“เ้าก็คือน้องชิงอวี่ใช่หรือไม่?”
พวกตาแก่ที่อยู่้าเริ่มจับกลุ่มคุยกันขึ้น เหล่ายอดฝีมือของตระกูลทั้งหลายที่อยู่ด้านล่างแบ่งกันออกเป็สองกลุ่ม พวกเย่เชียงที่มีอายุอยู่ในรุ่นของวัยกลางคนเริ่มห้อมล้อมเข้าหากันสนทนาปราศรัยเื่ไร้สาระกันเรื่อยเปื่อยและข่าวสารต่างๆ ส่วนพวกเย่ชิงอู่ หลงไซ้หนาน เยว่ชิงเฉิง เฟิงจื่อ ฮวาเฉ่า และเย่ชิงอวี่ พวกเขาซึ่งเป็ลูกหลานของแต่ละตระกูลใน่อายุที่สามพากันหลบไปพูดคุยกันอยู่อีกมุมหนึ่งของกระโจม
หัวข้อสำคัญของการพูดคุยแน่นอนว่าหนีไม่พ้นผู้ที่ทำให้เหล่าตาแก่และทุกคนภายในกระโจมต่างตื่นตระหนกกันขึ้น ซึ่งนั่นก็คือน้องสาวของเย่ชิงหาน เย่ชิงอวี่
เยว่ชิงเฉิงอยู่ในชุดคลุมยาวสีดอกท้อพร้อมด้วยดอกท้อบนศีรษะหนึ่งดอก นางกำลังจับมือของเย่ชิงอวี่อยู่ดวงตาคู่ไข่มุกสีดำจ้องมองดูนางพร้อมด้วยสีหน้าตื่นเต้นดีใจในขณะที่พูดขึ้น
“ท่านก็คือพี่สาวชิงเฉิงสินะ? ข้าเคยได้ยินพี่สาวอู่พูดถึงท่านมาก่อน ท่านงดงามมาก...คู่ควรกับพี่ชายของข้า!” เย่ชิงอวี่เป็ครั้งแรกที่ได้เดินทางออกจากบ้านมาไกล จึงรู้สึกตื่นเต้นดีใจไม่แพ้กัน ที่สำคัญที่สุดคือตอนนี้นางได้พบกับว่าที่ภรรยาของพี่ชาย จิตใจของนางในตอนนี้เกิดอารมณ์ซับซ้อนขึ้นมามากมาย ทั้งดีใจ แปลกใจ อบอุ่น ตกตะลึง และแน่นอนว่ามีความหึงหวงอยู่เล็กน้อย...
“เหอะๆ ชิงอวี่ ข้าจะช่วยแนะนำให้เ้ารู้จัก คนเหล่านี้ล้วนเป็เพื่อนรักของพี่ชายเ้า ผู้นี้คือแม่นางหลงไซ้หนานเป็บุตรธิดาหัวแก้วหัวแหวนของท่านหลงจ้าวเขตปกครอง ผู้นี้คือคนบ้าแห่งตระกูลเฟิง เฟิงจื่อ ผู้นี้คือหนุ่มเ้าสำราญชอบหลอกหญิงสาวแห่งตระกูลฮวา ฮวาเฉ่า ผู้นี้คือหลงสุ่ยหลิวหลานของท่านหลงจ้าวเขตปกครอง ส่วนเยว่ชิงเฉิง...” เย่ชิงอู่อาศัยบารมีของเย่ชิงอวี่ในครั้งนี้จึงได้เดินทางออกมาด้วย รู้สึกอารมณ์ดีเป็อย่างมากเริ่มแนะนำทุกคนให้เย่ชิงอวี่รู้จัก
“สวัสดีน้องชิงอวี่ มีน้องสาวที่น่ารักถึงเพียงนี้มิน่าล่ะพี่ชายของเ้าถึงได้รักและเอ็นดูเ้ายิ่งกว่าใคร เพื่อเ้าแล้วถึงกับไม่สนความเป็ความตายของตนเอง...” หลงไซ้หนานพยักหน้าให้นาง ด้วยคุณลักษณะประจำตัวที่ดูอ่อนแอบ บอบบาง น่าทะนุถนอม และน่าเห็นใจของเย่ชิงอวี่ทำให้กระเทือนเข้าไปถึงเบื้องลึกภายในจิตใจของนาง ชั่วพริบตาเดียวทำให้ดวงตาของหลงไซ้หนานเต็มไปด้วยความรักใคร่เอ็นดูขึ้นมา
เฟิงจื่อหัวเราะฮ่าๆ ทำหน้าตาคิ้วโจรตาหนูออกมาแล้วพูดขึ้น “น้องชิงอวี่ อย่าไปฟังนางมารน้อยนั่นพูดมั่วซั่ว ต่อไปเรียกข้าว่าพี่เฟิงถ้าหากไปเที่ยวที่เมืองซีเฟิงเอ่ยชื่อพี่เฟิงออกมา รับรองได้ว่าทุกคนต้องหลีกทางให้เ้า!”
