หนานเป่ยเฉาได้ลงมือ ในสายตาของผู้คนแคว้นฉีเขาเป็ถึงดาวรุ่งพุ่งแรงของแคว้น ในสายตาของเขา กฏคงไม่มีความหมายอะไร ไม่จำต้องพูดถึงกฏการประลอง เขาไม่สนใจกฏใดๆทั้งสิ้น
พยายามจะหยุดหนานเป่ยเฉาด้วยกฎมันเป็ไปไม่ได้ อย่างน้อยที่สุดเจียงเฉินก็คิดเช่นนั้น หนานเป่ยเฉาเป็ดั่งพยัคฆ์ในหมู่คน เขาเกิดมาพร้อมโชคชะตาอันยิ่งใหญ่ และ ยังให้ความรู้สึกของกลิ่นอายของาารอบตัวเขา อัจฉริยะเช่นนี้ ความสำเร็จของเขาไม่มีที่สิ้นสุด เขาเป็ดั่งอัจฉริยะจากทวีปศักดิ์สิทธิ์ ราวกับเขาเป็เทพเซียนที่ลงมาจาก์
หนานเป่ยเฉาคิดว่าตนเองสูงส่งกว่าผู้ใด ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้ดูิ่เขา ดังนั้นเมื่อเขา้าสังหารเจียงเฉิน เขา้าให้เจียงเฉินตกตายในขณะคุกเข่า
"เขาจบสิ้นแล้ว คราวนี้เขาจบสิ้นจริงๆแน่!"
"หนานเป่ยเฉาเป็คนหยิ่งผยอง ด้วยเกียรติภูมิของเขานั้นไม่เคยอนุญาตให้ผู้ใดมาดูถูกเขามาก่อน ในตอนนี้แม้กระทั่งกวนอี้หยุนก็ไม่สามารถปกป้องเจียงเฉินได้อีก!"
"หนานเป่ยเฉาแข็งแกร่งเกินไป แม้กวนอี้หยุนจะแข็งแกร่ง แต่เขาไม่สามารถต้านทานการโจมตีของหนานเป่ยเฉาได้แม้แต่กระบวนท่าเดียว ในความเห็นของข้าหนานเป่ยเฉาสามารถต่อกรได้กระทั่งผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์เลยทีเดียว"
อัจฉริยะผู้นี้ไม่อาจพบเห็นมาก่อนนับพันปี แคว้นฉีก็ไม่เคยให้กำเนิดใครเช่นเขามาก่อน เขาคือความภาคภูมิใจที่สุดของนิกายอัคคีผลาญฟ้า เขาไม่เคยฟังกฏใดๆทั้งสิ้น
มีหลายคนถอนหายใจออกมา หนานเป่ยเฉาเป็คนโเี้ ไม่มีใครสามารถต่อต้านเขาได้ เจียงเฉินต้องจบสิ้นในวันนี้ ไม่มีที่ไหนที่เขาสามารถอยู่รอดได้ ั้แ่หนานเป่ยเฉา้าสังหารเขา ก็ไม่มีผู้ใดสามารถช่วยเขาได้ แม้แต่ปีกโลหิตก็ไร้ประโยชน์ เพราะไม่มีผู้ใดหนีหนานเป่ยเฉาพ้น
"ไสหัวไปซะ!"
พลังปราณของหนานเป่ยเฉาพวยพุ่งอย่างรุนแรง และพูดกับกวนอี้หยุนด้วยน้ำเสียงที่เ็า
"หนานเป่ยเฉา เ้าคงไม่คิดว่าตัวเ้าเหนือกว่ากฏและคำสั่งเช่นนั้นใช่รึไม่"
กวนอี้หยุนโกรธเกรี้ยวนัก สถานการณ์ในตอนนี้แม้แต่ตุ๊กตาโคลนก็ยังสามารถรู้สึกถึงความกราดเกรี้ยวของเขา ในตอนนี้เขาเป็ตัวแทนของผู้นำนิกายเซวียนอี้ แม้ว่าเขาจะไม่อาจต่อกรกับหนานเป่ยเฉา แต่เขาไม่สามารถนั่งอยู่ข้างหลังและมองดูศิษย์นิกายเซวียนอี้ถูกหนานเป่ยเฉาสังหารได้
เหลียงเซียวที่ยืนอยู่ด้านข้าง บนใบหน้าของเขาเผยรอยยิ้มแสยะ เขาทำราวกับชมงิ้วฉากเด็ด เขาอยากเห็นว่ากวนอี้หยุนจะหยุดหนานเป่ยเฉาอย่างไร
ในเวลานั้นเอง ได้มีมือมาตบไหล่ของกวนอี้หยุนจากด้านหลัง เป็มือของเจียงเฉินนั่นเอง เจียงเฉินได้เดินออกมาจากด้านหลังของกวนอี้หยุนมาหยุดที่ด้านหน้าของหนานเป่ยเฉา
เจียงเฉินสวมชุดคลุมสีขาว เขามีรอยยิ้มบางๆบนใบหน้าเขา เสื้อและผมของเขาโบกสะบัดภายใต้ออร่าของหนานเป่ยเฉา รอยยิ้มยังประดับอยู่บนใบหน้าของเขายังคงไม่แปรเปลี่ยน สายตาของเขาเฉียบคม ของมองไปยังดวงตาของหนานเป่ยเฉา ท่าทางที่เขาได้แสดงออกมาทำให้เขาดูเหมือนไม่ด้อยไปกว่าหนานเป่ยเฉา
"เขากล้าเผชิญหน้าโดยตรง!แค่ความกล้าของเขาเพียงอย่างเดียวก็ทำให้เขาเป็คนยอดเยี่ยมแล้ว!"
