แสงแรกของวันรุ่งขึ้นค่อยๆ สาดส่องผ่านยอดไม้ ขณะที่กลุ่มของหลินเว่ยเดินทางมาได้เกือบครึ่งวัน อาจารย์เหลียงเจินนำทางด้วยความคล่องแคล่น แม้จะมีอายุมาก แต่ก้าวย่างของเขากลับมั่นคงและรวดเร็ว
"ทุกคนเป็อย่างไรบ้าง?" หลินเว่ยถามเพื่อนๆ ที่เดินตามมา
"ยังไหว" จ้าวหยางตอบ แม้จะหอบเล็กน้อย "แต่ขาของผิงเหวย..." เขาช้อนสายตาไปทางผิงเหวยที่เดินกะเผลกด้วยขาที่พันผ้าพันแผล หลิวซินและหลิงเยว่คอยประคองเขาอยู่ทั้งสองข้าง
"เราควรพักสักครู่" ประมุขเจิ้งลี่หัวเสนอ มองดูผิงเหวยที่เหงื่อท่วมใบหน้าด้วยความกังวล
อาจารย์เหลียงเจินพยักหน้าเห็นด้วย "มีลำธารเล็กๆ อยู่ไม่ไกลจากนี้ เราจะพักที่นั่น"
พวกเขาเดินต่อไปอีกไม่นาน ก็มาถึงลำธารใสสะอาดที่ไหลผ่านป่า ทุกคนพากันนั่งพักบนโขดหินและโคนไม้ เสวียนเหมยช่วยตรวจดูแผลที่ขาของผิงเหวย แล้วใช้สมุนไพรที่อาจารย์เหลียงเจินเตรียมมาทำความสะอาดและพันแผลใหม่
"แผลอักเสบเล็กน้อย" เธอบอก "แต่ไม่เป็ไรมาก"
"ฉันขอโทษที่ทำให้ทุกคนต้องชะลอการเดินทาง" ผิงเหวยพูดเสียงอ่อน
"ไม่ต้องขอโทษ" หลินเว่ยตอบ "พวกเราเป็เพื่อนกัน เราไปด้วยกัน"
ระหว่างที่พัก อาจารย์เหลียงเจินนั่งสมาธิริมลำธาร ดูเหมือนกำลังรับรู้สิ่งต่างๆ รอบตัว หลิวซินเข้าไปนั่งข้างๆ เขา ทั้งสองพูดคุยกันเบาๆ หลินเว่ยสังเกตเห็นว่าหลิวซินฟังอาจารย์เหลียงเจินด้วยความสนใจอย่างยิ่ง บางครั้งพยักหน้าหรือถามคำถามบางอย่าง
"นายคิดว่าพวกเขาคุยกันเื่อะไร?" เสวียนเหมยถามเมื่อเห็นหลินเว่ยจ้องมองทั้งสอง
"อาจเป็เื่วิชาัทะยานฟ้า" หลินเว่ยตอบ "อาจารย์เหลียงเจินดูสนใจมากว่าหลิวซินรู้จักวิชานี้ได้อย่างไร"
"นายและหลิวซินสนิทกันมาก" เสวียนเหมยสังเกต "ไม่คิดว่าเมื่อก่อนนายแทบไม่รู้จักเขาเลยนะ"
"ใช่" หลินเว่ยยิ้ม "แปลกดีใช่ไหม? แต่บางครั้งวิกฤตก็ทำให้คนเราได้พบมิตรที่แท้จริง"
หลังจากพักอยู่ครู่หนึ่ง อาจารย์เหลียงเจินลุกขึ้นยืน และเดินมาหากลุ่ม
"เราควรเดินทางต่อ" เขาบอก "อยู่ที่เดียวนานเกินไปอาจไม่ปลอดภัย"
ทุกคนเก็บข้าวของและเตรียมตัวออกเดินทาง ผิงเหวยดูสดชื่นขึ้นหลังได้พัก แต่ยังคงต้องมีคนช่วยประคอง
"ข้าจะสอนพวกเ้าบางอย่าง" อาจารย์เหลียงเจินกล่าวระหว่างเดินทาง "เทคนิคในการซ่อนกลิ่นและความเคลื่อนไหวของพวกเ้า"
"ซ่อนกลิ่น?" จ้าวหยางถามด้วยความสงสัย
"ผู้ติดเชื้อและสัตว์กลายพันธุ์มีประสาทััแหลมคมกว่ามนุษย์ปกติมาก" อาจารย์เหลียงเจินอธิบาย "พวกมันสามารถได้กลิ่นมนุษย์จากระยะไกล โดยเฉพาะกลิ่นเหงื่อและความกลัว"
