“อืม...รสชาติแปลกดี แต่ก็ไม่เลวเหมือนกัน!”
เสี่ยวเฮยลังเลอยู่พักหนึ่งก่อนที่จะอ้าปากเล็กๆ ของมันกัดลงไปยังขากระต่ายย่างแล้วเคี้ยวกรุบๆ ขึ้น จากนั้นความเร็วในการกินยิ่งเร็วมากขึ้นเรื่อยๆ เพียงไม่นานขากระต่ายย่างชิ้นใหญ่ถูกมันกินจนไม่เหลือ
“ลูกพี่ มันอร่อยมากเลยขอให้ข้าอีกหน่อย!”
เสี่ยวเฮยเพิ่งเคยกินเนื้อย่างเป็ครั้งแรกรู้สึกติดใจถึงความอร่อย ดวงตาเล็กๆ ดำขลับของมันกลอกกลิ้งไปมาอยู่หลายรอบแล้วเอ่ยปากขอกับเย่ชิงหานขึ้น
“เหอะๆ ให้เ้าทั้งหมดเลย! ตัวนี้ก็ใกล้จะสุขแล้ว!”
เย่ชิงหานยิ้มขึ้นโยนกระต่ายย่างที่อยู่ในมือไปให้เสี่ยวเฮย ในใจของเย่ชิงหาน เสี่ยวเฮยไม่ใช่สัตว์อสูรมาเนิ่นนานแล้วแต่เป็ดั่งน้องชายแท้ๆ ของเขา สิ่งใดที่เสี่ยวเฮยอยากได้แม้จะเป็เดือนและดาวถ้าเขาสามารถคว้ามาได้เขาก็จะคว้ามาให้มันอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย
หลังจากกินกระต่ายย่างหมดไปหลายตัวเย่ชิงหานและเสี่ยวเฮยนอนอยู่บนพื้นหญ้าข้างสระน้ำอย่างเกียจคร้านพร้อมกับดวงตาเหม่อมองดูแสงแดดของยามบ่าย ตอนนี้เข้าสู่่ฤดูร้อนแล้วเทศกาลกองไฟฤดูร้อนของตระกูลเยว่ได้ผ่านไปแล้ว แสงแดดหน้าร้อนที่ปกติควรที่จะแสบร้อนแต่ตอนนี้ที่สาดส่องทะลุม่านพลังครอบ้าหุบเขาลงมาบนร่างของเย่ชิงหานกลับไม่ได้มีความร้อนแรงที่แผดเผาแต่อย่างใด แต่กลับให้ความอบอุ่นแก่เขาเป็อย่างมากแทน
เขาค่อยๆ หลับตาลงและเริ่มค่อยๆ เข้าสู่ห้วงของนิทรารมณ์หลับลึกลงไป เขาเหนื่อยมากจนเกินไปตลอดระยะเวลาหนึ่งปีมานี้ ไม่ได้นอนอย่างสงบสุขเช่นนี้ ไม่ได้ปล่อยกายปล่อยใจให้หลับอย่างเป็สุขโดยไม่ต้องเป็กังวลเช่นนี้มานาน ภายในหุบเขาเล็กๆ แห่งนี้ไม่จำเป็ต้องระแวดระวังภัยอันตรายใดๆ ปล่อยวางทุกสิ่งทุกอย่างลงแล้วหลับลึกลงไปได้อย่างสุขสบาย...
.................................
การหลับในครั้งนี้กินเวลาไปสองวันสามคืน เย่ชิงหานหลับอย่างอิ่มเอมและเป็สุข
เมื่อเขาเริ่มลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยอาการงัวเงียอยู่นั้น สายตาของเขามองดูดวงดาวสุกสกาวสว่างพร่างพราวและดวงจันทร์สีนวลที่ส่องให้เห็นผ่านม่านพลังครอบโปร่งแสงที่อยู่้า อารมณ์ของเขาเริ่มล่องลอยเลือนรางออกไป
ดวงตาของเขาเริ่มหรี่ตาลงได้ยินเสียงหายใจของเสี่ยวเฮยที่ดังอยู่ข้างหู ได้ยินเสียงเหล่าสัตว์เล็กสัตว์น้อยที่เคลื่อนไหวซู่ซ่าไปมาอยู่ภายในสนทุมพุ่มไม้ จิตใจของเขาอดไม่ได้ที่จะระทมทุกข์และหวาดหวั่นขึ้นมา
“อยู่เดียวดายต่างแดนดั่งคนแปลกหน้า
ครั้นถึงคราเทศกาลพลันคิดถึงญาติพี่น้องขึ้นเท่าทวีคูณ
แม้นอยู่ห่างไกลแต่ใจรู้พี่น้องจะกลับไปบ้านเพื่อรวมตัวกันเฉลิมฉลอง
แต่ตอนนี้กลับขาดเขาเพียงคนเดียวที่อยู่ต่างแดนไม่สามารถกลับไปพบหน้ากันได้”
ูเาสุสานทวยเทพคือต่างแดน เขาคือคนแปลกหน้า หรืออาจจะพูดได้ว่าเขาคือคนแปลกหน้าของทวีปัเพลิง
เวลานี้ไม่ใช่งานเทศกาลอะไร แต่บนท้องนภามีดวงจันทราสีเงินนวลและรอบๆ มีดวงดาราส่องแสงประกายระยิบระยับ ชีวิตชาติที่แล้วไม่มีญาติพี่น้อง ชีวิตชาตินี้มีญาติพี่น้องแต่กลับไม่ได้อยู่เคียงข้างกาย เขาพลันเกิดความรู้สึกโดดเดี่ยว อ้างว้าง และความเศร้าโศกขึ้นมาอย่างแปลกประหลาด...