"ท่าทางของเ้าหนุ่มนี่ต้องมีอะไรสักอย่างที่ไม่สมกับอายุของเขาแน่ ดูเหมือนว่าแม้หนานเป่ยเฉาสามารถสังหารเขาด้วยการตบเพียงครั้งเดียว เขาก็ไม่กลัวมัน"
ทุกคนต่างมองตามการกระทำของเจียงเฉิน แม้กระทั่งกวนอี้หยุนก็ไม่คิดว่าเจียงเฉินจะกล้าหาญถึงเพียงนี้ เขาสามารถเผชิญหน้ากับหนานเป่ยเฉาโดยยังมีท่าทีใจเย็นและปราศจากความกลัว
"เ้าไม่กลัวข้างั้นรึ?"
สายตาของหนานเป่ยเฉาราวกับใบมีดเยือกแข็งแทงกระหน่ำไปยังใบหน้าของเจียงเฉิน เขาไม่ได้โจมตีเจียงเฉินและสังหารเจียงเฉิน เขาเป็คนหยิ่งยโส เขา้ารู้ว่าเจียงเฉินสามารถยืนตรงหน้าของเขาอย่างใจเย็นได้อย่างไร เหตุใดมันถึงไม่คุกเข่าต่อหน้าเขา
"ทำไมข้าต้องหวาดกลัวเ้าด้วย เ้าต่างหากไม่หวาดกลัวข้าหรอกรึ?"
เจียงพูดพร้อมแสยะยิ้ม
"ข้าน่ะหรือต้องกลัวเ้า? ฮ่าฮ่า น่าขัน... ช่างน่าขันสิ้นดี! เ้าเชื่อจริงหรือว่าข้าไม่สามารถบดขยี้เ้าตายเฉกเช่นมดปลวกได้ โดยไม่ต้องถึงนิ้วมือข้าด้วยซ้ำ"
หนานเป่ยเฉาหัวเราะเสียงดัง นี่เป็เื่ตลกที่สุดที่เขาเคยได้ยินมา เขาไม่เคยได้ยินอะไรแบบนี้มาก่อน
"เพราะว่าศักยภาพของข้าไม่ได้ด้อยไปกว่าเ้ายังไงละ อีกทั้งมันยังเหนือกว่าเ้าด้วย เพราะงั้นเ้าถึงไม่อาจรอช้าที่จะสังหารข้ายังไงละ เพราะเ้ากลัวว่าข้าจะแข็งแกร่งกว่าเ้า และกลับมาสังหารเ้าทิ้งยังไง"
เจียงเฉินพูดออกมาคำต่อคำ และทุกคนในที่นี้ได้ยินชัดเจน ทำให้ผู้คนนับถือความกล้าของเขามากขึ้นไปอีก ในขณะเดียวกันหลายคนเริ่มคิดเกี่ยวกับสิ่งที่เจียงเฉินพูด
"ที่เจียงเฉินพูดมาก็ถูก ด้วยศักยภาพที่ได้แสดงให้เห็นในวันนี้ เขาไม่ด้อยไปกว่าหนานเป่ยเฉาเลย และยังเหนือกว่าหนานเป่ยเฉาด้วยซ้ำ! เป็ไปได้จริงๆว่าในอนาคตเจียงเฉินจะเหนือกว่าหนานเป่ยเฉาเป็แน่! หนานเป่ยเฉากลัวว่าในอนาคตเจียงเฉินจะแข็งแกร่งกว่าเขา เขาไม่อาจทนรอได้อักจึงต้องรีบฆ่าเจียงเฉิน!"
