เขาพลันกระจ่างแจ้งแก่ใจว่า เหตุใดในประวัติศาสตร์ของบรรพกษัตริย์จึงมีฮ่องเต้ทรราชที่หลงใหลมัวเมาในความงามของสตรีจนละทิ้งแผ่นดิน ที่แท้ความอ่อนโยนนั้นเป็เช่นดอกฝิ่นที่มีพิษ ทันทีที่หลงรักแล้วจะถอนตัวไม่ได้อีกเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อหัวใจและร่างกายของคนทั้งต่างประสานกันเป็หนึ่งเดียว ความรู้สึกชนิดนี้ทำให้เขารู้สึกอิ่มเอมใจไปชั่วฟ้าดินสลายเลยทีเดียว
เขาชอบตัวอักษรสองแถวที่นางปักลงบนเหอเปาเป็อย่างมาก “แม้กายอยู่ห่าง แต่หัวใจสื่อถึงกัน”
หญิงงามบนโลกนี้มีมากมาย ในวังไม่เคยขาดแคลนหญิงงาม แต่ที่หายากที่สุดก็คือ “คนที่มีใจตรงกัน” เช่นนี้
ไม่จำเป็ต้องพูดวาจามากมาย แค่ประสานสายตากันครั้งเดียว ก็รู้ถึงความนึกคิดของอีกฝ่าย
ความรู้สึกที่ใจตรงกันเช่นนี้จึงจะเป็สิ่งที่หายากที่สุด!
เขาโชคดีมาก เขาหาพบแล้ว เขาหาคนที่มีใจตรงกับเขาพบแล้ว!
“เฉียนเฉี่ยน...”
เขาหลับไปอีกงีบหนึ่ง ยังคงไม่เห็นเฟิ่งเฉี่ยนกลับมา เขาเริ่มรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องจึงะโออกไปนอกประตู “เด็กๆ!”
ลั่วหยิ่งและจ้าวกงกงเข้ามาจากด้านนอกประตูอย่างรวดเร็ว ด้านหลังยังมีขันทีน้อยติดตามมาอีกสองคน
“ฝ่าา พระองค์จะตื่นบรรทมแล้วหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?” จ้าวกงกงถามขึ้น
เซวียนหยวนเช่อถาม “ฮองเฮาเล่า?”
ลั่วหยิ่งและจ้าวกงกงสบตากันอย่างประหลาดใจ
จ้าวกงกงกล่าวว่า “ฮองเฮามิใช่พักผ่อนอยู่ด้านในกับพระองค์หรือพ่ะย่ะค่ะ?”
เซวียนหนวนเช่อขมวดคิ้วมุ่นเมื่อหันไปมองลั่วหยิ่ง ลั่วหยิ่งรีบตอบทันที “ฝ่าา กระหม่อมและจ้าวกงกงเฝ้าอยู่ด้านนอกประตูตลอดเวลา ไม่เห็นฮองเฮาออกไปจริงๆ พ่ะย่ะค่ะ เหตุใด? หรือฮองเฮาหายไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ?”
ลั่วหยิ่งมอบไปรอบๆ อย่างแปลกใจ ในห้องบรรทมไม่มีสถานที่หลบซ่อนตัวได้เลย ราวกับมองไปปราดเดียวก็ไม่เห็นเงาร่างของฮองเฮา เขารู้สึกต้นคอเย็นวาบ คงไม่ใช่เจอผีแล้วกระมัง?
เซวียนหยวนเช่อย่อมไม่สงสัยคำพูดของเขา คิ้วนั้นขมวดแน่นขึ้นอีก ลางสังหรณ์ไม่ดีชนิดหนึ่งบังเกิดขึ้นในใจอย่างหาสาเหตุไม่ได้
ลั่วหยิ่งเห็นจดหมายบนโต๊ะตอนนี้เอง เขารีบหยิบมันมา “ฝ่าา พระองค์ทอดพระเนตรพ่ะย่ะค่ะ! ดูเหมือนเหนียงเหนียงทิ้งจดหมายเอาไว้!”
เซวียนหยวเช่อแย่งจดหมายมาเปิดอ่าน เห็นตัวอักษรเพียงไม่กี่ตัวบนนั้น เขาถึงกับตกตะลึงด้วยไม่อยากเชื่อ
“อาเช่อ ข้าไปแล้ว! ไม่ต้องตามหาข้า!” ลายมือของเฟิ่งเฉี่ยน
อักษรเพียงไม่กี่ตัว ไม่มีอย่างอื่นอีก เซวียนหยวนเช่อกำลังคิดว่านี่เป็การเล่นพิเรนของฮองเฮาหรือไม่ หรือนางอาจจะคิดเล่นเกมกับเขา?