"แล้วเราจะซ่อนกลิ่นได้อย่างไร?" หลิงเยว่ถาม
"หายใจเป็จังหวะพิเศษ" อาจารย์เหลียงเจินสาธิต "หายใจเข้าช้าๆ ผ่านจมูก และหายใจออกผ่านปากอย่างนุ่มนวล ขณะที่นึกถึงความสงบในใจ เหมือนเป็ส่วนหนึ่งของธรรมชาติ"
ทุกคนพยายามทำตาม หลินเว่ยพบว่าเทคนิคนี้คล้ายกับท่าัหลับใหลที่เขาฝึกมา แต่เน้นที่การควบคุมลมหายใจและจิตใจให้กลมกลืนกับธรรมชาติ
"ดี" อาจารย์เหลียงเจินชม เมื่อเห็นทุกคนเริ่มทำได้ "ฝึกฝนบ่อยๆ จะช่วยให้พวกเ้าหลบเลี่ยงอันตรายได้ดีขึ้น"
พวกเขาเดินทางต่อไปทางเหนือตามเส้นทางที่อาจารย์เหลียงเจินนำ ลัดเลาะไปตามหุบเขาและป่าทึบ หลีกเลี่ยงถนนหลักและที่โล่งแจ้ง ระหว่างทาง มีหลายครั้งที่อาจารย์เหลียงเจินให้สัญญาณให้ทุกคนหยุดและซ่อนตัว เมื่อเขาััได้ถึงอันตรายที่อาจซุ่มอยู่
่บ่าย ท้องฟ้าเริ่มมีเมฆดำก่อตัว แสงแดดถูกบดบังและอากาศเย็นลงอย่างรวดเร็ว ไม่นานฝนก็เริ่มตกเป็เม็ดเล็กๆ ก่อนจะกลายเป็สายฝนกระหน่ำ
"เราต้องหาที่หลบฝน!" หลิวซินะโกลบเสียงฝน
อาจารย์เหลียงเจินพยักหน้า "มีหมู่บ้านเล็กๆ ไม่ไกลจากนี้ พวกเราอาจขอพักที่นั่นได้"
พวกเขาเร่งฝีเท้า เดินฝ่าสายฝนที่ตกหนักขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดก็มองเห็นแสงไฟริบหรี่ของหมู่บ้านในหุบเขาเล็กๆ ด้านหน้า
"นั่นมัน..." หลินเว่ยเพ่งมองผ่านสายฝน "หมู่บ้านร้างหรือเปล่า?"
"ไม่" อาจารย์เหลียงเจินตอบ "ยังมีคนอาศัยอยู่ แต่พวกเราต้องระวัง ชาวบ้านที่นี่อาจไม่ต้อนรับคนแปลกหน้า"
พวกเขาเดินเข้าไปใกล้หมู่บ้านอย่างระมัดระวัง น้ำฝนทำให้เสื้อผ้าเปียกชุ่มและรู้สึกหนาวเหน็บ สภาพหมู่บ้านดูโทรมกว่าที่คาดไว้ บ้านหลายหลังถูกทิ้งร้าง มีเพียงไม่กี่หลังที่ยังมีแสงไฟส่องออกมา
เมื่อพวกเขาเดินเข้าสู่หมู่บ้าน ประตูบ้านที่มีแสงไฟเริ่มปิดลงทีละบาน เมื่อชาวบ้านเห็นกลุ่มคนแปลกหน้า บรรยากาศรอบข้างเต็มไปด้วยความหวาดระแวง
"ไม่เป็มิตรเลย" จ้าวหยางกระซิบ
"พวกเขากลัว" ประมุขเจิ้งลี่หัวตอบเบาๆ "ทุกคนกลัวคนแปลกหน้าในเวลาเช่นนี้"
ขณะที่พวกเขากำลังพิจารณาว่าควรทำอย่างไรต่อไป ประตูบ้านหลังหนึ่งก็เปิดออก ชายชราผมขาวโพลนสวมเสื้อผ้าเก่าคร่ำคร่าก้าวออกมา ถือตะเกียงในมือ
"ใครกัน?" ชายชราเรียกถาม เสียงสั่นเครือ
อาจารย์เหลียงเจินก้าวออกไปข้างหน้า "พวกเราเป็ผู้เดินทาง ้าที่พักพิงจากสายฝน"
ชายชรายกตะเกียงสูงขึ้นเพื่อดูใบหน้าของพวกเขา สายตาเพ่งมองอย่างระแวดระวัง
