“พี่ใหญ่ วันนี้เป็งานเลี้ยงของครอบครัวเรา ทุกคนกินข้าวด้วยกันอย่างมีความสุข เหตุใดต้องทำหน้าดุให้เด็กๆ พวกนี้ไม่พอใจด้วยล่ะ?”
ตัวประกอบคนสำคัญปรากฏตัวแล้ว!
อาสาวคนเล็กของจิ่งฝาน อายุสามสิบสามปี ตอนนี้เป็มารดาของเด็กสองคนแล้ว ถ้าเป็คนทั่วไป ถึงไม่นับว่าเป็ยายแก่หน้าเหลืองแต่ก็คงต้องมีริ้วรอยตามวัยบ้าง แต่จิ่งเหวินซิงกลับยังคงความงดงามราวกับบุปผา เหมือนสาวน้อยแรกแย้มก็มิปาน ขณะที่พูดก็มีรอยยิ้มออดอ้อน ดูน่ารักมีเสน่ห์ประดับอยู่ด้วย อ๋าวหรานต้องยอมรับเลยว่า โลกของนิยายช่างมหัศจรรย์จริงๆ
คนที่จิ่งเหวินซิงแต่งงานด้วยนั้น แซ่เซียว ชื่อหยางผิง เป็ผู้นำตระกูล ‘ตระกูลเซียว’ อำนาจของตระกูลเซียวนั้นไม่ธรรมดา บนแผ่นดินใหญ่แห่งนี้ก็นับว่าพอจะมีชื่อเสียงอยู่บ้าง
อัตราการปรากฏตัวของผู้นำตระกูลเซียวท่านนี้ เทียบกันแล้วไม่น้อยไปกว่าจิ่งเหวินซิงเลย
จิ่งเหวินซิงถึงจะแต่งงานออกไปแล้วก็ยังกลับมาบ้านของมารดาได้บ่อยๆ ข้อแรกเป็เพราะสองตระกูลอยู่ไม่ไกลกันนัก แน่นอน ไม่ไกลนักที่ว่านี้ก็ต้องใช้เวลาเดินทางถึงเกือบสิบวัน ข้อสองเป็เพราะตระกูลสามีนางและตระกูลจิ่งมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน นางมักจะพาจิ่งเหวินซิงและลูกๆ มาเยี่ยมเยียนที่ตระกูลจิ่งอยู่บ่อยๆ เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ของสองตระกูลให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
สองสามวันมานี้ จิ่งเหวินซิงพาลูกพร้อมสามีมาพักอยู่ที่ตระกูลจิ่ง และชัดเจนว่าน่าจะมาอยู่ยาว่ระยะเวลาหนึ่ง
“เ้าไม่อยู่บ้านสามี ไปนู่นมานี่ไปทั่ว เ้ากำลังทำอะไรอยู่กันแน่?” ถึงแม้จิ่งเหวินซานจะยังคงทำหน้าดุอยู่ แต่น้ำเสียงก็ถือว่าอ่อนลงเล็กน้อย
จิ่งเหวินซิงไม่เกรงกลัวจิ่งเหวินซาน นางทำปากจู๋ก่อนจะอมยิ้มน้อยๆ “แน่นอนว่าเพื่อมาหาพวกท่านน่ะสิ พี่ใหญ่อย่ารังเกียจข้าว่าน่ารำคาญเลย”
จิ่งเหวินซาน “เหอะ!”
เซียวหยางผิง “พี่ใหญ่่นี้ยิ่งดูแข็งแรง มีชีวิตชีวาขึ้นเรื่อยๆ แล้ว วันไหนมีเวลาต้องแนะนำข้าบ้างแล้วล่ะ”
เซียวหยางผิงยิ้มบางๆ ยืนอยู่ข้างจิ่งเหวินซิง ท่าทางนอบน้อม รอจนบรรยากาศค่อนข้างดีขึ้นแล้วจึงเริ่มพูดคุย น้ำเสียงอบอุ่นอ่อนโยน เทียบกับจิ่งเหวินซิง บริเวณตาของเขามีรอยย่นปรากฏขึ้นมาบ้างแล้ว แต่กลับไม่ทำให้ดูแก่ กลับให้ความรู้สึกลุ่มลึกสง่างาม
ถูกคนเช่นนี้พูดคำชื่นชมที่ฟังแล้วไม่แสดงออกอย่างชัดเจนว่า้าชม ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าเขาก็ร่างกายแข็งแรงจริงๆ ทำให้ใบหน้าของจิ่งเหวินซานปรากฏรอยยิ้มขึ้น
จิ่งเหวินซาน “เ้าเอาแต่นำเหวินซิงทำเื่ไร้สาระ ระวังนางจะเสียนิสัย ข้าไม่มีความสามารถไปชี้แนะเ้าหรอก!”
เซียวหยางผิง ยิ้มแล้วลูกหัวจิ่งเหวินซิง ใบหน้าแสนรักใคร่ แล้วหันหน้ากลับมามองจิ่งเหวินซาน พูดว่า “พี่ใหญ่อย่าได้ถ่อมตัวไปเลย!”
ด้านนี้คุยกันอย่างปรองดอง แต่อีกด้านจิ่งเซียงกลับแบะปากนิดๆ ถึงแม้อาเขยเล็กคนนี้จะดีกับนางมาก แต่นางกลับรู้สึกไม่ชอบเขาอย่างไร้สาเหตุ
“เสี่ยวฝาน สูงขึ้นอีกแล้วใช่หรือไม่ เ้าสูงกว่าอาเขยไปครึ่งศีรษะแล้ว ทำเอาอาเขยขายหน้าเลยจริงๆ!”
