นางเซียนยอดเชฟ : ท่านแม่ทัพ ท่านไม่ยุติธรรม (แปลจบแล้ว)

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     หอมเหลือเกิน! ต้าเป่าอดไม่ได้ที่จะน้ำลายสอ มีทั้งเนื้อและโจ๊กข้าว สีขาวสีแดงแบ่งกันชัดเจน กลิ่นหอมยั่วยวน นี่มันวันดีอะไรกัน!

        เขานั่งยองๆ เฝ้าอยู่ข้างหม้อ ราวกับกลัวว่าโจ๊กในหม้อจะบินหนีอย่างไรอย่างนั้น

        เสิ่นม่านยิ้มขมขื่น จากนั้นลูบศีรษะของเขาเบาๆ “ยังไม่ได้ที่ ต้องเคี่ยวอย่างน้อยอีกสักยี่สิบนาทีถึงจะกินได้”

        แม้จะไม่รู้ว่ายี่สิบนาทีนานแค่ไหน แต่ต้าเป่าก็เชื่อฟังคำของเสิ่นม่านอย่างแข็งขัน

        หลังจากอดทนรอไปประมาณยี่สิบนาที เสิ่นม่านเอาช้อนแหว่งคนโจ๊กในหม้อจนกลิ่นหอมโชยเตะจมูก นางเหยาะเกลือที่นำออกมาจากระบบ จากนั้นใส่เครื่องปรุงสูตรลับเฉพาะ กลิ่นโจ๊กหอมฟุ้งหนักกว่าเดิม ทำให้ร่างนี้ของนางน้ำลายสอ

        นางหยิบชามมาสองใบ หลังจากตักให้ต้าเป่าหนึ่งชาม ค่อยตักให้ตนเองหนึ่งชาม ทั้งสองคนไม่สนใจความร้อน ต่างก็กอดชามและเริ่มซดจนเกลี้ยงชาม

        หลังจากกินหมดไปหนึ่งชาม เดิมทียังคงหิวเล็กน้อย แต่พอ๼ั๬๶ั๼ ‘ห่วงยางรอบเอว’ หนาสามชั้นของตนที่อ้วนเกินเกณฑ์ จึงตัดใจวางชามลงและตักให้ต้าเป่าอีกหนึ่งชามอย่างไม่ลังเล

        เด็กน้อยสำคัญกว่า นางกินน้อยหน่อย ถือเสียว่าลดน้ำหนัก

        หลังจากกินเรียบร้อย ท้องฟ้าก็มืดค่ำ ในบ้านไม่มีตะเกียงน้ำมัน เสิ่นม่านซุกตัวอยู่ในหญ้าฟางบนเตียงคั่ง สายลมฤดูใบไม้ร่วงพัดจากหลังคา นางหนาวจนเท้าหงิกงอ จากนั้นก็โอบกอดต้าเป่าที่หลับสนิทไว้แน่นกว่าเดิม

        ความหนาวทำให้ตื่นง่าย เสิ่นม่านไม่คุ้นชินจึงยิ่งนอนไม่ค่อยหลับ หลังจากพลิกไปมาหลายครั้งก็ได้ยินเสียงไก่ขันจากด้านนอก

        ดึกดื่นป่านนี้ ไก่มาจากไหน?

        นางเงี่ยหูตั้งใจฟัง ขันเป็๞จังหวะเสียด้วย! หลังจาก ‘ไก่’ ขันสี่ครั้งก็จะหยุดแล้วขันอีกสี่ครั้ง

        หืม หรือว่ามีขโมย?

        บ้านเรือนมีอยู่รอบทิศ ยังอุตส่าห์มาเข้าบ้านนางอีก ตาบอดหรืออย่างไร

        เสิ่นม่านเย้ยหยันในใจ แต่ก็ยังค่อยๆ ย่องลงจากเตียงคั่ง เพื่อเสริมความกล้า นางจึงหยิบมีดทำครัวหนึ่งเดียวของตนเองออกมา จากนั้นย่องออกไปทางประตู

        คืนนี้ไม่มีพระจันทร์ ในลานบ้านมืดสนิท มีเพียงแสงสลัวอันน้อยนิด ที่ทำให้นางพอจะสามารถแยกทิศทางในลานบ้านที่เต็มไปด้วยกอหญ้านี้ได้

        ก่อนจะถึงประตูบ้าน เสิ่นม่านก็รับรู้ว่าเสียงไม่ได้มาจากบ้านตนเอง หากแต่เป็๲บ้านของนางโจวที่อยู่ข้างกัน

        ด้านนอกกำแพงที่สูงระดับเอว มีชายหนุ่มท่าทางน่ากลัวกำลังยืนอยู่ ค่ำคืนมืดมิด นางมองออกเพียงโครงหน้าคร่าวๆ เสิ่นม่านกังวลว่าจะถูกเห็นเข้า จึงหยิบมีดและนั่งยองลงใต้รั้วบ้าน

        ชายคนนั้นยังคงเลียนแบบไก่ขัน ส่งเสียงขันอยู่ราวสี่ห้าครั้ง ประตูบ้านก็เปิดออก

        เสิ่นม่านหรี่ตามองผ่านรั้ว คนที่ออกมาคือนางโจวที่ถูกนางทุบตีตอนกลางวันไม่ใช่หรือ?

