“ท่านพ่อประชวรเช่นนั้นฤา” องค์ชายรองพยักหน้า พร้อมด้วยสายตาหวาดหวั่นมองตรงมายังพี่ชายที่เคารพรัก ในยามนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือการได้เห็นพระพักตร์ของโจวอี้เฟย แม้รู้เต็มอกว่าพลังเวทของเขาเหนือกว่าใครในใต้หล้า ทว่าสายใยความผูกพันระหว่างเืเนื้อ มิอาจให้มหาจักรพรรดิวางใจได้
“ท่านพ่อเป็อย่างไรบ้าง” เพียงพริบตาร่างขององค์รัชทายาทก็ปรากฏข้างเตียงขององค์จักรพรรดิ เขาเดินเข้าไปนั่งด้านข้าง ก่อนจะมีทหารกรูกันเข้ามา พร้อมอาวุธครบมือจี้มายังร่างของโจวอี้เฟย
“เป็ข้าเอง พวกเ้าถอยไปก่อน” หลังจากสุรเสียงดังฝ่าความมืดสลัวออกมา ทำให้ทหารรีบพากันรุดนั่งทำความเคารพที่บังอาจล่วงเกิน ก่อนไฟตะเกียงจะสว่างวาบจากพลังเวทเผยให้เห็นทุกสิ่งในห้องบรรทม
“ข้าขอคุยกับท่านพ่อตามลำพัง”
“พ่ะย่ะค่ะ” ทหารจำนวนหนึ่งแยกย้ายกันออกจากบริเวณนั้น ในขณะที่พระมหาจักรพรรดิลืมตาตื่นขึ้นพอดี หลังจากเขาเห็นหน้าบุตรชายอันเป็ที่รัก จึงรีบลุกนั่ง
“โจวอี้เฟย กลับมาแล้วเช่นนั้นฤา” แววตามีความหวังส่อระส่ำมองตรงมาด้วยความหวัง
“ข้าเพียงกลับมาเอายาเท่านั้น” สิ้นเสียงขององค์รัชทายาท สีหน้าผิดหวังของบิดาก็ปรากฏ ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็รอยยิ้มอันอุ่บอุ่นมอบให้
“แล้วหาท่านผู้เฒ่าพบฤาไม่”
“ท่านผู้เฒ่าไม่ได้อยู่ที่แคว้นจ้านหลิว ในยามนี้เหลือเพียงอีกสามแคว้นเท่านั้น ที่ข้าต้องตามหาท่านผู้เฒ่าให้พบ”
“หากไม่พบ เ้าจะทำอย่างไรกับแคว้นของเรา” โจวอี้เฟยมองใบหน้าของบิดาด้วยสายตาลังเล เขาเองไม่สามารถให้คำตอบบิดาได้เช่นเดียวกัน หัวใจสำคัญคือการฝึกพลังเวทขั้นแปดให้สำเร็จ เพื่อชีวิตอันสงบสุขของราษฎร หากถึงเวลานั้นควรเป็เจิ้งหลี่รับตำแหน่งต่อ ส่วนเขาจะอุทิศทั้งชีวิตเพื่อฝึกวิชาเวทขั้นแปดให้สำเร็จ
“สายตาเ้าน่ากลัวอย่างบอกไม่ถูก ข้าหนักใจกับลูกทั้งสองของข้ายิ่งนัก” พระมหาจักรพรรดิตัดพ้อด้วยสุรเสียงอ่อนแรง
“ท่านพ่อวางใจเถิด เหตุการณ์ต่างๆ ยังมาไม่ถึง ขออย่าได้ทุกข์ใจไป วรกายของท่านจะยิ่งอ่อนแอ หากเป็เช่นแล้วราษฎรจะวางใจได้อย่างไร” พระมหาจักรพรรดิพยักหน้าเห็นด้วย ก่อนจะค่อยๆ เอนกายพักโดยมีองค์รัชทายาทเป็ผู้ประคอง
“หลังจากข้าเอายาเสร็จแล้ว อีกนานกว่าจะได้กลับมา ท่านพ่อต้องเสวยให้มาก อย่าได้ทุกข์ใจจนส่งผลถึงวรกายเช่นนี้อีก หากข้าตามหาท่านผู้เฒ่าพบและฝึกวิชาเวทสำเร็จ ข้าจะไม่ปฏิเสธตำแหน่งองค์จักรพรรดิอีก ข้าสัญญากับท่านพ่อว่าจะยอมขึ้นรับตำแหน่งโดยไม่มีข้อแม้ใดๆ”
