เหอตงเซิงไม่เปิดโอกาสให้อวี๋เจียวพูดเขาะโไปทางข้ารับใช้ข้างนอก “ผู้ใดก็ได้เอาตัวสตรีนางนี้ไปขังไว้ในห้องเก็บฟืน!”
พ่อบ้านเหอใจนหน้าซีด รีบเอ่ยเสียงสั่น “นายท่านแม่นางเมิ่งท่านนี้อาจจะสามารถรักษาท่านผู้เฒ่าของเราได้ขอรับนางก็คือคนที่รักษาอาการป่วยของนายท่านรองสกุลมู่จนหายดีขอรับ”
ข้ารับใช้ที่ยืนอยู่นอกห้องโถงได้วิ่งเข้ามาเตรียมจับตัวคนเจียงชิงเหอรีบเอ่ยปรามเช่นกัน “ช้าก่อน! นายท่านเหอ อวี๋หรูไห่เป็หมอกำมะลอเพราะเขาเลียนแบบเทียบยาของแม่นางเมิ่งถึงได้ทำร้ายท่านผู้เฒ่าแซ่เหอจนเป็เช่นนี้หากแม่นางเมิ่งเป็คนรักษาท่านผู้เฒ่าด้วยตนเองจะไม่มีทางทำให้ท่านผู้เฒ่าเป็เช่นนี้แน่นอนขอรับ ท่านใจเย็นลงก่อนมิสู้ให้แม่นางเมิ่งไปตรวจอาการท่านผู้เฒ่าเสียก่อน"
เมื่อได้ยินเจียงชิงเหอเอ่ยเช่นนี้เหอตงเซิงก็ยกมือขึ้นหยุดเด็กรับใช้ที่กำลังจะจับตัวคนเอาไว้เขาเอ่ยอย่างไม่เชื่อยิ่งนัก “ท่านหมอเจียง ท่าน... นี่มันหมายความว่าอย่างไร? ท่านรู้จักแม่นางเมิ่งผู้นี้หรือ? นางเป็สตรีนางหนึ่ง อายุยังน้อยถึงเพียงนี้เหตุใดท่านต้องตบตาข้าด้วยเล่า?”
เจียงชิงเหอยกยิ้มอย่างจนปัญญา หากไม่ใช่เพราะเขาเห็นมากับตาตัวเองเขาก็คงยากจะเชื่อว่าแม่นางที่อายุน้อยถึงเพียงนี้เช่นเมิ่งอวี๋เจียวจะมีวิชาหมอที่ดีกว่าเขาเสียอีก
“นายท่านเหอ ข้าไม่ได้หลอกท่านจำที่ข้าพูดกับท่านก่อนหน้านี้ได้หรือไม่?”
เหอตงเซิงตะลึงงัน เขาหวนนึกถึงวาจาที่เจียงชิงเหอเอ่ยออกมาตอนอยู่ข้างเตียงของท่านผู้เฒ่าเขาบอกจะไปหาท่านหมอท่านหนึ่ง ไม่แน่ว่าช่วยชีวิตของท่านผู้เฒ่าเอาไว้ได้
เดิมทีเหอตงเซิงไม่ได้หวังอะไรมาก ทั่วทั้งอำเภอฉางขุยผู้ที่วิชาหมอเหนือกว่าเจียงชิงเหอมีเพียงไม่กี่คนนอกจากนั้นเขายังเชิญท่านหมอไม่กี่คนนั้นกลับมาตรวจอาการท่านผู้เฒ่าถึงในจวนแล้วทว่าไม่มีผู้ใดไม่ส่ายหน้าเดินจากไป
เขาจึงคิดเพียงแค่ว่าวาจาของเจียงชิงเหอเป็การปลอบใจเพียงเท่านั้น
แต่เจียงชิงเหอไม่ได้กลับมาเพียงลำพัง สายตาของเหอตงเซิงสลับไปมาระหว่างอวี๋เจียวและเจียงชิงเหอด้วยความสงสัยหลังผ่านไปพักหนึ่งเอ่ยถามว่า "ท่านหมอเจียง ท่านหมอที่ท่านพูดถึง... คือนาง?”
