“ข้าขอเป็คนถัดไปเอง!” ตู้เจ๋อเดินตรงไปที่เสาหินทดสอบพลัง
ขณะจ้องมองตู้เจ๋อเดินไป ลู่เพียวกลอกจนตาขาวไปหมดแล้ว ไม่ง่ายเลยที่จะได้กลายเป็จุดสนใจในที่สุด ่เวลาอันแสนเจิดจ้าคงต้องถูกตู้เจ๋อแย่งไปเสียแล้ว ช่างไม่ยุติธรรมเสียเลย!
คนเทียบคนก็ได้แต่น้อยเนื้อต่ำใจ
หากเทียบกับนักเรียนทั่วไป ลู่เพียวสมควรภาคภูมิใจอย่างยิ่ง อายุเพียงสิบสามปีก็สามารถเป็ผู้ควบคุมจิตอสูรระดับทองแดงสามดาวแล้ว ทว่าเมื่อเทียบกับตู้เจ๋อแล้วก็ช่างเกินไปเสียจริงๆ สองคนเริ่มฝึกยุทธ์มาพร้อมกันแท้ๆ พลังยุทธ์ของลู่เพียวกลับถูกตู้เจ๋อทิ้งห่างไปไกลแล้ว
ตู้เจ๋อเดินถึงหน้าเสาหินทดสอบพละกำลัง ใบหน้าอ่อนเยาว์ ทว่าสีหน้าคล้ายผู้ใหญ่ เต็มไปด้วยความสงบ เขาตั้งใจยกหมัดขึ้น หันไปทางเสาหินทดสอบพละกำลังและปล่อยหมัดๆ หนึ่งออกไปอย่างหนักหน่วง
ตูม!
เสียงดังยิ่งกว่าหมัดของลู่เพียวเมื่อครู่นัก เสาทั้งต้นสั่นสะท้าน
“ผลการทดสอบ ระดับทองแดงห้าดาว พลังกายห้าร้อยแต้ม” อาจารย์ผู้ควบคุมการทดสอบถอนหายใจเฮือกหนึ่ง วันนี้เกิดอะไรขึ้นกัน เหตุใดนักเรียนจากชั้นเรียนการต่อสู้เบื้องต้นนับวันก็ยิ่งกลายเป็สัตว์ประหลาด เมื่อครู่เพิ่งมีนักเรียนอายุสิบสามปีได้เป็ผู้ควบคุมจิตอสูรระดับทองแดงสามดาว เวลานี้ก็มีระดับทองแดงห้าดาวเพิ่มขึ้นมาอีกคนหนึ่ง
รอบด้านเงียบราวป่าช้า ตู้เจ๋อยังเหมือนสัตว์ประหลาดยิ่งกว่าลู่เพียวเสียอีก!
นักเรียนทุกคนที่อยู่ห่างออกไปมีสีหน้าช้ำใจยิ่งนัก เป็อย่างนี้ไปได้อย่างไร ความกล้าหาญที่จะเข้ารับการทดสอบล้วนหดหายไปหมดแล้ว
ส่วนพวกผู้บริหารที่กำลังสังเกตการณ์อยู่บนระเบียง พวกเขาอดหายใจหนักเฮือกหนึ่งมิได้ เด็กอายุสิบสามปีที่มีระดับทองแดงห้าดาว นานเท่าไหร่แล้วที่ไม่มีอัจฉริยะระดับนี้ปรากฏตัวขึ้นในโรงเรียนเซิ่งหลัน?
“ห้ามใครแย่งเด็กคนนี้กับข้าเด็ดขาด เขาเป็ลูกศิษย์ของข้า!” เยี่ยเซิ่งพูดอย่างตื่นเต้น
“ท่านรองอาจารย์ใหญ่ ท่านใจร้ายปานนี้ได้อย่างไร หากจะฝึกนักเรียนให้เป็นักสู้ ข้าเชื่อว่าข้าเหมาะสมกว่าอาจารย์ทุกคน ท่านรองอาจารย์ใหญ่ก็ปล่อยให้ข้าได้ช่วยสอนเขาเถอะ!” ผู้เฒ่าท่านหนึ่งซึ่งมีทั้งเรือนผมและหนวดเคราขาวโพลนรีบพูดขึ้น
“นักเรียนที่มีพร์โดดเด่นปานนี้ เ้าคิดว่าพร์ของเขาจะจำกัดอยู่แค่การเป็นักสู้รึ?” ดวงตาของเยี่ยเซิ่งเป็ประกาย
“ไม่ต้องทดลองสอบครั้งที่สองแล้ว” ตู้เจ๋อพูดเบาๆ และเดินห่างไป เตรียมพร้อมเข้ารับการทดสอบพลังิญญา
“เ้าไม่้าทดสอบครั้งที่สองหรือ?” อาจารย์ผู้ควบคุมการทดสอบเอ่ยถามตู้เจ๋อ “หากเ้าสอบรอบที่สอง อาจจะได้แต้มเกินห้าร้อยก็เป็ได้!” อาจารย์ผู้ควบคุมการทดสอบรอคอยอย่างคาดหวัง
ทว่าคำตอบที่ได้รับก็คือแผ่นหลังที่นิ่งเฉยของเด็กหนุ่ม เสียงของตู้เจ๋อค่อยๆ ดังขึ้น “นี่คือพลังระดับสูงสุดของข้าแล้ว!”