“หาท่านผู้เฒ่าให้พบโดยเร็ว เพราะเ้าคือความหวังของข้า” องค์รัชทายาทกำพระหัตถ์บิดาแน่น เพียงพริบตาร่างขององค์รัชทายาทก็กลับมายังตำหนัก โดยมีองค์ชายรองนั่งรออยู่ก่อนแล้ว
“เจิ้งหลี่ ท่านพ่อประชวรนานแล้วฤาไม่”
“หลังจากท่านออกจากวังไปได้ไม่นาน อาจเพราะคิดมากเื่การสืบทอดตำแหน่งมหาจักรพรรดิ” องค์รัชทายาทพยักหน้ารับรู้ ก่อนหันตรงเข้าไปยังห้องเก็บรักษายาสมุนไพรชนิดต่างๆ
“เหตุใดท่านจึงไม่ใช้เวทขั้นหกเสกมันขึ้นมา” โจวอี้เฟยเดินมองขวดยานับร้อยที่วางเรียงรายอยู่ ก่อนหยุดแล้วหันกลับมายังเจิ้งหลี่ผู้ตั้งคำถาม
“ข้าไม่กล้าใช้เวทเสก เพราะผู้ใช้ยาอาจได้รับอันตราย หากยาที่ข้าเสกขึ้นมานั้นไม่ตรงกับยาจริง เ้าดูสิ ยาที่มีขวดเหมือนกันจำนวนมากนี้ทำให้ข้าสับสน ไม่รู้ได้ว่าควรใช้ต้นแบบของขวดไหนดี” องค์ชายรองขมวดคิ้ว พลางเดินเข้ามาใกล้
“ผู้ใช้ยาเป็ใครกัน” องค์รัชทายาทนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง
“นาง...เป็”
“ท่านพูดเช่นนี้ ผู้ใช้ยาเป็หญิงใช่ฤาไม่ นางงามมากเพียงใด”
องค์ชายรองดวงตาแวววาว จับจ้องเอาคำตอบจากองค์รัชทายาทด้วยสายตาใคร่รู้
“เ้าอยากรู้ไปทำไม” องค์รัชทายาทใช้ขวดยา เขกไปที่ศีรษะองค์ชายรองหนึ่งครั้ง หลังจากเห็นสายตาทะเล้นคู่นั้น
“ข้าเจ็บนะ” เจิ้งหลี่ใช้มือขยี้รอยแผลเพื่อบรรเทาความเจ็บ
“ความจริงแล้ว ข้าให้นางติดตามไปด้วยระหว่างหาท่านผู้เฒ่าหานตง หากแต่นางได้รับอันตรายอยู่บ่อย ๆ เพราะความซนของนาง ข้าจึงจำเป็ต้องตุนยาพวกนี้ไว้ แต่ข้ามีเื่อยากขอร้องให้เ้าเก็บความลับนี้ จะมีเพียงเ้ากับข้าเท่านั้นที่รู้” องค์รัชทายาทพูดระหว่างหยิบยาหลายขวดเข้ามาเก็บไว้ในซอกเสื้อ เจิ้งหลี่สังเกตเห็นแววตาขององค์รัชทายาทที่แปรเปลี่ยนไป ระหว่างพูดถึงแม่นางปริศนาผู้นั้น ดวงตาเป็ประกายวาววับแสนอบอุ่น มันมีความหมายบางอย่างซ่อนอยู่
“นับจากเด็กจนโต ข้ามิเคยเห็นท่านสนใจหญิงใด เท่านี้มาก่อน” เจิ้งหลี่เดินมาดักหน้า แล้วสบตาองค์รัชทายาทอย่างตั้งมั่น
“นางแค่ไร้ที่พึ่ง มิอาจเป็อื่นได้ เ้าไม่ต้องจับผิดข้าเยี่ยงนั้น” เจิ้งหลี่พยักหน้าแล้วเดินหลบไปด้านหลัง พลางพินิจมององค์รัชทายาทที่กำลังเก็บขวดยาไปจนหมด อย่างเงียบ ๆ
“บอกหมอหลวงด้วย ว่าให้ปรุงยาชนิดนี้เพิ่มอีกหลายๆ ขวด”
“เท่านี้ยังไม่พออีกเหรอพ่ะย่ะค่ะ” เจิ้งหลี่เน้นเสียงถามอย่างฉงนใจ เท่าที่องค์รัชทายาทหยิบไปนั้น สามารถรักษาผู้ป่วยได้หลายคนทีเดียว คิ้วเข้มขมวดชนกันมองตามขวดยาสุดท้าย ที่องค์รัชทายาทสอดใส่ซอกเสื้อ
“ทำตามที่ข้าบอก และฝากกดูแลท่านพ่อด้วย” ก่อนพลังเวทขั้นเจ็ดวูบขึ้น พร้อมรอยยิ้มขององค์รัชทายาทส่งให้กำลังใจองค์ชายรองเป็ครั้งสุดท้าย
