มันแฝงไปด้วย......ความเลื่อมใส?
หลินเยว่ส่ายศีรษะกับจินตนาการอันล้ำเลิศของตนเองมันเป็เพราะเขาคิดมากจนเกินไป เขาจึงเดินมุ่งหน้าต่อไปจนมาถึงแผงของร้านฉินจงฮั่นที่เขาสำรวจในตอนเช้าพวกเขาทั้งสองต่างสบตาและทักทายกันพร้อมรอยยิ้ม
ขณะที่หลินเยว่นั่งยองๆเขาก็ได้ยินเสียงของคนสองคนที่อยู่ข้างๆ เขาสนทนากันอย่างเบาๆโดยมองมาทางเขาเสียด้วย
“เห็นหรือยังล่ะ? ชายหนุ่มคนนี้ก็คือคนที่เมื่อเช้าจ่ายเงินไป300,000 หยวนเพื่อนำตัวคนบ้าที่อยู่บนถนนสายนี้คนนั้นพาไปส่งยังสถานสงเคราะห์ไงล่ะผมเห็นเองกับตาเมื่อเช้านี้เลยนะ”
“เขาคนนี้เองหรอมองไม่ออกเลยว่าชายหนุ่มคนนี้จะเป็คนดีขนาดนี้โลกแห่งการพนันหินหยกมีวีรบุรุษเช่นนี้ั้แ่เมื่อไร มันช่างเป็เื่ที่น่ายินดีจริงๆ”
และขณะนี้เอง ก็มีบุคคลที่ 3 เดินเข้ามาแล้วพูดแทรกขึ้น“พวกคุณคิดว่าเขาเป็คนดีอย่างเดียวอย่างนั้นหรอ?ความจริงเขายังเป็นักพนันหินหยกที่เก่งคนหนึ่งด้วยล่ะ”
“จริงหรอ เขาดูหนุ่มขนาดนี้ยังเป็ผู้เชี่ยวชาญด้วยหรอ?”
คนที่เพิ่งเดินเข้ามากลับเอาแต่ยิ้มจนทำให้อีก 2คนที่เหลือรู้สึกค้างผ่านไปสักพักเขาจึงพูดต่อ “เหตุการณ์เมื่อวานที่มีคนจ่ายเงินไป 500 หยวนเพื่อซื้อหินหยกก้อนหนึ่ง แล้วพนันได้ 400,000หยวน พวกคุณได้ฟังเื่นี้หรือยังล่ะ?”
“ได้ฟังแล้วสิ บนถนนเส้นนี้แม้กระทั่งเด็ก 3ขวบยังได้ฟังเื่นี้แล้วเลยมันเป็การได้เป็เงินมหาศาลที่น่าเหลือเชื่อจริงๆ” เมื่อพูดจนถึงจุดนี้ คนคนนั้นจึงมองบุคคลที่3 ที่เดินเข้ามาทีหลังด้วยสายตาไม่อยากเชื่อ“คุณคงไม่ได้คิดจะบอกว่าคนผู้นั้นคือเขาหรอกนะ?”
บุคคลที่ 3 ผู้นี้จึงส่งยิ้มพร้อมพยักหน้ารับ สีหน้าของเขามีแต่ความหนักแน่นมั่นใจ
“โอ้ว อะไรจะขนาดนั้นปีนี้คนหนุ่มมากความสามารถในวงการพนันหินหยกมีมากขึ้นเรื่อยๆ เลยนะเด็กหนุ่มคนนี้จะต้องมุ่งหน้าสู่บัลลังก์ปรมาจารย์แห่งหยกอย่างแน่นอน”
“แน่อยู่แล้ว คนอื่นๆ คงเริ่มกดดันแล้วล่ะฮ่าๆ......”
……
เมื่อได้ยินบทสนทนาของพวกเขาทั้งสามคนนี้แล้วหลินเยว่จึงฝืนยิ้มแล้วหันไปถามฉินจงฮั่น “นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
ฉินจงฮั่นได้แต่หัวเราะเหอๆ แล้วพูดตอบ “ผมก็แค่เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเช้าวันนี้ให้เพื่อนร่วมอาชีพฟังคาดไม่ถึงว่าพวกเขาจะเล่ามันออกไป เหอๆ......”
