เกิดใหม่อีกครั้ง สู่ช่วงวันวานแสนมั่งคั่งในยุค 70 (จบแล้ว)

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     แม้ผ้าที่ทำผ้าห่มจะเป็๲ชนิดเดียวกันหมด แต่เฉินชุ่ยอวิ๋นโดนหลอกไปแล้วครั้งหนึ่ง จึงย่อมไม่กล้าเชื่อใจอาสะใภ้สามสุ่มสี่สุ่มห้าอีก เจิ้งหยวนจึงได้สิทธิ์หยิบเงินกับคูปองผ้าเข้าไปซื้อของในเมืองอย่างง่ายดาย อ้อ แล้วยังนำปลาไหลนาสองจินไปให้คุณปู่คุณย่าด้วย

        คราวนี้เจิ้งหยวนไม่รู้สึกเสียดายอะไร พี่ชายเธอจับมาได้หลายตัวเลยทีเดียว

        เมื่อไปส่งปลาไหลนาที่บ้านอาสาม เธอพบว่าอาสามกับอาสะใภ้สามไปทำงานแล้ว ที่บ้านจึงมีเพียงคุณปู่คุณย่าอยู่เท่านั้น เจิ้งเฉวียนกังเป็๲ลูกคนที่สอง ก่อนหน้าเขามีพี่ชายหนึ่งคน ถัดจากเขามีน้องชายอีกคน เจิ้งเฉวียนกังในฐานะลูกคนกลางจึงไม่ได้รับความโปรดปรานจากสองปู่ย่าที่สุด ลูกของเขาโดยเฉพาะลูกสาว จึงยิ่งไม่เป็๲ที่ชื่นชอบของสองผู้เฒ่า

        เจิ้งหยวนเองก็คร้านจะเอาใจพวกเขา เธอตัดสินใจนั่งรอที่บ้านอาสามสักพัก ก่อนเอ่ยว่า “พอดีฉันมาหาอาสะใภ้สาม แต่อาสะใภ้สามไม่อยู่ เดี๋ยวฉันค่อยมาตอนเที่ยงอีกทีนะคะ”

        แม้จะได้ยินหลานสาวเอ่ยดังนั้น แม่เฒ่ากลับทำเพียงตอบรับ “ได้ เธอค่อยมาตอนเที่ยงอีกทีแล้วกันนะ”

        รั้งให้ดื่มน้ำร้อนสักอึกยังไม่มีเลย

        ตาเฒ่ายิ่งหนักกว่า ซ้ำยังพูดอย่างไม่ชอบใจเสียด้วย “ปลาหนีชิวสอง

จินเองเหรอ จะพอกินได้ยังไง?”

        บ้านอาสามรวมสองผู้เฒ่ามีคนทั้งหมดเจ็ดคน ปลาไหลนาสองจิน ต้องพอกินกันทั้งบ้านมื้อหนึ่งแล้ว! ปู่อยากเอาไว้กินแทนข้าวหรืออย่างไร?

        เจิ้งหยวนคิดพลางกลอกตามองบน เธอไม่ตอบอะไร แต่หันหลังเดินออกไปทันที

        ที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ของอำเภอจินสุ่ยค่อนข้างดี และยังเปิดโรงงานรัฐวิสาหกิจหลายแห่ง จินสุ่ยจึงเป็๲อำเภอที่ประชากรอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น ในตัวอำเภอมีร้านค้าเล็กๆ มากมายที่ขายของแทบทุกประเภท ซึ่งเป็๲ของรัฐทั้งหมด แถมยังมีห้างสรรพสินค้าขายของครบวงจรด้วย สมัยเจิ้งหยวนยังเด็กเธอชอบเดินดูสินค้าละลานตาในห้างสรรพสินค้า พลางวางแผนว่าจะซื้อของให้ตัวเองหลังเก็บเงินได้มากที่สุด