"พวกเ้าไม่ใช่ทหารเทียนซื่อ?" เขาถาม
"ไม่ใช่" อาจารย์เหลียงเจินยืนยัน "พวกเรากำลังหนีจากพวกเขา"
ชายชราดูลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้า "ตามข้ามา ฝนตกหนักเกินกว่าจะให้พวกเ้ายืนอยู่กลางสายฝน"
ทุกคนถอนหายใจด้วยความโล่งอก และตามชายชราเข้าไปในบ้านไม้หลังเล็ก ภายในบ้านมีไฟติดอยู่ในเตาผิง ให้ความอบอุ่นและแสงสว่างสลัวๆ มีหญิงชราที่น่าจะเป็ภรรยานั่งอยู่ข้างเตาผิง กำลังถักอะไรบางอย่าง
"แขกหรือ?" หญิงชราถาม เมื่อเห็นกลุ่มของหลินเว่ย
"ผู้เดินทางที่้าหลบฝน" ชายชราตอบ "เตรียมผ้าแห้งให้พวกเขาหน่อย"
หญิงชราลุกขึ้นช้าๆ และหยิบผ้าแห้งมาให้แขกแปลกหน้า ทุกคนขอบคุณและเช็ดตัวให้แห้ง
"ขอบคุณมากที่ให้พวกเราเข้ามา" ประมุขเจิ้งลี่หัวกล่าว โค้งคำนับแสดงความเคารพ
"มีเด็กและผู้าเ็อยู่ด้วย" ชายชราตอบ พยักพเยิดไปทางเสวียนเหมย หลิงเยว่ และผิงเหวยที่ขายังาเ็ "ข้าไม่อาจปล่อยให้พวกเ้าตากฝนข้างนอก แม้ยุคสมัยจะเลวร้าย แต่มนุษยธรรมยังต้องมีอยู่"
"ท่านใจดีมาก" หลินเว่ยกล่าว "พวกเราเดินทางมาไกล กำลังมุ่งหน้าไปทางเหนือ"
"ไปเทือกเขาหลิงอวี๋" อาจารย์เหลียงเจินเสริม
ใบหน้าของชายชราฉายแววประหลาดใจ "หลิงอวี๋? มีแต่คนบ้าเท่านั้นที่จะไปที่นั่น"
"ทำไมหรือ?" หลิวซินถาม
"เส้นทางอันตราย" ชายชราตอบ นั่งลงบนเก้าอี้ไม้เก่าๆ "นอกจากทหารเทียนซื่อแล้ว ยังมีพวกผู้ติดเชื้อและสัตว์กลายพันธุ์อีกมากมาย ไม่นับรวมบรรดาโจรที่คอยปล้นชิงผู้เดินทาง"
"เราต้องไปให้ถึง" หลินเว่ยยืนยัน "มีชุมชนที่ปลอดภัยรออยู่ที่นั่น"
ชายชรามองหลินเว่ยด้วยสายตาประหลาด "เ้าดูแตกต่าง... ไม่เหมือนคนทั่วไป"
หลินเว่ยไม่ตอบ แค่ยิ้มบางๆ
"จะพักที่นี่คืนนี้ก็ได้" ชายชราเสนอ "แต่พื้นที่คับแคบ พวกเ้าคงต้องนอนบนพื้น"
"ขอบคุณมากครับ" หลินเว่ยตอบ "แค่นี้ก็ดีเกินพอแล้ว"
ขณะที่หญิงชราเตรียมอาหารเย็นเรียบง่าย หลินเว่ยและเพื่อนๆ สังเกตเห็นว่าในบ้านมีภาพวาดเด็กหญิงหลายภาพติดอยู่บนผนัง แต่ไม่เห็นเด็กคนใดในบ้าน
"นั่นคือหลานสาวของพวกเรา" ชายชราอธิบายเมื่อเห็นหลินเว่ยมองภาพ "ชื่อหลิงฮวา"
"เธออยู่ที่ไหนหรือครับ?" หลินเว่ยถามอย่างสุภาพ
ใบหน้าของชายชราเศร้าลงทันที "พวกทหารเทียนซื่อพาเธอไป... พวกเขาเลือกเด็กที่แข็งแรงจากหมู่บ้านหลายคน บอกว่าจะพาไปอยู่ในที่ปลอดภัย"
เสวียนเหมยสบตากับหลินเว่ย ทั้งคู่รู้ดีว่าอะไรอาจเกิดขึ้นกับเด็กเ่าั้... การทดลองของเทียนซื่อ