ั้แ่เซียวหยางผิงปรากฏตัวขึ้น อ๋าวหรานก็พุ่งความสนใจไปยังสองสามีภรรยาคู่นี้ ตอนนี้ถูกคำพูดของเซียวหยางผิงทำให้อดไม่ได้ที่จะเบนสายตามองไปทางตัวเอก ถึงค้นพบว่าสีหน้าของตัวเอกบิดเบี้ยวผิดธรรมชาติ เป็ความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก ราวกับกำลังอดทนอะไรบางอย่างอยู่
ราวกับรู้สึกได้ถึงสายตาของอ๋าวหราน จิ่งฝานหันหน้ามายิ้มให้อ๋าวหรานทีหนึ่ง แต่เป็รอยยิ้มเหมือนแค่ฉีกริมฝีปากเอามากกว่า และยังแฝงความหนาวเหน็บถึงกระดูกเอาไว้ แตกต่างกับความอบอุ่นตามปกติอย่างสิ้นเชิง อ๋าวหรานรู้สึกว่ามีความเย็นสายหนึ่งพุ่งขึ้นมาจากเท้าซึมลึกเข้ากระดูก หนาวเหน็บยิ่งนัก
แต่เพียงครู่เดียว จิ่งฝานก็เปลี่ยนกลับมาเป็รอยยิ้มราวสายลมฤดูใบไม้ผลิเช่นปกติ เขาหันหน้าไปพูดกับเซียวหยางผิง “ไม่ว่าอาเขยจะสูงหรือเตี้ย ท่านอาเล็กก็ชอบท่านอยู่ดี จะกลัวอันใดเล่า”
เซียวหยางผิง “ฮ่าฮ่า เสี่ยวฝานอิจฉาแล้วหรือ อยากหาภรรยาแล้วหรือ? อาเขยแนะนำให้เอาไหม?”
ฉากข้างหน้าดูสนุกสนานปรองดอง สายตาชั่วพริบตาเมื่อครู่ราวกับเป็ภาพลวงตา
หยอกเย้าจิ่งฝานเสร็จ เซียวหยางผิงก็หันมาพูดกับจิ่งเซียงว่า “เซียงเซียงก็ยิ่งน่ารักน่าเอ็นดูขึ้นทุกวัน ทำไมไม่พูดแล้วล่ะ? เมื่อครู่เห็นเ้ากับคุณชายท่านนี้คุยกันสนุกสนาน เป็คนรักหรือ?”
เซียวหยางผิงคนนี้เป็อัจฉริยะจริงๆ เขาเข้าไปทักทายทุกคนในที่นั้น ด้วยคำทักทายที่ไม่ซ้ำกันเลย และยังไม่ทำให้คนรำคาญ เรียกได้ว่าอ่อนโยนและสง่างาม น้ำเสียงเขายังอ่อนนุ่มให้ความรู้สึกดึงดูดนิดๆ พูดหยอกล้อแบบไม่เกินเลย ทั้งหยอกเย้าทั้งแสดงความเป็ห่วง ไม่ว่าใครก็ยากจะปฏิเสธความปรารถนาดีของเขา
ทว่าเสียดาย สวยแต่รูป จูบไม่หอม
ถึงแม้จิ่งเซียงจะไม่ค่อยชอบเขา ก็ยังอดไม่ได้ที่จะหน้าแดง ตอบว่า “ไม่ใช่คนรักสักหน่อย สหายต่างหาก!”
เซียวหยางผิง หัวเราะแล้วตอบว่า “ฮ่าฮ่า เซียงเซียงรู้จักเขินอายแล้ว อาเขยแค่ล้อเ้าเล่นเท่านั้น!”
จิ่งเหวินซิงแกล้งทำเป็โกรธ พูดว่า “หยางผิง ตอนนี้เ้ารังแกหลานชายหลานสาวข้า ระวังเถอะต่อไปพวกเขาไม่ยอมเ้าแน่”
เซียวหยางผิงพูดร้องขอความเมตตา “เซียงเซียง เสี่ยวฝาน พวกเ้าอย่าโกรธอาเขยเลย”
ทั้งสองคน คนหนึ่งร้องคนหนึ่งรับ ดึงดูดให้คนรอบๆ ขบขันไปด้วย
“ผู้นำตระกูลเซียวเป็คนที่เข้าถึงง่ายจริงๆ ”
“เหวินซิงโชคดีจริงๆ ได้แต่งกับคนดีๆ ”
......
เสียงพูดคุยหัวเราสนุกสนานพวกนี้ อ๋าวหรานรู้สึกว่าตัวเขา จิ่งเซียง และตัวเอกล้วนแต่ไม่มีอารมณ์ร่วมทั้งสิ้น
ทว่า เสียงหัวเราะพวกนี้ก็ถูกพ่อบ้านตระกูลจิ่งขัดขึ้น “นายท่าน ฮูหยิน คุณชาย คุณหนูทั้งหลาย รีบเข้านั่งประจำทีเถอะขอรับ แม่ครัวเตรียมอาหารเสร็จแล้ว ใกล้ยกขึ้นโต๊ะแล้วขอรับ”