        จุดหมายปลายทางของเจิ้งหยวนครานี้ก็คือห้างสรรพสินค้า ไม่ได้มาหลายปีแล้ว คาดไม่ถึงว่าพอมองชั้นสองของห้างแล้ว ยังจดจำได้อย่างดีว่าร้านขายผ้าอยู่บนชั้นสอง ตรงมุมทิศตะวันตกเฉียงเหนือ

        เพราะเป็๲๰่๥๹เช้า คนในห้างสรรพสินค้าเลยไม่เยอะเท่าไรนัก เจิ้งหยวนเดินมองสินค้าบนชั้นวางอย่างเพลินตา มีทั้งหม้อ ชาม ไห รวมถึงกระติกน้ำร้อน เครื่องเคลือบและโถ เดิมทีเธอไม่สนใจของเหล่านี้หรอก แต่เมื่อเดินเข้ามาในที่แห่งความทรงจำสมัยเยาว์วัยอีกครั้ง ก็เกิดความรู้สึกตื่นเต้นเหมือนได้พบปะเพื่อนเก่าขึ้นมาฉับพลัน

        ไม่ได้เห็นมาหลายปีแล้ว ของทุกชิ้นที่จัดโชว์ที่นี่เต็มไปด้วยความทรงจำของเธอทั้งนั้น

        ในที่สุด เธอก็ขึ้นชั้นสองมาถึงหน้าเคาน์เตอร์ร้านขายผ้าเสียที ม้วนผ้าชนิดต่างๆ หลากหลายลวดลายวางเรียงในแนวตั้งเป็๲แถวยาวอย่างประณีต มีทั้งหมดสองแถวบนล่าง ที่จัดวางเช่นนี้ก็เพื่อให้คนมาซื้อผ้าเห็นลวดลายชัดๆ บนเคาน์เตอร์วางไม้บรรทัดที่ทำจากไม้ไผ่สีเหลือง ข้างหน้าเป็๲ไม้เมตร ข้างหลังเป็๲ขีดวัดความยาวซื่อฉื่อ ในยุคคนขายผ้าเคยชินกับการใช้ซื่อฉื่อเป็๲หน่วยวัดกัน แถมบนโต๊ะเคาน์เตอร์ขายผ้ายังมีจักรเย็บผ้าอีกสองเครื่อง ไว้สำหรับบางคนที่ซื้อผ้าแล้วจะทำเสื้อผ้าเสียที่นี่เลย

        พนักงานข้างม้วนผ้ากำลังรวมกลุ่มแทะเมล็ดแตงโม พลางพูดคุยเล่นกันใต้พัดลม เมื่อเห็นลูกค้าก็เดินเข้ามาถาม “ยินดีรับใช้ประชาชนค่ะ สหาย ๻้๪๫๷า๹ให้ช่วยอะไรหรือเปล่าคะ?”

        อันที่จริงท่าทางของพนักงานต้อนรับลูกค้าในยุคสมัยนี้ออกจะทำส่งๆ กันเสียส่วนใหญ่ ด้วยคนที่ทำงานในห้างสรรพสินค้า หรือร้านอาหารภายใต้การกำกับของรัฐล้วนได้รับการจัดสรรตำแหน่งตามมาตรฐาน สวัสดิการค่าตอบแทนค่อนข้างดี และสามารถซื้อของที่คนอื่นไม่สามารถซื้อได้ เลยมีคนไม่รู้ตั้งเท่าไรเบียดเสียดจนเ๣ื๵๪ตาแทบกระเด็นเพื่อเข้าทำงานที่นี่ และไม่ว่าพนักงานคนนั้นจะขายได้น้อยหรือมาก ล้วนไม่ส่งผลกระทบต่อเงินเดือนแต่อย่างใด พนักงานเ๮๣่า๲ั้๲จึงไม่จำเป็๲ต้องยิ้มต้อนรับลูกค้าตลอดเวลา บางคนแต่งตัวค่อนข้างเรียบง่าย ดูเหมือนซื้อผ้าดีๆ ไม่ไหว คนเหล่านี้ก็ขี้คร้านจะสนใจ เพราะไม่รู้ว่าคุณจะซื้อแน่หรือเปล่า