เมื่อได้ยินเช่นนี้หลินเยว่จึงอดไม่ได้ที่จะเบ้ปากเพราะเขามองไม่เห็นถึง “ความคาดไม่ถึง” บนสีหน้าของอีกฝ่ายเลยสักนิด
ฉินจงฮั่นกวาดตามองหลินเยว่อย่างสำรวจเขามองอยู่สักพักแล้วจึงพูดต่อ “คาดไม่ถึงว่าคุณเป็คนที่เมื่อวานพนันหินหยกจาก 500 หยวนได้เพิ่มเป็ 400,000 หยวน จิ๊ๆ วีรบุรุษั้แ่ยังหนุ่มหรือนี่”
หลินเยว่ยิ้มเจื่อนๆ พร้อมพูดขึ้น “ผมพบว่าที่นี่ไม่สามารถมีความลับอะไรเลยจริงๆ ครั้งหน้าผมจะไม่ตัดหินหยกต่อหน้าคนอื่นอีกแล้ว”
“อย่านะ การตัดหินหยกต่อหน้าสิถึงจะน่าสนใจคนหนุ่มอย่างคุณก็ควรจะฝึกฝนแบบนี้บ่อยๆ สิ” ระหว่างที่พูดฉินจงฮั่นจึงหยิบบัตรสีทองที่มีลักษณะเหมือนบัตรธนาคารใบหนึ่งออกมาจากกระเป๋าแล้วก็ยื่นให้กับหลินเยว่“นี่คือสิ่งที่สมาคมหยกแห่งเถิงชงของพวกเรามอบให้กับคุณ”
หลินเยว่รับบัตรใบนี้ขึ้นมาดูอย่างสนใจเขาพบว่าบนหน้าบัตรมีชื่อของเขาอยู่ด้วย ด้านหลังเป็ภาพหยกภาพหนึ่ง้าเขียนไว้ว่าเถิงชง หลินเยว่จึงถามขึ้นอย่างสงสัย “นี่คืออะไรหรือ?”
ฉินจงฮั่นมองหลินเยว่อย่างมีลับลมคมใน “ของสิ่งนี้เป็สิ่งล้ำค่ามากนะไม่ใช่ว่าใครที่ไหนอยากได้ก็จะสามารถมีเอาไว้ในวันนี้เป็เพราะความดีของคุณและเพราะเหตุการณ์อันโดดเด่นที่เกิดขึ้นเมื่อวานของคุณทำให้สมาคมหยกแห่งเถิงชงมอบรางวัลให้คุณเป็พิเศษ คุณต้องเก็บรักษาเอาไว้ให้ดีห้ามหายอย่างเด็ดขาด”
“คุณก็บอกความสำคัญของมันมาตรงๆ กับผมเลยสิทำไมต้องทำดูมีลับลมคมในด้วยล่ะ?” หลินเยว่รำพึงรำพัน
“ความจริงมันก็ไม่ได้ถือว่าเป็ความลับอะไรหรอกนะสักวันคุณก็ต้องรู้อยู่แล้ว แต่คนที่บอกกับคุณไม่ควรเป็ผม นี่มันผิดธรรมเนียมน่ะและเพื่อเป็รางวัลในการทำความดีของคุณในครั้งนี้ สมาคมหยกแห่งเถิงชงจึงตัดสินใจให้ทุกคนในเถิงชงขายหินหยกที่นี่ให้กับคุณในราคาต่ำและห้ามตั้งราคาสูงอย่างจงใจ มิฉะนั้นแล้วจะมีความผิดอย่างร้ายแรง ข่าวนี้จะถูกประกาศให้ทราบโดยทั่วกันในคืนนี้ ผมก็แค่บอกคุณล่วงหน้าเท่านั้นเอง”
ฉินจงฮั่นยิ้มฮ่าๆ ใบหน้าของเขาเป็ประกายสีแดงด้วยความยินดีราวกับว่ารางวัลนี้เป็ของเขาเองเลยทีเดียว
ห้ามตั้งราคาสูงอย่างนั้นหรือ?
