สองคนอาจารย์และศิษย์ได้เวลาทานมื้อเที่ยง สวี่ฮุ่ยเลี้ยงเกี๊ยวอาจารย์ใหญ่โจวจนอิ่ม
หลังกินเกี๊ยวเสร็จ สองอาจารย์ลูกศิษย์ก็ขึ้นรถไฟรอบบ่ายสามโมงกว่าเพื่อกลับบ้าน
สวี่ฮุ่ยลงรถที่ตำบลเถาฮวา ท้องฟ้าก็เริ่มมืดแล้ว
เธอซื้อซาลาเปาไส้เนื้อสองลูกจากร้านซาลาเปาร้านหนึ่ง กินไปพลางเดินกลับบ้าน
ไม่ได้สังเกตเลยว่าั้แ่ลงจากรถก็มีชายหนุ่มท่าทางเกกมะเหลกคนหนึ่งจ้องมองเธออยู่
ชายหนุ่มคนนี้ชื่อฉินยงจวิน เป็ลูกชายของฉินต้าเฉิง หัวหน้าแผนกโรงงานเครื่องจักรกลการเกษตรของอำเภอ
ฉินยงจวินอาศัยบารมีพ่อที่เป็เ้าหน้าที่ในโรงงาน บวกกับที่บ้านสกุลฉินในรุ่นนี้มีเขาเป็ลูกชายเพียงคนเดียว เลยถูกตามใจมาั้แ่เด็ก ทำตัวเหลวแหลก ชี้ไม้เป็นกชี้หินเป็ไก่ เ้าชู้ไปทั่ว
สาว ๆ และแม่บ้านในบ้านพักพนักงานต่างพากันหลบหน้าเขา
สวี่ฮุ่ยมัวแต่รีบเดินกลับบ้าน จึงไม่ทันได้สังเกตว่าฉินยงจวินเดินตามหลังมา
สวี่เยว่เพิ่งออกจากโรงพยาบาลกลับมาที่บ้านพร้อมพ่อแม่ตอนเที่ยงวันนี้
หลังกินข้าวเย็น เธอแกล้งทำเป็ห่วงสวี่ฮุ่ยที่ยังไม่กลับบ้าน เดินออกไปมองหาที่หน้าบ้านพักพนักงาน
เพิ่งชะโงกหน้าออกไป เธอก็เห็นสวี่ฮุ่ยในชุดเดรสสีแดงสดตัวใหม่กับฉินยงจวินที่เดินตามหลังสวี่ฮุ่ยอย่างลับ ๆ ล่อ ๆ อยู่ไกล ๆ
สวี่เยว่รีบหดหัวกลับ คิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหันหลังเดินกลับบ้าน
ยังไม่ทันเข้าบ้านก็ะโเสียงดัง “แม่ พี่กลับมาแล้ว รีบไปต้มบะหมี่ให้พี่สักชาม แล้วใส่ไข่ดาวสองฟองด้วยนะคะ”
กู่ซิ่วกลอกตาใส่ลูกสาวคนเล็ก “ยัยเด็กนั่นเกือบฆ่าแกให้ตายอยู่แล้ว แกยังใจดี ห่วงว่ามันจะได้กินข้าวหรือเปล่าอีก! อากาศร้อนแบบนี้ ฉันี้เีต้มบะหมี่แล้วยัยเด็กนั่นก็ต้มบะหมี่เป็ รอมันกลับมาต้มกินเอง! ส่วนไข่น่ะ ฉันซื้อมาให้แกบำรุงร่างกาย พี่แกมีมือมีเท้า จะกินไข่ทำไม? ไม่กลัวบำรุงมากไปจนเป็พิษหรือไง!”
สวี่ต้าซานนั่งอยู่ข้าง ๆ ได้ยินคำพูดแสนร้ายกาจของภรรยา เขาอ้าปากค้าง แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไร
สวี่เยว่เห็นกู่ซิ่วไม่พอใจ จึงเปลี่ยนเื่ “แม่คะ พี่ใส่ชุดเดรสสวยมากเลย”
กู่ซิ่วได้ยินดังนั้นก็ตาขวางทันที แล้วถามสวี่ต้าซาน “คุณให้เงินยัยเด็กนั่นไปซื้อชุดหรือไง?”
สวี่ต้าซานยังไม่ทันแก้ตัว สวี่เยว่ก็พูดเสียงอ่อนโยน “แม่คะ อย่าเข้าใจพ่อผิดสิคะ พ่อไม่มีทางทำแบบนั้นหรอกค่ะ พี่เขาขายปลาไหลได้ แล้วยังได้ทุนการศึกษาจากโรงเรียน อำเภอและจังหวัดอีก ได้ยินมาว่าทุนพวกนี้รวมกันหลายพันหยวนเลยนะคะ พ่อจะต้องให้เงินพี่ซื้อชุดอีกเหรอคะ?”