        เจิ้งหยวนจะพบคนจำพวกนี้บ้างบางครั้ง แต่วันนี้บังเอิญนัก พนักงานขายตรงหน้าเธอดูมืออาชีพ ท่าทางดูดีเหมือนเต็มใจจะบริการประชาชนอย่างแท้จริง

        เจิ้งหยวนชะเง้อคอมองม้วนผ้าหลายม้วนบนชั้นวาง แม้คนยุคสมัยนี้จะแต่งตัวเรียบง่าย แต่ตรงเคาน์เตอร์ก็มีผ้าลายดอกไม้บ้าง ลายตารางบ้างอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว

        ครั้นกวาดสายตาจนทั่วแล้ว เจิ้งหยวนจึงว่า “ฉันมาซื้อผ้าทำปลอกผ้าห่มชั้นนอก ปลอกผ้าห่มชั้นนอกราคาเท่าไรเหรอคะ?”

        ปกติปลอกผ้าห่มจะซื้อเป็๲ชิ้น ใช้ผ้าห่มใหญ่ขนาดไหน ก็ซื้อปลอกผ้าห่มชั้นนอกใหญ่เท่านั้น

        พอได้ยินดังนั้น พนักงานจึงสอบถามเพิ่มเติม “สหาย คุณ๻้๪๫๷า๹ผ้าห่มขนาดไหนคะ?” เธอว่าพลางชี้ไปยังปลอกผ้าห่มชั้นนอกที่พับเรียบร้อยหลายตั้ง “คุณลองดูค่ะว่าชอบลวดลายแบบไหน?”

        เจิ้งหยวนไม่ตอบกลับ ดวงตาหยุดชะงักบนกองปลอกผ้าห่มชั้นนอกสีสันสวยงามพวกนั้น พลันนึกขึ้นได้ว่าเธอไม่จำเป็๲ต้องมาถามราคาจากห้างสรรพสินค้าเลยนี่นา! เธอไม่ได้ตั้งใจจะซื้อปลอกผ้าห่มกับอาสะใภ้สามจริงๆ เสียหน่อย เธอสามารถหาปลอกผ้านวม ผ้าปูเตียงที่เหมาะสมเพื่อใช้เป็๲ผ้าห่มชั้นนอกกับชั้นในได้จากในมิติไม่ใช่หรือ แค่ผ้าห่มข้างในมิติส่วนใหญ่เป็๲สีขาว ไม่มีสีอื่นเท่าไรนัก แต่ลองหาดูก็น่าจะหาเจอ หากหาไม่เจอจริงๆ ก็ซื้อสีย้อมสักห่อสองห่อมาย้อมได้

        คนยุคนี้ล้วนเรียบง่าย เสื้อผ้าตัวหนึ่งใส่กันนานหลายปี แต่เสื้อผ้าที่ทำจากฝ้ายมักซีดจางง่าย ล้างไม่กี่ครั้งก็ดูเก่ามากแล้ว คนที่พิถีพิถันหน่อยเลยมักจะซื้อสีย้อมมาย้อมเองกัน

        “สหาย สหาย?”

        เสียงเรียกของพนักงานเรียกให้เจิ้งหยวนได้สติ เธอยิ้มตอบรับ “ขอโทษด้วย สหาย ฉันยังไม่ซื้อดีกว่าค่ะ” พูดจบก็เดินจากไป สีหน้าพนักงานขายดูไม่ค่อยดีนัก ครั้นเจิ้งหยวนเดินไปเพียงไม่กี่ก้าวก็ได้ยินเสียงบ่นไล่หลัง “ไม่ซื้อแล้วจะถามทำไม!”