หลินเยว่อึ้งไปชั่วขณะ สิทธิพิเศษเช่นนี้มันช่างยิ่งใหญ่จนเกินไป
หินหยกหนึ่งก้อนคุณสามารถขายในราคา 100 หยวนก็ได้ แต่ก็สามารถขายในราคาหลายแสนหยวนได้เช่นกันซึ่งราคาเหล่านี้ล้วนขึ้นกับการตัดสินใจของเ้าของร้านโดยตรงและแน่นอนคุณก็สามารถเลือกที่จะไม่ซื้อก็ได้เช่นกันแต่ทว่าการห้ามตั้งราคาสูงนั่นก็หมายความว่าหินหยกแต่ละก้อนที่หลินเยว่สนใจเขาจะสามารถซื้อมันได้ในราคาที่ต่ำกว่าคนอื่น ถึงแม้ว่าคำว่า “ต่ำ”จะเป็การตัดสินใจโดยเ้าของร้าน แต่ราคาต่ำนี้ย่อมไม่ใช่จำนวนเงินน้อยๆอย่างแน่นอน ยกตัวอย่างเช่น หินหยกหนึ่งก้อนมีราคา 30 หยวน หากขายให้คนอื่นอาจจะตั้งราคาที่ 100หยวน แต่ขายให้กับเขาอาจจะมีเพียง 50หยวนเท่านั้น เช่นนี้ราคาของมันก็ย่อมถูกลงไปครึ่งหนึ่ง
หลินเยว่แอบคิดในใจ ไม่รู้ว่าเขาควรจะหัวเราะหรือว่าร้องไห้ดี?
การช่วยิอีหรานของเขาในครั้งนั้นทำให้อาจารย์ของตนเองลดขั้นตอนการพิจารณาลักษณะนิสัยของเขาทิ้งไปและเขาก็ไม่ต้องเป็ลูกศิษย์ที่อยู่ในรายชื่อรอการพิจารณา แต่กลับกลายเป็ลูกศิษย์ของท่านอาจารย์อย่างเป็ทางการทันที
ส่วนครั้งนี้การช่วยเหลือผู้ชายที่สติไม่สมบูรณ์คนหนึ่งกลับทำให้เขาได้รับผลดีตอบแทนยิ่งใหญ่เช่นนี้
์ช่างเมตตาเขาจริงๆ
“แล้วพวกคุณไม่กลัวว่าผมจะซื้อหินหยกแทนคนอื่นหรอกหรือถึงเวลานั้นพวกคุณก็คงจะเสียหายหนักมาก” หลินเยว่ถามขึ้นอย่างยิ้มๆ
“ถ้าอย่างนั้นก็ดีเลย คุณวางใจได้พวกเราไม่มีทางขาดทุนหรอก คุณมีแผนการของคุณ พวกเราก็มีวิธีการรับมือของพวกเราหากคุณใช้สิทธิ์ของตนเองในการกระทำเช่นนี้แล้วล่ะก็ คุณก็อย่าลืมละกันพวกเราให้คุณได้ พวกเราก็ริบกลับคืนได้เช่นกัน”
ใบหน้าของฉินจงฮั่นเต็มไปด้วยรอยยิ้มอันแสนเ้าเล่ห์
หลินเยว่ขึงตาใส่ฉินจงฮั่นแล้วจึงเก็บบัตรสีทองลงไปตามปกติอย่างไม่ใส่ใจนัก“พอดีเลยผมกำลังไม่มีเงิน มีคนช่วยผมประหยัดเงินอย่างนี้ ผมก็ต้องรับไว้สิ”
“คุณไม่มีเงิน? คุณไม่มีเงินแล้วยังจ่ายเงินไป 300,000หยวนอย่างนั้นหรือ?”เมื่อเห็นท่าทีตามสบายของหลินเยว่ ฉินจงฮั่นจึงเอะอะโวยวายราวกับสาวน้อยออกมา“คุณอย่ายัดอย่างไม่ระวังอย่างนั้นสิ มีคนตั้งเยอะตั้งแยะที่อยากได้บัตรสีทองใบนี้แต่ก็ยังไม่ได้รับเลยนะหากคุณทำมันหายไป พวกเราจะไม่ยอมออกบัตรใหม่ให้หรอกนะถึงตอนนั้นคุณก็รอร้องไห้ได้เลย”
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายพูดอย่างจริงจังเช่นนี้หลินเยว่จึงเก็บบัตรสีทองใบนี้อย่างระมัดระวัง หลังจากนั้นจึงพูดขึ้น “ผมก็ขาดเงินจริงๆน่ะสิ เงิน 300,000 หยวนนั้นเป็จำนวนเงินครึ่งหนึ่งของผมเลยนะ”
“ครึ่งหนึ่ง?”