“ที่แท้ก็เป็เช่นนี้นี่เอง!” อาจารย์ผู้ควบคุมการทดสอบผงกศีรษะเบาๆ คะแนนระดับนี้ก็ถือว่าน่าอัศจรรย์ยิ่งแล้ว หากยังได้แต้มสูงกว่านี้ เช่นนั้นก็มิใช่จะก้าวใกล้ถึงระดับเงินแล้วหรอกหรือ นักเรียนอายุสิบสามปีระดับเงิน ช่างเหลือเชื่อเกินไปจริงๆ
ตู้เจ๋อหยิบผลึกิญญาขึ้นมาและถ่ายทอดพลังิญญาของตนเข้าไป ผลึกิญญาทอแสงเจิดจ้า จุดสีขาวภายในผลึกค่อยๆ มากขึ้นเรื่อยๆ
ผลึกิญญาเบื้องต้นดูราวกับอาทิตย์ดวงน้อยที่กำลังสาดแสงเจิดจ้า
ตูม!
ผลึกิญญาเบื้องต้นะเิหล่นลงพื้น
“ะเิรึ?”
“ซี๊ด! ประหลาดเกินไปแล้ว!”
“แค่พลังกายของเขาก็มีถึงห้าร้อยแต้มแล้ว ไม่เคยคิดมาก่อนว่าพลังิญญาของเขายังประหลาดยิ่งกว่าเสียอีก!”
“โอ้์ นี่ออกจะเหมือนสัตว์ประหลาดเกินไปแล้ว!”
ผลึกิญญาเบื้องต้นชิ้นหนึ่งสามารถรองรับพลังิญญาได้ไม่เกินหกร้อยแต้ม หากเกินกว่านี้มันจะะเิออกมา ปกติแล้วชั้นเรียนเบื้องต้นใช้แค่ผลึกิญญาเบื้องต้นก็เพียงพอแล้ว เพราะยังไม่เคยมีเหตุการณ์ผลึกิญญาะเิมาก่อน แม้แต่ท่านเยี่ยโม่เมื่อครั้งอายุสิบสามปีก็ยังไม่มีอัตราฝึกยุทธ์ที่รวดเร็วน่ากลัวถึงเพียงนี้
ทันใดนั้น ทุกคนหันมองตู้เจ๋อด้วยสายตาที่แตกต่างออกไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ตู้เจ๋อทำลายความเข้าใจของพวกเขาทุกคนแล้ว หรือว่าเมืองกวงฮุยจะมีบุคคลที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าท่านเยี่ยโม่ปรากฏตัวขึ้น?
ท่านรองประธานเยี่ยเซิ่งนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง “ข้าจะรายงานเื่นี้ต่อท่านเ้าเมืองและท่านเยี่ยโม่ด้วยตัวเอง และตู้เจ๋อจะต้องได้รับความคุ้มครอง อัจฉริยะระดับนี้เกินความสามารถของข้าที่จะสอนสั่งเขาได้แล้ว ข้าต้องไปปรึกษาท่านเยี่ยโม่เพื่อหาอาจารย์ที่เหมาะสมให้กับเขา!”
