พละกำลังระดับชีพัขั้นที่เจ็ด หลงเหยียนผ่านการขัดเกลามาสองวันจึงทำให้พละกำลังมาถึงปลายขั้นที่เจ็ดแล้ว หากมีเวลาอีกหน่อย หลงเหยียนต้องทำลายเส้นพลังที่เจ็ดแล้วก้าวเข้าสู่ขั้นที่แปดสำเร็จแน่
ทว่าดูเหมือนตอนนี้เวลานั้นกำลังรออยู่ ทันใดนั้น หลงเหยียนนึกถึงคำพูดของเซียวเหลิงเอ้า
เขาบอกว่าพลังระดับสูงบางอย่างในตัวกระบี่ถูกผนึกเอาไว้
“ผนึกงั้นหรือ?”
หลงเหยียนครุ่นคิดอย่างร้อนใจ พละกำลังของเขาถึงขีดกำจัดแล้ว มันไม่อาจพุ่งขึ้นไปได้อีก ตอนนี้มีเพียงกระบี่สังหารัที่เป็ความหวังเพียงหนึ่งเดียวของเขาแล้ว
“พี่ พี่เหยียน ท่านรีบมาทางนี้ เป็ความจริงที่กระบี่สังหารัเล่มนี้มีความประหลาด ในที่สุดข้าก็พบแล้ว ที่แท้กระบี่สังหารัเล่มนี้ถูกคนควบคุมไว้”
หลงเหยียนเบิกตาโต รีบเดินมาตรงหน้ากระบี่ “ควบคุม? ควบคุมอย่างไร เ้ารู้ไหม? รีบบอกข้าหน่อย”
ราชสีห์หิรัณย์ยิ้มคล้ายกำลังภาคภูมิใจ ใช้มือตบที่หน้าอกตัวเอง
“แหะๆ หากเป็ไปตามที่คิด โอกาสที่เราจะชิงเซียนหอมหมื่นลี้ในครั้งนี้คงสูงขึ้นแล้ว จุดควบคุมใช่หรือไม่ ความจริงนั้นง่ายยิ่งนัก ยกตัวอย่างเช่น ขังท่านเอาไว้ในห้องนอน จากนั้นก็ลงกลอนประตู แม่กุญแจก็คือตัวควบคุม”
พอราชสีห์หิรัณย์อธิบายแบบนี้จึงทำให้หลงเหยียนเข้าใจง่ายขึ้น “ที่แท้ก็เป็เช่นนี้!”
หลงเหยียนดีใจมาก “สิงโตน้อย เช่นนั้นเ้ามีวิธีเปิดผนึกการควบคุมนี้ไหม?”
“โฮก!”
ราชสีห์หิรัณย์คำรามเสียงต่ำ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงอวดดี “หากไม่มีข้า บอกได้เลยว่าในเมืองัของท่าน หรือต่อให้จะเป็เมืองหยุนจงก็คงไม่มีผู้ใดเปิดผนึกนี้ได้ ข้าเป็สัตว์เทพ มีชีวิตมานานหมื่นปี มีอะไรบ้างที่ไม่เคยเจอ ตอนนั้นข้า…”
“โอ๊ย พี่เหยียน เบาหน่อยสิ เบาหน่อย… เจ็บ!” หลงเหยียนบิดหูหนาๆ ของมันพร้อมพูดด้วยความโมโห
“รีบเปิดมันออกเดี๋ยวนี้ ไม่รู้หรือว่าข้ากำลังรีบ ข้าเกลียดเวลาที่คนอื่นคุยโอ้อวดที่สุด กระบี่เล่มนี้ถูกผนึกด้วยอะไร?”
หลงเหยียนทนไม่ไหวแล้ว เขาอยากรู้เสียตอนนี้ ทว่าจากพลังการสะท้อนของมันแล้ว ภายใต้ผนึกต้องเป็พลังที่มหาศาลหรือเป็ิญญาเทพที่เหนือชั้นแน่
หลงเหยียนไม่เข้าใจ เหตุใดพลังภายในกระบี่ถึงถูกผนึก หรือมันเป็ิญญาชั่วร้าย?