“ไปๆๆ จะไปไหนก็ไป จะมาพาน้องชิงอวี่เสียคน น้องชิงอวี่ ข้าคือฮวาเฉ่า เป็เพื่อนร่วมเป็ร่วมตายกับพี่ชายของเ้า ต่อไปเ้าถือว่าเป็น้องสาวของข้าแล้วมีเื่อันใดบอกกับพี่ชายคนนี้ได้ ต่อให้เป็าาแห่ง์ข้าก็จะช่วยเ้าจัดการกับมันเอง” ใบหน้าขาวเล็กของฮวาเฉ่ายังคงดูสวยอยู่เช่นเดิม ดวงตากลมโตของเขาเต็มไปด้วยความจริงใจ
หลงสุ่ยหลิวทำเพียงพยักหน้าอย่างยิ้มแย้มแต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา ภายในใจของเขานั้นกลับทั้งรู้สึกอิจฉาทั้งริษยา และแน่นอนว่ายังมีความแค้นเคืองต่อเย่ชิงหาน
เขารู้สึกแปลกใจว่าทำไมผักสดใหม่สวยงามน่ารับประทานทั้งหลายถึงได้ถูกเ้าหมูตัวนั้นรับประทานอยู่ตัวเดียว?
เย่ชิงอวี่ยิ้มตอบรับกลับไปยังทุกๆ คน สีหน้าแสดงออกถึงความจริงใจอย่างที่สุด นางและพี่ชายถูกคนรังแกมาั้แ่เล็กจนชินแล้ว เมื่อก่อนมองเห็นเหล่านายน้อยของตระกูลทั้งหลายล้วนต้องหลบหลีกออกห่างไม่กล้าแม้แต่จะมองด้วยสายตาตรงๆ ตอนนี้เหล่านายน้อยและคุณหนูผู้มีชื่อเสียงทั้งหลายของเขตปกครองเทพาต่างปรากฏตัวอยู่ต่อหน้านาง แถมยังดีต่อนางและแสดงออกถึงความสนิทสนมเป็กันเองถึงเพียงนี้...
ตอนนี้นางอดไม่ได้ที่จะรู้สึกภาคภูมิใจในตัวพี่ชายที่ไม่พบเจอมานานหลายปีผู้นี้ขึ้นมา เมื่อตื่นขึ้นมาพี่ชายกลายเป็คนที่เก่งกาจถึงเพียงนี้แล้ว ไม่เพียงจัดการกับคนเลวในตระกูลเย่ได้แต่ยังกลายเป็วีรบุรุษของเขตปกครองเทพาอีกด้วย ตอนนี้พวกนายน้อยและคุณหนูที่มีตำแหน่งฐานะสูงส่งทั้งหลายล้วนมีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดากับพี่ชาย แค่นี้ก็พอจะรู้แล้วว่าพี่ชายนั้นเก่งกาจและสุดยอดมากมายเพียงใด...