พลังกายระดับห้าร้อยแต้ม พลังิญญายังมากกว่าห้าร้อยแต้ม ตู้เจ๋อทำให้ทุกคนใจสั่นสะท้าน
“ท่านรองอาจารย์ใหญ่ พวกเราควรเปลี่ยนผลึกิญญาหรือไม่?” อาจารย์ผู้ควบคุมการทดสอบมองมาที่รองอาจารย์ใหญ่และพูดด้วยน้ำเสียงสั่นคลอน
“ไม่ต้องแล้ว!” เยี่ยเซิ่งส่ายหน้า “ข้าจะให้ท่านเ่าั้ทดสอบพลังิญญาของเขาด้วยตนเอง!” นอกจากจะให้ตู้เจ๋อได้รับการทดสอบโดยตรงจากท่านเ่าั้ เขายังต้องได้รับความคุ้มครองเป็อย่างดี ไม่เช่นนั้นหากพวกสมาคมมืดได้ข่าวนี้เข้า ก็อาจจะเกิดปัญหายุ่งยากขึ้นได้
“เข้าใจแล้วขอรับ!” อาจารย์ผู้ควบคุมการทดสอบหันมองตู้เจ๋อ เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสุภาพยิ่ง “การทดสอบของเ้าเสร็จสิ้นลงแล้ว!” อายุเพียงเท่านี้ ความสำเร็จในอนาคตไม่ทราบจะไปถึงเท่าไหร่ จะกลายเป็ผู้ควบคุมจิตอสูรระดับตำนานอีกคนหนึ่งหรือไม่?
การทดสอบเสร็จสิ้นลงแล้วหรือ? ตู้เจ๋อแปลกใจเล็กน้อย เขาพยักหน้าและเดินไปด้านข้าง
เวลานี้นักเรียนทุกคนสบตากับตู้เจ๋ออย่างเกรงกลัว คนผู้นี้อาจจะกลายเป็ผู้ควบคุมจิตอสูรระดับตำนานอีกผู้หนึ่งในอนาคตข้างหน้า!
หลังจากตะลึงลานไปครู่หนึ่ง ใบหน้าของเสิ่นเยวี่ยเปลี่ยนสีเป็สิ้นหวังยิ่ง สองหมัดกำแน่น กลางฝ่ามือมีเืไหลซิบๆ ออกมา การทดสอบครั้งนี้ทำให้เขาได้เห็นถึงความต่างชั้นระหว่างตนกับตู้เจ๋อและพวกนับวันก็ยิ่งมากขึ้น เขาไม่สามารถไล่ตามตู้เจ๋อและพวกได้ทันอีกแล้ว
“พวกเขาเพิ่มพลังยุทธ์ได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้ได้อย่างไร?” สายตาของเสิ่นเยวี่ยฉายแววท้อแท้ เขามีความรู้สึกว่าปัญหาทั้งหมดล้วนมาจากเนี่ยหลี อาจเป็เนี่ยหลีที่ช่วยเหลือตู้เจ๋อ ลู่เพียว และพวกหาเคล็ดวิชาที่เหมาะสมให้อย่างแน่นอน!
แน่นอน นี่เป็ความคาดเดาของเสิ่นเยวี่ย อย่างไรก็ตาม เสิ่นเยวี่ยไม่รู้ว่าตนเดาได้ถูกต้องจริงๆ
“เสิ่นซิ่ว เ้ามีนักเรียนที่โดดเด่นปานนี้อยู่ในชั้น เหตุใดเ้าไม่รายงานให้พวกข้ารู้รึ?” ผู้บริหารระดับสูงหลายคนจ้องมองเสิ่นซิ่วและเอ่ยถามเสียงเข้ม ยังโชคดีที่พวกเขาได้ทดสอบลู่เพียวและตู้เจ๋อเสียก่อน ไม่เช่นนั้นหากข่าวนี้รู้ไปถึงหูของพวกสมาคมมืดก่อน ผลลัพธ์คงเป็ความหายนะแล้ว
เสิ่นซิ่วอ้าปากแล้วอ้าปากอีก ทว่าอะไรก็พูดไม่ออก สีหน้าหดหู่ไม่รู้จบ
ใบหน้าของเสิ่นซิ่วนานไปก็ยิ่งเศร้าหมอง นางไม่อาจเข้าใจตู้เจ๋อและลู่เพียวได้อีกต่อไปแล้ว เมื่อไม่นานมานี้ พลังยุทธ์ของตู้เจ๋อและลู่เพียวยังไม่เท่าไหร่เอง จู่ๆ ก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วถึงเพียงนี้ ช่างน่าประหลาดแท้! แต่นางจะไม่รายงานเื่นี้ให้พวกผู้บริหารระดับสูงทราบ หากพวกเขารู้ว่าพลังยุทธ์ของตู้เจ๋อและลู่เพียวเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นนี้ได้ภายในเวลาสั้นๆ กลัวแต่จะทำให้ตู้เจ๋อและลู่เพียวยิ่งมีค่าขึ้นไปอีก!
