เมื่อฉันหลุดหลงเข้ามาในนิยายของตัวเอง

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

วรากรกลับเข้าไปในห้องเลือกชุด สีทึมๆ ให้เหมือนคนมาจากต่างแคว้นแต่ไม่มี จำใจต้องใส่สีฟ้าลองสวมดูวันนี้ไม่เลวเข้ารูป ต่างจากเมื่อวานลิบลับ หันซ้ายหันขวาผมหลุดลุ่ย ทำไมต้องรวบผมด้วยทำไมต้องเกล้าด้วย วรากรปล่อยผมให้ยาวอยู่อย่างนั้นมองตัวเองในกระจก แม้จะไม่สวยหวานแต่เมื่ออยู่ในเสื้อผ้าแบบนี้ วรากรก็ดูดีไม่น้อย อย่างน้อยก็ดีกว่าเมื่อวานนิดหนึ่งละ เดินออกมานั่งรอ จางลิงหรือหลินจือ อ้าวหลินจือมันเห็ดนี่หว่า อะไรวะนึกชื่อไม่ออกประมาณนี้แหละ ชื่อเรียกยากจริง

“แม่นาง” วรากรหันไปในแบบสโลว์โมชั่น ผมยาวสลวยสะบัดพลิ้วไหวตามแรงหมุนตัว จางหลิ่งจือตกตะลึงจังงัง

“ข้า...ข้าน้อย ข้าจางหลิ่งจือยินดีที่ได้พบ แม่นางเรารู้จักกันหรือไม่” วรากรตาโต ก็คนตรงหน้าหล่อช้างล้มควายตาย ความหล่อไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าหลวนคุนเลย เพียงแต่หล่อแบบหวานๆ ในแบบที่สาวๆ ในยุคของวรากรชอบ หลวนคุนหล่อคมเข้มตาดุ

“จางชินอี้ เรียกข้าว่าชินอี้” สายตาหวานเยิ้มมองมาที่วรากร เวรทำตัวไม่ถูก นี่มันบทพระรองของนิยายนี่หว่าทำไมมาตกที่นางรองอย่าง วรากรละไม่ได้การละ

“หลวนคุน อยู่ลานธนูเชิญท่านที่ลานธนูจะดีกว่าไหม”

“ข้ายังอยากคุยกับแม่นาง ยังไม่อยากเจอท่านมือปราบ”

“ไม่ด้ายย ที่ลานธนูมีบางอย่างข้าอยากให้ท่านได้เห็น” ดันหลังหลิ่งจือให้เดินไปข้างหน้า

ที่ลานธนูอย่างที่วรากรคิด หลวนคุนโอบอิงหลิวสอนนางยิงธนูอย่างแนบชิดอิงแอบมองไปก็ฟินไม่น้อย เหมือนในนิยายที่เขียนไว้เลย

“หนึ่งสองสาม ปล่อย” อิงหลิวปล่อยลูกดอกออกตามคำสั่ง ลูกดอกพุ่งเข้าสู้เป้าหมายแป๊ะ ไม่มีหลุดกรอบ วรากรปรบมือเสียงดัง หลวนคุนหันมามองวรากรมีอะไรบางอย่างในดวงตาคู่นั้น แววตาเหมือนจะบอกอะไร วรากรก้มหน้ามองพื้น หลิ่งจือ มองทั้งหลวนคุนและอิงหลิวแต่ไม่มีปฏิกิริยาใดใด อ้าวเฮ้ยผิดบท หลิ่งจือยังตัวติดกับวรากรแจ

“แม่นางชินอี้ถ้าไม่รังเกียจ เชิญพำนักที่บ้านของท่านพ่อข้า” ชวนจริงจัง

“นางพำนักที่นี่ดีแล้ว ข้าดูแลนางเอง” อ้าวเฮ้ยแย่งกันความหึง หรือวะก็มาด้วย@^@

“ท่านพ่อนับว่าเป็๞ขุนนางระดับสูงหากจะปล่อยให้คนแซ่เดียวกัน ระเหเร่ร่อนก็ไม่เหมาะนัก” ไปกันใหญ่

“พี่สาวอย่าไปเลยนะ อิงหลิวไร้ญาติขาดมิตรเห็นพี่สาวเป็๲ ญาติเพียงคนเดียวในตอนนี้” จริง จะช่วยให้พระเอกนางเอกสมหวังจะหนีไปอย่างไง

“เห็นแก่อิงหลิว ข้าไว้หาโอกาสไปเยี่ยมใต้เท้าจาง จะดีกว่าตอนนี้ไม่อาจรบกวน” หลิ่งจือทำหน้าสลด

“เช่นนั้น ข้าขอเป็๲แขกประจำที่บ้านของท่านจะได้ไหม” ประโยคสุดท้ายหันไปทางหลวนคุน

“ไม่ได้” วรากรรีบตอบแทน

“ได้ข่าวว่าแม่นางตามหาพี่ชาย ไว้ข้าช่วยสืบอีกทาง”

วรากรถอนหายใจยาวเหยียด

หลวนคุนอยู่บนโต๊ะหนังสือที่มีม้วนหนังสือมากมาย เขากำลังหาเบาะแสเกี่ยวกับคดีต่างๆ ในอดีตเขาจำได้ว่าเคยมีอยู่คดีหนึ่งที่เขาเคยได้ไปสืบหาความจริงกับอาจารย์เกี่ยวกับการตายของผู้คนในเมือง

ดงไผ่หนาทึบหมอกครึ้มจนมองไม่เห็นเส้นทาง คนผู้หนึ่งนอนนิ่ง หญิงสาวนางหนึ่งค่อมอยู่บนร่างในมือเปรอะเปื้อนไปด้วยเ๧ื๪๨ กำลังควักหัวใจของเหยื่ออยู่

หลังจากเหตุการณ์ที่อาจารย์และเขาไล่ล่านางปีศาจ ก็ไม่เคยมีใครถูกควักหัวใจอีกเลยจนกระทั่งเมื่อคืนที่ผ่านมา

ตามบันทึกบอกไว้ว่า๰่๭๫เวลานั้น มีผู้คนร่ำลือเ๹ื่๪๫จิ้งจอกเก้าหาง บัดนี้ผ่านมาห้าปีแล้ว เ๹ื่๪๫คดีนั้นถูกปิดลงไปเพราะเขากับอาจารย์ไม่สามารถจับคนร้ายได้ แต่ก็ไม่วายได้รับคำชื่นชมจากฮ่องเต้ เพราะอาจารย์ลงมาสืบคดีนี้เองเป็๞การสร้างขวัญและกำลังใจให้ชาวบ้านและก็ไม่มีการตายเกิดขึ้นอีก มันจึงเป็๞ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย

 

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้