ใบหน้าของกู่ซิ่วดำคล้ำราวกับก้นหม้อทันที
สวี่เยว่พูดเกลี้ยกล่อมเสียงดัง “แม่คะ แม่โกรธที่พี่ซื้อชุดใหม่เหรอคะ? เธอใช้เงินตัวเองซื้อชุดให้ตัวเอง ก็ไม่เห็นเป็อะไรนี่ เดี๋ยวพี่กลับมา แม่อย่าว่าพี่นะคะ”
สวี่ต้าซานมองลูกสาวคนเล็กด้วยความชื่นชม
ั้แ่ลูกสาวคนเล็กคิดแผนยืมมือคนอื่นเพื่อทำร้ายลูกสาวคนโต เขาก็ไม่ชอบลูกสาวคนเล็กเท่าไหร่
แต่ลูกสาวคนเล็กสำนึกผิดจนอาการทรุดหนัก ต้องเข้าโรงพยาบาล เกือบเอาชีวิตไม่รอด ทำให้เขาทุกข์ใจนัก
บวกกับท่าทางสำนึกผิดของลูกสาวคนเล็กหลังจากที่อาการดีขึ้นอีก เขาเลยให้อภัยเธอไปแล้ว
และเชื่อในสิ่งที่ลูกสาวคนเล็กพูด เธอแค่เลอะเลือนทำผิดพลาดไปชั่วขณะ
ตอนนี้เห็นลูกสาวคนเล็กปกป้องลูกสาวคนโต สวี่ต้าซานก็รู้สึกปลื้มใจมาก
เพื่อนบ้านข้าง ๆ ได้ยินคำพูดของสวี่เยว่ก็รู้สึกสงสัย ลูกสาวคนเล็กของหัวหน้าโรงงานสวี่เปลี่ยนไปแล้วเหรอ? ช่วยพี่สาวพูดด้วย?
สวี่เยว่เห็นสวี่ฮุ่ยเดินเข้ามาในประตูบ้าน ก็รีบทักทายอย่างกระตือรือร้น “พี่ กลับมาแล้วเหรอคะ! วันนี้พี่ไปรับทุนมาใช่ไหมคะ หนูฟังข่าวท้องถิ่นทางวิทยุตอนเที่ยง ได้ยินว่าไม่ใช่แค่ทุนการศึกษาสามพันหยวน ยังได้ปากกาหมึกซึมฮีโร่สลักทองคำอีกด้ามด้วย”
สวี่ฮุ่ยพูดประชด “เธอดูสนใจเื่พวกนี้จังเลยนะ”
สวี่เยว่แสร้งทำเป็ไม่เข้าใจความหมายในคำพูดของสวี่ฮุ่ย แล้วถามอย่างงุนงง “งานประกาศเกียรติคุณเลิกั้แ่สิบโมงครึ่งแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมพี่ถึงเพิ่งกลับมาล่ะ?”
สวี่ฮุ่ยพูดอย่างใจเย็น “ฉันตั้งใจเองแหละ ฉันต้องกลับดึก ๆ เธอถึงจะมีโอกาสสร้างข่าวลือใส่ร้ายฉันไง!”
“ฉัน...” สวี่เยว่น้ำตาคลอเบ้าทันที ทำท่าเหมือนเด็กน้อยที่น้อยใจแต่เก็บไว้ไม่พูดออกมา
ทำให้คนอื่นเห็นเหมือนกับว่าสวี่ฮุ่ยรังแกเธอ เหมือนว่าเธอถูกกลั่นแกล้งอย่างหนัก
สวี่ต้าซานขมวดคิ้วแล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ฮุ่ยฮุ่ย ถึงเยว่เยว่จะเคยทำผิดกับลูก แต่เธอสำนึกผิดแล้ว ลูกยังยึดติดอยู่แบบนี้ก็ไม่ถูกนะ ประเทศยังให้โอกาสผู้กระทำผิดกลับตัวเป็คนดีเลย แล้วทำไมลูกถึงไม่อภัยให้น้องล่ะ!”
สวี่ฮุ่ยก็รู้ว่า่สองสามวันที่ผ่านมาที่สวี่ต้าซานไปเฝ้าไข้อยู่ในโรงพยาบาล เขาคงหูเบา โดนกู่ซิ่วกับสวี่เยว่ล้างสมองไปแล้ว
เธอหัวเราะเยาะ “ประเทศให้โอกาสผู้กระทำผิดกลับตัวเป็คนดี ก็ต่อเมื่อพวกเขาได้การอมรมในค่ายแรงงานก่อน สวี่เยว่เกือบฆ่าหนูตาย เธอได้รับโทษที่สมควรแล้วเหรอคะ?”
กู่ซิ่วพูดด้วยสีหน้าเ็า “น้องแกสำนึกผิด เสียใจจนอาการกำเริบ ต้องไปเยี่ยมเยียนหน้าประตูยมโลกมาแล้วครั้งหนึ่ง ค่ารักษาพยาบาลก็ปาเข้าไปหกเจ็ดร้อยหยวนแล้ว! นี่ไม่เรียกว่าโทษหรือไง? มันยังไม่พออีกเหรอ! แกอยากให้น้องตายถึงจะพอใจงั้นสิ!”