เมื่ออ่านซ้ำไปซ้ำมาหลายรอบ แล้วคิดถึงปฏิกิริยาที่แปลกไปจากปกติของนางเมื่อคืนนี้ เขาถึงกับสูดลมหายใจลึกๆ มือทั้งคู่กำเป็หมัดแน่น เส้นเืสีเขียวบนหลังมือปูดโปน เขาซัดหมัดลงบนโต๊ะด้วยโทสะลุกท่วมฟ้า!
หลังจากนั้นสามวินาที โต๊ะตัวนั้นแตกออกเป็เสี่ยงๆ!
“โยกย้ายกำลังทหารรักษาพระองค์ทั้งหมด ปิดประตูวัง...ไม่ ปิดประตูเมือง! ภายในวันนี้ ห้ามไม่ให้ผู้ใดเข้าออก!”
นางเจตนาจะจากไป เกรงว่าคงคิดจะไปจากวังหลวงนานแล้ว นางย่อมมุ่งหน้าไปทางประตูเมือง
เวลานี้ยังมีเวล่าราวๆ ครึ่งชั่วยามจึงจะเปิดประตูเมือง นางน่าจะยังไม่ได้ออกไปจากเมือง ขอเพียงนางยังอยู่ในเมืองมู่หยาง ต่อให้เขาต้องขุดดินลงไปถึงสามจั้งก็ต้องหาตัวนางออกมาให้ได้
เขา้าถามนางกับปากของเขาเองว่าเหตุใดนางจึงต้องจากไป? หลังจากที่พวกเรามีค่ำคืนที่ผ่านมาร่วมกันแล้ว ขณะที่หัวใจของเขาเพิ่งจะได้รับการเติมเต็ม เหตุใดนางจึงจากเขาไปอย่างเืเย็นเช่นนี้?
หัวใจของนางทำด้วยอะไรกันแน่?
หรือความหวานชื่นเร่าร้อนเมื่อคืนนั้นเป็ความลวง?
ั์ตาดำขลับของเซวียนหยวนเช่อแทบจะพ่นเปลวไฟออกมาได้ เหมือนสิงโตตัวหนึ่งที่กำลังโกรธแค้น พร้อมที่จะโจมตีตลอดเวลา!
ลั่วหยิ่งหัวใจสะดุด รู้ว่าเื่นี้เป็เื่ใหญ่เสียแล้ว เขารีบรับคำสั่ง
จ้าวกงกงไม่เคยเห็นฮ่องเต้มีโทสะเช่นนี้มาก่อน เขายืนอยู่ด้านข้างอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดี เห็นฮ่องเต้หยิบเหอเปาออกมาใบหนึ่งมีตัวอักษรเป็แถวอยู่หลายตัว แต่สายตาที่ฮ่องเต้มองมันเต็มไปด้วยความสับสน
“กายอยู่ห่าง แต่หัวใจสื่อถึงกัน...” มือของเซวียนหยวนเช่อกำแน่นเมื่อกำเหอเปาไว้ในอุ้งมือ ไฟโทสะลุกท่วมความคิดของเขา ส่งผลให้เขาอยากฉีกมันเป็ชิ้นๆ และเผามันทิ้งเสีย “ช่างเป็เื่น่าขันโดยแท้!”
ทันใดนั้น กิริยาของเขาชะงักลง สุดท้ายเขาทำไม่ลง
นี่เป็สิ่งของที่นางทิ้งไว้ให้เขา บนนั้นมีตัวอักษรที่นางตั้งใจปักทีละเข็ม เขายังคงตัดใจทำลายมันไม่ลง
เขาไม่เชื่อว่าเมื่อนางมองหน้าเขา ความรักอันเข้มข้นในดวงตาของนางล้วนเป็เื่หลอกลวง!
เขาไม่เชื่อ ร่างกายอ่อนปวกเปียกของนางที่ตกอยู่ท่ามกลางความรักของเขา เสียงครวญครางสั่นสะท้านน่าหลงใหลนั้น ล้วนเป็ความลวง!
เขาไม่เชื่อ ว่าเมื่อนางโอบรอบลำคอของเขาทั้งที่เขินอายอย่างที่สุดแต่ยังถามเขาอย่างกล้าหาญว่า้านางหรือไม่ ั์ตาของนางที่เต็มไปด้วยความตื่นตระหนกและรอคอยล้วนเป็ความเท็จ!
เขาไม่เชื่อ! เขาไม่เชื่อทุกอย่าง!
นางจะต้องมีเหตุที่ไม่จากไปไม่ได้!
เขาจำเป็ต้องถามนางให้ชัดเจนต่อหน้า!
“เด็กๆ เตรียมม้า!”
เขา้าไปจับตัวนางกลับมาด้วยตัวเอง ถามให้ชัดเจน!
