สวี่ฮุ่ยกลับมาจากขายปลาไหล ก็มีคนมาขอให้เธอติวหนังสือให้ รวมแล้วสิบกว่าคน
สวี่ฮุ่ยพานักเรียนมัธยมปลายเ่าั้ไปที่ห้องรับรองของบ้านพักพนักงานเพื่อติวหนังสือให้กับพวกเขา
นักเรียนมัธยมปลายคนหนึ่งถามเธอว่า "พี่ฮุ่ยฮุ่ย ทำไมต้องมาติวที่ห้องรับรองด้วยครับ?"
สวี่ฮุ่ยกล่าวว่า "สวี่เยว่ป่วยอยู่ ถ้าพวกเธอมาติวที่บ้านฉัน แล้วเกิดเสียงดังรบกวนเธอเข้าจะทำยังไงล่ะ? ฉันคงโดนด่าเอาน่ะสิ"
ใส่ร้ายป้ายสี เธอก็ทำเป็เหมือนกัน
นักเรียนมัธยมปลายเ่าั้พยักหน้าอย่างเข้าใจ
สวี่ฮุ่ยยังบอกอีกว่า ตราบใดที่เธอว่าง ต่อจากนี้ทุกวันั้แ่สิบโมงเช้าถึงเที่ยงวัน และบ่ายสองโมงถึงห้าโมงเย็นเธอจะอยู่ที่ห้องรับรองเพื่อติวหนังสือให้พวกเขา
นักเรียนมัธยมปลายเ่าั้ต่างโห่ร้องด้วยความยินดี
สมัยนี้หางานยาก โอกาสรับสมัครงานก็น้อย นอกจากจะรับ่ต่อจากพ่อแม่แล้ว การจะได้งานที่มั่นคงเป็เื่ยาก
แต่โรงงานผลิตอาหารใกล้เจ๊งแล้ว ใครจะอยากรับ่ต่อจากพ่อแม่ไปทำงานที่นั่นกันล่ะ?
ฉะนั้นก็เหลือเพียงทางเดียวคือสอบเข้ามหาวิทยาลัยเพื่อแสวงหาอนาคตที่ดีเท่านั้น
สวี่ฮุ่ยยอมเสียสละเวลามากมายมาติวหนังสือให้พวกเขาฟรี ๆ พวกเขาจะไม่ดีใจได้อย่างไร!
ทันใดนั้น สวี่ฮุ่ยก็ชี้ไปที่นักเรียนมัธยมปลายสามคนแล้วพูดว่า "เชิญพวกเธอออกไป พวกเธอสามคนไม่ได้อยู่ในกลุ่มที่ฉันจะติวให้ฟรี"
นักเรียนมัธยมปลายทั้งสามคนต่างทำหน้างงงัน "พี่ฮุ่ยฮุ่ย พวกเราไม่ได้ล่วงเกินอะไรพี่นี่ ทำไมพี่ถึงทำกับพวกเราแบบนี้?"
สวี่ฮุ่ยกล่าวอย่างเ็า "ถึงพวกเธอจะไม่ได้ทำ แต่แม่ของพวกเธอทำ"
นักเรียนมัธยมปลายทั้งสามคนเข้าใจในทันที เมื่อวานแม่ของพวกเขาเข้าข้างสวี่เยว่จนทำให้สวี่ฮุ่ยไม่พอใจ เธอจึงแก้แค้นแบบนี้
พวกเด็ก ๆ กลับบ้านไปด้วยความเศร้า
สวี่ฮุ่ยเริ่มติวหนังสือให้กับนักเรียนมัธยมปลายคนอื่น ๆ
ติวไปได้ไม่กี่นาที นักเรียนมัธยมปลายสามคนที่ถูกไล่ออกไปก็กลับมาพร้อมกับแม่ของพวกเขา
แม่ของเด็กหญิงคนหนึ่งที่ชื่อชุ่ยชุ่ย พอเข้ามาถึงก็ตำหนิสวี่ฮุ่ยทันที "ฮุ่ยฮุ่ย เธออย่าใจแคบไปหน่อยเลย จะมาแก้แค้นไม่ยอมติวหนังสือให้ชุ่ยชุ่ยลูกสาวฉัน เพียงเพราะคำพูดของฉันไม่ได้นะ"
สวี่ฮุ่ยเงยหน้าขึ้น มองด้วยสายตาเฉยเมย "ฉันไม่ติวให้ชุ่ยชุ่ยก็คือแก้แค้นคุณแล้วเหรอ? ฉันไม่มีสิทธิ์เลือกติวให้ใคร หรือไม่ติวให้ใครแล้วหรือไง?"
