ใบหน้าของถงอวิ๋นเฟยดูดุร้ายขึ้น พลังอันแข็งแกร่งก็ปะทุขึ้นมาราวกับน้ำป่าที่เชี่ยวกราก จนไม่อาจมีผู้ใดหยุดยั้งไว้ได้
เมื่อรู้สึกถึงอาการาเ็ที่แสนสาหัสขึ้นเรื่อยๆ ของฉินอวี่ ถงอวิ๋นเฟยก็รู้สึกสบายใจอย่างมาก ในครั้งแรกที่เขาเห็นฉินอวี่ ความรังเกียจและความเคียดแค้นก็ะเิขึ้นอย่างรุนแรง และถงอวิ๋นเฟยเองก็ไม่สามารถอธิบายเหตุผลของเื่นี้ได้ ดูเหมือนว่า เขาได้ัักับผู้เป็ศัตรูกันมาแต่กำเนิด แต่เพราะมีสยงท่าเทียนอยู่ด้วย ถงอวิ๋นเฟยจึงไม่สามารถทำอะไรฉินอวี่ได้ ดังนั้น เขาจึงต้องหลอกล่อให้ฉินอวี่ยอมประลองชี้เป็ชี้ตายกับตนเอง
นับั้แ่รู้ว่าตระกูลขวงสยงมีโอกาสทำให้ตระกูลตนเองต้องเดือดร้อน ถงอวิ๋นเฟยก็พะว้าพะวังมากขึ้นเรื่อยๆ จนเขา้ายืมมืออี้จ้านเทียนเพื่อสังหารฉินอวี่
ใน่ไม่กี่วันมานี้ เขาได้พยายามชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียในการสังหารฉินอวี่ หลังจากพิจารณาดูแล้ว เขาก็รู้สึกได้ว่าความพะว้าพะวังของตนเองนั้นมาจากสยงท่าเทียน เขาจึงเคยคิดจะปล่อยฉินอวี่ไป แต่ก็ยังรู้สึกอย่างคลุมเครือว่า หากเขาปล่อยฉินอวี่ไป เช่นนั้นแล้ว ถ้าคิดจะสังหารฉินอวี่ในอนาคตคงจะเป็เื่ยากเสียแล้ว และฉินอวี่ก็อาจกลายเป็ปัญหาใหญ่ในภายหลังได้
แม้ว่าถงอวิ๋นเฟยจะไม่รู้ว่าทำไมตนเองจึงตั้งใจมุ่งร้ายฉินอวี่ได้มากถึงเพียงนี้ แต่ความรู้สึกเช่นนี้กลับไม่เคยเกิดขึ้นกับบุคคลอื่นมาก่อน ดังนั้นมันจะต้องมีเหตุผลบางอย่างอยู่แน่นอน ถงอวิ๋นเฟยเชื่อมั่นในสัญชาตญาณของตนเองมาตลอด ดังนั้นในครั้งนี้เขาจึงตั้งใจใช้พลังทั้งหมดของเขาเพื่อจัดการสังหารฉินอวี่
แต่สิ่งที่ถงอวิ๋นเฟยนึกไม่ถึงคือฉินอวี่ผู้นี้มีพลังอสุนีลึกลับอยู่ในตัว พลังอสุนีลึกลับที่หลั่งไหลสู่ร่างกายเมื่อไม่นานนี้ ทำให้ถงอวิ๋นเฟยได้รับาเ็ไปไม่เบาเลย เป็เพราะยังกังวลว่าฉินอวี่จะออมมือไว้ ถงอวิ๋นเฟยจึงรีบเรียกใช้ร่างยุทธ์ทองคำเพื่อป้องกันทั่วทั้งร่าง พลังความแข็งแกร่งในร่างกายได้พัฒนาไปอย่างมาก เขา้าเร่งให้การต่อสู้จบโดยเร็ว และสังหารฉินอวี่เสีย
แม้ว่าระดับการฝึกฝนจะถูกระงับไว้ แต่ด้วยพลังอันแข็งแกร่งของร่างยุทธ์ทองคำ ทำให้ถงอวิ๋นเฟยยังคงมีความมั่นใจในการกำจัดฉินอวี่เป็อย่างยิ่ง
แล้วก็เป็ไปตามที่เขาคาดเอาไว้ แม้ว่าฉินอวี่จะมีความแข็งแกร่ง แต่เมื่อต้องเผชิญกับพลังของร่างยุทธ์ทองคำ นับว่าเขากลับอ่อนแอไปโดยสิ้นเชิง
