หลังจากที่ได้ยินเสียง พวกจื่อต้าหลงก็หันไปดูทันที… พบเห็นกลุ่มหญิงสาวกลุ่มนึงกำลังโดนชายสามคนกระชากแขน
“ฮ่าๆๆ สาวน้อยทั้งหลาย แค่จะให้มาร่วมชมความงามกับพวกพี่ชายใยต้องขัดขืนเล่า?” ชาย 1 ใน 3 คนนั้นกล่าวขึ้น
“ปล่อยนะ! พวกเราไม่รู้จักกัน พวกเ้าออกไปไกลๆเลย!!” หญิงสาวในกลุ่มพูดขึ้น
“พูดจาไม่รู้เื่อย่างนี้อยากให้พวกพี่ชายลงโทษหรือจ๊ะ คิคิ” ชายคนที่กระชากแขนกล่าวพร้อมหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
ยิ่งพวกเขาทะเลาะกัน… เสียงก็ยิ่งดังมากขึ้นเรื่อยๆ ทำลายความสงบของที่นี่ ทุกคนจึงเริ่มหันมามอง
“ดูเหมือนจะเจอพวกหมาขี้เรื้อนอีกแล้วแฮะ” จื่อต้าหลงกล่าวยิ้มๆ หลังจากกล่าวจบเด็กหนุ่มก็เดินไปยังคนกลุ่มนั้นทันที
“ปล่อยข้า!! ใครก็ได้ช่วยด้วย!!” หญิงสาวะโร้องขอความช่วยเหลืออย่างร้อนรน
“พูดจาดีๆ ฟังกันไม่รู้เื่อย่างนี้ต้องพาไปคุยในที่ลับตาหน่อยแล้ว?!” ชายคนที่กระชากแขนกล่าวด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ
“อ้าวๆๆ จะไปคุยกันที่ลับตาหรอ? ข้าขอไปด้วยคนสิได้มั้ย? ข้าเองก็ชอบที่ลับตาเหมือนกันนะ ฮ่าๆ” จื่อต้าหลงเดินยิ้มเข้าไปร่วมวงสนทนาด้วย
“เ้าเป็ใคร!?” ชายหนึ่งในสามคนนั้นกระแทกเสียงใส่จื่อต้าหลง
“ข้าก็แค่พระเอกที่ผ่านทางมาน่ะ ฮ่าๆๆ นะนะ ให้ข้าไปด้วยสิ” จื่อต้าหลงกล่าวตื๊อ
“บัดซบ!! ไสหัวไป!!!” ชายคนนึงในกลุ่มคำราม
“ว้ายๆ พวกพี่ชายพูดจาไม่เพราะเลย ข้าฟังแล้วคันหูคันเท้ามากเลย” จื่อต้าหลงยังคงกล่าววาจากวนบาทา
“ไอ้เด็กเวรนี่ไม่เจอของจริงไม่ยอมไสหัวไปสินะ” หนึ่งในชายสามคนนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยเสียงเหี้ยม
“ฮ่าๆๆ จะลุยหรือต้าหลง!! ต้องให้ช่วยมั้ย?” เฉิงไฉเซียวะโมาจากอีกฟาก
“ไม่ต้องหรอก… ลูกหมาแค่ไม่กี่ตัวเอง! ข้าแค่ขู่พวกมันก็เผ่นแน่บแล้ว ฮ่าๆ” จื่อต้าหลงะโกลับไปบอกสหายที่อยู่อีกฝั่ง
“บัดซบ!! เ้าสิลูกหมา!! ปากดีนักนะไอ้เด็กเวรนี่!!!” ชายคนที่กระชากแขนหญิงสาวคำรามลั่น มันปล่อยแขนหญิงสาวจากนั้นจึงพุ่งเข้าเข้าใส่จื่อต้าหลงอย่างรวดเร็ว
“ว้าย!! คุณชายระวังนะเ้าคะ!!” กลุ่มหญิงสาวส่งเสียงกรีดร้อง
ชายคนนั้นพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว มันยิงหมัดขวามาที่ใบหน้าของจื่อต้าหลง หมัดพุ่งฝ่าอากาศมาอย่างรวดเร็ว จื่อต้าหลงโยกคอเพียงเล็กน้อยหลบอย่างง่ายดาย หมัดนี้ไม่เข้าเป้า! ชายคนนั้นก็ยังคงไม่ย่อท้อ มันสาวหมัดมาอีกหลายหมัด ซึ่งแต่ละหมัดนั้น จื่อต้าหลงโยกคอหลบได้อย่างฉิวเฉียดตลอด เด็กหนุ่มโยกนิดหลบหน่อย ก็หลบได้หมด ตอนนั้นเท้าของจื่อต้าหลงยังยืนอยู่ที่เดิมโดยไม่ขยับแม้สักก้าว!
