หลังจากที่จ้าวเวยเวยพบกับคุณย่าทวดจ้าวม่านฉีแล้ว เธอก็กลับไปที่ห้องของตัวเอง จ้าวเวยเวยนั่งลงบนเตียงนอน คิดถึงเื่ที่คุยกัน ในใจของเธอกำลังรู้สึกหวาดกลัว เธอไม่รู้ว่าเื่คำสาปที่คุณย่าพูดถึงจะเป็เื่จริงไหม ั้แ่เด็กเธอเห็นคุณพ่อท่านใช้ชีวิตปลอดภัยตามปกติมาตลอด
ก็ผ่านมาหลายสัปดาห์แล้ว ทางคุณย่าได้ให้เธอเรียนรู้การทำอาหารและการใช้เครื่องครัวในยุคสมัยก่อน สอนให้เธอจุดไฟที่เตาฟืน สอนความรู้กับยุคสมัยนั้น ยังจ้างครูสอนตัดเย็บเสื้อมาผ้าสอนเธอด้วย แต่เธอทำได้ไม่ดีนัก พอจะตัดเสื้อผ้าได้ แต่ไม่ได้สวยเหมือนมืออาชีพเขาทำ นอกจากนี้เธอยังถูกลูกพี่ลูกน้องคนอื่น ๆ พาออกไปเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวในเซี่ยงไฮ้ด้วย
ในวันหนึ่งเธอได้รับโทรศัพท์จากทางครอบครัวที่ประเทศไทย
“เวยเวยแม่กับพ่อคงจะไปหาลูกช้ากว่ากำหนดนะ”คุณแม่เขมิการกล่าวกับลูกสาว หลังลูกสาวรับสายโทรศัพท์
“ทำไมละคะ เจินเจินก็สอบเสร็จแล้ว หนูคิดถึงทุกคนแล้วนะ”จ้าวเวยเวยกล่าวอ้อนๆ
“แม่กับน้องก็อยากรีบไปหาลูกที่ประเทศจีนนะ แต่ว่า…ที่บ้านเกิดเื่กับพ่อลูก ทำให้ต้องเลื่อนการเดินทางออกไปก่อน”
จ้าวเวยเวยได้ยินแม่บอกว่าที่บ้านเกิดเื่ ทำเธอใจหายรีบถาม"มีเกิดเื่อะไรขึ้นกับคุณพ่อหรือคะ!"
เขมิกาฟังเสียงกังวลของลูกสาวออก เธอรีบบอกว่า"ลูกไม่ต้องใ ไม่ใช่เื่ใหญ่ วันก่อนพ่อของลูกขับรถไปรับน้องสาวลูกที่ห้างสรรพสินค้า ขากลับเกิดอุบัติเหตุกันชนกัน"
“รถชน!แล้วคุณพ่อกับน้องสาวเป็ยังไงบ้าง!หนูจะรีบกลับประเทศไทย”จ้าวเวยเวยใที่รู้ว่าพ่อกับน้องสาว โดนรถชน
“ลูกไม่ต้องร้อนใจไป เจินเจินไม่ได้าเ็ น้องแค่ใ”เขมิการกล่าว"ส่วนคุณพ่อ…เขาเจ็บหนักหน่อย แต่ลูกไม่ต้องห่วง ไม่ได้าเ็ถึงชีวิต คุณหมดให้นอนโรงพยาบาลครึ่งเดือน แม่เลยโทรมาบอกลูกก่อน"
จ้าวเวยเวยคุยโทรศัพท์กับแม่อยู่นาน จนแน่ใจแล้วว่าคุณพ่อไม่เป็อะไรมาก เธอก็วางสาย โดยที่ไม่รู้เลยว่าคุณแม่ของเธอไม่ได้บอกหมด
เขมิกาวางสายจากลูกสาว และมองไปที่สามีที่ตอนนี้กำลังนอนอยู่บนเตียงคนไข้ และไม่รู้สึกตัวมาตลอด ั้แ่เกิดอุบัติเหตุรถชน
…
จ้าวเวยเวยหลังจากวางสายโทรศัพท์จากแม่ เธอเดินกลับเข้าบ้านด้วยความไม่สบายใจ
จ้าวม่านเค่อกำลังสั่งงานคนงานในบ้าน เห็นหลานสาวเดินเข้ามาพอดี เลยเรียกหลานสาว"เสี่ยวเวยเวย หลานมากินขนมกับย่าสิ"
