น้ำเสียงของนางสิ้นสุดลงไม่นาน อวี๋ฉี่เจ๋อก็ยกพู่กันกลับมาตัวอักษรงดงามประณีตอยู่บนกระดาษเซวียนจื่อสีเหลืองนิ้วมือเรียวยาวคีบเทียบยาขึ้นมาแล้วส่งไปทางอวี๋เจียว
อวี๋เจียวยกมือขึ้นรับ ปลายนิ้วััเรียวนิ้วอวี๋ฉี่เจ๋อเขาจึงรีบชักมือกลับไปทันใด
เดิมทีอวี๋เจียวไม่ได้ใส่ใจแต่การกระทำหลบเลี่ยงในทันทีเช่นนี้ของเขากลับทำให้นางได้รับาเ็ทางจิตใจอยู่ไม่น้อย
นางไม่ใช่สัตว์ดุร้ายสักหน่อย อวี๋เจียวลอบถลึงตาใส่อวี๋ฉี่เจ๋อ ก่อนจะส่งเทียบยาให้อวี๋กานเฉ่าแล้วกำชับว่า“กินก่อนจะร่วมรัก หลังจากร่วมรักอย่าพึ่งลุกยืนทันทีทางที่ดีที่สุดให้นอนพักอยู่บนเตียงครึ่งชั่วยามค่อยชำระล้างร่างกายหรืออาจจะพักผ่อนไปเลยเ้าค่ะสองอาทิตย์ก่อนมีประจำเดือนจะเป็่ที่ง่ายต่อการตั้งครรภ์มากที่สุดเ้าค่ะ”
ถึงแม้อวี๋กานเฉ่าจะเป็ภรรยาผู้อื่นแล้วแต่เมื่อได้ยินอวี๋เจียวเอ่ยถึงเื่ร่วมรักนางยังคงรับเทียบยามาด้วยใบหน้าแดงก่ำ
อวี๋เจียวเอ่ยอย่างมีหลักการต่อไปว่า“ยามร่วมรักบุรุษอยู่บนสตรีอยู่ล่างหรือเข้าทางด้านหลังจะค่อนข้างง่ายต่อการตั้งครรภ์เ้าค่ะ”
วาจาเช่นนี้ทำเอาสตรีแซ่จางใบหน้าแดงก่ำไม่กล้าแม้แต่เงยหน้ามองอวี๋ฉี่เจ๋อ เอ่ยถามอย่างคลุมเครือว่า“แม่หนูอย่างเ้ารู้เื่พวกนี้ด้วยหรือ?”
อวี๋กานเฉ่าคิดไม่ถึงว่าอวี๋เจียวจะเอ่ยวาจาองอาจถึงเพียงนี้อับอายจนไม่อาจทนอยู่ต่อไป ขานรับอ้ำอึ้งหนึ่งเสียงก่อนจะรีบดึงสตรีแซ่จางจากไป
ใบหน้าหล่อเหลาเกลี้ยงเกลาของอวี๋ฉี่เจ๋อมีริ้วแดงพาดผ่านขณะมองอวี๋เจียวผู้มีสีหน้าสง่าผ่าเผยเอ่ยตำหนิอย่างจนปัญญาว่า “เ้าเป็สตรีนางหนึ่ง เหตุใดถึงไม่รู้จักอาย?”
ครั้นอวี๋เจียวถูกตำหนิอย่างไร้ต้นสายปลายเหตุเช่นนี้นางหรี่ดวงตาดุจผลซิ่งด้วยความขุ่นเคือง เอ่ยพึมพำเสียงเบา “ท่านคิดว่าทุกคนจะหัวโบราณเช่นท่านกันหมดหรืออย่างไรแค่แตะปลายนิ้วนิดหน่อยยังทำเหมือนข้าจะพรากความบริสุทธิ์อย่างไรอย่างนั้นทั้งทึ่มทื่อทั้งน่าเบื่อ”
ถึงแม้จะพึมพำเสียงเบา แต่ยามนี้ดึกมากแล้วภายในห้องเล็กเงียบสงัดอย่างยิ่ง อวี๋ฉี่เจ๋อได้ยินทุกคำกับหูดวงตาดำขลับสงบนิ่งดุจแสงสลัวจับจ้องไปบนใบหน้าของอวี๋เจียว
เขาพลันฉวยข้อมือเรียวผอมของอวี๋เจียวเอาไว้ หยัดกายประชิดนางมุมปากหยักยกเปี่ยมความเ็า “เช่นอวี๋จิ้นเหยียนกับอวี๋จือโจวถึงจะน่าสนใจ?”