อารมณ์เช่นนี้มาอย่างแปลกประหลาดไม่ทันตั้งตัว ทำให้หัวใจของเขาเจ็บแปลบขึ้นมาจนแทบจะน้ำตาซึม เขาคิดถึงคำที่เคยพูดขึ้นต่อเย่เทียนหลงเมื่อตอนที่อยู่ภายในสวนเมามาย ข้าไม่ควรมายังโลกใบนี้ โลกใบนี้ไม่ใช่โลกของข้าอีกต่อไปแล้ว...
เพียงแต่... เขาคิดขึ้นมาอีกว่าโลกใบนี้ได้สลักชื่อของเขาลงไปเรียบร้อยแล้ว มีคนที่เขาผูกพันห่วงใยละทิ้งไปไม่ได้ แล้วคนพวกนั้นตอนนี้อยู่ที่ใด? กำลังทำอะไร? จะคิดถึงเขาบ้างหรือไม่?
จากนั้นเขาพลันคิดถึงเย่ชิงอวี่ คิดถึงเงาร่างที่ดูอ่อนแอและบอบบางนั้น อารมณ์เจ็บแปลบและเศร้าทุกข์ระทมภายในใจถูกอารมณ์คิดถึงคะนึงหาและสงสารเอ็นดูเข้ามาแทนที่ หญิงสาวที่สำคัญมากที่สุดภายในดวงใจของตนเอง นางถูกรักษาฟื้นขึ้นมาหรือยัง? ถ้าหากนางฟื้นขึ้นมาแล้วรู้ว่าตนเองถูกดูดเข้ามาภายในูเาสุสานทวยเทพจะทำให้นางเ็ปและเศร้าเสียใจมากมายเพียงใด?
เขาไม่รู้ว่าเย่รั่วสุ่ยจะบอกแก่นางว่าเขายังมีชีวิตอยู่หรือไม่ แต่เขารู้ว่าตอนนี้เขาคิดถึงนางเป็อย่างมาก!
ต่อมาเขาคิดถึงเยว่ชิงเฉิง ไม่รู้ว่าธิดาศักดิ์สิทธิ์แห่งตระกูลเยว่กลับไปถึงยังตระกูลเยว่หรือยัง? ทำการคัดเลือกลูกเขยคนใหม่หรือยัง?
หรือว่านางจะเป็ดั่งเยว่เอียนเอ๋อร์ที่เฝ้ารอคอยบิดาของตนเองเช่นนั้น เฝ้ารอคอยอย่างทนทุกข์ทรมาน? ไม่รู้ว่านางยังคงใส่เสื้อสีดอกท้อธรรมดาๆ และทัดดอกท้อที่ดูธรรมดายิ่งกว่าอยู่เช่นนั้นดังที่เคยปฏิบัติมาตลอดอยู่อีกหรือไม่?
เขาคิดถึงเย่ชิงอู่ คิดถึงใบหน้าที่ใสซื่อบริสุทธิ์และหน้าอกูเาไฟที่อวบอิ่มของนาง หญิงสาวที่มีใบหน้าราวกับสาวน้อยแรกแย้มแต่มีหน้าอกูเาไฟราวกับสาวใหญ่ หญิงสาวที่มีความสัมพันธ์ระดับขั้นสามีภรรยากับตนเองอย่างไม่คาดคิด ตอนนี้นางได้เข้ามาพื้นที่ภายในจิตใจของเขาบางส่วนไปแล้ว ถึงแม้มากยิ่งกว่าความคิดถึงคืออยากที่จะเชยชมนางให้รู้รสชาติอย่างแท้จริงทุกคืนวันโดยที่ยังมีสติสัมปชัญญะรู้ตัวดีไม่ใช่ตอนเมาขาดสติเช่นนั้น
เขาคิดถึงเตียงหลังใหญ่สีชมพูที่เมืองหมัน... เขาคิดถึงเฟิงจื่อ ฮวาเฉ่า และหลงไซ้หนาน คิดไปถึงเยาขาข่า หมันก้าน และอีกหลายๆ คน อีกหลายๆ เื่ราว...