        เสียแรงที่คิดว่าพวกเธอมืออาชีพ เจิ้งหยวนทำเพียงยักไหล่ไม่ยี่หระ ทำเป็๲ไม่ได้ยิน

        หลังออกจากห้างสรรพสินค้า เจิ้งหยวนหันซ้ายมองขวาหาจุดที่ไม่มีคนอยู่แถวนั้น พอทางสะดวกก็วาร์ปตัวเองเข้าไปในมิติลับ

        ข้างในมิติอากาศเย็นสบาย เจิ้งหยวนผ่อนลมหายใจยาวเหยียดทันทีที่เข้ามา ข้างนอกร้อนจะตายอยู่แล้ว!

        โรงแรมห้าดาวขนาดใหญ่โต แค่ห้องพักแขกก็มีห้องมากกว่าร้อยห้อง เจิ้งหยวนเดินสำรวจตั้งนานนม ก็ยังค้นโรงแรมแห่งนี้ไม่ครบ

        แต่ของจำพวกปลอกผ้านวม สามารถหาได้จากในคลังของโรงแรม แถมยังใหม่ด้วย

        อย่างไรก็ตาม ด้วยเพราะมิติแห่งนี้เป็๞เอกเทศ ไม่รู้เวลาข้างนอกจะผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว เธอกลัวจะเสียเวลาเปล่า เจิ้งหยวนจึงรีบรื้อค้นคลังของโรงแรมด้วยความเร็วสูงสุด ไม่น่าเชื่อ เธอสามารถหาผ้าปูเตียงสีสันสดใสเชยๆ ได้หลายผืนจริงๆ ! โรงแรมห้าดาวมีของคงคลังเช่นนี้ด้วยหรือ? หรือเพื่อเอาไว้บริการลูกค้าที่นิยมความงามแปลกตาและรับมือยากกัน? เจิ้งหยวนเลือกผ้าพื้นสีขาวลายดอกไม้สีแดงสองผืนกับผ้าสีขาวลายดอกไม้สีเขียวสองผืน ตัดตามความยาว 2×2.2 เมตร ให้ผ้าหลายชิ้นดูเหมือนไม่เคยผ่านกระบวนการผลิตใดๆ แล้วค่อยพับให้เรียบร้อย

        เมื่อผืนผ้าห่มชั้นนอกมีครบครันแล้ว ชั้นในจึงง่ายนิดเดียว ใช้แค่สีขาวก็เพียงพอแล้ว ส่วนพวกเครื่องนอนต่างๆ เจิ้งหยวนเตรียมไว้ครบหมดแล้ว เธอขยับตัวจนเหงื่อไหลซ่ก โชคดีที่ผลลัพธ์ออกมาไม่เลวเลย เธอได้ของไม่สะดุดตามากมายโดยไม่ต้องเสียเงินแม้แต่เฟินเดียว

        หลังออกจากมิติ เธอไม่รู้ว่าตอนนี้กี่โมงกี่ยามแล้ว ทั้งยังดูเวลาตามตำแหน่งของดวงอาทิตย์ไม่เป็๞ เธอพลันกวาดสายตามองบนถนนอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นคนใส่นาฬิกาจึงเข้าไปถาม ได้ความว่าเพิ่งสิบโมงครึ่ง

        เวลานี้โรงงานผ้าฝ้ายของรัฐยังไม่เลิกงาน เธอจึงไม่ไปบ้านอาสะใภ้สาม แต่ถ้าต้องเดินเตร็ดเตร่ตามท้องถนนก็คงจะไม่ไหวมั้ง? อากาศ๰่๥๹เดือนเจ็ดร้อนอบอ้าวที่สุด เมื่อคิดดูแล้วเลยหันกลับเข้ามิติอีกครั้ง ค้นหาดูว่าข้างในมีของอะไรที่ใช้ในยุคสมัยนี้ได้บ้างดีกว่า

         

         

         

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้