"มันเื่ตลกอะไร! เมื่อหนานเป่ยเฉา้าฆ่าใคร เขาจำเป็ที่้าเหตุผลหรือ? ไม่เคยแม้แต่สักครั้ง เจียงเฉินแค่วางท่าขู่เขาเท่านั้น!"
คำพูดของฝูงชนได้ยินไปถึงหูหนานเป่ยเฉา คำพูดเ่าั้ได้กระตุ้นความภาคภูมิใจของเขา ถ้าเขาสังหารเจียงเฉินในวันนี้ เขาต้องถูกตราหน้าว่าเป็ไอขี้ขลาดที่กลัวเจียงเฉินเป็แน่
"เจียงเฉิน เ้าต้องเข้าใจว่าต่อหน้าของข้า เ้าก็ไม่ต่างอะไรกับมดปลวก ด้วยผู้สูงส่งเช่นข้า ได้ยืนอยู่ตรงนี้และพูดคุยกับเ้านับว่าเป็เกียรติที่ยิ่งใหญ่สำหรับเ้าแล้ว!หากข้า้าสังหารเ้า ก็ไม่จำเป็ต้องใช้เหตุผลอันใดอีก"
หนานเป่ยเฉายืนเหนือผู้อื่นเสมอมา กลิ่นอายสูงส่งแผ่ออกมาจากทั่วร่างของเขา ราวกับว่าเขาเป็าาของโลกใบนี้ก็มิผิด
"ฮึ่ม! หนานเป่ยเฉาเ้าจงเก็บกลิ่นอายสูงส่งของเ้าไปซะเถอะ! อย่าได้มาแสดงความสูงส่งต่อหน้าข้า อย่าคิดว่าเ้าเป็อัจฉริยะที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก! ให้เวลาข้าเพียงหนึ่งปี และเ้าจะรู้ว่าระหว่างเราใครจะแข็งแกร่งกว่ากัน"
เจียงเฉินแค่นเสียงอย่างเ็า เขาปลดปล่อยกลิ่นอายที่หยิ่งยโสไม่แพ้หนานเป่ยเฉาออกมา การกระทำของเขาทำให้หลายคนรู้สึกหวาดหวั่น นี่เป็คนแรกที่กล้าหยิ่งยโสต่อหน้าหนานเป่ยเฉา ยิ่งไปกว่านั้นเขาหยิ่งยโสโดยธรรมชาติและปราศจากซึ่งความกลัวใดๆ ด้วยความกล้าหาญของเขาเพียงอย่างเดียว เขาก็ชนะใจทุกคน ทุกคนต่างนับถือ
"ฮ่าฮ่าฮ่า......"
เมื่อได้ยินเช่นนั้นหนานเป่ยเฉาหัวเราะเสียงดังออกมาเสียงดัง เขาก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว และ ยืนใกล้เจียงเฉินจนร่างกายของพวกเขาแทบจะัักัน เขาพูดออกมาด้วยเสียงเข้มและเ็า
"เจียงเฉิน เ้าฉลาดมากใช้วิธีนี้เพื่อรักษาชีวิต! ขอแสดงความยินดีด้วย เ้าทำสำเร็จ! ข้าให้เวลาเ้าหนึ่งปี! ในอีกหนึ่งปีเราจะมาตัดสินชี้ตายกัน ข้าจะดูว่าเ้าจะเติบโตได้แค่ไหนในหนึ่งปีนี้!"
หลังจากพูดเช่นนั้น หนานเป่ยเฉาก็กลับตัวแล้วพุ่งทะยานขึ้นไปบนฟ้าจากไป ในขณะเดียวกันได้ยินเสียงเขาจากกลางอากาศ
"เจียงเฉินจงสนุกไปกับปีสุดท้ายของชีวิตเ้า!"