ยามปกติแลดูซูบผอมเช่นคนป่วย ยามนี้ร่างทั้งร่างเผยกลิ่นอายอันตรายเขากำข้อมืออวี๋เจียวจนรู้สึกเจ็บใบหน้าและลมหายใจที่เข้าประชิดของอวี๋ฉี่เจ๋อทำให้หัวใจของนางหวาดผวาหลังจากถอยหลังออกไปไม่กี่ก้าว อวี๋เจียวเอ่ยเสียงเบาว่า “ท่านทำข้าเจ็บแล้ว”
อวี๋ฉี่เจ๋อก้มมองข้อมือเรียวขาวสะอาดดุจพระจันทร์กระจ่างที่นำพาไออุ่นเพราะถูกคว้าเอาไว้ในมือตนเพราะร่างกายของเขาไม่แข็งแรง อุณหภูมิร่างกายมักจะต่ำมาแต่ไหนแต่ไรถึงแม้จะเป็ฤดูร้อน ทว่ามือเท้าล้วนเย็นดุจน้ำแข็ง
เขาผ่อนแรงลงเล็กน้อย ทว่ายังคงกำข้อมือของนางเอาไว้ไม่ยอมปล่อยดวงตาดังดอกท้อจดจ้องั์ตาของอวี๋เจียว ภายในแววตาฉายแววเ็าสามส่วนเค้นถามเสียงนิ่งดุจหิมะหนาวเหน็บในรุ่งอรุณของเหมันต์ “พวกเขาน่าสนใจงั้นหรือ?”
อวี๋เจียวไม่รู้ว่าเขาเกิดเป็บ้าอะไรขึ้นมากะทันหันคนผู้นี้อารมณ์ไม่ปกติจริงๆ นางขมวดคิ้วงาม คิดอยากจะชักข้อมือกลับมาทว่าถูกพันธนาการไว้อย่างแ่า
“ผู้ใดบอกว่าพวกเขาน่าสนใจ? พวกเขาเป็อย่างไรแล้วเกี่ยวอะไรกับข้า”ในน้ำเสียงของอวี๋เจียวแฝงความขุ่นเคืองเล็กน้อย คาดว่าอวี๋ฉี่เจ๋อยังคงพะว้าพะวงใจเื่ที่เมิ่งอวี๋เจียวปีนเตียงในวันนั้นเพราะถึงอย่างไรสำหรับบุรุษเื่นี้ถือเป็เื่น่าอับอายและเสียศักดิ์ศรีอย่างถึงที่สุดนางทำได้เพียงอธิบายเสียงอ่อนว่า “เมื่อก่อนข้าเลอะเลือนเชื่อคำยุยงของอวี๋จือโจวถึงได้ทำเื่ไร้สมองเช่นนั้น เื่มาถึงขั้นนี้แล้วไม่อาจชดเชยได้ ภายหน้าข้าย่อมไปจากสกุลอวี๋ จะไม่กีดขวางเ้าแม้แต่นิดเดียว”
น้ำเสียงอ่อนนุ่มก็ยังไม่อาจทำให้สีหน้าของอวี๋ฉี่เจ๋อดีขึ้นเขาปรายตามองอวี๋เจียวด้วยหางตา ดวงตาลุ่มลึกไร้จุดสิ้นสุดแววตาสะท้อนประกายแสงเทียนขับให้หน้าผากโดดเด่น หน้าหยกดั่งแสงจันทร์ ทะเลดาราในดวงตางดงามเย้ายวนใจผู้คน
“ข้าไม่ได้บังคับให้เ้าไป” เขาเอ่ยอย่างเ็า
อวี๋เจียวแค่นเสียงเย็น นางยกมือข้างขวาไปปัดนิ้วมือที่จับอยู่บนข้อมือของนาง“สกุลอวี๋ของพวกท่านมีอะไรคู่ควรจะรั้งข้าไว้งั้นหรือ?”