        จากรายงานของระบบ พี่ชายของร่างเดิมไปเป็๲ทหารเมื่อหลายปีก่อน นับแต่นั้นมาก็หายไปโดยไม่มีข่าวคราว เช่นนั้นแล้วชายคนนี้คงไม่ใช่…

        ในสมองของเสิ่นม่านปรากฏความคิดที่อุกอาจ

        เห็นเพียงนางโจวเร่งเร้าชายคนนั้น “รีบไปเถิด ไม่ง่ายดายกว่าข้าจะกล่อมเ๽้าเด็กเวรสองตัวนั่นให้หลับได้ หากพวกเขาเห็นเ๽้าเข้าคงแย่”

        ชายคนนั้นลดเสียงลงและแอบหัวเราะ “เห็นก็เห็นสิ สามีผีของเ๯้าจากบ้านไปหลายปีเช่นนี้ คิดจะให้เ๯้าอยู่เฝ้าตัวภาระสองตัวนี้ไปตลอดชีวิตหรือไร?”

        ทั้งสองโอบกอดกัน จากนั้นก็ค่อยๆ เคลื่อนตัวไปทิศทางบนเขา

        เสิ่นม่านนั่งยองๆ และขบเล็บ ทันทีที่มาถึงก็เจอกับภาพชายโฉดหญิงชั่วคบชู้กัน ทั้งยังเป็๞พี่สะใภ้ของร่างเดิม

        ละครบทนี้ช่างตื่นเต้นเร้าใจนัก

        นางลังเลครู่หนึ่ง เมื่อนึกถึงว่าเป็๞พี่ชายของร่างเดิม ความลังเลก่อเกิดเพียงไม่กี่วินาที ท้ายสุดก็อดกลั้นความสงสัยใคร่รู้ไม่ได้ จึงแอบย่องตามไป

        เสิ่นม่านเดินตามไปอย่างช้าๆ ท้องฟ้ามืดมิด นางห่วงว่าจะถูกพบเข้า จึงเดินตามหลังทั้งสองหลายสิบเมตร เดินมาราวๆ ครึ่งชั่วโมง ในที่สุดก็เจอทั้งสองเข้าไปในวัดร้างแห่งหนึ่ง

        เสิ่นม่านรอให้พวกเขาเข้าไป ก่อนที่จะหาโอกาสแอบไปด้านหลังวัดร้าง ประจวบเหมาะกับได้ยินเสียงหายใจหอบอันแสนเร่าร้อนของทั้งสอง

        เสิ่นม่าน “...”

        หรือจะกลับไปดี?

        นางลังเลอยู่สักพัก จนคนด้านในเสร็จกิจธุระ เสิ่นม่านได้ยินนางโจวบ่น

        “เหตุใดวันนี้เ๯้าจึงเสร็จเร็วนัก? คงไม่ใช่ว่าแอบข้าไปเกี้ยวจางเหลียนฮัวที่หน้าหมู่บ้านมาหรอกนะ?”

        ชายคนนั้นถอนหายใจ ราวกับถูกใส่ร้ายป้ายสี “ใช่ที่ไหนกัน ข้าเพียงรู้สึกว่า เหมือนมีคนกำลังจ้องพวกเราอยู่...”

        เสิ่นม่านซ่อนตัวอยู่ที่เชิงกําแพงไม่กล้าขยับเขยื้อน “...”

        แต่คําพูดของนางโจวทําให้นางโล่งอก

        “ฮึ! ดึกดื่นป่านนี้จะมีคนได้อย่างไร? ข้าว่าเ๯้าหาข้ออ้างมากกว่า! ตอนนั้นให้เ๯้ามาสู่ขอข้า เ๯้าก็ไม่ยอม เอาแต่หาข้ออ้างนั่นนี่ ข้าว่าเ๯้าคงไม่อยากรับผิดชอบมากกว่า? คนบ้า!”

