ิอวี่เคยคิดว่าหอว่านจงเป็เพียงเื่ที่ทางราชวงศ์ต้าิอุปโลกน์ขึ้นมาเท่านั้น ใครจะไปคิดว่านักรบเืของหอว่านจงจะมีอยู่จริงๆ
แต่ว่า ทำไมคนในวังหลวงถึงได้ส่งคนมาฆ่าเขาแบบนี้ได้ล่ะ?
ิอวี่จ้องไปที่ชายที่มีรหัสว่าม่อ จากนั้นเหมือนว่าเขาจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ แล้วก็เหมือนจะได้คำตอบ
เมื่อวันก่อน ที่ิอวี่ไปอาละวาดที่ตำหนักอวี้เต๋อ เดิมทีเขายังเมตตาไว้ชีวิติเฟิง แต่ใครจะคิดว่าิเฟิงยังไม่ยอมจบ อีกทั้งทำทุกวิถีทางให้นักรบเืของหอว่านจงมาฆ่าเขาอีก!
เห็นได้ชัดว่าเื่นี้ิเฟิงไม่น่าจะเป็คนออกหน้า และเขาก็ไม่น่าจะมีอำนาจมากพอไปออกคำสั่ง คนเดียวที่ทำเื่นี้ได้นั่นก็คือพระสนมหลี่!
เมื่อก่อน พระสนมหลี่หาเื่หยางเสวี่ยหรงตลอด วางแผนเพื่อไม่ให้ทำการส่งมอบหลิงจือโลหิตม่วงมาให้ นางคือผู้ที่อยู่เื้ัทั้งหมด ตอนนี้นางไม่เพียง้าให้หยางเสวี่ยหรงหมดทางรอด แต่ยัง้าให้เขาไม่ตายดีอีกด้วย!
ิอวี่กำหมัดแน่น ท่าทางของเขาในตอนนี้ดูเืเย็นมาก ความโกรธอันมหาศาลพลุ่งพล่านขึ้นมา
ิอวี่อยากจะกลับไปที่ตำหนักอวี้เต๋อแล้วฆ่าสองคนนั่นเดี๋ยวนี้เลย แต่สถานการณ์มันไม่เอื้ออำนวยให้เขาทำแบบนั้นได้
นักรบเืที่อยู่ตรงหน้านี้เหมือนจะมีอาณาจักรพลังขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่เจ็ดระดับหลอมความเป็เทพ สายตาของเขาเป็สีเทาเหมือนคนตาย ปล่อยพลังอำนาจบางอย่างที่มองไม่เห็นออกมาจำนวนมาก ซึ่งพลังอำนาจแบบนี้เป็พลังงานที่ระดับหลอมความเป็เทพเท่านั้นที่มี ะเืสยบ!
การต่อสู้ยังไม่ทันเริ่มขึ้น จิตใจก็ถูกอีกฝ่ายะเืสยบไปแล้ว นี่แหละคือความน่ากลัวและแข็งแกร่งของผู้กล้าระดับหลอมความเป็เทพ!
เมื่อถูกพลังะเืสยบของม่อเข้าไป ิอวี่ก็รู้สึกอึดอัดมาก เขาทั้งเวียนหัวและถูกกดดัน มันทรมานมาก!
โชคดีที่จิตของิอวี่แข็งแกร่งมาั้แ่เกิดจึงพยายามฝืนทนเอาไว้ได้ แต่ว่าเขาก็ทนได้ไม่นาน พูดได้เลยว่า นักรบเืคนนี้เป็ศัตรูที่ิอวี่รู้สึกว่าแข็งแกร่งที่สุดแล้วที่เขาเคยเจอ เพราะเขารู้สึกถึงความอันตรายจนถึงชีวิต!