“องค์รัชทายาทเดี๋ยวก่อน” ไม่ทันที่จะกล่าวอันใดออกมา ร่างขององค์รัชทายาทก็หายวับไป เหลือเพียงความว่างเปล่าตรงหน้า เจิ้งหลี่หลุบตาต่ำลงแล้วหันวรกายเดินออกจากห้องเก็บยา
กระท่อมริมแม่น้ำใหญ่นอกกำแพงเมืองจ้านหลิว องค์รัชทายาทวูบกลับมาด้วยพลังเวท เห็นร่างบางนอนทอดกายไม่ได้สติอย่างอ่อนแรงเพราะพิษของาแเล่นงาน เขารีบเดินเข้ามาตรวจดูอาการทันที พลันหยิบยาออกมาแล้วทาให้อย่างเบามือ สายพระเนตรเลื่อนขึ้นมองใบหน้าอ่อนหวานที่กำลังหลับใหล ถึงตอนนี้ความกังวลที่อยู่ภายในค่อย ๆ ลดลงจนอยู่ในระดับปกติ ก่อนปล่อยยิ้มออกมาอย่างโล่งใจ
“เหตุใดพระอาการขององค์ชายาไม่ดีขึ้นเล่าหมอหลวง” พระพักตร์ของาาแห่งแคว้นจ้านหลิว ตรัสถามด้วยความเป็ห่วง หลายเดือนมานี้อาการของซูลี่ไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น มีแต่ทรงกับทรุดเท่านั้น บ่าวไพร่ในวังหลวง วิ่งวุ่นสับเปลี่ยนดูแลองค์พระชายาอย่างใกล้ชิดกว่าที่เคย
“อาการตรอมใจรักษายาก อยู่ที่พระทัยของพระชายาเพียงเท่านั้น หากแต่วันนี้อาการขององค์ชายาดูทรุดกว่าทุกวัน” หมอหลวงสูงอายุหันมา แล้วค้อมตัวลงกล่าวทูลด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง หลังจากถวายการรักษาเสร็จ
“ทรุดกว่าทุกวัน และไม่มีทางรักษาได้เลยเช่นนั้นฤา” หมอหลวงส่ายศีรษะ พลางขยับกายให้ห่างจากชายา ปล่อยให้พระาาเข้าไปนั่งด้านข้างอย่างใกล้ชิด ดวงตาคมมองตรงไปยังชายาอันเป็ที่รัก ในตอนนี้นางซูบผอมไม่เหลือเคล้าโครงเดิมที่สวยงามอีกต่อไป หากแต่ไม่ทำให้ความรัก ที่องค์าามีคลายลงแม้แต่น้อย
“ซูลี่ ข้าให้ทหารออกตามหาซูเจินเป็ที่เรียบร้อยแล้ว เ้าต้องเข้มแข็ง จะได้หายโดยเร็ว” พระาาวาดมือจับใบหน้าของชายาด้วยความหวัง หากแต่สีหน้าซีดเซียว อีกทั้งร่างกายอันไร้เรี่ยวแรงกำลังบ่งบอกถึงสภาพร่างกายที่อ่อนล้าเต็มที
“ใจข้าสู้เพื่อรอวันเห็นหน้าลูก หากแต่ร่างกายข้าคล้ายจะไม่ไหว”
“เ้าอย่าคิดอะไรอีก ทั้งหมดข้าจะเร่งตามตัวซูเจินมาพบเ้าโดยเร็วที่สุด” ซูลี่พยักหน้ายิ้มตอบ ก่อนหมอหลวงจะยกยาถ้วยสุดท้ายส่งให้พระาา
“กินยาก่อนอาหารเสียหน่อยนะ” พระาาหยิบถ้วยยาจากหมอหลวง แล้วบรรจงป้อนด้วยพระหัตถ์ตัวเอง
“รีรออันใด เอาอาหารเข้าไปให้ท่านแม่สิ” ซือซิงสะดุ้งตัวโหยง หลังจากแอบฟังได้เพียงครู่เดียว นางหันขวับกลับมาพบกับราชธิดาซูเจียวที่กำลังยืนกอดอกมองเข้าไปภายในตำหนัก สายตาอันเืเย็นทำให้ซือซิงขนลุกไปทั่วร่าง นางเริ่มหวาดหวั่นกับซูเจียวมากขึ้นทุกวัน
“เอาอาหารเข้าไปให้ท่านแม่ ไม่ได้ยินที่ข้าสั่งงั้นรึ”
“ดะ ได้ยินเพคะ” ซือซิงตอบรับโดยกระวีกระวาดถือถาดกระยาหารเข้าไป