เจียงชิงเหอพยักหน้า
เมื่อเห็นสีหน้าจริงจังของเขา เหอตงเซิงไม่รู้ว่าควรทำหน้าอย่างไรเขานิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะมองไปยังอวี๋เจียว กระแอมไอให้โล่งคอแล้วเอ่ยว่า“เ้าแซ่เมิ่งใช่หรือไม่? คือคนสกุลอวี๋? ในเมื่อหมอเจียงชื่นชมเ้ามากเพียงนี้ข้าจะเชื่อเ้าเป็การชั่วคราว ตามข้ามา”
เหอตงเซิงไม่พูดพร่ำทำเพลงเขาพาอวี๋เจียวไปที่ห้องฝั่งตะวันตกที่ท่านผู้เฒ่าของเขาพักอาศัยทำได้เพียงรอให้อวี๋เจียวรักษาเสียก่อนค่อยวางแผนต่อไป
สตรีในตระกูลเหอที่อยู่ด้านนอกห้องเห็นนายท่านของตนพาเด็กสาวอายุยังน้อยเข้าไปในห้องของท่านผู้เฒ่าเดิมทีคิดจะถามสักสองสามประโยคแต่เมื่อเห็นสีหน้านิ่งขรึมเ็าของเหอตงเซิงจึงไม่กล้าเอ่ยปาก
ข้างเตียงของท่านผู้เฒ่าแซ่เหอล้อมรอบด้วยพี่น้องไม่กี่คนของเหอตงเซิงแต่ละคนล้วนแสดงท่าทางนอบน้อมอย่างมากต่างพากันดวงตาแดงก่ำและนั่งคุกเข่าปาดน้ำตาอยู่ข้างเตียง
อวี๋เจียวเพียงกวาดสายตามองนางพบเห็นการพลัดพรากจากกันเพราะความเป็ความตายจนเคยชินไม่รู้สึกซาบซึ้งใจอะไรกับท่าทางผูกพันลึกซึ้งเช่นนี้ของบุตรชายตระกูลเหอ
“พี่ใหญ่ คนผู้นี้คือผู้ใดกัน?” บุรุษที่นั่งคุกเข่าเช็ดใบหน้าให้ท่านผู้เฒ่าแซ่เหออยู่ข้างเตียงเอ่ยถาม
เหอตงเซิงไม่ตอบอะไร เพียงมองไปทางอวี๋เจียวด้วยสายตาเ็า
อวี๋เจียวดึงข้อมือของท่านผู้เฒ่าแซ่เหอออกมาจากผ้าห่มด้วยใบหน้าสุขุมนางกดปลายนิ้วลงไปบนข้อมือแห้งเหี่ยวและมีจุดด่างดำของเขาชีพจรของท่านผู้เฒ่าแซ่เหอเป็ดังที่เจียงชิงเหอกล่าวมา ชีพจรเต้นช้าและอ่อนแรงอ่อนแรงจนบางครั้งมีบางครั้งไม่มี
อวี๋เจียวชักมือกลับจากชีพจรของท่านผู้เฒ่าแซ่เหอผู้เฒ่าปิดเปลือกตาสนิทและไม่ได้สติ อวี๋เจียวค้อมเอวแกะผ้าโพกศีรษะของท่านผู้เฒ่าแผลพุพองทั่วท้ายทอยที่อยู่ใต้ผ้าปรากฏสู่สายตา อาการบวมสงบลงโคนแผลเน่าเปื่อยกระจายประปรายและเป็หนองช้า ิัสีแดงคล้ำมีของเหลวข้นน้อยมาก เนื้อเน่าเปื่อยยากจะหลุดออกมา
เขาหันไปเอ่ยถามเจียงชิงเหอที่อยู่ด้านข้าง“สีฝ้าลิ้นเป็อย่างไรเ้าคะ?”
เจียงชิงเหอรีบเอ่ย “ลิ้นมีสีแดงอ่อน ฝ้าสีขาว”
