อ่าาาาาส์ ได้โปรดอย่าเบามือ (ฉบับสาวไอดอลขี้เ .. า)

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     ข้อความแรกที่ฉันได้รับจากผู้ติดต่อของฉันที่ไม่ได้อัปเดตอะไรเลยใน๰่๥๹ไม่กี่วันมานี้คือ [OK?] และ [YES]

        คนที่ส่งมาคือคนที่ฉันเปลี่ยนชื่อเล่นเป็๞ 'ยาชิมะ' หรือก็คือบุคคลผู้ทำข้อตกลงลับๆ กับฉันนั่นเเหละ

        หลายวันผ่านไปในชั่วพริบตา นับ๻ั้๹แ๻่ครั้งสุดท้ายที่ฉันนัดกับโยตะว่าจะทำอาหารให้ ฉันก็ยุ่งมากจนไม่มีเวลาเลย ไหนจะกังวลอีกที่เขาอาจคิดว่าฉันกลัวจะติดต่อไป เพราะฉันไม่อาจทำเ๱ื่๵๹ที่คุยโม้ไปได้

        สุดท้ายฉันก็มีวันหยุดเต็มวันเสียที พอฉันตื่นเมื่อไหร่ ก็ส่งข้อความไปหาโยตะทันที

        เมื่อเห็นคำตอบตกลงจากโยตะแล้ว ฉันก็ส่งอิโมจิรูปข้าวกับพระอาทิตย์ตกกลับไป โดยหวังให้เขาเข้าใจว่า มันคือรหัสบอกว่าฉันกำลังเตรียมอาหารเย็นให้เขาอยู่

        จนกระทั่งเขาตอบว่า [YES] เป็๞ครั้งที่สอง ฉันจึงออกไปซื้อวัตถุดิบจำเป็๞ที่ซูเปอร์มาร์เก็ตด้วยใจที่เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ 

        แม้ฉันกับแม่มักจะไปตลาดสดตอนที่เป็๲เด็กอยู่บ่อยๆ แต่ถ้าให้ไปที่ตลาดสดแล้วละก็ฉันจะแต่งตัวเล็กๆ ไปเดินในซูเปอร์มาร์เก็ตดีกว่า เพราะมันดูไม่โดดเด่นเท่าไหร่

        ในเมื่อฉันเป็๞คนดังด้วยแล้ว ข่าวอาจแพร่สะพัดไปตามท้องถนนอย่างรวดเร็ว ฉันเลยยังไม่กล้าพอที่จะไปเดินตลาดสด

        อีกอย่างวันนี้เป็๲วันหยุด การแต่งตัวให้เหมือนนักเรียนออกไปซื้อของคงช่วยกลบตัวตนได้เหมาะ 

        หลังจากเลือกวัตถุดิบตามที่จดไว้ และตรวจดูจนแน่ใจแล้วว่าไม่มีสิ่งใดขาดเหลือ ฉันก็ใช้เวลาตลอดทั้งบ่ายในการเตรียมส่วนผสมอาหารอย่างละเอียด

        นี่เป็๲เวลานานมากเลยล่ะที่ฉันปล่อยให้คนอื่นที่ไม่ใช่ตัวเองรู้ว่า ฉันทำอาหารเก่งแค่ไหน ฉันมีความสุขจนแทบรอไม่ไหวแล้วที่จะได้เห็นปฏิกิริยาของโยตะ

        ฉันเชื่อว่าฝีมือการทำอาหารของตัวเองที่แม้แต่แม่ยังชื่นชม จะต้องได้รับการยกย่องชูเกียรติจากเขาเป็๞แน่

        เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว ฉันก็ยกภาชนะใส่อาหารและกระติกน้ำร้อน แล้วไปกดกริ่งประตูที่ห้องโยตะ

        แน่นอนว่าเสื้อผ้าของฉันก็เลือกอย่างพิถีพิถันเช่นกัน  เรียกได้ว่าเก็บทุกรายละเอียดจริงๆ

        โยตะใช้เวลามาเปิดประตูนานกว่าที่คิด ฉันเริ่มรู้สึกกังวลแล้วว่าเขาลืมไปแล้วหรือเปล่า แต่ฉันที่จำได้ว่าเขาตอบกลับข้อความมาแล้ว จึงเชื่อว่าเขาจะไม่ผิดนัดแน่นอน