ท่าทีของเจียงเฉินไม่ได้เปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด แต่ถอนหายใจอย่างโล่งอก สถานการณ์ในวันนี้นอกเหนือจากวิธีนี้แล้วไม่มีสิ่งใดสามารถช่วยเขาได้
เจียงเฉินคาดการณ์ได้แม่นยำ เขาบอกได้ง่ายๆว่าหนานเป่ยเฉาเป็คนเช่นไร คนเช่นเขา ความหยิ่งยโสเป็ดั่งส่วนหนึ่งของเขา ความภาคภูมิใจได้ฝังลึกลงไปในกระดูก โดยที่เขาไม่สนใจใครทั้งนั้น
ดังนั้นเขาเลยใช้หนึ่งปีมาเดิมพันกับความหยิ่งยโสของหนานเป่ยเฉา เขาสรุปได้ว่าหนานเป่ยเฉาจะต้องตอบตกลงเป็แน่ ที่นี่มีผู้คนจำนวนมาก บรรดาตัวแทนทั่วทั้งแคว้นฉีแทบจะมารวมตัวกันที่การแข่งขันประจำปีแคว้นฉี ด้วยสถานะของหนานเป่ยเฉา หากลงมือสังหารเขาหลังจากที่เจียงเฉินพูดสิ่งเหล่านี้ออกไป ผู้คนก็จะคิดว่าเขากลัวเจียงเฉิน
หนานเป่ยเฉาผู้หยิ่งยโส จะยอมรับได้อย่างไรว่ากลัวผู้อื่น ดังนั้นหนานเป่ยเฉาจึงตกลงตามข้อเสนอหนึ่งปีแล้วจากไป
"บัดซบ! หนานเป่ยเฉาจากไปเช่นนี้.....นั่นแสดงว่าเจียงเฉินต้องมีอะไรสุดยอดสักอย่างเป็แน่ เขากล้าที่เสนอการแข่งขันในอีกหนึ่งปี ด้วยเวลาเพียงแค่หนึ่งปี ไม่ว่าเขาจะเป็อัจฉริยะจากที่ไหน ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหนานเป่ยเฉา"
"ใช่เลย เจียงเฉินผู้นี้หยิ่งยโสอย่างมาก!เขาคิดที่จะเอาชนะในเวลาแค่หนึ่งปีงั้นรึ!เขาเป็แค่ผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้มนุษย์ขั้นต้น แม้ว่าการบ่มเพาะของหนานเป่ยเฉาจะไม่ได้คืบหน้าในปีนี้ เจียงเฉินก็ไม่มีทางที่จะไปถึงระดับเขาได้!"
"เฮ้อ....เขาสามารถต่ออายุไปได้อีกปีเท่านั้น เมื่อปีหน้ามาถึงเขาต้องถูกหนานเป่ยเฉาฆ่าตาย"
"ข้าชักอยากจะเห็นการต่อสู้ในอีกหนึ่งปีซะแล้วสิ!เจียงเฉินดูไม่เหมือนคนบ้าบิ่นทำอะไรไม่ยั้งคิดหรอก มารอชมกันดีกว่า! ในหนึ่งปีเราอาจจะได้ชมงิ้วฉากเด็ดก็เป็ได้!"
"ใช่แล้ว การแข่งขันเป็ตายระหว่างเจียงเฉินกับหนานเป่ยเฉา แน่นอนว่าต้องเป็ศูนย์กลางของความสนใจทั่วแคว้นฉี!หลังจากนี้อีกหนึ่งปีมันต้องเป็เหตุการณ์ที่สำคัญแน่ ในตอนนี้เจียงเฉินได้เข้าร่วมกับนิกายเซวียนอี้ เขาจะได้ทรัพยากรที่เหมาะสมกับการบ่มเพาะแน่นอน"
ทุกคนต่างถอนหายใจออกมา การแข่งขันประจำแคว้นฉีในวันนี้ไม่ได้ดำเนินการอย่างราบรื่น มีเื่ที่น่าตกตะลึงเกิดขึ้นมากมาย ท้ายที่สุดยังเกิดเื่ที่ไม่คาดฝันอีกด้วย
เจียงเฉินได้เป็ผู้ชนะเลิศการแข่งขัน จากผู้ฝึกตนพเนจรที่น่าอับอายได้ปรากฏตัวขึ้นมาเป็ม้ามืดของการแข่งขัน สามารถเอาชนะศิษย์นอกของทั้งสี่นิกาย และคว้าอันดับหนึ่งมาได้ ทำให้เขาในตอนนี้กลายเป็คนมีชื่อเสียงอย่างแท้จริง
นามของเจียงเฉินนั้นกระจายไปทั่วทั้งแคว้นฉี ทุกคนต่างรู้จักเขา
มีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นมากมายในการแข่งขัน คนที่คาดว่าจะเป็ผู้ชนะเลิศได้ตกตายอนาถ ร่างของเขาถูกผ่าออกเป็สองซีก แล้วคนที่มีความสามารถโดดเด่นอย่างหลิงอ้าวยังถูกตัดหัว
สำหรับนิกายเทียนเจี้ยนและนิกายอัคคีผลาญฟ้า การตายหลี่หวู่ซวงและหลิงอ้าวนับเป็การสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ในการแข่งนี้
เช่นเดียวกับหุบเขาสุขสันต์ ไม่ต้องสงสัยว่าพวกเขาเพียงแค่้าลงแข่งขันครั้งนี้เท่านั้น ในความจริงแล้วหุบเขาสุขสันต์มีภาพรวมที่แข็งแกร่งเป็อย่างมากด้วยทักษะการบ่มเพาะพลัง และทักษะมนต์เสน่ห์ของพวกเขาเป็เส้นทางสายมาร มันเป็เื่ยากมากที่จะมีผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งจากหุบเขาสุขสันต์ ดังนั้นในประวัติศาสตร์ของแคว้นฉี หุบเขาสุขสันต์จึงไม่เคยได้อันดับหนึ่ง
หลังจากที่อี้ฉิงจื่อยอมแพ้ สามารถบอกเหตุผลได้ง่ายๆว่าเมื่อทักษะมนต์เสน่ห์นั้นไม่มีผล นางก็สูญเสียความได้เปรียบในการต่อสู้ไป
"ฮึ่ม! ต่อสู้ในอีกหนึ่งปีงั้นรึ? ข้าอยากเห็นจริงๆ ความสามารถที่ทำให้เ้ารอดชีวิตได้ในปีนี้!"