        “ที่ไหนกัน? เ๽้ายังมีตัวภาระของสกุลเสิ่นอีกสองตัวไม่ใช่หรือ? บ้านข้าฐานะไม่ดี ไม่อยากเลี้ยงดูลูกชาวบ้านหรอกนะ!” ชายคนนั้นด่าทอ

        นางโจวตบหน้าเขาอย่างไม่พอใจ น้ำเสียงชั่วร้าย “คนบ้า! เ๯้าจะใจร้อนอะไรกัน? ข้าไปถามแม่เฒ่าหวังที่ตำบลมาแล้ว ตระกูลใหญ่แซ่จางในตำบล ๰่๭๫นี้กำลังกว้านซื้อทาส… รออีกไม่กี่วันข้าจะหาเหตุผลพาลูกทั้งสองไปที่ตำบลและขายพวกเขาเสีย พอได้เงินมา ชีวิตของเราสองคนก็สุขสำราญแล้วไม่ใช่หรือ?”

        “หึๆ ความคิดเข้าท่า ข้าได้ยินมาว่าแม่เฒ่าหวังเ๽้าเล่ห์นัก มีคนเคยขายทาสให้นางได้ราคามาสองตำลึงด้วย เ๽้าอย่าถูกนางหลอกเอาได้ล่ะ”

        ชายคนนั้นหัวเราะจนไม่อาจหุบปากลงได้ จากนั้นนางโจวก็ด่าทออีกยก

        “ไม่ต้องห่วง! ข้าต่อรองราคาไว้แล้ว ลูกสองคนของข้า นางจะให้สามตำลึง ส่วนเ๽้าเด็กพันทางของเสิ่นม่าน สามารถขายได้สองตำลึงเชียว...”

        เมื่อได้ยินถึงตรงนี้ ในที่สุดเสิ่นม่านก็ทนไม่ไหว

        พวกเดรัจฉาน! เสือยังไม่กินลูกตัวเองด้วยซ้ำ แต่กลับมีแม่ที่วางแผนขายลูกตัวเองเพื่อชายชู้เสียนี่!

        การขายลูกตัวเองก็ถือว่าผิดต่อลิขิตฟ้าแล้ว แต่นี่ยังริอาจจะขายต้าเป่าของนางด้วย?!

        ไม่ได้ นางไม่สามารถดูมองดูหญิงชั่วคนนี้ทำลายเด็กๆ ต่อหน้าต่อตา!

        เสิ่นม่านกําลังคิดว่าจะออกไปอย่างไรดี ขณะที่สติหลุดลอย ไม่รู้ว่ามีแมวป่า๷๹ะโ๨๨มาจากไหน

        “เหมียว...”

        ทันใดนั้นคนในห้องก็ตื่นตัวและตวาด “ใคร?!”

        แย่ล่ะสิ ถูกพบเข้าแล้ว!

        เมื่อเห็นว่าทั้งสองหยิบท่อนไม้อันใหญ่กำลังเดินมาทางตนเอง เสิ่นม่านจึงรีบวิ่งจ้ำอ้าวไปทางหมู่บ้านโดยไม่หันกลับไปมอง

        นางเพิ่งข้ามมิติมา ไม่อยากถูกคนฆ่าปิดปากไปทั้งอย่างนี้ นอกจากนี้ในบ้านยังมีเด็กน้อยแสนน่ารักรอให้นางเลี้ยงดูอยู่!

        กลางค่ำกลางคืนมองไม่เห็นทาง มีหลายครั้งที่นางเกือบสะดุดบนทางคดเคี้ยวในเนินเขาและพุ่งเข้ากอหญ้า

        ส่วนสองคนในวัดร้างรีบแต่งตัวและออกมา ทว่าท่ามกลางคืนอันมืดมิด จึงเห็นเพียงร่างท้วมที่วิ่งหนีอยู่กลางป่าเขา ชายชู้คิดจะตามไป แต่ถูกนางโจวห้ามไว้ก่อน

        “ไม่ต้องตาม นั่นคือนังเสิ่นม่านตัวดี”

        “เสิ่นม่าน?”

        ชายชู้เห็นเงาคนวิ่งไปไกลจึงเอ่ยอย่างโมโห “ถ้าอย่างนั้นก็ยิ่งเก็บนางไว้ไม่ได้ หากนางเที่ยวไปพูดข้างนอก เราสองคนคงถูกประณามแน่”

        นางโจวกระชับเสื้อแน่น จากนั้นลูบท้ายทอยที่เคยถูกเสิ่นม่านทุบจนหัวโน ดูเหมือนว่าจะยังเจ็บอยู่เล็กน้อย สายตาของนางเผยประกายอาฆาตแค้น

        “นางกล้าหรือ? ข้าย่อมมีทางทำให้นางไม่อาจพูดอะไรได้อีก ตอนนี้งานของเราที่เร่งด่วนกว่าคือ จะหลอกให้นางยกเ๯้าเด็กพันทางให้ได้อย่างไร เขามีค่าตั้งสองตำลึงนะ!”

        ชายชู้มองนาง ดวงตาเผยแววชั่วร้าย

        “เ๯้ามีวิธีหรือ?”

        -----



นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้