สวี่ฮุ่ยพูดประชด “สวี่เยว่อาการกำเริบเพราะเื่ที่ถูกเปิดเผยมันแดงขึ้นมา โดนหนังสือพิมพ์ลงข่าว เสียชื่อเสียงฉาวโฉ่ไปทั่วเมืองจนอาการทรุดไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงกลายเป็ว่ารู้สึกผิดจนเข้าโรงพยาบาลไปได้ล่ะ? พวกคุณนี่แต่งเื่เก่งจริง ๆ!”
“ถ้าสวี่เยว่สำนึกจากใจจริง คุณตาที่สอนหนังสือ อบรมลูกศิษย์มาทั้งชีวิตจะตัดเยื่อใยกับเธอได้ยังไง?”
“สวี่เยว่เป็หลานที่พวกท่านเลี้ยงมากับมือ ความสัมพันธ์ยังแแ่ถึงขนาดนั้น!”
แม้หลังจากเอาของใช้ในห้องน้ำและเสื้อผ้าเปลี่ยนของทั้งสามคนไปให้ที่โรงพยาบาลอำเภอแล้ว สวี่ฮุ่ยจะไม่ได้ไปเยี่ยมสวี่เยว่อีก
แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเธอไม่สนใจเื่ของสวี่เยว่ เธอรู้ว่าั้แ่คุณตาอ่านข่าวเื่ที่สวี่เยว่ทำในหนังสือพิมพ์ ท่านก็ไม่ได้ไปเยี่ยมสวี่เยว่ที่โรงพยาบาลอีกเลย
ไม่ใช่แค่คุณตาเท่านั้น นอกจากกู่ซานซานแล้ว ก็ไม่มีใครในบ้านสกุลกู่ไปเยี่ยมสวี่เยว่
คำพูดของสวี่ฮุ่ยทำให้สวี่เยว่กับกู่ซิ่วขายหน้ามาก
สวี่เยว่แสดงสีหน้าเ็ป เธอเอามือกุมหน้าอกข้างหนึ่ง
สวี่ต้าซานถามด้วยความร้อนรน “เยว่เยว่ เป็อะไรไป? รู้สึกไม่สบายตรงไหนหรือเปล่าลูก?”
สวี่เยว่ยิ้มอย่างเข้มแข็ง “พ่อ หนูสบายดีค่ะ ไม่ต้องห่วงหนู รีบไปต้มบะหมี่ให้พี่กินเถอะค่ะ ดึกป่านนี้แล้ว พี่คงหิวแย่”
สวี่ต้าซานชี้นิ้วไปที่สวี่ฮุ่ยอย่างปวดใจ “ลูกดูสิ น้องทำดีกับลูกแค่ไหน ห่วงใยลูกขนาดไหน?”
“นี่เรียกว่าทำดีกับหนูแล้วเหรอ?” สวี่ฮุ่ยมองสวี่ต้าซานด้วยสายตาเหมือนมองคนปัญญาอ่อน เธอหัวเราะเยาะแล้วเดินออกจากบ้านไปหยิบถุงพลาสติกที่ใส่ไส้เดือน
ทุกวันนี้มีเด็ก ๆ ในบ้านพักพนักงานที่มาเรียนพิเศษกับเธอช่วยจับไส้เดือนให้ เธอไม่ต้องจับเองแล้ว
เด็ก ๆ พวกนั้นจับไส้เดือนได้ก็จะเอามาวางไว้ตรงมุมชายคาบ้านเธอ
สวี่ฮุ่ยหยิบถุงไส้เดือนจากมุมบ้านแล้วเดินจากไป แต่กลับพบว่าถุงขาด ดินและไส้เดือนร่วงหล่นเกลื่อนกลาดเต็มพื้น
สวี่ฮุ่ยอาศัยแสงไฟข้างทางมองไส้เดือนที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้น บางตัวถุกเหยียบจนเละ เห็นได้ชัดว่าโดนใครบางคนเหยียบเข้า
เธอมองไปที่ถุงพลาสติกในมือ รอยขาดบนถุงก็เป็รอยที่เกิดจากการเหยียบเช่นกัน
ต่อให้สวี่ฮุ่ยใช้นิ้วเท้าคิด เธอก็รู้ว่าเป็ฝีมือสวี่เยว่
ดอกบัวขาวจอมปลอมนี่ ชอบแอบทำร้ายคนอื่นลับหลังที่สุด
เธอปาถุงพลาสติกที่ขาดลงพื้นอย่างแรง แล้วะโด่าตีวัวกระทบคราด “ใครมันไม่มีมารยาทขนาดนี้ เหยียบไส้เดือนฉันเละหมดเลย? ฉันอุตส่าห์สอนพิเศษฟรีให้เด็ก ๆ ในบ้านพัก ถ้าพวกคุณใจร้าย ฉันก็ใจดำเหมือนกัน ต่อไปอย่ามาให้ฉันสอนพิเศษอีก!”
สวี่เยว่เดินกล้า ๆ กลัว ๆ ออกมาแล้วพูดเกลี้ยกล่อม “พี่ ทำไมพี่ทำแบบนี้ล่ะคะ? พี่อย่าเอาคน ๆ เดียวมาเหมารวมทุกคนสิ”