        หลังจากรออยู่นาน โยตะที่สวมชุดอยู่บ้านแบบเรียบง่ายก็มาเปิดประตู

        ผมของเขาดูยุ่งเหยิงและรุงรังกว่าตอนไปเรียนนิดหน่อย  ตอหนวดที่คางของเขาก็มองเห็นได้ชัด แล้วการที่ฉันจ้องมองไปทุกส่วนของเขา ดูเหมือนจะเตือนฉันอยู่ครั้งแล้วครั้งเล่าว่าเขาอารมณ์ไม่ดี 

        “โยตะ นายเพิ่งตื่นเหรอ?”

        “ใช่แล้ว ฉันงีบหลับไปตอนบ่าย”

        “ดีเลย ฉันกลัวว่านายจะหลับไม่ค่อยพอ”

        "เพราะงั้นฉันถึงต้องใช้ประโยชน์จากวันหยุดนี้ เพื่อนอนหลับพักผ่อน"

        “เอาอาหารไปวางบนโต๊ะเลยดีไหม?”

        “อืม”

        ฉันวางภาชนะใส่อาหารลงบนโต๊ะทีละอย่าง  โดยที่เขาไม่ได้มาช่วยสักนิด แถมยังเดินไปหยิบเสื้อผ้า แล้วเดินตรงแหน็วไปที่ห้องน้ำด้วย

        อยู่ๆ เสียงน้ำก็ดังมาจากข้างใน และตามมาด้วยเสียงมีดโกนหนวดไฟฟ้าที่ลอดออกมาจากประตูที่เปิดอยู่ ฉันจึงถามโยตะที่อยู่ในห้องน้ำไป

        "ฉันใช้ถ้วยจานได้ทุกชิ้นเลยไหม?"

        “แล้วแต่เธอ… ฉันขออาบน้ำก่อน”

        เพราะเขากำลังจะอาบน้ำอยู่ เสียงจึงค่อนข้างอู้อี้

        หลังจากได้รับอนุญาตแล้ว ฉันจึงหยิบจานและช้อนส้อมที่ดูเหมือนไม่ได้ใช้มานานออกมา และไม่ต้องเป็๲ห่วง ฉันล้างมันก่อนจะวางลงบนโต๊ะแน่นอน

        เมื่อฉันจัดการทุกอย่างเรียบร้อยและพร้อมที่จะเริ่ม โยตะที่เพิ่งออกมาจากห้องน้ำก็จัดการตัวเอง และเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยแล้วเหมือนกัน

        เขาดูกระฉับกระเฉงกว่าเดิม และใบหน้าก็สดชื่นขึ้นมาก แต่สิ่งที่แตกต่างไปจากปกติคือ ผมอันยุ่งเหยิงที่ยังไม่ได้จัดทรงของเขา

        แต่การได้เห็นเขาที่ค่อนข้างเป็๞กันเองกับฉันแบบนี้ ก็รู้สึกยิ้มออกมาได้อย่างสบายใจ

        “ฉันว่านายน่าจะล้างมือแล้วแหละ มาเริ่มมื้อเย็นกันเลยมั้ย?”

        “อืม… ยังไงก็ได้”

        ฉันแสดงท่าทีอวดอาหารบนโต๊ะที่ไม่ว่าจะเป็๲ ข้าวผัดผัก เกี๊ยวทอด หรือซุปมิโซะ ที่ล้วนเป็๲อาหารจานโปรดที่ทำเองได้ที่บ้าน

        "... หอมจัง"

        "ฮึ่ม… เดี๋ยวนายก็รู้ว่ามันไม่ใช่แค่กลิ่นเท่านั้น"

        "ทานละนะ"

        ฉันหยิบตะเกียบขึ้นมาแล้วประสานมือเข้าด้วยกัน ส่วนโยตะก็ทำเหมือนกัน

        เสียงของเราแทบจะดังพร้อมกัน และไม่นานเราก็ลงมือ

        "เดี๋ยวนะ"

        "มีอะไรเหรอ?"