เขาปล่อยแขนที่โอบเอวซ้ายของเฮยจีอยู่ ต่อให้นางจะสวยแค่ไหนก็ตาม ิอวี่ก็ไม่มีอารมณ์จะไปชื่นชม เขาพูดเสียงเข้มไปว่า “เฮยจี คนคนนี้อันตรายมาก เ้ารีบกลับเข้าไปในหยกโบราณเดี๋ยวนี้ ตรงนี้ข้าจัดการเอง”
เฮยจีหันไปมองิอวี่ แล้วกัดฟัน “ิอวี่ เขาไม่ธรรมดาเลยนะ เ้าคนเดียวรับมือไม่ไหวหรอก”
ตอนที่ิอวี่มีขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่สี่ เืของเขาได้ปลดผนึกให้กับเฮยจีที่อยู่ในหยกโบราณ ดังนั้น เฮยจีจึงมีความสามารถในระดับขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่สี่
เฮยจีไม่ได้มีวิชาในเคล็ดวิชาหยินหยางขั้นสูง ดังนั้นพลังของนางจึงเทียบกับิอวี่ไม่ได้ แต่ก็จะลืมไม่ได้นะว่า นางคือนักร่างอักขระ!
“แม่นาง ก่อนที่ข้าจะฆ่าเขา ข้าจะให้ทางเลือกกับเ้าสองทาง”
ในเวลานี้เองเสียงของม่อก็ดังขึ้นมา ถึงแม้เขาจะเป็ชายวัยกลางคน แต่ว่าน้ำเสียงของเขาดูแหบและแก่มาก ฟังแล้วรู้สึกขนลุกซู่เหมือนปีศาจกำลังเอ่ยปากพูด “อย่างแรก ขัดขืน หลังจากข้าเชยชมเรือนร่างของเ้าแล้ว ข้าก็จะฆ่าเ้า”
เืในตัวของิอวี่ปั่นป่วน เขาหรี่ตาลงแล้วตะคอกออกไปอย่างรุนแรงว่า “มีข้าอยู่ตรงนี้ เ้าไม่มีวันแตะต้องนางได้แม้แต่ปลายเล็บ!”
“อย่างที่สอง ยอมเป็ของข้าดีๆ เป็คนของข้าไปตลอดชีวิต” ม่อไม่ได้สนใจอะไริอวี่เลย เป้าหมายของเขาไปหยุดอยู่ที่เฮยจี ส่วนิอวี่นั้นเขาแทบไม่ได้ชายตามองด้วยซ้ำ ในสายตาของเขาแล้วิอวี่ก็คือศพ
“ไปตายซะ” เฮยจีกัดฟัน หน้าตาของนางแปรเปลี่ยนเป็ความเืเย็น คำพูดของม่อ มันเหมือนล้ำเส้นของนางแล้ว
ม่อชี้ไปที่เฮยจีแล้วพูดว่า “จำคำพูดเมื่อครู่ของเ้าให้ดี ข้าจะให้เ้าตายทั้งเป็เลยคอยดู”
เพราะคำพูดของเฮยจีทำให้ม่อรู้สึกอัปยศ ต่อให้นางจะเป็ของดีมีราคา แต่ม่อก็จะทำให้นางตายทั้งเป็!
เมื่อพูดจบ ม่อก็ลอยตัวเหมือนเป็ลมพายุในยามค่ำคืน เขาแทงกระบี่เข้าใส่ิอวี่ กระบี่ของม่อมีชื่อว่ากระบี่กุ่ยเจี้ยน โดยเฉพาะในเวลากลางคืนจะเคลื่อนที่ราวกับภูตผีปีศาจ เวลาฆ่าใครแทบจะลงมือเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
ิอวี่เองก็หนีไม่พ้นเหมือนกัน!
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับกระบี่ที่เล่นถึงตายได้แบบนี้ ิอวี่พยายามรวบรวมสมาธิ ในเมื่อไม่เห็นคมกระบี่ที่ซ่อนอยู่ในความมืดเลย เขาจึงต้องหลับตาแล้วใช้หูฟังจับจังหวะทุกอย่างจากเสียงเท่านั้น!