นี่บ่งบอกให้รู้ว่าไม่จำเป็ต้องถอยแค่หลบเ้าก็ทำอะไรข้าไม่ได้แล้ว ชายคนนั้น เห็นท่าไม่ดีจึงเปลี่ยนมาใช้เพลงเตะ มันเตะสูงขึ้นไปที่จื่อต้าหลง จื่อต้าหลงย่อตัวหลบ จากนั้นจึงเตะสวนฟาดเท้าไปที่ขาอีกข้างของชายคนนั้นทำให้มันล้มหัวทิ่ม อับอายเหล่าฝูงชน ชายอีกสองคนเห็นท่าไม่ดีก็เข้ามากลุ้มรุมด้วย ทั้งสองพุ่งเข้ามาคนละด้าน ทั้งสองปล่อยฝ่ามือกับเพลงหมัดมาใส่จื่อต้าหลงถี่ยิบ! จื่อต้าหลงทั้งรับ ทั้งปัดหมัดและฝ่ามือ พวกมันทำอะไรจื่อต้าหลงไม่ได้เลย!
หลังจากจื่อต้าหลงตั้งรับไปได้สิบกระบวนท่าเด็กหนุ่มก็ปล่อยฝ่ามือสวนไปที่ชายคนนึงที่อยู่ใกล้ตัวสุด ชายคนนั้นโดนฝ่ามือกระแทกเต็มหน้า ทำให้มันเซถอยหลังไปนับสิบก้าว! มีเืไหลออกมาจากริมฝีปากมัน!
ชายอีกสองคนหลังจากตั้งหลักได้ก็โจมตีเข้ามาใหม่ ทั้งสองคนเข้ามาพร้อมกัน รอบนี้จื่อต้าหลงไม่รีรอตบสวนเข้าไปที่ใบหน้าของทั้งสองเต็มๆ ทำให้พวกมันหน้าชาวูบ หลังจากโดนตบกันไปคนละหนึ่งฝ่ามือ!
พวกมันหน้าแดงช้ำแก้มเป็รูปรอยฝ่ามือ เืกลบปากกันทั้งสามคน! ความรู้สึกของพวกมันในตอนนี้คือคับแค้นใจเป็อย่างยิ่งที่โดนตบต่อหน้าฝูงชน
“พวกพี่ชายก็ไม่เห็นเก่งกันสักเท่าไหร่เลยนี่นา? ใช้กำลังข่มขู่อิสตรีกลางวันแสกๆ ข้าก็นึกว่าจะเจ๋งพอตัว!” จื่อต้าหลงกล่าวยิ้มๆ
“เ้า….!! เ้า…..!! บัดซบ!! ฝากไว้ก่อนเถอะ” พวกมันคำทิ้งคำพูดจบก็รีบเผ่นกันไปจากสวนต้นไม้ทันที ความรู้สึกที่โดนตบหน้าท่ามกลางสายตานับหลายคู่นับว่าอับอายสุดแสนยากที่พวกมันจะทนรับไหว
“ฮ่าๆๆ ฝากแล้วข้าไม่คืนนะ ฝากแล้วฝากเลยนะบอกไว้ก่อน!” จื่อต้าหลงะโตามหลังไป
หลังจากที่ชายสามคนนั้นเผ่นไป หญิงสาวที่ถูกกระชากแขนก็กล่าวขึ้นมาว่า “ขอบคุณ คุณชายมากเ้าค่ะ” หญิงสาวกลุ่มนี้มีสี่คน พวกนางขอบคุณจื่อต้าหลงที่เข้ามาช่วยเหลือ ทำให้พ้นเคราะห์จากชายทั้งสามได้
“ไม่เป็ไรหรอก เป็หน้าที่ของบุรุษอยู่แล้ว” จื่อต้าหลงกล่าวยิ้มๆ
“ยังไงก็ต้องขอบคุณ คุณชายมากถ้าไม่ได้คุณชายป่านนี้ไม่รู้พวกข้าจะเป็อย่างไรบ้าง” หญิงสาวนางนึงในกลุ่มกล่าวขึ้น
“ฮ่าๆๆ พอแล้วไม่ต้องขอบคุณข้าแล้ว” จื่อต้าหลงกล่าว
“จริงสิคุณชายเองก็มาชมดอกไม้เหมือนกันเหรอเ้าคะ?” หญิงสาวที่ถูกกระชากแขนถาม
“ใช่ ข้ามากับสหายอีกสองคนที่ยืนรออยู่โน่นน” จื่อต้าหลงชี้นิ้วไปทางเฉิงไฉเซียวและลวี่เหรินที่ยืนมองอยู่อีกฝั่ง
หญิงสาวที่ถูกกระชากแขนเห็นดังนั้นจึงกล่าวว่า “ถ้างั้นเรามาชมดอกไม้ด้วยกันมั้ยเ้าคะ? เชิญสหายของคุณชายมาร่วมด้วย”
