เด็กหนุ่มผงะไปครู่หนึ่ง ไม่เพียงแต่เขาเท่านั้น ทว่าคนอื่นๆ ในเหตุการณ์ล้วนประหลาดใจไม่ต่างกัน
เห็นได้ชัดว่าคุณชายใหญ่กำลังดูถูกนาง ทว่านาง ‘เหนียนยวี่’ กลับชื่นชมคนที่ดูถูกนางหรือ?
คุณหนูรองของสกุลเหนียนผู้นี้ ช่างไม่รู้เื่อะไรเลยจริงๆ
ไม่น่าแปลกใจเลยที่องค์หญิงใหญ่ชิงเหอมองข้ามนาง แต่นางกลับยืนยันที่จะอาศัยอยู่ในจวนองค์หญิงใหญ่
เซี่ยลี่ ปีนี้อายุสิบสี่ปีแล้ว เขาตัวสูงเท่ากับเหนียนยวี่ แต่เติบโตมาอย่างอยู่ดีกินดี รูปร่างของเขาจึงอ้วนกว่าเหนียนยวี่ถึงสามเท่า เขาเชิดคางขึ้น ก้าวเดินไปหาอนุตู้อย่างลำพองใจ ปรายตามองเหนียนยวี่ “แน่นอนว่าท่านแม่ของข้าเป็คนที่งดงาม ท่านพ่อของข้ารักท่านแม่ของข้ามาก แม้แต่ตำแหน่งนายหญิงแห่งจวนยังมอบให้ท่านแม่”
เหนียนยวี่สบตาอนุตู้และขมวดคิ้ว นางสงบนิ่ง ไม่เอ่ยอะไร
การขมวดคิ้วโดยไม่แม้แต่เอ่ยอะไรออกมานั้น ไม่เพียงแต่สีหน้าของเซี่ยลี่เท่านั้น สีหน้าของอนุตู้เองก็มืดมนลงทันใด
นางขมวดคิ้ว หมายความว่าอย่างไร?
ดูถูกมารดาของเขาหรือ?
“สีหน้าเช่นนี้ของเ้าจะสื่ออะไรกันแน่?” เซี่ยลี่จ้องมองเหนียนยวี่ เห็นได้ชัดถึงความรู้สึกโกรธเกรี้ยวไม่พอใจ
เหนียนยวี่กัดริมฝีปาก ดูอึกอักลังเล เซี่ยลี่ที่จ้องมองมา แต่เดิมด้วยนิสัยที่ชอบทำตัวเป็จุดสนใจ จึงยิ่งไม่ยอมปล่อยให้เหนียนยวี่ปฏิเสธ “เ้ารีบพูดเร็วเข้า วันนี้หากเ้าไม่พูดออกมาให้ชัดเจน เปิ่นเช่าเยจะไม่ยอมจบเื่นี้”
เหนียนยวี่จ้องมองเด็กหนุ่มอายุสิบสี่ที่มีทีท่าไม่ยอมแพ้ นางเงียบไปสักพักใหญ่ ในที่สุดก็เอ่ยออกมา ด้วยสีหน้าแววตาหวาดกลัวและจริงใจ “ข้า...ข้าคิดว่า...คุณชายเป็บุตรฮูหยิน แต่กลับกลายเป็ว่า...”
เหนียนยวี่มิได้เอ่ยจบ ทว่าความหมายในประโยคนั้นกลับชัดเจนอย่างยิ่ง
นาง 'เหนียนยวี่' เป็บุตรีอนุ ทว่าคุณชายผู้นี้เองก็เป็บุตรชายของอนุภรรยาเช่นกันมิใช่หรือ?
เหนียนยวี่เป็คนฉลาด เพียงเห็นท่าทีที่แสดงออกของคุณชายใหญ่แห่งจวนอัครเสนาบดีผู้นี้ นางคาดเดาได้ทันทีว่า ในจวนอัครเสนาบดีมีสภาพเป็เช่นไร
ผู้ที่ดูแลจวนอัครเสนาบดีคืออนุตู้ผู้นั้น ดูแลจนกระทั่งลืมไปแล้วหรือว่าสตรีที่อาศัยอยู่ในจวนองค์หญิงใหญ่คือนายหญิงตัวจริง?