        หลังจากที่โยตะซดซุปมิโซะ ตักผักใส่จาน แล้วตักข้าวเข้าปาก ปฏิกิริยาแรกที่ฉันได้รับนั้นไม่ใช่คำชม

        เขากลับนั่งมองดูจานบนโต๊ะ ด้วยสีหน้างุนงงสับสนอย่างเห็นได้ชัดผ่านใบหน้าของเขา

        "รสชาติดีกว่าที่คิดไว้มาก"

        “เอ่อ... ฉันก็คิดว่ารสชาติไม่เลวนะ แต่ปฏิกิริยาของนายมันดูเว่อร์ไปหน่อยมั้ย?”

        “รสชาติ… แตกต่างจากที่คิดไว้”

        “ฮะๆ หนุ่มน้อยโยตะ ก็ฉันใช้กระเทียมที่เหลือจากเกี๊ยวทอดมาทำซุป หรือก็คือซุปมิโซะกระเทียมนั่นเเหละ”

        โยตะที่ไม่ได้สนใจคำอธิบายของฉัน กลับไปจิบซุปร้อนๆ อีกครั้ง และส่งเสียงที่ดูเหมือนจะอร่อยมากๆ ออกมา

        ขณะที่ฉันยังรู้สึกตื้นตันกับคำชมของเขา จู่ๆ ฉันก็เข้าใจความหมายที่ซ่อนอยู่ในคำพูดของเขา

        “เดี๋ยวนะ...โยตะ ตอนแรกนายคิดว่ารสชาติมันจะแย่เหรอ?”

        “ฉันไม่ได้พูดแบบนั้นซะหน่อย”

        “แต่นายอาจจะคิดอย่างนั้น… ฉันเข้าใจละ”

        แม้ว่านิสัยที่ไม่ดีของโยตะจะทำให้อารมณ์ของฉันขุ่นมัวไปชั่วขณะหนึ่ง แต่การได้เห็นเขากินด้วยความพึงพอใจ ก็ช่วยให้ฉันอารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง

        ตอนแรกฉันกลัวว่าจะกินไม่หมด จึงขยับตะเกียบให้เร็วขึ้น เพื่อให้ตัวเองกินได้มากขึ้น

        แต่เมื่อเห็นว่าโยตะกินเกี๊ยวและผักมากกว่าที่คาดไว้ ฉันก็ไม่อาจซ่อนรอยยิ้มอันพึงพอใจบนหน้าไว้ได้

        “เธอยิ้มได้น่ารังเกียจมาก”

        “หืม จริงเหรอ? ไม่เป็๞ไรหรอก เพราะตอนนี้ฉันมีความสุขจริงๆ”

        ฉันพอเข้าใจแล้วว่า ปฏิกิริยาจากใจจริงของโยตะนั้น ทำให้ฉันมีความสุขมากกว่าคำพูด

        นี่มันดีกว่าที่คาดไว้เสียอีก นอกจากซุปมิโซะที่เตรียมไว้มากเกินไป  โยตะก็กินทุกอย่างหมดจนไม่เหลือ

        "อร่อยไหม?"

        "..."

        ฉันวางตะเกียบลงแล้วเอามือเท้าคาง คอยชื่นชมท่าทางที่อิ่มเอมของเขา

        สำหรับคำถามของฉันที่ดูเหมือนจะเป็๞การประกาศชัยชนะ  โยตะก็ก้มมองลงไปที่ชามเปล่าบนโต๊ะ และไม่ตอบฉัน

        แต่หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ฉันก็ได้ยินคำชมจากใจจริงของเขา

        “อืม… รสชาติก็ไม่เลวนะ”

        "อาหารเหล่านี้ดีต่อสุขภาพมากกว่าที่นายกินตามปกติมาก  และรสชาติก็อร่อยด้วย จริงมั้ย?"

        “เธออยากจะพูดอะไรอีก?”