เพียงแต่ ผ่านไปได้ไม่นานความภาคภูมิใจของนางก็แปรเปลี่ยนเป็ความคิดถึงอย่างสุดซึ้งขึ้นมาแทน
นางมองลอดออกไปทางม่านประตูของกระโจม มองไปยังขุนเขาสูงตระหง่านที่มีเมฆหมอกสีขาวปกคลุม เริ่มพูดพร่ำขึ้นภายในใจ ‘ท่านพี่ ชิงอวี่มาแล้ว มารับท่านพี่กลับบ้าน ท่านพี่จะต้องปลอดภัยกลับมาให้ได้ ชิงอวี่ไม่อยากแยกจากท่านอีกแล้ว ถ้าหากท่านไม่สามารถกลับมาได้ชิงอวี่จะไปหาท่านเอง ต่อให้เป็โลกแห่งความตายชิงอวี่ก็จะไปตามหาท่านพี่ให้ได้...’
.................................
เขตปกครองเทพากำลังจัดเตรียมความพร้อม ขุมกำลังอื่นๆ อีกสามด้านก็กำลังเตรียมตัวเพื่อเส้นทาง์ที่จะถูกเปิดออกในอีกยี่สิบกว่าวันหลังจากนี้เช่นเดียวกัน
หมันก้านลูบคลำมือข้างซ้ายของตนเองอยู่ตลอด มือข้างซ้ายที่ปราศจากนิ้วกลางเป็สิ่งที่แสนเ็ปสำหรับเขา ทุกครั้งที่เขาทำการเช็ดมือข้างซ้ายเขาจะนึกถึงความอัปยศอดสูและฝันร้ายที่เย่ชิงหานนำมาสู่เขา เขาตั้งใจว่าครั้งนี้จะแก้แค้นเขตปกครองเทพา จะแก้แค้นตระกูลเย่ จะ่ชิงเกียรติและศักดิ์ศรีของตนเองคืนมา
เสว่อู๋เหินหลายวันมานี้จิตใจของเขาฮึกเหิมเป็อย่างมาก
เมื่อเขามองผ่านเสื้อคลุมออกมามองเห็นลูกหลานของตระกูลเย่ มองเห็นเย่ชิงอวี่ เย่ชิงอู่ เยว่ชิงเฉิง รวมไปถึงเฟิงจื่อ ฮวาเฉ่า หลงไซ้หนาน และหลงสุ่ยหลิว เืภายในกายของเขาเริ่มเดือดพล่านขึ้นมาทันที
เขารับรู้ได้ว่าเวลาแห่งการแก้แค้นของตนเองมาถึงแล้ว เขาจะต้องทำอะไรสักอย่างและจำเป็อย่างยิ่งที่จะต้องทำ ทั้งเพื่อตนเอง เพื่อบิดาและอาจารย์ที่ตายไป!
.................................
แน่นอนว่าเย่ชิงหานไม่อาจจะรับรู้ได้ว่าน้องสาวของเขาที่ไม่ได้เจอมาเป็เวลาหลายปีตอนนี้กำลังยืนอยู่ที่ตีนเขาจ้องมองขึ้นมา และไม่รู้ว่าเย่เทียนหลงและเย่ชิงหนิวมารอคอยรับเขากลับบ้าน และไม่รู้ด้วยว่าเยว่ชิงเฉิง เฟิงจื่อ ฮวาเฉ่าก็มา...