ราชสีห์หิรัณย์มองอยู่นาน สีหน้าหนักอึ้ง
“พี่เหยียน ดูเหมือนคนที่ผนึกมันต้องมีพลังสูงมากแน่ ตอนนี้ข้ายังปลดผนึกไม่ได้”
“อะไรนะ?” หลงเหยียนขมวดคิ้วมุ่น ส่งเสียงโวยวาย…
ราชสีห์หิรัณย์กลัวหลงเหยียนไม่เชื่อจึงรีบพูดขึ้น “อย่าเพิ่งรีบสิ ข้าไม่ได้บอกว่าเปิดไม่ได้จริงๆ สักหน่อย แค่ตอนนี้พลังผนึกระดับสูงกว่าที่ข้าเคยเจอเมื่อกาลก่อน ท่านลองดูรูปทรงันี่สิ หากมองอย่างละเอียดจะพบว่ามันกำลังเคลื่อนไหวใช่ไหมเล่า ฉะนั้นหากอยากเปิดผนึกนี้ได้ ข้าต้องรวบรวมพละกำลังทั้งหมดจึงจะทำได้ วางใจเถิด ข้าให้คำมั่นว่าต้องเปิดมันให้ได้”
“การผนึกนั้น ความจริงก็คือคนที่มีพลังสูงใช้วิธีการสร้างพลังที่แข็งแกร่งนั่นเอง กักขังสิ่งที่อยู่ด้านใน เฉกเช่นห้วงมิติที่ผนึกข้าไว้นั่นละ ถึงกระนั้น วิธีการผนึกกระบี่เล่มนี้ก็เทียบไม่ได้กับห้วงมิติที่ผนึกข้า”
หลงเหยียนพอเข้าใจความหมายของพลังผนึกแบบคร่าวๆ แล้ว มีสิงโตน้อยอยู่ ทำให้หลงเหยียนรู้เื่เยอะขึ้นมาก เห็นท่าทางหลงเหยียนคล้ายประหลาดใจ ราชสีห์จึงยิ้มอย่างภูมิใจ
หลงเหยียนรีบถามทันที “สิงโตน้อย นานหรือไม่กว่าเ้าจะปลดผนึกได้”
“หากข้ารวบรวมพละกำลังทั้งหมด ให้เวลาข้าสักหนึ่งชั่วยาม ในเมื่อการปลดผนึกเป็เื่น่าปวดหัวยิ่งนัก อีกทั้งยังต้องทดสอบอีกหลายอย่าง ใช้พละกำลังพุ่งทำลายชั้นผนึกทั้งหมด พลังผนึกก็เหมือนเส้นพลังของคน ซับซ้อนมากจนน่าปวดหัว เหมือนถนนในวังหลวง มีหลายทิศหลายทาง ทว่าสำหรับสัตว์เทพอย่างข้านั้น มันเหมือนแค่อาหารว่างเท่านั้น”
ขณะที่มันพูด หลงเหยียนก็จับตัวมันเข้าไปในถุงผ้าเฉียยคุน ร่างหายวับไปท่ามกลางความมืด สูดลมหายใจเขาลึกๆ ตอนนี้เขาไม่อยากปล่อยเวลาผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์แม้แต่วินาทีเดียว ต้องรีบออกล่าปีศาจอสูรร่างใหญ่ ชิงโลหิตของพวกมันมา ส่วนราชสีห์หิรัณย์เองก็จะได้กลืนกินพลังของพวกมันเพื่อเพิ่มพละกำลังให้สัตว์เทพ