แม่ของชุ่ยชุ่ยเถียงไม่ถูก พึมพำเบา ๆ "ต่างก็อยู่บ้านพักพนักงานเดียวกัน ทำไมต้องเลือกปฏิบัติด้วยล่ะ?"
สวี่ฮุ่ยเชิดหน้าขึ้น "ฉันเลือกปฏิบัติ แล้วคุณจะทำอะไรฉัน?"
แม่ของชุ่ยชุ่ยกล่าวอย่างเคียดแค้น "ก็แค่อาศัยที่ตัวเองเรียนเก่งแล้วรังแกคนอื่นไม่ใช่เหรอ? "
สวี่ฮุ่ยยักไหล่ "ใครใช้ให้ฉันมีความสามารถล่ะคะ?"
จู่ ๆ แม่ของชุ่ยชุ่ยก็พุ่งเข้ามาผลักสวี่ฮุ่ย "นี่มันห้องรับรอง เป็สถานที่ส่วนรวม เธอมีสิทธิ์อะไรมาใช้คนเดียว? ไสหัวออกไปซะ!"
สวี่ฮุ่ยมองแม่ของชุ่ยชุ่ยด้วยสายตาเหมือนมองคนโง่
เธอใช้ห้องรับรองไม่ใช่เพื่อตัวเอง แต่เพื่อติวหนังสือให้นักเรียนมัธยมปลายในบ้านพักพนักงาน
แม่ของชุ่ยชุ่ยไม่ให้เธอใช้ห้องรับรอง คิดจะทำให้คนหมู่มากโกรธเหรอ?
งั้นก็สงเคราะห์เธอหน่อยแล้วกัน
สวี่ฮุ่ยเก็บของของตัวเองแล้วพูดกับนักเรียนมัธยมปลายเ่าั้ว่า "ในเมื่อมีคนไม่ให้ฉันติวหนังสือให้พวกเธอที่นี่ การติวก็คงต้องยกเลิกแล้วล่ะ"
พูดจบก็จะเดินออกจากห้องรับรองไป
ลุงยามห้องรับรองเข้ามาขวางเธอไว้ "นี่เป็พื้นที่ในการดูแลของฉัน ฉันอนุญาตให้พวกเธอใช้ที่นี่สำหรับติวหนังสือใครหน้าไหนกล้าไล่พวกเธอออกไป?"
หลานชายของเขาก็มาติวหนังสือกับสวี่ฮุ่ยด้วย!
สวี่ฮุ่ยใช้สายตาชี้แม่ของชุ่ยชุ่ย "มีคนบอกให้ฉันออกไปนั่นไงคะ! "
"ฉันแค่ใช้เวลา่ปิดเทอมติวหนังสือให้นักเรียนมัธยมปลายในบ้านพักพนักงาน ทำด้วยความบริสุทธิ์ใจแท้ ๆ ทำไมต้องมาเจอเื่พรรค์นี้ด้วย? ไม่คุ้มเลย" สิ้นเสียงก็เดินจากไป
ลุงยามห้องรับรองทะเลาะกับแม่ของชุ่ยชุ่ยทันที
ชุ่ยชุ่ยไม่อยากให้เื่บานปลาย จึงดึงแม่ของเธอออกไปข้างนอก
แต่แม่ของเธอไม่ฟัง ทะเลาะกับลุงยามห้องรับรองไม่ยอมหยุด แม้แต่คำว่าใช้อำนาจในทางมิชอบก็ยังหลุดออกมา
นักเรียนมัธยมปลายที่ติวหนังสือเห็นดังนั้น เลยต้องกลับบ้าน
ผู้ใหญ่ที่บ้านเห็นพวกเขากลับมาก่อนเวลา ถามถึงสาเหตุ นักเรียนมัธยมปลายเ่าั้ก็เล่าเื่ทั้งหมดตามความจริงให้ครอบครัวฟัง
พ่อแม่ของนักเรียนมัธยมปลายเ่าั้ต่างโกรธจัด ทุกคนรวมตัวกันไปคิดบัญชีที่แม่ของชุ่ยชุ่ยด้วยความโมโห
ทุกคนรุมผลักแม่ของชุ่ยชุ่ย แล้วแย่งกันถามเซ็งแซ่ "ห้องรับรองเป็ของส่วนรวมแล้วไง? พวกเราทุกคนยอมให้ฮุ่ยฮุ่ยติวหนังสือให้ลูก ๆ ของพวกเราที่นี่ เธอคัดค้านคนเดียวมันจะมีประโยชน์อะไร? เสียงข้างน้อยต้องทำตามเสียงข้างมาก เธอรู้จักไหม?"