"ผมเสียใจที่ได้ยินเช่นนั้น" หลินเว่ยกล่าวอย่างจริงใจ
"มันเกิดขึ้นกับหลายครอบครัวในหมู่บ้านนี้" ชายชราถอนหายใจ "บางคนหนีไป บางคนยังอยู่เพราะไม่มีที่ไป... พวกเรารอคอยวันที่หลานจะกลับมา แม้ใจจะรู้ว่า... มันคงเป็ไปไม่ได้"
บรรยากาศในห้องเงียบลง มีเพียงเสียงฝนที่ตกกระทบหลังคาและเสียงไฟที่ลุกไหม้ในเตาผิง
"บางที... วันหนึ่งสิ่งต่างๆ จะดีขึ้น" หลินเว่ยเอ่ยเบาๆ
ชายชรายิ้มขมขื่น "ข้าหวังเช่นนั้น เด็กหนุ่ม... ข้าหวังเช่นนั้น"
หลังอาหารเย็นเรียบง่าย ทุกคนล้มตัวลงนอนบนพื้นไม้ที่ปูด้วยเสื่อเก่าๆ หลินเว่ยนอนไม่หลับ มองเพดานและฟังเสียงฝนที่ยังคงตกไม่หยุด
เขาคิดถึงเด็กหญิงหลิงฮวาและเด็กคนอื่นๆ ที่ถูกพรากจากครอบครัว และนึกถึงความทุกข์ทรมานที่การทดลองของเทียนซื่ออาจก่อให้เกิด ไม่ว่าจะเป็การผลิตวัคซีนหรือการทดสอบคัมภีร์ครอบงำจิต เด็กๆ คือเหยื่อที่ไร้เดียงสาที่สุด
หลินเว่ยจับััได้ถึงคัมภีร์ในกระเป๋าเสื้อที่ยังคงร้อนผ่าวราวกับมีชีวิต เขาสงสัยว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขาเปิดอ่านมัน... ใช้พลังของมันเพื่อต่อกรกับเทียนซื่อ...
"ไม่หลับเหรอ?" เสียงกระซิบของเสวียนเหมยดังมาจากข้างๆ
"นอนไม่หลับน่ะ" หลินเว่ยตอบเบาๆ
"ฉันด้วย" เธอขยับเข้ามาใกล้ขึ้น "คิดอะไรอยู่น่ะ?"
"คิดถึงทุกอย่างที่เกิดขึ้น" หลินเว่ยตอบอย่างซื่อสัตย์ "เด็กๆ ที่ถูกพรากไป... ชีวิตที่พังทลาย... ทั้งหมดเพราะองค์กรเทียนซื่อ"
เสวียนเหมยเงียบไปครู่หนึ่ง "บางทีพวกเราอาจเปลี่ยนแปลงอะไรได้บ้าง"
"ฉันหวังเช่นนั้น" หลินเว่ยกระซิบตอบ
"นายเปลี่ยนไปนะ" เสวียนเหมยเอ่ยขึ้นใหม่ "ั้แ่โรงพยาบาล... นายไม่ใช่นักศึกษาแพทย์ขี้กลัวที่ฉันเคยรู้จักอีกแล้ว"
หลินเว่ยยิ้มในความมืด "คนเราเปลี่ยนไปเมื่อต้องเผชิญกับความตาย"
"ฉันชอบตัวนายที่เป็แบบนี้" เสวียนเหมยกระซิบ "กล้าหาญ... มุ่งมั่น... แต่ยังมีความเมตตา"
ความอบอุ่นแผ่ซ่านในใจหลินเว่ย "ขอบคุณนะ"
เสวียนเหมยบีบมือเขาเบาๆ "พยายามนอนหลับบ้างนะ พรุ่งนี้เรายังต้องเดินทางอีกไกล"
"อืม" หลินเว่ยตอบ "ราตรีสวัสดิ์"
เขาหลับตาลง ฟังเสียงฝนที่ค่อยๆ เบาลง และเสียงลมหายใจสม่ำเสมอของเพื่อนๆ รอบตัว ก่อนที่ความง่วงจะค่อยๆ เข้าครอบงำ นำพาเขาสู่ห้วงนิทรา
สุดท้าย หลินเว่ยก็หลับไป พร้อมกับความหวังเล็กๆ ที่ยังคงเปล่งประกายในใจ... ความหวังที่วันหนึ่ง โลกนี้จะกลับมาเป็ปกติอีกครั้ง