ตำหนักยีหลัน
องค์หญิงหลานซินไม่ได้นอนทั้งคืน นางเฝ้ารอข่าวจากทางตำหนักเว่ยยางตลอดเวลา
นับั้แ่นางตกลงเงื่อนไขกับฮองเฮา นางก็ตั้งตารอคอยให้ฮองเฮาจากไปโดยเร็ว นางไปเมื่อไหร่ ไม่กลับมาแล้วจริงหรือไม่ นางจะรักษาสัญญาหรือไม่ นางนั่งไม่ติด
ในที่สุด โจวหมัวมัวที่ไปสืบข่าวก็กลับมา พร้อมทั้งนำข่าวดีมาด้วย “องค์หญิง ไปแล้ว! ฮองเฮาไปแล้วจริงๆ เพคะ!”
“อะไรนะ? นางไปแล้วจริงๆ?” องค์หญิงหลานซินดีใจแทบคลุ้มคลั่ง
โจวหมัวมัวพยักหน้า “ตอนนี้ฝ่าากำลังทรงกริ้วอย่างหนักเพคะ ทรงมีพระบัญชาให้เคลื่อนไหวกำลังทั้งหมดของกองทหารรักษาพระองค์ และสั่งปิดประตูเมือง ดูท่าแล้วหากฝ่าาไม่อาจจับตัวฮองเฮากลับมาคงไม่ยอมเลิกราแน่! องค์หญิง หากฮองเฮาไม่ได้ออกนอกเมืองอย่างราบรื่นและถูกฮ่องเต้จับตัวกลับมา จะทำอย่างไรเพคะ?”
องค์หญิงหลานซินขมวดคิ้วครุ่นคิด “เ้าออกนอกวังเดี๋ยวนี้ ไปบอกความเสด็จพี่ของข้า ให้เขาส่งคนไปจับตาดูว่าฮองเฮาไปทางไหน และช่วยเหลือฮองเฮาเมื่อถึงเวลาเหมาะสม!”
โจวหมัวมัวไม่เข้าใจ “เหตุใดพวกเราต้องช่วยนางออกนอกเมืองด้วยเพคะ? จะให้นางได้เปรียบเกินไปแล้ว! ไม่สู้ปล่อยให้ฝ่าาจัดการนาง นางลอบหนีออกจากวัง นี่ถือเป็โทษสถานหนัก ไม่เชื่อว่าฝ่าาจะไม่ลงโทษนางเพคะ!”
องค์หญิงหลานซินกลับส่ายหน้าเมื่อแค่นหัวเราะเสียงเย็น “ลงโทษนาง? ลงโทษอย่างไรเล่า? นางด่าทอ ดูแคลนทูตต่อหน้าคนมากมาย ทั้งยังตบหน้าเปิ่นกง ฝ่าาก็ไม่เคยคิดจะส่งนางเข้าตำหนักเย็น ลำพังแค่ลอบหนีออกจากวังจะนับเป็อะไรได้? จิตใจกษัตริย์ยากจะคาดเดา หากฮองเฮาถูกจับตัวกลับมาจริงๆ ยากจะรับรองได้ว่าฝ่าาจะไม่ใจอ่อน ปล่อยให้ฮองเฮาเรียกลมเรียกฝนในตำหนักในตามอำเภอใจ หากเป็เช่นนี้ ไม่สู้พวกเราทำตัวเป็คนมีน้ำใจช่วยนางสักหน ให้นางไปจากเมืองมู่หยางอย่างราบรื่น! เช่นนี้แล้ว นางก็ไม่ต้องอยู่ที่นี่ให้รกหูรกตาเปิ่นกงอีก ทำไมจะไม่ช่วยเล่า?”
โจวหมัวมัวหัวเราะชั่วร้าย “องค์หญิงทรงปราดเปรื่องเพคะ! หม่อมฉันจะไปเดี๋ยวนี้!”
หลังจากออกมาจากวัง เฟิ่งเฉี่ยนมุ่งหน้าไปยังประตูเมือง เดิมทีนางคิดจะไปหามู่ชิงเซียว แต่นางเปลี่ยนใจระหว่างทาง
ทั้งเมืองมู่หยางนางรู้จักคนไม่มากนัก เซวียนหยวนเช่อต้องคิดว่านางไปหามู่ชิงเซียวได้เช่นกัน ดังนั้นนางจึงทิ้งแผนเดิม เตรียมออกจากเมืองเพียงลำพัง มุ่งหน้าไปยังสำนักศึกษาเทียนหง
ห่างจากเวลาเปิดประตูเมืองยังมีเวลาอีกราวๆ ครึ่งชั่วยาม นางจำเป็ต้องหาที่พักชั่วคราวสักแห่งหนึ่ง ขอเพียงรอประตูเมืองเปิด นางก็ออกไปจากเมืองมู่หยางได้
การมาถึงของเฟิ่งเฉี่ยนดึงดูดความสนใจของผู้คนรอบด้าน เคราะห์ดีที่เพื่อไม่เป็ที่จุดดึงดูดสายตานัก นางได้ผลัดเสื้อผ้าอาภรณ์เป็เสื้อผ้าธรรมดาสามัญแอบแฝงอยู่ในกลุ่มของพวกเขา เพื่อไม่ให้เป็ที่สังเกตมากนัก
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้