“ควรกล่าวว่าการมาโลกนี้ของเ้า เป็สิ่งที่ถูกลิขิตไว้อย่างลับๆ มาเนิ่นนานแล้ว เ้าต้องทำภารกิจในการกอบกู้โลก” สตรีนามว่าเถาเยาพูดจามีลับลมคมใน จิ่นเซวียนไม่รู้เสียด้วยซ้ำว่านางพูดถึงสิ่งใดกันแน่
นางเป็แค่ิญญาจากโลกก่อน งานกอบกู้โลกอะไรนี่มอบให้ผู้มีอำนาจทำเถิด!
“ข้าอยากรู้ว่าข้าจะกลับโลกเดิมได้หรือไม่เ้าคะ?” นางเกลียดพี่ใหญ่ก็จริง แต่โลกเดิมของนางยังมีพี่จื่อเฟิงที่นางห่วงหา หากกลับไปได้ก็ยังดีกว่าอยู่ในยุคโบราณล้าหลังเช่นนี้
“ตัวเ้าในโลกก่อนนั้นกลายเป็เถ้าถ่านแล้ว มิอาจกลับไปได้ ในเมื่อมาแล้วก็จงอยู่ที่นี่ให้สงบสุขเถิด” เถาเยาขยับมือขณะพูด ฝนดอกท้อโปรยปรายลงมาอย่างน่าอัศจรรย์ พริบตาเดียวร่างของนางก็หลอมรวมไปกับฝนดอกท้อกลายสภาพเป็กระบี่เถาเยาลอยมาวางอยู่บนฝ่ามือของจิ่นเซวียน
“จำคำข้าเอาไว้ จงเดินตามเส้นทางที่ถูกต้อง เ้าจะมีชีวิตยืนยาว อย่าได้คิดสังหารมนุษย์เป็อันขาด” เถาเยาใกล้ดับสลาย นางรวบรวมสติ กล่าวเตือนจิ่นเซวียนถึงหน้าที่ที่นางต้องรับผิดชอบต่อมวลมนุษย์ในโลกนี้ รวมไปถึงบอกวิธีใช้กระบี่เถาเยา
“เถาเยา เ้าจะไปไหนหรือ?”
จิ่นเซวียนะโใส่กระบี่ เสียงไพเราะดั่งนกขมิ้นของเถาเยาดังกังวาน “แม้นตัวข้าคือเ้าของมิติคนแรก แต่ก็เป็เพียงเทพผู้พิทักษ์เ้าเท่านั้น วางใจเถิด ข้ากลายสภาพเป็กระบี่เถาเยาผสานกับแขนขวาเ้าแล้ว ข้าจะอยู่กับเ้าตลอดไป”
“เถาเยาเอ๋ยเถาเยา เ้าใช้สติเฮือกสุดท้ายกลายร่างเป็กระบี่เล่มหนึ่งเช่นนี้ มันคุ้มค่าหรือ?” จิ่นเซวียนกระชับมือขวา เปลี่ยนกระบี่เถาเยาเป็แหวนหยกสีชมพูดอกท้อสวมที่นิ้วกลางข้างขวา
เถาเยา จากนี้ข้าคือนายของเ้า ข้าจะคอยปกป้องเ้าเอง จิ่นเซวียนพึมพำกับตนเองแล้วยกแหวนขึ้นมาจูบ
เมื่อนางนึกได้ว่าเงินสิบตำลึงที่ซ่งผิฝมอบให้นั้นอาจจะพอซื้อข้าวของในพิธีแต่งงานวันพรุ่งนี้ นางเลยตัดสินใจไปห้องหนังสือในตำหนักเถาเซียน ร่างแบบปิ่นปักผมและต่างหูย้อนยุคที่เคยพบลงบนกระดาษเพื่อเอาไปแลกตำลึง
ใช้เวลาในห้องหนังสือประมาณหนึ่งชั่วยามนางจึงค่อยออกจากมิติ เวลาในมิติกับโลกภายนอกนั้นต่างกัน หนึ่งชั่วยามในมิติเท่ากับหนึ่งถึงสองเค่อ[1]
.....