คล้ายกับอวี๋ฉี่เจ๋อไม่พอใจในคำกล่าวของนาง เขายังคงกำข้อมือของนางไว้แน่นไม่ยอมปล่อยผินหน้าหนีแล้วเอ่ยว่า “ภายหน้าพูดคุยหยอกล้อกับบุรุษอื่นให้น้อยลงสักหน่อยเพราะถึงอย่างไรเ้าก็คือภรรยาในนามของข้า”
หลังกล่าวจบ แม้ใบหน้าของเขาจะเป็ปกติทว่าใบหูกลับระเรื่อด้วยสีแดงเข้ม เอ่ยด้วยน้ำเสียงเชื่องช้าอย่างไม่สบอารมณ์“ตอนนี้ข้าจับเนื้อต้องตัวเ้าไว้ข้างกายเช่นนี้แล้ว ไม่ได้หัวโบราณน่าเบื่อ”
อวี๋เจียวนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่งก่อนจะหลุดหัวเราะออกมาความขุ่นเคืองมลายหายไปในทันใดนึกไม่ถึงว่าเหตุที่เ้าหมอนี่เป็เช่นนี้ขึ้นมากะทันหันก็เพราะคำพูดประโยคนั้นของนาง
ฝ่ามือและนิ้วที่กอบกุมข้อมือของนางไว้บริสุทธิ์ดุจหยกถึงแม้เ้าของฝ่ามือจะยังเยาว์ แต่ฝ่ามือกลับใหญ่กว่ามือของนางอย่างมากนางเอ่ยพลางหัวเราะแ่เบา “ได้ๆ ข้าผิดไปแล้ว ท่านน่าสนใจที่สุดแล้ว”
วาจายอมตามน้ำเช่นนี้ทำให้สีหน้าของอวี๋ฉี่เจ๋อดูดีขึ้นความเ็าบนหัวคิ้วและดวงตางามประณีตลดลงอยู่บ้าง หางตาหยักโค้งทว่าใบหน้ากลับสุขุมดังเดิม
“เมื่อครู่ยังบอกว่าข้าไม่รู้จักอายสุภาพบุรุษที่มีคุณธรรมผู้ใดเขาทำเช่นนี้? รีบปล่อยมือ ข้าอยากจะนอนแล้ว”อวี๋เจียวพลันนึกถึงประโยคแรกที่อวี๋ฉี่เจ๋อเอ่ยกับนางหลังจากลืมตาตื่นขึ้นมาก็บริภาษว่านางไร้ยางอาย ยามนี้นางจึงลอบด่ากลับคืนเสีย
“ข้า... ข้าไม่ใช่บุรุษอื่นไกล ย่อมไม่เหมือนกัน”ใบหน้าขาวราวกับหยกของอวี๋ฉี่เจ๋อแดงระเรื่อเขาคลายมือที่กุมข้อมืออวี๋เจียวแล้วหันหลังหนี ก้มหน้าเอ่ยเสียงเบาว่า“เมื่อครู่เ้าต่างหากที่จงใจแตะข้า ยามนี้สมใจเ้าแล้ว เ้าจงอย่าได้คืบจะเอาศอกนอนด้วยกันไม่ได้”
อวี๋เจียวนึกไม่ถึงว่าเขาจะเข้าใจเช่นนี้ทันใดนั้นไม่รู้ว่าควรจะเอ่ยสิ่งใด นางไม่ได้คิดจะแตะมือเขาสักหน่อย
“ข้าบอกว่าจะนอนกับท่านเมื่อใดกัน ข้าจะกลับห้องไปนอน”ถึงแม้อวี๋เจียวจะชอบหยอกล้ออวี๋ฉี่เจ๋อ แต่ภายในใจของนางเห็นอวี๋ฉี่เจ๋อเป็เพียงหนุ่มน้อยเท่านั้นเพราะถึงอย่างไรนางก็มีชีวิตมาแล้วหนึ่งภพ ไม่ใช่แม่นางน้อยอายุสิบสามสิบสี่จริงๆ