เขารู้แค่เพียงว่าตอนนี้ตนเองเหลือโจทย์ปัญหาข้อสุดท้ายเพียงข้อเดียวก็จะสามารถทะลวงผ่านด่านโจทย์ปัญหาแห่งโชคชะตาแล้วผ่านไปยังด่านสุดท้าย จากนั้นเข้าไปภายในหอเทพแล้วออกไปจากูเาสุสานทวยเทพ กลับไปยังทวีปัเพลิง กลับไปยังตระกูลเย่
ดังนั้นจิตใจของเขาในตอนนี้จึงตื่นเต้นและร้อนใจเป็อย่างมาก โจทย์ปัญหาข้อที่สามข้อที่สี่เขาโชคดีใช้เวลาไม่มากก็สามารถตอบออกมาได้อย่างถูกต้อง ตอนนี้เหลือโจทย์ปัญหาข้อสุดท้ายแล้ว มองดูแผ่นป้ายศิลาที่ค่อยๆ เคลื่อนตัวโผล่ขึ้นมา ในใจของเขาเริ่มภาวนาขอให้โจทย์ปัญหาข้อสุดท้ายง่ายดายสักหน่อย ดีที่สุดคือง่ายเหมือนข้อสามข้อสี่
ความจริงแล้วทั้งสี่ข้อ เย่ชิงหานสามารถตอบออกมาได้อย่างถูกต้องและไม่ยากเย็นเท่าใดนักนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคงต้องบอกว่าเกี่ยวข้องกับการที่เขามีชีวิตเป็คนสองโลกมาก่อน ชีวิตที่แล้วแม้ระดับผลการเรียนจะไม่ถือว่าอยู่ในระดับแนวหน้าแต่ว่าคะแนนวิชาประวัติศาสตร์ห้าพันปีของประเทศจีนนั้นอยู่ในระดับสูงไม่เบาทีเดียว อีกทั้งเป็หนุ่มโสดติดห้องไม่มีอะไรทำก็เปิดคอมพิวเตอร์ดูนั่นนี่เรื่อยเปื่อย ความรู้ในแวดวงสาขาต่างๆ ล้วนััเข้าถึงไม่มากก็น้อย ความรู้รอบตัวจึงมีมากอยู่พอสมควร
สามารถจะพูดได้เลยว่าโจทย์ปัญหาที่ตอบผ่านมาได้นั้นความจริงแล้วไม่ใช่เขาที่คิดออกมาเองได้ แต่เป็มันสมอง ความรู้ และประวัติศาสตร์ของคนจีนั้แ่อดีตจนถึงปัจจุบันที่ตกผลึกมา รวมไปถึงคลังความรู้จำนวนมหาศาลที่อยู่ในคอมพิวเตอร์ช่วยเขาตอบโจทย์คำถามเหล่านี้
โจทย์ปัญหาข้อที่ห้าในที่สุดก็โผล่ขึ้นมาทั้งหมด เย่ชิงหานรีบกวาตามองขึ้นไปในทันที “โจทย์ปัญหาข้อที่ห้า... มีชายปุถุชนคนธรรมดาคนหนึ่งออกไปเดินเล่นกับคู่หมั้นสาวของเขาที่ริมน้ำ คู่หมั้นสาวของเขาพลันพลัดตกลงไปในน้ำ ชายคนนั้นรีบะโลงไปเพื่อช่วยเหลือในทันที แต่เขาหาเท่าไรก็ไม่พบจึงจำต้องจากไปอย่างเศร้าเสียใจ เมื่อผ่านไปหลายปีเขากลับมายังริมน้ำแห่งนี้อีกครั้ง มองเห็นมีผู้เฒ่าคนหนึ่งกำลังนั่งตกปลาอยู่ แต่ว่าบนตัวปลาที่ตกขึ้นมาได้กลับไม่มีสาหร่ายหรือตะไคร่น้ำแม้แต่น้อย เขาจึงได้เอ่ยถามผู้เฒ่าคนนั้นว่าทำไมบนตัวปลาถึงไม่มีสาหร่ายหรือตะไคร่น้ำติดขึ้นมาด้วยเลยแม้แต่น้อย ผู้เฒ่าคนนั้นจึงพูดขึ้นว่า ‘เ้าไม่รู้หรือว่าแม่น้ำแห่งนี้ไม่เคยมีสาหร่ายหรือตะไคร่น้ำมาก่อนเลย’ เมื่อฟังจบชายคนนั้นพลันะโลงไปในน้ำฆ่าตัวตายในทันที คำถามคือ เพราะอะไรชายคนนั้นถึงได้ฆ่าตัวตาย?”
“ฮ่าๆ...”
เย่ชิงหานอ่านโจทย์ปัญหาจบก็อึ้งขึ้นในทันที นิ่งเงียบไปสักพัก สองมือพลันกำหมัดแน่นพร้อมกับคุกเข่าทั้งสองข้างลงไปที่พื้น จากนั้นใช้มือทุบพื้นพร้อมกับหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้