หมัดที่หนักอึ้งถูกชกออกไปครั้งแล้วครั้งเล่า พุ่งตรงเข้าใส่ร่างของฉินอวี่ ร่างกายของฉินอวี่รู้สึกได้ถึงแรงของหมัดที่ชกเข้ามาจนร่างแทบแตกออก สิ่งนี้ทำให้ถงอวิ๋นเฟยยิ่งตื่นเต้นอย่างมาก แต่เมื่อเวลาผ่านไป ถงอวิ๋นเฟยก็เริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติบางอย่าง
ในเวลานี้ดูเหมือนว่าฉินอวี่จะได้รับาเ็ไปทั้งตัว ทั่วทั้งร่างของเขาเต็มไปด้วยเื แต่การโจมตีในแต่ละครั้งของเขากลับทำให้ถงอวิ๋นเฟยยิ่งรู้สึกว่าตนเองมีความแข็งแกร่งขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น ร่างกายของฉินอวี่ตอนนี้ก็เต็มไปด้วยลำแสงสีแดงเื และยิ่งฉินอวี่าเ็มากขึ้นเท่าไร ลำแสงสีแดงเืก็จะเปล่งประกายมากขึ้นตามไปด้วย สิ่งนี้ทำให้ถงอวิ๋นเฟยรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไรนัก
“หมัดยุทธ์ทองคำ!” ถงอวิ๋นเฟยได้เผยทักษะการต่อสู้ของเผ่ายุทธ์ทองคำออกมาทันที หมัดขวาของเขาปล่อยแสงสีทองพุ่งออกไปเบื้องหน้า ก่อตัวเป็หมัดสีทองที่มีขนาดใหญ่เปล่งประกายราวกับดวงอาทิตย์ที่กำลังแผดเผา พุ่งโจมตีตรงเข้าหาศีรษะของฉินอวี่ทันที
ฉินอวี่ที่าเ็ไปทั่วร่างได้ถอยหลังออกไป พลางใช้แขนทั้งสองข้างป้องศีรษะเอาไว้
“ตูม!”
พลังอันแข็งแกร่งดั่งสัตว์ร้ายะเิออก ร่างกายของฉินอวี่ลอยตีลังกาออกไปราวกับดาวตก กระแทกใส่ม่านแสงพลังเวทอย่างรุนแรง
ขณะที่ฉินอวี่กำลังปีนลุกขึ้นมา เขาก็กระอักเืออกมาทันที ที่แขนของเขาเริ่มมีกระดูกและเืเผยออกมาให้เห็นอย่างรางๆ ทันทีที่เขาลุกขึ้นยืน ถงอวิ๋นเฟยก็โจมตีเข้ามาอีกครั้ง หมัดทั้งสองของเขาเต็มไปด้วยสีทองที่แพรวพราว วนเวียนใส่ศีรษะของฉินอวี่ทั้งซ้ายขวา และพูดเสียงเบาๆ “หมัดยุทธ์ทำลายฟ้า”
“ท่านพี่... รีบสกัดเร็วเข้าสิ!” ฉินเสวี่ยที่อยู่บนที่นั่งชั้นบนอดที่จะลุกขึ้นยืนไม่ได้ จากนั้นจึงะโออกไป
ฉินจ้านยังคงนั่งตัวตรงด้วยใบหน้าที่เคร่งเครียด มือที่กำหมัดไว้แน่นเริ่มกลายเป็สีม่วงคล้ำ ผู้าุโโม่ก็แสดงท่าทีเคร่งขรึม หากฉินอวี่ไม่สามารถต้านทานหมัดทั้งสองนี้ได้ เกรงว่าคงต้องตกอยู่ในอันตรายเป็แน่
“พ่ายแพ้แล้วหรือ?” จื่อซวินเอ๋อมองไปทางฉินอวี่ที่ได้รับาเ็สาหัสด้วยดวงตาที่พร่ามัว และพึมพำกับตนเอง
“พี่ฉิน รีบสกัดไว้สิ” หลงอวี่เอ่ยขึ้นพร้อมร่างกายที่สั่นเทา เม้มริมฝีปากแน่นด้วยความกังวลใจ
“รีบสกัดไว้สิ!” หวังผิงเอนตัวไปข้างหน้า กำหมัดทั้งสองข้างไว้แน่น และะโร้องในใจ หากฉินอวี่ตายไป แล้วจะทำอย่างไรเื่เพลิงแอ่งธรณีล่ะ?