เช่นนั้น วันนี้นางต้องทำให้คนพวกนี้เข้าใจอย่างชัดเจนว่า ผู้ใดกันแน่ที่เป็ผู้ปกครองจวนอัครเสนาบดี!
เหนียนยวี่ครั้นเห็นสีหน้าของผู้คนเปลี่ยนไปพร้อมกัน รอยยิ้มตรงมุมปากของนาง พลันแฝงนัยล้ำลึกยิ่งขึ้น เซี่ยลี่ชะงักไปครู่ใหญ่ จากนั้นจึงตวาดใส่นางอย่างดุดันว่า “เปิ่นเช่าเยเป็บุตรชายคนโตของจวนอัครเสนาบดี!”
บุตรชายคนโตหรือ?
“บุตรชายคนโตที่เกิดจากอนุภรรยา!” เหนียนยวี่ยกยิ้ม เอ่ยแก้ไขคำพูด
“เ้า...” เซี่ยลี่จ้องมองเหนียนยวี่อย่างดุร้าย ดูเหมือนเขา้าจะเข้าไปทุบตีนาง ชิวตี๋จึงรีบก้าวเข้าไปด้านหน้าเหนียนยวี่ทันทีเพื่อปกป้องนางและเอ่ยออกไปอย่างรีบร้อนว่า “คุณชายใหญ่ อย่าลืมนะเ้าคะว่า ที่นี่คือจวนองค์หญิงใหญ่”
ทว่าแม้จะเอ่ยออกไปเช่นนี้ โทสะของเซี่ยลี่กลับไม่จางหายไป เขาลากอนุตู้ที่ยืนอยู่ด้านข้างออกมา พร้อมกับชี้ไปที่เหนียนยวี่ “ท่านแม่ สตรีนางนี้...”
“พอได้แล้ว”
เป็เื่ที่เหนือความคาดหมาย อนุตู้ตัดบทคำพูดของบุตรชายตนเองและตำหนิเขาออกมาอย่างแ่เบา “คุณหนูยวี่กล่าวไม่ผิด เ้าเป็บุตรชายที่เกิดจากอนุภรรยา”
“แต่ท่านแม่...”
“หุบปาก” อนุตู้เอ่ยขึ้นอีกครั้ง พลางปราดตามองเขาอย่างตำหนิ จากนั้นจึงเดินเข้าไปหาเหนียนยวี่ ใบหน้าเผยรอยยิ้มแย้มบาน “คุณหนูยวี่ ลี่เอ๋อร์ยังไม่รู้เื่รู้ราว คำพูดที่เขากล่าวออกไปเมื่อครู่นี้ แท้จริงเป็เื่ไม่สมควรเลย ข้าต้องขอโทษแทนเขาด้วย”
เหนียนยวี่เลิกคิ้ว บนใบหน้าของอนุตู้ยามนี้ ฉายแววใจดี สีหน้าเหยียดหยามดูแคลนเมื่อครู่นี้หายไปไหนแล้ว?
สตรีนางนี้เปลี่ยนสีหน้ารวดเร็วเสียจริง!
“หึ ยังเช้าอยู่เลย พวกเ้ามาเร็วกันเสียจริง”
น้ำเสียงคมชัดเสียงหนึ่ง ในความสง่างามแฝงอารมณ์เกียจคร้านเล็กน้อย ดังมาจากด้านหลังเหนียนยวี่
นางตระหนักได้ว่าเหตุผลที่อนุตู้ผู้นี้ จู่ๆ มีท่าทีกระตือรือร้นนั้น แท้ที่จริงแล้วเป็เพราะนางเห็นองค์หญิงใหญ่ชิงเหอหรือ?