จิ่นเซวียนมองอ่างไม้บนพื้นแล้วด่าสาบส่ง เ้าหูซานทำห้องนอนสกปรก นางเลยต้องมาเช็ดทำความสะอาดเช่นนี้ จิ่นเซวียนถอนหายใจคุกเข่าเช็ดเืที่พื้นอีกครั้ง คิดแล้วก็หงุดหงิด
“พี่จื่นเซวียน ท่านหลับหรือยังเ้าคะ?พวกเรามาคุยกันหน่อยได้หรือไม่” ซย่าจิ่นอวิ๋นนอนไม่หลับ นางจึงมาหาจิ่นเซวียน จิ่นเซวียนไม่อยากคุยกับนางเลยไม่เปิดประตู
“ค่อยคุยกันพรุ่งนี้เถิด ข้าต้องเช็ดพื้น”
“ข้ามาช่วยท่านเช็ดพื้น พี่จิ่นเซวียน เปิดประตูให้ข้าเถิดเ้าค่ะ” ซย่าจิ่นอวิ๋นไม่ยอมจากไป ตั้งใจมาเอาอกเอาใจจิ่นเซวียน ทั้งที่เกลียดนางเข้ากระดูกดำ ตีสองหน้าเก่งนัก
ในเมื่อเ้าน้องชั่วร้ายอยากแสดงละครก็ให้นางเช็ดแล้วกัน เืบนพื้นแม่นางเป็ผู้ทำก็ควรให้ลูกสาวทำความสะอาดแทน
จิ่นเซวียนลุกขึ้นเปิดประตูให้ซย่าจิ่นอวิ๋นเข้ามา
“พี่จิ่นเซวียน วันมะรืนท่านก็จะแต่งงานออกไปแล้ว มาทำความสะอาดเช่นนี้ใช้ได้ที่ใด ข้าทำแทนเองเ้าค่ะ” ซย่าจิ่นอวิ๋นหยิบผ้าบนขอบอ่างตั้งใจเช็ดพื้นด้วยรอยยิ้มบางเบา
“อวิ๋นเอ๋อร์ลำบากเ้าแล้ว” จิ่นเซวียนยิ้มขอไปที แม่ของนางโดนหลี่เจิ้งสั่งขังอยู่ยังมีใจมาช่วยนางทำความสะอาด เห็นแก่ตัวนัก เฮ้อ สงสารเสี่ยวเกาซื่อจริงๆ ที่เลี้ยงคนอกตัญญูเช่นนี้ไว้
“เป็พี่น้องมาเกรงใจอะไรกันเ้าคะ พี่จิ่นเซวียน จากนี้จะข้าไม่ต่อต้านท่านอีก จริงๆ นะเ้าคะ”
ซย่าจิ่นอวิ๋นมีแผนของตนเอง นางไม่สวยเท่าจิ่นเซวียนและมิใช่ลูกภรรยาเอก อนาคตนางอาจจะแต่งงานออกไปแย่กว่าจิ่นเซวียน!
นางเอาใจจิ่นเซวียนก็เพื่อให้ท่านพ่อประทับใจ
“อวิ๋นเอ๋อร์ ข้าไม่โทษเ้าหรอก เ้าเป็ผู้บริสุทธิ์” เ้าน้องชั่วอยากแสดงความปรารถนาดี นางก็จะปล่อยไปจนกว่าซย่าจิ่นอวิ๋นจะตายใจ
“พี่จิ่นเซวียน ท่านไม่โทษข้าหรือเ้าคะ ท่านใจดีนัก” ซย่าจิ่นอวิ๋นเช็ดพื้นพลางเงยหน้ามองจิ่นเซวียนไปด้วย นางเลยสังเกตเห็นแหวนหยกสวยงามบนนิ้วกลางข้างขวาของจิ่นเซวียน นางอยากได้มันนัก
“พี่จิ่นเซวียน ท่านซื้อแหวนใหม่หรือเ้าคะ?งดงามยิ่งนัก!” ซย่าจิ่นอวิ๋นเคยเดินชมร้านเครื่องประดับ แต่ไม่เคยเห็นแหวนดอกท้อที่งดงามเช่นนี้มาก่อน แหวนแกะสลักจากหยกฝูหรง[2] เลยเรืองแสงเมื่อยืนอยู่ใต้แสงไฟและแสงแดด
“ข้ามิได้ซื้อหรอก ขอตกทอดของท่านแม่ของข้า ท่านปู่มอบให้ข้าก่อนท่านจะจากไป” จิ่นเซวียนแต่งเื่หลอกน้องชั่วร้าย
ภูมิหลังของท่านแม่ลึกลับยิ่งนัก นางพูดเช่นนี้ต่อให้ซย่าจิ่นอวิ๋นสงสัยก็คงไม่กล้าชิงของของนาง
“อื้อ แม่ท่านดีต่อท่านนักเ้าค่ะ” ซย่าจิ่นอวิ๋นอิจฉาจิ่นเซวียนที่มีแม่ลึกลับเช่นนี้ ไม่เหมือนนางที่ไม่มีอะไรเลยนอกจากแม่ที่ชอบสร้างปัญหา
“แม้ข้าไม่เคยเห็นหน้าท่านแม่ แต่ข้ารู้ว่านางเป็แม่ที่ดี นางเลือกสละชีวิตของนางเพื่อปกป้องข้า ความรักของท่านแม่ช่างยิ่งใหญ่นัก”
เมื่อพูดถึงท่านแม่ จิ่นเซวียนค่อนข้างคิดถึงแม่ในโลกเดิม แม้ท่านจะจากไปเร็วแต่ความรักที่นางมีให้แม่ไม่เคยน้อยลงเลย
“พี่จิ่นเซวียน หากอาการซ่งจื่อเฉินไม่ดีขึ้นตลอดชีวิต ท่านจะทำอย่างไรเ้าคะ?” ซย่าจิ่นอวิ๋นอารมณ์เสีย จิ่นเซวียนไม่สนใจนาง นางเลยต้องหาเื่มาคุย
“ข้าจะทำสิ่งใดได้ ต้องปรนนิบัติเขาตลอดชีวิตน่ะสิ” ความสามารถของนางเวลานี้ หากนางเปลี่ยนใจไม่แต่งงาน บ้านซ่งก็ทำสิ่งใดมิได้ แต่เอ่ยไปแล้วไม่ควรผิดพูด อีกอย่างมีซ่งจื่อเฉิน นางจะได้เริ่มทำธุรกิจเสียที ไม่แน่สระน้ำศักดิ์สิทธิ์อาจช่วยรักษาขาของซ่งจื่อเฉินได้!