เวลานี้นอกตึกสอบ นักเรียนจากชั้นเรียนผู้ควบคุมจิตอสูรกำลังคุยกัน
“ไม่รู้ว่าการทดสอบของพวกขยะจากชั้นเรียนการต่อสู้เบื้องต้นเ่าั้จะเป็อย่างไรบ้าง!” นักเรียนจากชั้นเรียนผู้ควบคุมจิตอสูรเบื้องต้นคนหนึ่งหัวเราะเบาๆ พูดขึ้น เขาชื่อซือฮว๋า เป็หัวโจกในชั้นเรียนผู้ควบคุมจิตอสูรเบื้องต้น มีพลังยุทธ์อยู่ในระดับผู้ควบคุมจิตอสูรระดับทองแดงสองดาว
“หลายชั้นที่ผ่านมา มีแค่สิบห้าคนที่มีคุณสมบัติพอเข้าเรียนในห้องผู้ควบคุมจิตอสูรเบื้องต้นได้ สำหรับชั้นเรียนการต่อสู้เบื้องต้นนี้ เดาว่านอกจากเด็กผู้หญิงสองคนนั้นแล้วก็อาจจะไม่มีใครผ่านอีก!” ซือฮว๋าพูด เขาปรารถนาในตัวของเยี่ยจื่ออวิ๋นและเซียวหนิงเอ๋อ จึงหวังว่าพวกนางจะสามารถเข้าเรียนร่วมชั้นเดียวกันได้
“ข้าได้ยินว่าเสิ่นเยวี่ยก็ไม่เลวเช่นกัน เขาทะลวงถึงระดับผู้ควบคุมจิตอสูรระดับทองแดงหนึ่งดาวแล้ว”
“จริงหรือ?” ซือฮว๋ายกยิ้มดูแคลน ต่อให้เสิ่นเยวี่ยก้าวเป็ผู้ควบคุมจิตอสูรระดับทองแดงหนึ่งดาวแล้วก็ตาม แต่ก็ยังไม่อาจดึงดูดความสนใจเขาได้
เวลานี้นักเรียนจากชั้นอื่นๆ กำลังส่งเสียงเอะอะโวยวายขึ้นมา
“เป็ไปได้อย่างไรกัน?”
“เป็ไปได้หรือไม่ว่าผลการทดสอบนี้ผิดพลาด?”
“เป็ไปไม่ได้ เสาหินทดสอบพละกำลังต้นนี้ใช้ทดสอบนักเรียนมาแล้วมากมาย ไม่เคยผิดพลาดมาก่อน!”
“โอ้์ นี่จะใช่การฝืนกฎ์เกินไปหรือ?”
ซือฮว๋าขมวดคิ้วมุ่น มองดูเพื่อนร่วมชั้นเรียนผู้ควบคุมจิตอสูรเบื้องต้นและเอ่ยถามขึ้นว่า “เกิดอะไรขึ้น? พวกเขามีเื่อะไรหรือ?”
“ซือฮว๋า เกิดเื่เหลือเชื่อขึ้นแล้ว!” นักเรียนคนหนึ่งยังมีสีหน้าตื่นตะลึงหลงเหลืออยู่ เขาสูดลมหายใจลึกและพูดว่า “มีนักเรียนในชั้นเรียนการต่อสู้เบื้องต้นสองคนได้ผลการทดสอบที่น่าอัศจรรย์ใจยิ่ง!”
“ก็แค่ชั้นเรียนการต่อสู้เบื้องต้น ต่อให้พร์ไม่เลว อย่างมากก็เป็แค่ผู้ควบคุมจิตอสูรระดับทองแดงหนึ่งดาว มีอันใดน่าใกันรึ?” ซือฮว๋าหัวเราะเบาๆ
“ไม่ใช่ หากเป็แค่ผู้ควบคุมจิตอสูรระดับทองแดงหนึ่งดาว ไหนเลยจะสามารถทำให้ผู้คนมากมายใได้ สามคนในชั้นเรียนการต่อสู้ทำการทดสอบของพวกเขาเสร็จแล้ว คนหนึ่งได้เป็ผู้ควบคุมจิตอสูรระดับทองแดงหนึ่งดาว อีกคนได้เป็ผู้ควบคุมจิตอสูรระดับทองแดงสามดาว ส่วนคนสุดท้ายน่าใที่สุด ผลึกิญญาเบื้องต้นถึงขั้นะเิออกมา! ะเิเชียวนะ! โอ้์ นี่น่ากลัวเกินไปแล้ว!”