ฉินจงฮั่นชูนิ้วโป้งให้กับหลินเยว่“คุณเป็คนดีจริงๆ พวกเราไม่ได้มองคุณผิดไปจริงๆ หากเป็ผม ผมคงไม่สามารถจ่ายเงินครึ่งหนึ่งของตัวเองได้หรอกการได้รับสิทธิพิเศษเช่นนี้สมควรเป็ของคุณจริงๆ แล้วล่ะ”
“แหะๆ จะให้ผมใช้สิทธิพิเศษอย่างนี้โดยการเริ่มลองใช้กับร้านของคุณไหมล่ะ?”หลินเยว่ยิ้มอย่างเ้าเล่ห์
“ได้สิ ยินดีต้อนรับเป็อย่างยิ่ง ร้านของผมเป็เพียงร้านเล็กๆเท่านั้น หากคุณพนันเจ๊งก็อย่ามาโทษผมก็แล้วกัน เพราะไม่ว่าอย่างไรผมก็ได้กำไรอยู่ดีแต่หากคุณพนันได้ เมื่อคนอื่นรู้ว่าร้านของผมมีหินหยกไม่เลว พวกเขาก็ย่อมต้องเดินรี่มาดูของที่ร้านของผมน่ะสิร้านของผมก็คงจะขายดิบขายดี ไม่ว่าทางไหนผมก็ได้กำไรทั้งนั้น”
คนที่เป็นักธุรกิจย่อมมีความฉลาดเ้าเล่ห์จริงๆ!
หลินเยว่แอบบ่นคนตรงหน้าอยู่ในใจฉินจงฮั่นคนนี้ดูเหมือนเป็คนซื่อ แต่ความจริงแล้วเขาก็ไม่ได้ซื่อแบบนั้น
“การซื้อขายกันจะทำกับคนคุ้นเคยได้อย่างไร ผมไปดูที่ร้านอื่นก่อนนะแล้วไว้เจอกันล่ะ”
ขณะที่พูด หลินเยว่จึงลุกขึ้นยืนก่อนหน้านี้เขาได้กวาดตามองหินหยกของฉินจงฮั่นครบทั้งหมดแล้วถึงแม้ว่าอาจจะไม่ได้เห็นหินหยกด้านในร้านว่าเป็อย่างไร แต่หินหยกด้านหน้าที่เขาเห็นมีลักษณะภายนอกไม่ค่อยดีนักดังนั้น เขาจึงไม่ได้รู้สึกสนใจสักเท่าไร
“ไปเถอะหากพนันได้แล้วก็อย่าลืมไปดูหินหยกของร้านเถ้าแก่หวังล่ะ หินหยกก้อนนั้นราคา5 ล้านหยวนนั่นเป็ราคาที่ปรมาจารย์แห่งหยกตั้งราคาให้กับเขาเลยนะ อาจจะพนันชนะก็ได้”ฉินจงฮั่นพูดเตือนด้วยความหวังดี หลินเยว่มองออกว่าอีกฝ่ายคิดว่าหลินเยว่เป็สหายต่างวัยของตนเองแล้วจริงๆ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้