อวี๋เจียวก้าวเท้าเดินไปทางด้านนอก
อวี๋ฉี่เจ๋อหันหลังกลับมามองแผ่นหลังของนาง มุมปากยกยิ้มบางดวงตาเรียวยาวฉายแววขบขันอย่างลึกซึ้ง
หลังจากอวี๋กานเฉ่ากลับมาถึงเรือนฝั่งตะวันตกพลันเอ่ยด้วยสีหน้าไม่เข้าใจ“ท่านแม่ น้องสะใภ้ห้ามีวิชาหมอได้อย่างไรเ้าคะ? เทียบยาที่จัดมาจะใช้ได้หรือ? มิสู้ข้าไปให้ท่านปู่ตรวจดูสักหน่อยเถิดเ้าค่ะ”
ก่อนหน้านี้สตรีแซ่จางหยามเหยียดอวี๋เจียว แต่ยามนี้ไม่อาจไม่เอ่ยชมนาง“เ้าอย่าเห็นแค่ว่านางอายุน้อย วิชาหมอของนางล้ำเลิศกว่าท่านปู่ของเ้ามากโขได้ยินว่าเมื่อครั้งยังเยาว์เคยคารวะท่านหมอเลื่องชื่อเป็อาจารย์นางเป็คนมีความสามารถ มีลูกสะใภ้เช่นนี้ นับได้ว่าอาสะใภ้รองของเ้าโชคดีมาก”
“อาหญิงเล็กบอกว่าครอบครัวนางยากจนจนไม่มีข้าวจะกินมิใช่หรือเ้าคะหากนางรู้วิชาหมอจริงเช่นที่ท่านกล่าวมาครอบครัวของนางจะหักใจขายนางมาเสริมมงคลได้อย่างไรเ้าคะ?” อวี๋กานเฉ่าเอ่ยถามโดยไม่ต้องคิด
ปีนี้ไม่ใช่ปีข้าวยากหมากแพงต่อให้ครอบครัวจะยากจนเพียงใดก็แค่ส่งบุตรสาวบุตรชายไปเขียนสัญญาขายตนเป็เด็กรับใช้ในสกุลมั่งคั่งไม่กี่ปีก็ได้เงินมาหมุนเวียนเพียงพอทว่าสกุลเมิ่งกลับใจดำ เมิ่งอวี๋เจียวถูกคนในครอบครัวของนางขายทิ้งจริงๆภายหน้าไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับสกุลเมิ่งอีก
สตรีแซ่จางรู้เื่ไม่มากนักตอนแรกท่านผู้เฒ่าเชื่อคำกล่าวของนักพรต เพราะจะเสริมมงคลให้อวี๋ฉี่เจ๋อจึงพยายามค้นหาแม่นางในละแวกหมู่บ้านใกล้เคียงบังเอิญว่าอวี๋หวงฉีบุตรสาวคนเล็กของฮูหยินเฒ่าที่แต่งเข้าหมู่บ้านสกุลเมิ่งบอกว่าในหมู่บ้านมีแม่หม้ายลูกสองใกล้จะใช้ชีวิตต่อไปไม่ไหวแล้วบุตรสาวคนโตอายุครบสิบสามปี หน้าตาสดใสมีน้ำมีนวล คู่ควรกับอวี๋ฉี่เจ๋อพอดีครั้นไปลองถามข่าวในเรือนของนางแม่หม้ายผู้นั้นกลับขายบุตรสาวแค่สี่ตำลึงเงินจริงๆ