        “ถ้าฉันมีเวลาว่างสักวัน ฉันจะทำอย่างอื่นมากินด้วยกัน”

        "ยังไงก็ได้"

        “ฮิฮิ... งั้นขอยืมครัวนายล้างจานหน่อยนะ”

        ฉันจัดภาชนะบนโต๊ะอาหารทีละชิ้น และนำพวกภาชนะที่นำติดตัวมาด้วยไปที่อ่างล้างจาน แต่โยตะกลับลุกขึ้นก่อน และคว้าทุกๆ อย่างบนโต๊ะอาหารทั้งหมดไปจากมือของฉัน

        “ฉันล้างเอง”

        เขานำพวกมันทั้งหมดไปวางลงในอ่างล้างจานอย่างระมัดระวัง

        เนื่องจากเขาเป็๲คนที่ค่อนข้างสูง จึงดูตลกเล็กน้อยในตอนที่เขากำลังล้างจานอยู่เงียบๆ

        ฉันรู้ว่าคงไม่มีใครได้เห็นเขาในมุมมุมนี้ ฉันจึงถือโอกาสนี้ผุดรอยยิ้มอันสดใสออกมา

        “ล้างจานเสร็จ ยังมีแอปเปิลสดๆ ให้กินอีกนะ”

        “อืม”

        “แอปเปิลน่ะช่วยให้สดชื่นด้วยนะ วันนี้นายไม่จำเป็๲ต้องดื่มเครื่องดื่มชูกำลังเลย”

        "ขอคิดดูก่อน"

        ฉันรู้สึกมีความสุขเหลือเกินที่ได้แบ่งปันสิ่งต่างๆ ที่มากกว่าแค่การมีความสัมพันธ์ลับๆ สิ่งเหล่านี้ฉันไม่เคยแบ่งปันให้กับใครสักคนเลย

        ฉันต้องยอมรับว่านอกจากภายนอกที่ฉันชอบเกี่ยวกับเขาแล้ว เหมือนยังมีสิ่งน่ารักๆ ของเขาอีกเพียบที่รอให้ฉันค้นพบอยู่

        สิ่งเหล่านี้เกินกว่าที่จินตนาการเอาไว้ในตอนที่อยู่ในลิฟต์วันนั้นอีก นี่มันไม่ใช่แค่การคลายความเหงาอีกแล้ว

        เราทั้งคู่เข้าใจดีว่าวันนี้จะไม่สิ้นสุดแค่นี้ หลังจากเราทานผลไม้ และเก็บโต๊ะเสร็จ ฉันก็ไม่ได้ขยับเขยื้อนไปไหน แถมยังถามโยตะอีกว่า ฉันขออยู่ในห้องนั่งเล่นเพื่อดูทีวีได้ไหม

        เดิมทีฉันคิดว่าตราบใดที่ฉันไม่ได้รับคำตอบที่ประชดประชันออกมาก็พอ เพราะมันไม่สำคัญว่าฉันจะถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพังหรือไม่ แต่น่าแปลกที่โยตะเองก็มานั่งดูรายการทีวีตอนเย็นแสนน่าเบื่อกับฉัน

        เรานั่งเคียงข้างกันบนโซฟาอยู่นาน และตกอยู่ในสถานการณ์อึดอัดแปลกๆ ราวกับเราทั้งคู่กำลังรอให้อีกฝ่ายร้องขอกิจกรรมต่อไป

        อาจเป็๲เพราะอาหารและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ใบหน้าของโยตะจึงแดงก่ำ และอุณหภูมิร่างกายของเขาที่ดูจะสูงกว่าปกติเล็กน้อย

        หรือมื้อที่เราเพิ่งทานไปมีส่วนผสมหลายอย่างที่เป็๞ประโยชน์ต่อร่างกาย... จนฉันเองยังรู้สึกเลยว่าร่างกายอุ่นขึ้นไปด้วย

        เหมือนโยตะจะสังเกตเห็นแล้วว่า ฉันกำลังแอบมองเขาอยู่ เขาจึงหันหน้ามาประสานตากับฉันจังๆ รูม่านตาลึกของเขานั้นกำลังตั้งคำถามกับฉัน

        ใบหน้าของเขาค่อยๆ เข้ามาใกล้มากขึ้น และริมฝีปากของเขาก็เล็งมาที่ฉัน ฉันรู้แล้วล่ะว่าเขา๻้๪๫๷า๹สิ่งใด

        การเปิดฉากเข้าสู่กิจกรรมหลักในวันแบบนี้คงไม่เสียหายอะไร… แต่ฉันกลับยื่นมือมากั้นระหว่างริมฝีปากของเราไว้

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้