เธอมองไปทางคุณย่าจ้าวม่านเค่อ ก่อนจะเดินเข้าไปนั่งข้างๆ คุณย่า"คุณย่า ฉันอยากจะเรียนทุกอย่างที่จำเป็กับการไปที่นั่น"
จ้าวม่านเค่อเห็นสายตาที่ดูมุ่งมั่นอยากจะเรียนรู้ของหลานสาว ที่มีมากกว่าแต่ก่อน"เกิดเื่อะไรขึ้น ทำไมหลานถึงอยากเรียนทุกคน ทั้งๆที่ย่าขอให้เรียน หลานก็ไม่ค่อยอยากจะเรียน"
จ้าวเวยเวยจ้องคุณย่า ก่อนจะร้องไห้ออกมา"คุณแม่โทรมาบอกว่าคุณพ่อทุกรถชน ตอนนี้นอนอยู่โรงพยาบาล"
“อะไรนะ!ทำไมลูกสะใภ้ถึงไม่ส่งข่าวให้ย่ารู้!”จ้าวม่านเค่อกล่าว"หรือว่า…คำสาปมันไม่ได้อ่อนลง แต่มันกำลังรุนแรงขึ้น!"เธอคิดแล้วรีบลุกจากโซฟา ทิ้งหลานสาวเอาไว้ เดินเร็วๆขึ้นไปบนชั้นสอง เพื่อไปพบกับคุณย่าทวดจ้าวม่านฉี
…
หลังจากวันนั้นที่รู้ว่าพ่อเกิดอุบัติเหตุ จ้าวเวยเวยก็ให้ความสำคัญกับเื่คำสาปมากขึ้น เธอพยายามเรียนรู้ทุกอย่างที่ทางคุณย่าและคนในตระกูลสอน ระหว่างเรียนรู้อยู่ที่ตระกูลฝ่ายพ่อ เธอก็ยังคงโทรศัพท์ไปถามอาการคุณพ่อทุกวัน แต่ไม่เคยได้คุยกับท่านเลย ทำให้เธอสงสัยมากกว่าคุณพ่ออาจจะอาการหนัก แต่คุณแม่ไม่ยอมบอกเธอหรือเปล่า
วันต่อมาจ้าวเวยเวยได้บอกคุณย่าเื่ที่เธอจะเดินทางกลับประเทศไทย เพื่อไปดูอาการาเ็ของคุณพ่อ คุณย่าก็อยากไปด้วย นางเป็ห่วงลูกชายเช่นกัน แต่อีกไม่กี่วันจะถึงเวลานั้นแล้ว
“หลานกลับประเทศไทยไปแล้ว จะต้องรีบไปรีบกลับเข้าใจไหม!”จ้าวม่านเค่อกำชับหลานสาวให้รีบกลับ หลังจากรู้อาการของพ่อที่แท้จริงแล้ว
“ฉันจะรีบกลับค่ะ ยังไงจะรีบกลับมาให้ทันกับวันที่คุณย่าทวดคำนวณเอาไว้ให้ได้”จ้าวเวยเวยรับปากคุณย่า ในใจของเธออยากกลับไปดูอาการคุณพ่อแล้ว ก็อยากจะกลับไปเจอแม่และน้องสาวอีกครั้ง ก่อนที่จะไม่ได้เจอกันอีก
“คุณย่าไม่อยากไปเจอคุณพ่อกับฉันหรือคะ?”เธอเอ่ยถามคุณย่า ที่ดูเป็ห่วงคุณพ่อเช่นกัน
“ย่าก็อยากไปกับหลานนะ แต่ย่ายังต้องค่อยดูแลคุณย่าทวด ไม่สามารถเดินทางไกลได้”จ้าวม่านเค่อกล่าวและถอนหายใจออกมา นางเป็ห่วงลูกชายมาก เมื่อรู้ว่าลูกชายยังไม่ฟื้นจากการาเ็และก็ไม่กล้าบอกหลานสาวด้วย
จ้าวเวยเวยเข้าใจที่คุณย่าเป็ห่วงคุณย่าทวด ที่ตอนนี้อาการไม่ค่อยดีนัก ท่านล้มป่วยเหมือนสองสามวันก่อน ต้องค่อยดูแลอย่างใกล้ชิด ทั้งหมอและคุณย่า