“ฟึ่บ!”
“ทางซ้าย!”
ทันใดนั้นเอง ิอวี่ก็ชักกระบี่เฟิงโหวออกมาแล้วฟันไปทางซ้ายมือ บังเอิญปะทะเข้ากับกระบี่เฟิงเจี้ยนพอดีทำให้เกิดสะเก็ดไฟขึ้นมา จากนั้นิอวี่ก็ถูกแรงมหาศาลเข้าปะทะจนต้องถอยหลังไป
“ปฏิกิริยาความเร็วตามข้าได้ทัน แล้วร่างกายของเ้าล่ะ ตามข้าทันหรือเปล่า?”
ม่อรุดขึ้นหน้าไป ประกบนิ้วข้างซ้ายเข้าสองนิ้วแล้วก็ยื่นมันออกมา มันไร้เสียงไร้รูปลักษณ์ ถึงแม้มันจะเป็ทักษะการต่อสู้หลิงระดับกลางเหมือนกัน แต่มันมีชื่อว่า “ดรรชนีไร้เสียง”!
มันเป็วิชาดรรชนีที่แข็งแกร่งมาก เวลาต่อสู้ตอนที่ศัตรูไม่ทันระวัง มันมักจะให้ผลลัพธ์ที่น่าอัศจรรย์!
ิอวี่ทำได้แค่เบือนหน้าหนี แต่หัวไหล่ข้างซ้ายกลับถูกนิ้วแทงเข้าเต็มๆ จากนั้นม่อก็ใช้เท้าที่แข็งราวกับเหล็กถีบเข้าไปที่ท้อง ทำให้เขาปลิวกระเด็นไปไกล
“ตาย!”
ม่อพุ่งเข้าใส่ิอวี่อีกครั้ง กระบี่กุ่ยเจี้ยนในมือรวดเร็วมาก มันพุ่งแทงเข้าไปที่หัวใจของิอวี่!
ทั้งๆ ที่ตัวเขาััได้ถึงความดุดันของกระบี่ แต่ร่างกายกลับเหมือนถูกสะกด มันไม่ฟังคำสั่งของเขาเลย
ถูกต้อง ิอวี่มีปฏิกิริยาที่ตามทันเขา แต่ว่าความเร็วของร่างกายนั้นยังตามไม่ทัน!
ทำยังไงดี!
เมื่อเห็นกระบี่กำลังจะแทงมาที่หัวใจ ิอวี่ก็ใจเต้นแรง เืลมของเขาปั่นป่วน เืกำลังพลุ่งพล่าน ...
“ผลาญโลหิต!”
ความเร็วของิอวี่ะเิเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้เขาสามารถหลบกระบี่ที่เฉียดหัวไหล่ไปได้!
ิอวี่หันหลังแล้วถอยห่างออกมายืนประมาณสิบเมตร ในเวลานี้เขาหายใจถี่มาก เืลมในร่างกายของเขาแปรเปลี่ยนเป็สีทอง ดูจากภายนอกแล้วผิวของิอวี่จะเป็สีแดงแกมทอง
นี่คือหน้าตาที่แท้จริงของผลาญโลหิตขั้นที่สี่ เมื่ออยู่ในสถานการณ์แบบนี้ ไม่ว่าจะเป็พลังหรือว่าความเร็วมันจะเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย
แต่หากผลาญโลหิตมากเกินไป มันจะทำร้ายร่างกาย ทำร้ายเืลม จึงไม่สามารถใช้เป็เวลานานได้
อีกอย่าง ก่อนที่จะไปถึงขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่ห้าระดับลอกคราบ ิัของิอวี่ไม่มีทางรับการเผาผลาญแบบนี้ได้เป็เวลานาน จึงเป็สาเหตุที่ว่าทำไมตอนที่อยู่บนลานประลองเขาถึงไม่ใช้มัน
“หือ?”