กลางดึกคืนนั้น คนนอนไม่หลับมิได้มีเพียงจิ่นเซวียน ซ่งจื่อเฉินซึ่งอยู่ห่างไกลในหมู่บ้านสกุลโจวเอง ก็นอนคิดถึงอนาคตของเขาเช่นกัน เขารู้ภูมิหลังตนเองั้แ่เล็กเลยฝึกวรยุทธ อ่านหนังสือไม่ได้หลับได้นอนเพื่อแก้แค้นให้พ่อแม่ ไหนเลยจะคิดว่าตนจะสูญเสียความสามารถในการเดิน
“เฉินเอ๋อร์ เ้าเป็อะไรหรือไม่?” ซ่งผิงจัดเตียงไว้นอกห้องนอนของซ่งจื่อเฉิน เพื่อสะดวกในการดูแลลูกชาย
เขาได้ยินเสียงจากในห้องเลยพลิกตัวลุกเดินมาดู
“ท่านพ่อ ท่านรีบนอนเถิด ข้าไม่เป็ไรขอรับ” ซ่งจื่อเฉินมองบุรุษผู้คอยดูแลเขาอย่างซาบซึ้ง พวกเขาได้ชื่อว่าพ่อลูก แต่ความจริงแล้วมีความสัมพันธ์แบบเ้านายกับข้ารับใช้
หลายปีมานี้หากไม่มีซ่งผิง เขาไม่รู้จริงๆ ว่าเขาจะรับมือกับเื่ต่างๆ อย่างไร
เขายอมจากไปกับพ่อแม่ั้แ่ทารกเสียดีกว่าต้องมาทุกข์ทรมานเยี่ยงนี้
“เฉินเอ๋อร์ พ่อรู้ว่าเ้าเสียใจ แต่มาถึงขั้นนี้แล้ว ทำได้แต่ค่อยเป็ค่อยไปเท่านั้น” ซ่งผิงแตะมือซ่งจื่อเฉินให้เขาวางใจ ตราบใดที่ซ่งผิงยังมีลมหายใจ เขาไม่ยอมแพ้หรอก เขาจะทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาลูกชาย
“ท่านพ่อ ศัตรูของเราแข็งแกร่งนัก ข้ากังวลว่าจะจากโลกนี้ไปก่อนได้แก้แค้นให้พ่อแม่ขอรับ”ซ่งจื่อเฉินจะเผยความในใจบางอย่างเมื่ออยู่ต่อหน้าซ่งผิงตามลำพังเสมอ
ซ่งผิงบอกภูมิหลังให้เขาฟังั้แ่จำความได้ บังคับเขาฝึกวรยุทธ อ่านหนังสือทุกวันก็เพื่อล้างแค้น
“ไม่หรอก เ้าจะอยู่ถึงวันนั้น ข้าไปให้เลี่ยหยางไต้ซื่อ[3] ตรวจดูแล้ว ดวงชะตาเ้ากับซย่าจิ่นเซวียนสมพงศ์กันยิ่งนัก ข้าเชื่อว่า์จะเข้าข้างเ้า”
ซ่งผิงแอบดูดวงชะตาของโจวซู่ซินด้วย เขาพบว่าซ่งจื่อเฉินกับโจวซู่ซินชะตาไม่สมพงศ์ ไม่อาจร่วมทางกันได้
เชิงอรรถ
[1] เค่อ หมายถึง 15 นาที
[2] หยกฝูหรง หมายถึง อัญมณีสีชมพูพาสเทลในตระกูลควอตซ์
[3] ไต้ซื่อ หมายถึง ปรมาจารย์
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้