แท้ที่จริงอนุตู้ผู้นี้เป็คนฉลาด นางรู้ว่าเื่ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ มิอาจแสดงต่อหน้าองค์หญิงใหญ่ชิงเหอได้
ครั้นทุกคนในเหตุการณ์ได้ยินเสียงที่เอ่ยออกมานั้น พลันคุกเข่าลงบนพื้นทันที
“หม่อมฉันอนุภรรยาผู้ต่ำต้อยขอคารวะองค์หญิงใหญ่เพคะ” อนุสามคารวะอย่างนอบน้อม ถ้อยคำที่เอ่ยเรียกตัวเองว่า ‘อนุภรรยาผู้ต่ำต้อย’ ดังก้องในหูของเหนียนยวี่ นางอดที่จะชำเลืองมองอนุสามผู้นี้ไม่ได้
มุมปากของเหนียนยวี่ยกยิ้มเบาบางอย่างอดไม่ได้ ไม่เพียงแต่อนุตู้ที่เปลี่ยนสีหน้ารวดเร็ว ทว่าอนุภรรยาคนอื่น ต่างก็มีทักษะในการเปลี่ยนสีหน้าได้ว่องไวเช่นกัน
“เหนียนยวี่คารวะองค์หญิงใหญ่เพคะ” เหนียนยวี่ย่อกายคำนับ พลางเงยหน้าสบตากับองค์หญิงใหญ่ชิงเหอ เห็นได้ชัดว่าั์ตาเฉียบแหลมนั้นฉายแววเย้ยหยันพาดผ่าน
ในใจของเหนียนยวี่เข้าใจแจ่มแจ้ง องค์หญิงใหญ่ชิงเหอเองก็เข้าใจสีหน้าของพวกนางดี
“ไม่ต้องมากพิธี” องค์หญิงใหญ่ชิงเหอเหลือบมองผู้คนที่คุกเข่าและก้าวเดินเข้าไปในโถง นางเดินพลาง เอ่ยถามพลาง “นายท่านเล่า?”
“ทูลองค์หญิงใหญ่ชิงเหอเพคะ ตอนนี้นายท่านน่าจะเลิกราชการที่ท้องพระโรงแล้วเพคะ อีกประเดี๋ยวคงจะมาถึงแล้วเพคะ” อนุตู้ก้มหน้าก้มตาตอบอย่างถ่อมตัว เดินตามหลังองค์หญิงใหญ่ชิงเหอ ประหนึ่งบ่าวผู้ซื่อสัตย์
“อืม เช่นนั้นเข้าไปนั่งรอนายท่านกลับมาร่วมมื้อเช้าด้วยกันเถิด” องค์หญิงใหญ่ชิงเหอเอ่ยสั่ง
“เพคะ องค์หญิงโปรดระวังนะเพคะ” อนุตู้ก้าวไปข้างหน้าและดึงเก้าอี้ให้องค์หญิงใหญ่ชิงเหอนั่งลง
ครั้นองค์หญิงใหญ่ชิงเหอปรากฏตัว เซี่ยลี่พลันมีสีหน้าสงบนิ่ง ส่วนเด็กอีกสองคนก็หยุดก่อกวน ยืนอยู่ข้างมารดาของตนเองอย่างมีมารยาทงดงาม
องค์หญิงใหญ่ชิงเหอนั่งลงบนตำแหน่งนายหญิงของจวน สายตากวาดมองรอบๆ ท้ายที่สุดก็มองไปที่เหนียนยวี่ ชี้นิ้วมาที่เก้าอี้ข้างตัว “ยวี่เอ๋อร์ เ้ามานี่ มานั่งข้างเปิ่นกง”
ครั้นเอ่ยออกมาเช่นนี้ อนุแต่ละคนต่างชะงักงัน
ในวันเช่นนี้ ถึงแม้จะเป็แค่การร่วมมื้อเช้า ลำดับที่นั่งก็สำคัญนัก
ตำแหน่งที่องค์หญิงใหญ่ชิงเหอชี้ไป แต่ไหนแต่ไรมาเป็ที่นั่งของอนุตู้ ทว่าวันนี้องค์หญิงใหญ่ชิงเหอกลับ...