ม่อรู้สึกได้ว่าร่างกายของิอวี่นั้นมีการเปลี่ยนแปลง จึงโจมตีเข้าใส่อีกครั้ง แต่ว่าครั้งนี้ ิอวี่กลับตามความเร็วของม่อได้ทัน แล้วยังสามารถต้านทานกระบี่ของม่อได้ด้วย!
“ทักษะการต่อสู้หลอมกายหรือ?”
ม่อเหมือนมองพิรุธอะไรออก ในใจของเขาก็อดตะลึงไม่ได้ เขานึกถึงทักษะการต่อสู้หลอมกายที่แข็งแกร่งและประหลาดได้อย่างหนึ่ง เพราะในความรู้ของเขามันไม่มีวิชาแบบไหนที่แข็งแกร่งได้แบบนี้อีกแล้ว
จากนั้น สายตาของเขาก็เปลี่ยนเป็ความโลภ
เดิมทีม่อคิดว่าภารกิจของเขาคือการฆ่าิอวี่เท่านั้นก็จบ แต่ตอนนี้เขาเหมือนได้เจอของดี หลังจากที่ฆ่าิอวี่แล้วเขายังสามารถได้ทักษะการต่อสู้หลอมกายที่เป็ของประหลาดล้ำค่าได้อีก ยิงธนูดอกเดียวได้นกสามตัวเลย สะใจจริง!
“ถ้าอย่างนั้น ข้าเองก็จะไม่เสียเวลาอีกแล้วนะ”
ลมปราณในร่างกายของม่อพลุ่งพล่านขึ้นมา เขาควบคุมพลังให้พันรอบกระบี่ของเขา ลมปราณที่เกรี้ยวกราดเหล่านี้พุ่งออกมาอย่างยอดเยี่ยม
จากนั้นกระบี่กุ่ยเจี้ยนกลับสั่นไม่หยุด พร้อมกับมีเสียงแหลมดังขึ้นราวกับมีปีศาจซ่อนอยู่ในกระบี่เล่มนี้จริงๆ เหมือนมีชีวิต
ทักษะการต่อสู้เป็หลิงระดับกลางชั้นดี กระบี่ร้องไห้ ผู้ฝึกจะต้องมีขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่หกระดับกระชากิญญาถึงจะสามารถควบคุมลมปราณให้หมุนเวียนไปยังคมกระบี่ แล้วทำให้อานุภาพของกระบี่เพิ่มขึ้นหลายเท่า กระบี่ร้องไห้นั้นจึงมีพลังแข็งแกร่งมากกว่าในระดับเดียวกันได้
“ฟู่!”
ม่อฟันกระบี่ออกไป กระบี่กุ่ยเจี้ยนส่งเสียงร้องโหยหวนแหลมแสบแก้วหูมาก ในขณะเดียวกันิอวี่ก็ผลาญโลหิตจนร่างเป็สีแดงทอง ราวกับเทพสังหารที่อยู่ท่ามกลางกองเพลิง ในมือถือกระบี่เฟิงโหวพร้อมพลังสังหารเก้าเท่าแล้วฟันกระบี่ออกไป
พลังสังหารเก้าเท่าเมื่ออยู่ท่ามกลางสภาวะการผลาญโลหิตของิอวี่ มันถือเป็กระบวนท่าการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาแล้วในตอนนี้!
“ตู้ม!”
เสียงอื้ออึงดังมา ลมปราณกระบี่กระจายไปทั่ว ิอวี่ถอยหลังไปยี่สิบกว่าเก้าแล้วก็หยุดลงแล้วใช้กระบี่ดันพื้นเอาไว้ พยายามรักษาสมดุลของร่างกาย
จากกระบวนท่านี้เขาแทบจะใช้กำลังไปจนหมดแล้ว และคุมเืลมในร่างกายให้สงบ อุณหภูมิในร่างกายกลับมาสู่ปกติ
ม่อค่อยๆ เดินเข้าไปหาิอวี่ กำลังคิดจะปลิดชีวิตของิอวี่ ในเวลานี้เอง ปลายตาก็มองไปที่มือที่สีผิวกำลังกลับสู่สภาพปกติ หว่างคิ้วของเขาขมวดหนักเหมือนคิดอะไรขึ้นมาได้
พริบตาเดียว สายตาของม่อก็จ้องไปที่ตัวของิอวี่!