“มันจบแล้วหรือ?” อี้จ้านเทียนพูดอย่างเฉยเมย ดวงตาของเขาอดไม่ได้ที่จะมองตรงไปทางสยงท่าเทียนที่อยู่ฝั่งตรงข้าม เมื่อเขาเห็นสีหน้าท่าทางที่ดูไม่ใส่ใจของสยงท่าเทียน อี้จ้านเทียนก็ตกตะลึง
รอยยิ้มแห่งความเย้ยหยันปรากฏขึ้นที่มุมปากของถงอวิ๋นเฟย ขณะที่เขากำลังมั่นใจว่าฉินอวี่จะต้องตายอย่างแน่นอนแล้วนั้น จู่ๆ ฉินอวี่ก็เงยหน้าขึ้นมา แม้ว่าเขาจะโชกไปด้วยเืทั่วทั้งร่างจนมองไม่เห็นหน้าตา แต่ดวงตาลึกๆ ทั้งสองนั้น กลับเผยให้เห็นสีที่แปลกประหลาด ริมฝีปากของฉินอวี่ค่อยๆ ขยับ และพูดขึ้นช้าๆ
“เ้า ต่อยเสร็จแล้วหรือยัง?”
ในขณะที่หมัดทั้งสองข้างกำลังกระแทกศีรษะทั้งสองด้านของฉินอวี่ ศีรษะของเขาก็เอนไปข้างหน้าเล็กน้อย มือขวาของเขาเกิดเป็ลำแสงสีแดงก่ำ จากนั้นหมัดที่แฝงไปด้วยภาพลวงกว่าแปดสายก็พุ่งตรงไปยังหน้าอกของถงอวิ๋นเฟย
“ตูม บึ้ม บึ้ม!” ม่านแสงพลังเวทสั่นะเืขึ้นอย่างรุนแรงเกิดเป็ความวุ่นวายโกลาหล ในขณะเดียวกันผู้ชมทั่วทั้งสนามประลองก็เงียบลงทันที มองฉากที่ปรากฏขึ้นอย่างเฉื่อยชา
ในตอนนี้เหตุการณ์ที่พวกเขาคิดเอาไว้กลับไม่เกิดขึ้น ทุกสิ่งกลับกันไปหมด ถงอวิ๋นเฟยถูกโจมตีจนกระเด็นออกไป พลังแสงสีแดงทั่วร่างของฉินอวี่ก่อตัวเป็เปลวเพลิงสีแดงเืที่กำลังเผาไหม้อย่างรุนแรง ขณะที่ถงอวิ๋นเฟยกำลังกระเด็นลอยออกไปนั้น ฉินอวี่ก็ก้าวออกไปข้างหน้าอย่างดุเดือด และปรากฏตัวขึ้นข้างกายของถงอวิ๋นเฟย ในตอนนี้หมัดข้างขวาของเขาก็เปล่งประกายแสงเจิดจ้า จากนั้นหมัดข้างขวาที่มีภาพลวงตานับไม่ถ้วนก็กระแทกเข้ากับใบหน้าของถงอวิ๋นเฟยราวกับมีพลังที่มากมายมหาศาล
“ปึง!”
ถงอวิ๋นเฟยล้มลงกับพื้นอย่างรุนแรง แรงสั่นะเือันทรงพลังทำให้สนามประลองต้องสั่นสะท้าน จากนั้นฉินอวี่จึงต่อยหมัดซ้ายออกไปใส่ช่องท้องของถงอวิ๋นเฟย ตามด้วยหมัดข้างขวาที่ทรงพลังราวกับจะะเิฟ้าดินให้แยกออกจากกัน หมัดแล้วหมัดเล่าถูกต่อยลงบนใบหน้าของถงอวิ๋นเฟย
“เ้าอยากจะฆ่าข้ามิใช่หรือ? เข้ามาสิ!!!” ฉินอวี่ส่งเสียงตวาดออกไป จากนั้นก็ต่อยไปด้วยพลังหมัดที่รุนแรงอีกครั้ง
“ปัง!”
“ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!”
ทั่วทั้งสนามประลองสั่นสะท้านเพราะหมัดที่ทรงพลังของฉินอวี่ ดวงตาของทุกคนต่างเบิกกว้าง เมื่อเห็นภาพสถานการณ์ที่แปรเปลี่ยนไปเช่นนี้ แต่ละคนต่างตกตะลึง ด้านผู้าุโจางรีบลุกขึ้นยืนทันทีด้วยท่าทีที่นิ่งขรึมจนน่ากลัว
“นี่มันอะไรกัน?”
“เป็เช่นนี้ได้อย่างไร? ฉินอวี่ได้รับาเ็สาหัสอยู่มิใช่หรือ? เพราะอะไร... เพราะอะไรจึงมีพลังที่น่ากลัวเช่นนี้ปะทุขึ้นมาในวินาทีสุดท้ายได้?”
...
ทุกคนตกตะลึง ทั่วทั้งสนามประลองเงียบสนิท มีเพียงเสียงกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงเท่านั้น ทุกคนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แม้กระทั่งอี้จ้านเทียน หวังผิง ชายหนุ่มชุดขาว และเหล่าผู้มีพร์ในทางตะวันออกของแดนนภาชิงเหลียนต่างก็ตกตะลึงเป็อย่างมากเช่นกัน แม้ว่าพวกเขาจะได้ยินเสียงเหล่านี้ แต่ก็ยากที่จะยอมรับการโจมตีดังกล่าวได้
ในเวลาเดียวกัน ในโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งของเมืองหลักเทียนอู่ ผู้าุโในชุดธรรมดาคนหนึ่งกำลังดื่มด่ำสุราคำโต ดวงตาทั้งสองของเขาแดงก่ำ มีปื้นสีแดงจากการดื่มปรากฏบนใบหน้าราวกับหยดโลหิต ขณะที่ฉินอวี่กำลังปะทุพลัง จู่ๆ ผู้าุโก็เงยหน้าขึ้นมา และพูดอย่างประหลาดใจ “พลังว่านจ้ง? เขาเป็คนของสำนักยุทธ์ว่านจ้งหรือ? ก็ไม่ใช่...” ยังไม่ทันพูดจบ ร่างของผู้าุโก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย เหลือเพียงศิลาิญญาก้อนหนึ่งที่ทิ้งเอาไว้บนโต๊ะ
เมื่อผู้าุโปรากฏตัวอีกครั้งเขาก็อยู่ในสนามประลองแล้ว เขาคว้าคนคนหนึ่งด้วยมือข้างเดียวแล้วขว้างออกไป จากนั้นก็นั่งดูการต่อสู้ที่อยู่ด้านล่าง
“นี่คือพลังว่านจ้งสองชั้น พลังอสุนีลึกลับ ขั้นปราณเสถียรระดับต้น ยิ่งกว่านั้น เพียงแค่ระยะเวลาอึดใจเดียวกลับปลดปล่อยออกมาได้ถึงแปดหมัด หรือจะเป็ผู้มีพร์ในชีพจรอักษร์ ไม่สิ... ผู้มีพร์ในชีพจรอักษร์ทำไมจึงต้องวิ่งมาประลองกับคนเผ่ายุทธ์ทองคำถึงที่นี่? หากไม่ใช่เช่นนั้น... ก็ต้องเป็เพราะพลังในร่างกายของเขาคือพลังว่านจ้งสิ” ผู้าุโที่หน้าแดงก่ำพึมพำกับตนเอง
ขณะที่ผู้าุโกำลังครุ่นคิดอย่างสงสัย หมัดของฉินอวี่ก็ถูกปล่อยออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกขมขื่นก็คือ พื้นดินทั่วทั้งบริเวณเริ่มแตกร้าว รอยแยกเริ่มปรากฏหนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ แม้จะปล่อยหมัดออกมามากมายถึงเพียงนี้แล้ว ก็ยังไม่สามารถโจมตีม่านแสงสีทองที่จุดกลางระหว่างคิ้วของถงอวิ๋นเฟยได้เลย