คิดไปคิดมาเขาเริ่มรู้สึกว่าตนเองไม่ควรที่จะคิดมากไปกว่านี้แล้ว เขาควรที่จะนอนต่ออีกสักครั้ง ควรที่จะลืมเื่ราวทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้เศร้าเสียใจ ลืมเื่ราวทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้ทุกข์ระทม จากนั้นนอนหลับให้สบายลงไปอีกครั้งแล้วพรุ่งนี้ตื่นขึ้นมาทำภารกิจบนเส้นทางที่แสนไกลในครั้งนี้ให้สำเร็จลงเสียที
เขารู้ว่าความคิดถึงเป็โรคไข้ใจอย่างหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะค่อยๆ ลุกลามกัดกินจนเกิดเป็โรคร้ายที่ทำลายชีวิตคนได้
เขาอยากมีชีวิตเดินออกไปจึงจะต้องไม่เป็โรคไข้ใจ ต้องไม่คิดถึง ต้องลืมเื่ราวทุกสิ่งอย่างไปให้หมด สิ่งที่ต้องทำคือบุกตะลุยไปข้างหน้าอย่างเดียวจนกระทั่งออกไปจากูเาลูกนี้...
.................................
เสว่อู๋เหินตื่นเต้นยินดีเป็อย่างมากถึงมากที่สุด ปีกว่าๆ แล้วที่เขาถูกกักบริเวณเอาไว้ภายในหอเล็กๆ แห่งนี้ไม่ให้ออกไปไหน แต่ในที่สุดวันนี้เขาก็ได้มองเห็นเดือนเห็นตะวันอีกครั้ง
หนึ่งปีก่อนเพื่อที่จะทำภารกิจเป็ใบผ่านทางเข้ามายังนครแห่งเทพ เขาแอบปล่อยแมลงอำพรางไว้บนตัวเย่ชิงหานอย่างไม่สนใจต่อผลลัพธ์ที่จะตามมา อีกทั้งยังร่วมมือกับเยาขาข่าและหมันก้านวางแผนสังหารเย่ชิงหาน สุดท้ายภารกิจทำไม่สำเร็จถูเชียนจวินถูกจองจำ ส่วนตัวเขาเองก็ถูกกักบริเวณไปด้วย
แม้สภาพแวดล้อมของหอที่พักจะไม่เลว การเป็อยู่ไม่ขาดแคลน ถูเสินเว่ยจัดคนรับใช้มาให้เสร็จสรรพ หญิงรับใช้ที่อยู่ภายในหอเขาเล่นสนุกได้กับทุกคนเต็มที่ตามใจอยาก
เพียงแต่จิตใจของเขาไม่ดีมาตลอด เขารู้สึกโกรธแค้น สับสน และหวาดกลัว เขาแค้นเย่ชิงหาน แค้นเยาขาข่า แค้นหมันก้าน แค้นแม้กระทั่งถูเชียนจวินและถูเสินเว่ย
เขากลัวว่าวันใดวันหนึ่งจะมีคนจำนวนมากบุกเข้ามาภายในหอแล้วจัดการฉีกแยกร่างของเขาออกจากกัน เขากลัวว่าวันใดวันหนึ่งถูเสินเว่ยจะส่งมอบตัวเขาออกไปให้พวกตระกูลใหญ่ทั้งหลายและเผ่าคนเถื่อนเพื่อบรรเทาความโกรธเดือดดาลของพวกเขา เขายังกลัวอีกว่าตระกูลเสว่จะถูกฆ่าล้างตระกูลทั้งหมดเพราะเื่ที่เขาทำเอาไว้ แต่สิ่งที่เขากลัวมากที่สุดคือ กลัวว่าถูเสินเว่ยจะลืมเขาแล้วขังเขาเอาไว้ที่นี่ไปชั่วชีวิต...
จนเมื่อครึ่งปีก่อน เขาได้พบกับชายหัวโล้นคนนั้น...
ชายหัวโล้นมันวาวที่มีรอยสักแปลกประหลาดอยู่บนหัว และที่สำคัญที่สุดคือดวงตาทั้งคู่ของเขาที่เป็เหมือนกับตนเองคือเป็ผู้มีดวงตาหยินหยาง แต่ดวงตาของเขาข้างหนึ่งดำข้างหนึ่งแดงมองดูแล้วดุร้ายและน่าหวาดกลัว
เขาถูกจ้าวเทวะของนครแห่งเทพเรียกเข้าพบ!