เขาเหมือนมองเห็นเืในกายของิอวี่กำลังถูกเผาผลาญ มันเกิดการเผาผลาญได้อย่างไร? หากไปถึงระดับลอกคราบแล้ว อุณหภูมิแบบนั้นจะทำร้ายผิวได้อย่างไรกัน?
“แค่ระดับที่สี่ ถ่ายเื!”
ตอนที่ม่อนึกถึงประเด็นนี้ได้ ร่างกายของเขาก็เหมือนกับถูกสายฟ้าฟาด รู้สึกเสียวสันหลังขึ้นมาที่หลังคอจนทำให้เขารู้สึกขนลุก!
หากมีคนบอกว่าผู้กล้าระดับถ่ายเืสามารถต้านทานพลังหลอมความเป็เทพได้ภายในกระบวนท่าเดียว ม่อจะตบหน้าให้สักฉากหนึ่งเพราะมันเป็เื่ที่ไม่น่าเกิดขึ้น
แต่ว่า เื่ที่ไม่น่าเกิดขึ้นได้ตอนนี้กลับปรากฏขึ้นมาตรงหน้าของเขาแล้ว ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ!
สายตาของม่อเริ่มเปลี่ยนไป เขาเก็บความดูถูกกลับคืนมา ก่อนหน้านี้เขา้าฆ่าิอวี่แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่าิอวี่มีพร์ เขาไม่มีทางให้ชายหนุ่มได้ก้าวหน้าไปกว่านี้อีก
“จบแล้ว”
ม่อเดินไปทางิอวี่ ที่ตอนนี้แทบจะหมดแรงแล้ว เขาไม่สามารถต้านทานพลังของม่อได้อีก ทำได้แค่มองดูม่อเดินเข้ามาหาเขาทีละก้าว แต่ในเวลานี้เอง ร่างกายส่วนล่างของม่อก็มีอักขระสีน้ำเงินปรากฏขึ้นมา
หลังจากนั้น ลายอักขระสีน้ำเงินก็ปรากฏลายเส้นขึ้นมาจำนวนมากพันแข้งพันขาของม่อเอาไว้ อีกทั้งในแต่ละเส้นยังมีพลังอำนาจเพิ่มขึ้นด้วย
“ลายเส้นอักขระกักขังหรือ?”
ม่อหันหลังกลับไปมองก็เห็นว่าห่างจากตรงนี้ไปไม่ไกล เฮยจีกำลังไขว้นิ้วชี้ขวาของนาง มีแหวนวงหนึ่งกำลังเปล่งแสง ปากของนางกำลังท่องคาถา ร่ายอักขระกักขัง จมสู่ความฝัน!
เมื่อขาทั้งสองข้างถูกยึดติด ลายเส้นสีน้ำเงินก็พันขาราวกับหนอน และสุดท้ายก็จะถูกคลุมจนขาดอากาศหายใจ
เมื่อครู่ตอนที่เขาสู้กับิอวี่ เฮยจีก็เริ่มร่างกระบวนท่านี้แล้ว ตอนนี้ลายเส้นอักขระมันกำลังสัมฤทธิ์ผลอยู่
“นางสารเลว!” ม่อตะคอก ร่างกายของเขากระสับกระส่ายอย่างบ้าคลั่ง เพราะมันยากมากที่จะหลุดออกจากลายเส้นอักขระ เข็มเหล็กสามสิบหกเล่มพุ่งไปที่จุดตายของเฮยจี เฮยจีรีบหลบ ทำให้ลายเส้นอักขระขาดการควบคุมไป
“เ้ามองไปที่ไหนน่ะ?”