แม้ว่าใบหน้าของถงอวิ๋นเฟยจะไม่บุบสลาย เพราะมีพลังจากม่านแสงสีทองคอยปกป้อง เขาจึงไม่ได้รับาเ็มากนัก แต่แรงสะท้อนที่เกิดจากการกระแทกของหมัดที่มาจากฉินอวี่ ก็ทำให้เขารู้สึกวิงเวียน หลายหมัดก่อนหน้านี้ยังนับว่าไม่เท่าไร แต่ท้ายที่สุด เขาก็ถูกแรงสะท้อนนั้นกระแทกจนหมดสติไป โดยมีเืไหลออกมาจากมุมปาก
“ทำลายเสียเดี๋ยวนี้!” ดูเหมือนว่าฉินอวี่จะหมดความอดทน ปล่อยหมัดะเิฟ้ากระแทกลงไปอีกครั้ง และหมัดครั้งนี้แฝงไปด้วยพลังว่านจ้งที่ทรงพลัง ผนวกกับพลังของอสุนีลึกลับอีกห้าสาย และสายหนึ่งในนั้นได้รับการหล่อเลี้ยงจากเมล็ดพันธุ์คืนชีพ
“ตูม!” หมัดข้างหนึ่งกระแทกลงมาอย่างรุนแรง
ม่านแสงสีทองที่ปกคลุมถงอวิ๋นเฟยเกือบจะเดือดพล่าน และในเวลานี้ ฉินอวี่ก็ปล่อยหมัดออกมาอีกครั้ง หมัดที่ปล่อยออกมาครั้งนี้แฝงมาด้วยพลังอสุนีลึกลับจำนวนสองสายที่ถูกหล่อเลี้ยงโดยเมล็ดพันธุ์คืนชีพ
“ปัง!”
ทันใดนั้น ลำแสงสีทองที่ปกคลุมถงอวิ๋นเฟยก็แตกออก ฉินอวี่ที่มีใบหน้าดุร้ายได้ยกหมัดขึ้นและปล่อยออกมาอีกครั้ง กระแทกเข้ากึ่งกลางระหว่างคิ้วของถงอวิ๋นเฟยอย่างจัง
“หยุดเดี๋ยวนี้!” มือขนาดั์ข้างหนึ่งคว้าหมัดข้างขวาของฉินอวี่เอาไว้ในทันที ผู้าุโจางปรากฏตัวขึ้นที่ด้านข้างของฉินอวี่ในวินาทีนั้น ขัดขวางการโจมตีของฉินอวี่
“ไปให้พ้น!” ฉินอวี่ตวาดออกไปด้วยสีหน้าที่โกรธจัด พยายามดิ้นออกจากมือของผู้าุโจาง แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไร้ประโยชน์
เมื่อมองไปยังถงอวิ๋นเฟยซึ่งนอนอยู่บนพื้นด้วยสภาพที่มีเืไหลออกจากปาก และได้ยินเสียงตวาดของฉินอวี่ ใบหน้าของผู้าุโจางก็โกรธขึ้นมาทันที เขามองไปทางฉินอวี่ด้วยสายตาที่เคียดแค้น หากไม่ใช่เพราะมีสายตาของทุกคนจ้องมองอยู่ เขาก็อาจจะฆ่าฉินอวี่ไปแล้ว
ด้านฉินจ้านที่นั่งนิ่งมาตลอดได้ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วด้วยใบหน้าที่ดุร้าย และดวงตาของผู้าุโโม่ก็เปล่งประกายด้วยความอำมหิตเช่นกัน ก่อนจะพูดอย่างเคร่งขรึม “เผ่ายุทธ์ทองคำเล็กๆ... คิดจะสังหารคุณชายสาม... หากรู้ว่าจะมีวันนี้ ตอนนั้นคงจะ...”
“หมาเฒ่า เ้าไม่มียางอายหรืออย่างไร เ้ากล้าจะทำร้ายพี่ใหญ่ของข้า ตระกูลขวงสยงจะต้องทำลายเผ่ายุทธ์ทองคำของเ้าให้ย่อยยับ”
“สหายผู้นี้ ข้าว่าเ้าพูดผิดแล้ว เด็กเขากำลังตีกัน ผู้ใหญ่อย่างเ้าจะเข้ามายุ่งทำไมกัน หรือเป็เพราะว่า เผ่ายุทธ์ทองคำพ่ายแพ้ไม่เป็? เอิ๊ก...” ในขณะเดียวกัน มีเสียงสองเสียงดังขึ้นเกือบจะพร้อมเพรียงกัน