เื่ราวเริ่มบานปลายจนใกล้จะควบคุมไม่ได้ ยายของชุ่ยชุ่ยกลัวลูกสะใภ้ตัวเองจะเสียเปรียบ จึงให้ชุ่ยชุ่ยไปตามผู้จัดการโรงงานทั้งสามคน รวมสวี่ต้าซานมาไกล่เกลี่ย เหตุการณ์วุ่นวายนี้จึงสงบลงได้
ผู้จัดการโรงงานทั้งสามคนต่างแสดงจุดยืนว่าสวี่ฮุ่ยสามารถใช้ห้องรับรองติวหนังสือให้กับพวกเด็ก ๆ ได้ แม่ของชุ่ยชุ่ยจึงได้แต่ยอมจำนน และไม่โวยวายอีก
แต่ถึงแม้ผู้จัดการโรงงานทั้งสามคนจะไม่แสดงท่าทีหรือจุดยืนใด ๆ แม่ของชุ่ยชุ่ยก็ไม่กล้าหาเื่อีกต่อไปแล้ว
เธอคนเดียวจะสู้คนเป็กลุ่มได้อย่างไร?
ในความวุ่นวายที่เกิดจากการปะทะกันเมื่อกี้ มีคนตบหน้าเธอ แถมยังเตะเธออีกหลายที แต่ไม่มีใครยอมรับ เธอจำต้องกลืนความเจ็บใจไว้คนเดียว
หญิงแอ๊บใสโลกสวยอีกสองคนรู้สึกโล่งใจมากที่ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย ไม่งั้นก็คงโดนตีเหมือนกัน
สวี่เยว่ยืนดูเหตุการณ์วุ่นวายทั้งหมดอยู่ข้าง ๆ
เมื่อเห็นชุ่ยชุ่ยร้องไห้ประคองแม่ที่หน้าตาบวมปูดกลับบ้าน
สัญชาตญาณที่อยากจะเล่นงานสวี่ฮุ่ยทุกคราวที่มีโอกาส ทำให้สวี่เยว่เกิดแผนร้ายขึ้นมา
เธอหยิบยาหม่องแก้ฟกช้ำในบ้านไปบ้านของชุ่ยชุ่ย
พอเข้าไปถึงก็ยื่นยาหม่องให้แม่ของชุ่ยชุ่ย แล้วพูดว่าสวี่ฮุ่ยร้ายกาจมาก จงใจยุยงให้ทุกคนเกลียดเธอ
ใส่ไคล้อย่างอ้อม ๆ ให้แม่ของชุ่ยชุ่ยอย่าปล่อยเื่นี้ไป ต้องเอาคืนให้ได้
ถึงแม่ของชุ่ยชุ่ยจะเป็พวกโลกสวย แต่เธอไม่ได้โง่ เธอรู้ดีว่าสวี่เยว่คิดอะไรอยู่
แม่ของชุ่ยชุ่ยเกลียดสวี่เยว่เข้ากระดูกดำ ที่เธอสองแม่ลูกต้องลงเอยในสถานการณ์แบบนี้ก็เป็เพราะเธอปากพล่อยเข้าข้างสวี่เยว่นั่นแหละ
สวี่เยว่ไม่รู้สึกผิดแล้วยังคิดจะใช้เธอเป็เครื่องมือในการจัดการกับสวี่ฮุ่ยอีก นี่มันร้ายกาจเกินไปแล้ว!