เหนียนยวี่...
ผู้คนในเหตุการณ์ต่างหันมองไปที่เหนียนยวี่พร้อมกันทันที
องค์หญิงใหญ่ชิงเหอมิได้เกลียดชังเหนียนยวี่หรอกหรือ?
เหตุใดวันเช่นนี้ องค์หญิงใหญ่ถึงชี้ที่นั่งอันทรงเกียรตินี้ให้นางนั่งเล่า?
ใบหน้าของเหนียนยวี่ยกยิ้มราบเรียบ ทำตามที่องค์หญิงใหญ่บอกโดยไม่ลังเล ยามที่ดวงตาของเหนียนยวี่ประสานเข้ากับสายตาของอนุตู้ ั์ตาของอนุตู้มีความตื่นตระหนกพาดผ่านแวบเข้ามา
ตื่นตระหนกหรือ?
คนรอบข้างต่างรู้สึกสงสัยและริษยา เหตุใดนางถึงได้ตื่นตระหนก?
เหนียนยวี่อยากมองให้แน่ใจอีกครั้ง ทว่าั์ตาของอนุตู้กลับมาสงบนิ่งดังเดิมแล้ว
“คุณหนูยวี่ เชิญนั่งเถิด” เดิมทีอนุตู้ยืนอยู่ด้านข้างตำแหน่งนั้น องค์หญิงชิงเหอจัดการออกมาถึงเพียงนี้ นางจึงต้องก้าวถอยหลังทันที เพื่อหลีกทางให้เหนียนยวี่
เหนียนยวี่พยักหน้ายกยิ้มให้นาง จากนั้นจึงก้าวเดินเข้าไปนั่งข้างองค์หญิงใหญ่ชิงเหอ ความตื่นตระหนกภายในของอนุตู้เมื่อครู่นี้ยังคงไม่เลือนหาย
“ทุกคนนั่งลงเถิด” องค์หญิงใหญ่ชิงเหอเอ่ยสั่ง เหล่าอนุภรรยาและคุณชายทั้งหลายนั่งลงบนที่นั่งของตนเองทันที ทว่ากลับไม่มีผู้ใดกล้าเอ่ย
่เวลาหนึ่ง บรรยากาศเปี่ยมไปด้วยความแปลกประหลาด เหนียนยวี่แอบชำเลืองมองอนุตู้ เห็นเพียงสีหน้าของนางที่ต่างไปจากเมื่อครู่นี้ นางกำลังกังวลถึงสิ่งใดกัน?
“กลับมาแล้วขอรับ นายท่านกลับมาแล้วขอรับ มาถึงหน้าประตูจวนแล้วขอรับ” พ่อบ้านที่อยู่หน้าประตูเอ่ยรายงานออกมาอย่างเร่งรีบ
บนใบหน้าขององค์หญิงใหญ่ชิงเหอผุดรอยยิ้ม เห็นได้ชัดถึงท่าทีที่ดูเป็เด็กสาว นางก้าวเดินไปด้านนอกโดยมีจือเถาคอยประคอง เดินพลางเอ่ยสั่งพลางว่า “ไปยกอาหารเช้าจากห้องครัวมาเถิด นายท่านกลับมาจากท้องพระโรง คงจะหิวแล้ว”
ครั้นเอ่ยจบ พ่อบ้านรีบทำตามรับสั่งทันที เมื่อองค์หญิงใหญ่ชิงเหอเดินถึงประตู อัครเสนาบดีในชุดขุนนางรีบเร่งฝีเท้าก้าวเข้าไปหาองค์หญิงใหญ่ชิงเหออย่างกุลีกุจอทันใด
“องค์หญิง เ้ากำลังตั้งครรภ์อยู่ เดินมารับข้าทำไมกัน? ก้าวเดินเร่งรีบเยี่ยงนี้ หากล้มลงไปจะทำอย่างไร?”