“ผลึกิญญาเบื้องต้นะเิเลยรึ?” ซือฮว๋ากลอกตา สีหน้าตกตะลึงของเขายังดีกว่าเพื่อนนักเรียนคนอื่นๆ
“หลังจากที่ผลึกิญญาเบื้องต้นะเิ อาจารย์ผู้ควบคุมการทดสอบก็ให้เขายุติการสอบทันที ข้าจึงไม่รู้ว่าพลังิญญาของเขาที่แท้ได้กี่แต้มกันแน่!”
ซือฮว๋าสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทรวงอกของเขากระเพื่อมขึ้นๆ ลงๆ ไม่หยุด เขาถามขึ้นว่า “ใช่เป็เด็กผู้หญิงสองคนนั้นหรือไม่?”
“ไม่ใช่!” นักเรียนผู้นั้นส่ายหน้า “ขณะนี้แม่นางน้อยทั้งสองยังไม่เข้ารับการทดสอบ จนถึงเวลานี้เพิ่งมีการทดสอบเด็กนักเรียนชายไปสามคนเท่านั้น!”
ซือฮว๋าอ้าปากค้าง นี่เป็เพียงชั้นเรียนการต่อสู้เบื้องต้นจริงหรือ? จู่ๆ ชั้นเรียนการต่อสู้เบื้องต้นผลิตนักเรียนที่น่ากลัวออกมาถึงสองคนเช่นนี้ได้อย่างไร? เขาเป็ผู้ควบคุมจิตอสูรระดับทองแดงสองดาว และก็เป็หัวโจกของชั้นเรียนผู้ควบคุมจิตอสูรเบื้องต้น เมื่อเทียบตัวเองกับสัตว์ประหลาดสองตัวนั้น ความต่างชั้นช่างมากกมายจนเกินไปนัก!
เวลานี้ นักเรียนชั้นอื่นๆ ก็ส่งเสียงฮือฮาขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง
“เกิดอะไรขึ้นอีกกันแน่?” ซือฮว๋าสองตาหมดกำลังใจเอ่ยถามขึ้น
“เมื่อครู่ชั้นเรียนการต่อสู้เบื้องต้นเพิ่งทดสอบนักเรียนไปอีกสามคน ดูเหมือนจะชื่อเว่ยหนัน จูเสียงจวิ้น กับจางิ ทั้งสามล้วนได้ระดับทองแดงสองดาว ขาดอีกนิดเดียวก็เป็ระดับทองแดงสามดาวแล้ว!”
“นี่มันน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว นี่เป็การทดสอบนักเรียนจากชั้นเรียนการต่อสู้เบื้องต้นจริงๆ หรือ? เ้าแน่ใจหรือว่าไม่ใช่ชั้นเรียนสำหรับผู้มีพร์?” ในใจของซือฮว๋าะโลั่นอย่างควบคุมมิได้
ความใของพวกเขายังไม่ทันจางหาย ข่าวใหม่ก็ตามมาติดๆ เยี่ยจื่ออวิ๋นและเซียวหนิงเอ๋อเข้าทำการทดสอบแล้ว ทั้งคู่ต่างทำผลึกิญญาเบื้องต้นะเิ
ตายสนิท!
ทำให้ทุกคนสำลักความเศร้าสลดเต็มปอดแล้ว!
ซือฮว๋าอยากเอาหัวโครกกำแพงเสียให้รู้แล้วรู้รอด ก่อนการทดสอบชั้นเรียนการต่อสู้เบื้องต้นจะเริ่มขึ้น ในฐานะหัวโจกของชั้นเรียนผู้ควบคุมจิตอสูรเบื้องต้น เขามีความภาคภูมิใจอย่างยิ่ง รู้สึกว่าตนมีคุณสมบัติเกินพอที่จะไล่ตามเซียวหนิงเอ๋อหรือเยี่ยจื่ออวิ๋น อย่างไรก็ตาม เวลานี้ความภาคภูมิใจของเขามันป่นปี้หมดแล้ว กลายเป็ว่าเยี่ยจื่ออวิ๋นและเซียวหนิงเอ๋อมิใช่ผู้ที่อยู่ในระดับเดียวกันกับเขา
“พวกตัวประหลาด!” ซือฮว๋าพึมพำอย่างเหม่อลอย
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้