สิบปีก่อนเขารู้จักถูเชียนจวิน เขารู้ความลับอันยิ่งใหญ่ของทวีปัเพลิง จากนั้นมาเขาวาดฝันอยู่ตลอดเวลาที่จะเข้าร่วมเป็ส่วนหนึ่งของนครแห่งเทพ อาศัยนครแห่งเทพทำลายห่วงโซ่ที่คล้องทวีปัเพลิงเอาไว้แล้วะโออกไปจากบ่อน้ำที่ถูกปิดตายแห่งนี้ ออกโบยบินไปสู่ท้องฟ้าที่กว้างใหญ่ไพศาลที่รออยู่ภายนอก
ตอนอยู่ที่เกาะแห่งทะเลสาบแห่งความเงียบสงบถูเชียนจวินให้ความหวังแก่เขา บนเกาะแห่งความมืดมิดทูตจากนครแห่งเทพมอบภารกิจให้เขา เพียงแต่สิ่งที่เขาเสียสละทุ่มเทมาโดยตลอดแม้จะได้เข้ามาอยู่ภายในนครแห่งเทพจริง แต่กลับเข้ามาอยู่ในฐานะนักโทษที่หลบหนีความผิด
ครึ่งปีก่อนในที่สุดเขาก็ได้พบกับชายที่แข็งแกร่งที่สุดภายในนครแห่งเทพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งชายคนนั้นให้โอกาสแก่เขาครั้งหนึ่ง โอกาสที่จะก้าวะโขึ้นสู่จุดสูงสุดถ้าหากทำได้สำเร็จ ชายคนนั้นยกเลิกสถานะนักโทษและมอบตัวตนใหม่ให้แก่เขาเป็ทูตของนครแห่งเทพ
แม้ว่าเขาจะไม่ชอบอย่างมากที่ต้องอยู่ภายใต้ชุดคลุมทั้งตัวสีทองที่ครอบปกปิดทั้งตัวนี้ แม้กระทั่งใบหน้าก็ยังไม่สามารถเปิดเผยออกมาได้ แต่ในตอนนั้นเขาไม่แม้แต่จะใช้เวลาคิดไตร่ตรองรีบทำการรับปากขึ้นในทันที แถมยังคุกเข่าทั้งสองข้างลงให้แก่ชายคนนั้นอย่างหนักหน่วง แทบจะอดกลั้นไม่ไหวที่จะก้มลงจูบแทบเท้าของเขาเลยด้วยซ้ำไป
“ข้าชื่นชอบผู้ที่มีดวงตาหยินหยาง การได้พบพานถือว่าเป็โชควาสนา ดังนั้นข้าจะให้โอกาสเ้าสักครั้ง ขอเพียงเ้าสามารถฝึกฝนจนบรรลุระดับขอบเขตาาจักรพรรดิได้ก่อนที่เส้นทาง์ของูเาสุสานทวยเทพจะเปิดออก จากนั้นเข้าไปยังภายในและนำเอากระบี่เทพกลับมาได้ละก็ ข้าสามารถช่วยให้เ้ากลายเป็เทพได้และให้โอกาสเ้าขึ้นไปยังท้องฟ้า้าอีกด้วย!”
ทุกครั้งที่เขาคิดถึงคำของเ้าเทวะถู เืภายในกายของเสว่อู๋เหินพลันเดือดพล่านเร่าร้อนขึ้นโดยอัตโนมัติ ดวงตาข้างหนึ่งเทาข้างหนึ่งดำของเขาปรากฏประกายแสงขึ้นอยู่ไม่ขาด ความสุขที่ลอยมาหาอย่างฉับพลันเช่นนี้หากเขายังไม่รู้จักรีบไขว่คว้าเอาไว้ละก็ เขาคงไม่ใช่เสว่อู๋เหินอีกต่อไปแล้ว...
เขาเริ่มฝึกฝนอย่างหนักอย่างต่อเนื่องเอาเป็เอาตาย ภายใต้การสนับสนุนจากจ้าวเทวะถู ยาวิเศษเพิ่มพลังต่างๆ ที่มีอยู่อย่างมากมายภายในนครแห่งเทพทำให้พลังฝีมือของเขาพัฒนาก้าวะโขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เขาเชื่อมั่นว่าหลังจากนี้อีกไม่กี่ปี เขาเสว่อู๋เหินผู้นี้จะไปปรากฏตัวอยู่ต่อหน้าผู้คนทั้งหมดด้วยฐานะและพลังฝีมืออย่างที่ไม่เคยปรากฏที่ใดมาก่อน
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้