“ได้สิ ไม่มีปัญหา” จื่อต้าหลงกล่าวจบก็ไปลากสหายของตนมานั่งชมดอกไม้กับกลุ่มหญิงสาว ตอนนี้พวกเขาค่อนข้างชินเวลาที่ได้อยู่ใกล้ชิดอิสตรีแล้วหลังจากไปเที่ยวหอจันทราคลุกคลีกับนางคณิกากันมานับเดือน
“ไม่ทราบว่า…? คุณชาย…. ชื่ออะไรกันบ้างหรือเ้าคะ?” หญิงสาวในกลุ่มถาม
“ข้า จื่อต้าหลง ส่วนคนนี้ชื่อเฉิงไฉเซียว คนนี้ก็ลวี่เหริน” จื่อต้าหลงผายมือไปแนะนำแต่ละคนตามลำดับ
“ฮ่าๆๆ ยินดีที่ได้รู้จัก แม่นางน้อยทั้งสี่ เมื่อครู่เ้าเองก็เจ๋งไม่เบาเหมือนกันนะต้าหลง ฝีมือร้ายกาจเข้าไปทุกที” เฉิงไฉเซียวกล่าวหยอกล้อ
“ฮ่าๆๆ พี่ไฉเซียวก็พูดชมข้าเกินไป” จื่อต้าหลงกล่าวพลางหัวเราะ
“จริงๆเมื่อครู่… คุณชายเท่มากๆเลยเ้าค่ะ” หญิงสาวในกลุ่มเอ่ยปากชื่นชม
“ใช่ๆ ฝ่ามือของคุณชายร้ายกาจมาก” หญิงสาวอีกคนกล่าวสมทบ พร้อมทำท่ายกกำปั้นขึ้นมา
“ฮ่าๆๆ เอาล่ะพอแล้วเลิกชมข้าได้แล้ว” จื่อต้าหลงกล่าวพร้อมกับยกน้ำเต้าสุราขึ้นมาดื่ม
“คุณชายดื่มสุราอะไรหรือเ้าคะ?” หญิงสาวนางนึงถาม
“นี่น่ะหรือ? นี่คือสุราเมฆแดงจากเมืองปลาทองน่ะ” จื่อต้าหลงตอบเสียงเรียบ
“พวกท่านเป็นักท่องเที่ยวหรือเ้าคะ?”
“ใช่แล้วพวกข้ามาจากเมืองปลาทอง มาเพื่อชมความงามของเมืองแห่งนี้” จื่อต้าหลงกล่าว
“จริงสิ พวกเ้าชื่ออะไรกันบ้าง?” จื่อต้าหลงถาม
หญิงสาวคนที่โดนกระชากแขนบอกว่านางชื่อกัวรุ่ยหาน ส่วนที่เหลือมี กัวลี่ลี่ กัวลู่เหมย และกัวเจิ้นหยาง ทั้งสี่สาวมาจากตระกูลเดียวกัน พวกนางเป็คนของเมืองแห่งนี้ ตระกูลกัวของพวกนางนับว่ามีชื่อเสียงเป็ถึงตระกูลใหญ่ของเมืองดอกไม้
เ้าพวกอันธพาลที่มาวันนี้นั้น ไม่รู้จักความน่าเกรงขามของตระกูลกัว จึงได้ก่อเื่รังแกหญิงสาวขึ้นมา ถ้าหากพวกมันรู้ว่า นี่คือหญิงสาวจากตระกูลกัว ตระกูลใหญ่ประจำเมือง พวกมันคงไม่กล้าลงมือ
ตระกูลกัวนับได้ว่าเป็ตระกูลเ้าเมือง คอยติดต่อกับทางการเสมอมาในการดูแลเมืองให้สงบสุข น้อยนักที่จะมีคนมาก่อเื่กับคนในตระกูล เพราะว่าผู้นำตระกูลนั้นเป็ถึงชนชั้นลมปราณจิตขั้นที่แปด แม้เมืองดอกไม้จะเป็เมืองเล็กๆ แต่ก็มีนักท่องเที่ยวมากมายคับคั่ง จึงทำให้เศรษฐกิจของที่นี่ดีมาโดยตลอด
“เอ่อ…คุณชายจื่อเ้าคะ คืนนี้ที่ตระกูลข้ามีจัดงานเลี้ยง ข้าอยากจะชวนคุณชายพร้อมสหายไปร่วมด้วย ไม่ทราบว่าสะดวกหรือไม่เ้าคะ?” กัวรุ่ยหานถาม
“งานเลี้ยงงั้นหรือ?” จื่อต้าหลงถามพร้อมกับหันหน้ามามองที่นาง
“ใช่เ้าค่ะ ข้าจะได้ขอบคุณ คุณชายที่ช่วยเหลืออย่างเป็ทางการด้วยเ้าค่ะ” กัวรุ่นหานตอบอย่างจริงจัง
“ได้สิไม่มีปัญหา ข้าชอบงานเลี้ยง ฮ่าๆ” จื่อต้าหลงกล่าว
