอย่างช้าจะต้องเดินทางกลับมาตอนพลบค่ำในวันมะรืน
ม้าวิ่งตรงไปอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ออกมาจากประตูทางตอนใต้ของเมืองลั่วเสีย กูเฟยเยี่ยนก็สะบัดแส้แรงกว่าเดิม หญิงสาวแทบจะ้าให้ม้ามีปีกงอกออกมาโผบินสยายขึ้นสู่ฟากฟ้า นางไม่ได้สังเกตเห็นเลยว่าหมางจ้งเฝ้าติดตามมาโดยตลอด
หมางจ้งเฝ้าติดตามและคลางแคลงใจมาตลอดทาง จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยให้เขาอยู่ที่นี่เพราะไม่วางใจปล่อยให้กูเฟยเยี่ยนอยู่ในเมืองลั่วเสียตามลำพัง และสงสัยว่ากูเฟยเยี่ยนจะเดินทางลงสู่ใต้เพื่อไปที่ปิงไห่ ซึ่งบัดนี้ดูเหมือนว่าข้อสงสัยของจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยจะถูกต้องแล้ว
สิ่งที่เขาไม่เข้าใจคือกูเฟยเยี่ยนเป็สตรี นางจะมีความสนใจในทะเลน้ำแข็งปิงไห่ได้อย่างไร? นี่ไม่ใช่แค่เื่ของความกล้าหาญแล้ว นี่มันคือความทะเยอทะยานชัดๆ !
ด้วยเหตุนี้หมางจ้งจึงไล่ตามมาตลอดทาง กูเฟยเยี่ยนไม่ได้พักผ่อนตลอดทั้งคืน นางรีบเร่งเดินทางโดยที่ไม่หยุดแม้แต่วินาทีเดียว ด้วยความเร็วเช่นนี้ หมางจ้งยังเหนื่อยเหลือทน แต่หญิงสาวกลับไม่เหนื่อยเลย ยิ่งเข้าใกล้ปิงไห่มากเพียงใด นางก็ยิ่งมีเรี่ยวแรงมากยิ่งขึ้น
ในที่สุด่เวลาฟ้าสางกูเฟยเยี่ยนก็มาถึงที่ราบสูงทางตอนใต้ของดินแดนเสวียนคง หญิงสาวดึงบังเหียนม้าหยุดอยู่ที่ยอดเขาพลันปิดเปลือกตาลง นางดึงสายบังเหียนแน่น หัวใจที่เต้นระรัวแทบจะเด้งออกมาจากหน้าอก นางประหม่ามากจนถึงหวาดกลัวเล็กน้อยแต่ก็ไม่ทราบว่าตนเองหวาดกลัวสิ่งใด ความรู้สึกนี้ราวกับว่าเกิดอารมณ์ความคิดถึงบ้านที่จากมาไกล
กูเฟยเยี่ยนเงยใบหน้าขึ้นมาเงียบๆ ปล่อยให้ลมหนาวจากทะเลน้ำแข็งพัดพาปะทะใบหน้า สายลมนี้ไม่เพียงแค่พัดพาความเย็นจากทะเลน้ำแข็ง แต่ยังพัดพากลิ่นของยาพิษมาอีกด้วย
นางรับััด้วยความจริงจังเพราะไม่คุ้นเคยกับพิษชนิดนี้และคิดสิ่งใดไม่ออกเลย
"ทะเลน้ำแข็ง...ปิงไห่..."
กูเฟยเยี่ยนพึมพำออกมา ในที่สุดก็รวบรวมความกล้าลืมตาทอดมองไปไกล ยามนี้ดวงอาทิตย์กำลังจะโผล่พ้นขึ้นมา แสงอรุณเจิดจ้า ฟากฟ้าสีครามเข้ม
แสงอรุณยามดวงอาทิตย์ขึ้นสู่ฟากฟ้า เวหาสีครามเมฆาสีขาว
งดงามเหลือเกิน ทว่าภายใต้ความงามเช่นนี้กลับมีความมืดมิดไร้ขอบเขต สิ่งที่พบเห็นมีเพียงแค่สีดำที่ปกคลุมไปทั่วพื้นผิวทะเลน้ำแข็งประหนึ่งว่าได้รับคำสาปมืดมน สถานที่แห่งนี้คือโลกที่แม้แต่แสงอาทิตย์ก็ส่องสว่างไปไม่ถึง จึงทำให้ผู้คนเกิดความหวาดกลัวและไม่กล้าเข้าใกล้
น่านน้ำที่ไร้ขอบเขตนั้นคือทะเลน้ำแข็งปิงไห่ใช่หรือไม่?
ทว่าทะเลน้ำแข็งปิงไห่ที่อยู่ในฝันร้ายของนางมาั้แ่วัยเด็กไม่ได้เป็เช่นนี้! ปิงไห่ที่อยู่ในฝันร้ายของนางคือทะเลน้ำแข็งที่มีพื้นผิวแวววาวโปร่งแสง สะท้อนฟากฟ้าสีครามปุยเมฆสีขาวราวกับกระจกแห่งท้องฟ้า!
ที่แท้สภาพความเป็จริงนั้นน่ากลัวยิ่งกว่าฝันร้ายเสียอีก
กูเฟยเยี่ยนพุ่งลงทางใต้ด้วยแรงสุดกำลัง โดยหวังว่าจะมองเห็นชายฝั่งทางใต้ของทะเลน้ำแข็ง แต่น่าเสียดายที่นางมองไม่เห็น
ในความกว้างไกลมีเส้นแบ่งสีขาวดำระหว่างทะเลกับท้องฟ้าอย่างชัดเจนจนเหมือนว่าเป็จุดจบของทุกสิ่งและสุดขอบโลก
กูเฟยเยี่ยนเหม่อมองด้วยความตกตะลึง หญิงสาวรู้สึกคุ้นเคยในความไม่คุ้นเคย ศีรษะก็เริ่มบังเกิดอาการปวด ราวกับว่าเคยประสบกับฝันร้ายที่รู้จักดีแต่ก็ไม่คุ้นเคยอีกครั้ง
กูเฟยเยี่ยนส่ายศีรษะเพื่อให้ความสมองของตนเองปลอดโปร่งขึ้นมาเล็กน้อย ไม่ช้าก็สะบัดแส้ม้าพุ่งลงไป...