เหลียงเซียวแค่นเสียงอย่างเ็า ก่อนจะหันหลังกลับและเตรียมที่จะจากไป ในตอนนั้นเองก็มีศิษย์จากนิกายเทียนเจี้ยนออกมายืนแล้วพูดว่า
"ศิษย์พี่เหลียง เ้าเจียงเฉินกับเ้าหมาตัวนั้นเป็พวกเดียวกัน! บอกมันให้ส่งเ้าหมานั่นมาให้เราดีไหมครับ!"
"อะไรนะ? เ้าหมาที่มันปลดปล่อยสัตว์อสูร ในหอคอยเรือนจำปีศาจงั้นรึ?"
เหลียงเซียวพูดออกมา เขาได้ยินเื่ที่เกิดขึ้นในหอคอยเรือนจำปีศาจมาก่อนหน้านี้ เ้าหมาที่โเี้นั่นได้คร่าชีวิตศิษย์นอกของนิกายไปมากมาย
"ใช่ครับ เป็เ้าหมาระยำนี่ไม่ผิดแน่!"
ศิษย์คนหนึ่งพูดพร้อมขบฟันแน่น
"เจียงเฉิน ส่งเ้าหมานั่นมาให้ข้าซะ!"
เหลียงเซียวหันหลังกลับไปและมองไปยังเจียงเฉิน
"เหลียงเซียว หมาอะไร? อย่ามาไร้สาระน่ะ!"
กวนอี้หยุนพูดออกมาอย่างไม่พอใจ
"กวนอี้หยุน เ้าสามารถปกป้องเจียงเฉินได้ แต่อย่าบอกข้านะว่าเ้าจะปกป้องกระทั่งหมา?! วันนี้ถ้าเ้าไม่ส่งเ้าหมานั่นมาให้ข้า อย่ากล่าวโทษข้าที่เสียมารยาทละกัน!"
เหลียงเซียวเกรี้ยวกราดเป็อย่างมาก เขาไม่สามารถสังหารเจียงเฉินที่นี่ได้ แต่ไม่ใช่กับเ้าหมานั่น เขา้าฆ่ามัน ดังนั้นมันต้องตายเพื่อระบายความโกรธของเขา
ผู้คนที่กำลังจะกลับไปเพ่งความสนใจไปที่ใจกลางของลานกว้าง ดูเหมือนว่านิกายเทียนเจี้ยน กับนิกายเซวียนอี้จะสู้กันเพื่อหมา
"ข้าไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเ้าหมานั่น ถ้าเ้าสามารถ เ้าก็ไปจับมันเอง! ทำไมเ้าต้องมาถามข้าเื่เ้าหมานี่ด้วย? เ้าเห็นว่าเ้าหมานั่นอยู่ข้างข้าเมื่อไรกัน?"
เจียงเฉินยิ้มเยาะออกมา เ้าหมานั่นมันไม่ยอมถูกจับได้ง่ายๆ แม้ว่าเขา้าส่งเ้าหมานั่นให้แค่ไหน เขาก็ไม่มีทางทำได้
"เ้าหมามันอยู่ตรงนี้!"
ใครบางคนในฝูงชนะโออกมา มันเป็คนที่แพ้พนันกับเ้าหวงต้า
ฟุ่บ..!
หลังจากได้ยินคำพูดของชายคนดังกล่าว ศิษย์นิกายเทียนเจี้ยนจำนวนหนึ่งวิ่งไปยังตรงนั้นด้วยความเร็วสูง.