ในเวลานี้เอง ิอวี่ก็บุกเข้ามาแล้วใช้พลังทั้งหมดที่มีฟันกระบี่ออกไป ต่อให้ม่อจะหลบไปได้ในทันที แต่ก็ยังถูกิอวี่ตัดแขนซ้ายจนขาดไป
“ ... อ๊า!”
ม่อร้องคำรามเสียงออกมาอย่างบ้าคลั่ง ขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่เจ็ดคนหนึ่งถูกขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่สี่ตัดแขนซ้ายขาดไปข้างหนึ่ง มันเป็เื่ที่น่าใมาก สำหรับม่อแล้ว มันถือเป็ความอัปยศอันสูงสุด
“เ้าจะต้องตาย ตายอย่างน่าอนาถแน่!”
ม่อที่แขนขาดไปข้างหนึ่งสูญเสียกำลังการต่อสู้ไป เขาจ้องไปที่ิอวี่อย่างไม่กะพริบตา จากนั้นก็ถอยหนีไปอย่างจำใจ แค่สองอึดใจเขาก็หายไปในความมืดแล้ว
ิอวี่ราวกับใช้กำลังที่มีไปหมดทั้งตัว ไม่มีแรงจะตามม่อไปได้อีกแล้ว เขาขมวดคิ้วแน่นมากแล้วมองทางที่ม่อหนีไป ในใจก็เหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่างแล้ว อันตรายกำลังมาถึงตัวของเขาแล้ว หากเขาไม่ตาย นักรบเืไม่มีทางเลิกจองเวรเขาแน่ วันนี้แค่ม่อคนเดียวยังรับมือลำบากขนาดนี้ แล้วพรุ่งนี้จะมีใครอีกล่ะ?
จะว่าไป ไม่ว่าความสามารถ พละกำลัง หรือแม้แต่สิทธิที่จะอยู่รอดต่อไปก็ไม่มี!
ิอวี่กำหมัดแน่น ดวงตาของเขาแดงก่ำเหมือนสีเื ความคาดหวังในความสามารถของตัวเองนั้น มันไปถึงจุดที่เรียกว่าคลั่งแล้ว
ิอวี่รู้ดีว่า ภายในสองเดือน เขาจะกลับไปที่วังหลวงอย่างเปิดเผยไม่ได้อีกแล้ว ไม่อย่างนั้นเขาจะต้องตายแบบไม่มีที่ฝังแน่! มีแค่รอให้ิอ๋องออกจากการบำเพ็ญหลังจากนี้สองเดือน เพื่อชมการประลองของราชสำนักเท่านั้น ิอวี่ถึงจะได้รับการคุ้มครองในระดับสูงได้
ดังนั้นในตอนนี้เขาต้องหนีไปจากตรงนี้ก่อน หนีไปให้ไกลได้มากที่สุด!
ิอวี่ลุกขึ้น เขาปรับอารมณ์แล้วเดินไปหาเฮยจี ยิ้มให้แล้วพูดว่า “ที่แท้นักร่างอักขระร้ายกาจขนาดนี้เลยหรือ ขอบใจนะ เราเข้าขากันได้ดีเลยล่ะ ไปเถอะ”
แต่เฮยจีกลับยังยืนอยู่ที่เดิม ั์ตาของนางแดงก่ำ เบะปากแล้วส่ายหน้า
“ไปเถอะ ไม่ควรอยู่ที่นี่นานนะ” ิอวี่ขมวดคิ้ว จากนั้นก็จะไปดึงมือของเฮยจีมา แต่ว่าิอวี่กลับจับมันไม่ได้ ราวกับว่าร่างกายของเฮยจีนั้นไม่เคยมีอยู่จริง ...