ด้วยพละกำลังที่หลงเหยียนมีในตอนนี้ สามารถบอกได้เลยว่าเขายิ่งใหญ่บนเทือกเขาหยุนหลัว นอกเสียจากเจอปีศาจอสูรระดับทองคำขั้นที่เก้า ทว่าหลงเหยียนระมัดระวังอย่างยิ่ง ปล่อยพลังจิตที่แข็งแกร่งออกไป ตรวจสอบโดยรอบ ประสาทการรับรู้ที่มาจากพลังิญญาในร่างกาย ทำให้หลงเหยียนััได้ถึงพลังิญญาของปีศาจอสูรที่อยู่รอบข้าง
“สิงโตน้อย ตอนนี้อาการาเ็ของเ้าเป็อย่างไรบ้าง?” หลงเหยียนถามด้วยความห่วงใย
“ไม่น่าเป็ห่วง ทว่าการฟื้นฟูของร่างกายช้าเล็กน้อยเท่านั้น หากที่นี่มีหญ้าหิมะแปดทิศก็คงดี นั่นคือหญ้าวิเศษที่มีพลังมายา ผ่านกายที่คล้ายหิมะ ทั้งยังมีทั้งหมดแปดแฉก…” เสียงดังมาจากถุงผ้าเฉียนคุน
หลงเหยียนจำลักษณะของต้นหิมะแปดทิศไว้แล้ว เขานึกในใจ ‘สิงโตน้อยาเ็เพราะช่วยข้า ให้เขาพักก่อนเถอะ’
หลังจากเดินไปครู่หนึ่ง ทุกที่ที่หลงเหยียนผ่านนั้นมีโครงกระดูกปีศาจอสูรเต็มไปหมด ทว่าจากการััผ่านพลังิญญา เขากลับไม่พบปีศาจอสูรตัวไหนที่ควรคู่แก่การออกตามล่าเลย ล้วนเป็สัตว์อสูรตัวเล็กทั้งนั้น
ไอเย็นๆ พัดมาจากด้านหน้า ห้วงอากาศเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเื หลงเหยียนสะดุ้งเล็กน้อย หากเป็เมื่อหนึ่งเดือนที่แล้ว ต่อให้เขาจะกล้าหาญมากเพียงใดก็ไม่กล้าเดินเข้าไปในมุมลึกของเทือกเขาหยุนหลัว ตอนนี้ การที่พละกำลังของเขาเพิ่มขึ้นเป็ตัวยืนยันที่ดีที่สุด
“น่าแปลก ปีศาจอสูรพวกนั้นไปไหนกันหมด?”
จู่ๆ เขาก็นึกถึงข้อนี้ หลงเหยียนเข้าใจแล้ว “ปีศาจอสูรเหล่านี้ต่างก็มีจิติญญา พวกมันต้องกรูกันไปตามทิศทางของเซียนหอมหมื่นลี้แน่ ในเมื่อนั่นเป็หญ้าวิเศษระดับมายาที่ใกล้โตเต็มที่ กลิ่นหอมโชยออกไปไกลนับร้อยลี้ มีหรือที่ปีศาจอสูรจะััไม่ได้ ดูเหมือนเ้าพวกนั้นก็อยากได้ส่วนแบ่งเช่นกัน”
หากเป็ไปตามที่หลงเหยียนคาดการณ์ เกรงว่าเขาต้องระมัดระวังให้มากกว่านี้แล้ว ในเมื่อที่นี่มียอดฝีมือระดับชีพเทพเฝ้าอยู่ ไม่แน่ว่าคนของตระกูลเซียวอาจกำลังรอที่นั่นก็ได้
ในเมื่อมีเป้าหมายที่ชัดเจนแล้ว หลงหยียนก็ไม่อยากรีรอ รีบเร่งความเร็ว มุ่งหน้าไปยังต้นเซียนหอมหมื่นลี้อย่างบ้าคลั่ง
ระหว่างนั้น เขาสังหารปีศาจอสูรระดับทองคำขั้นที่หนึ่งตายไปหลายตัว เขาดูดโลหิตของพวกมัน หลอมกลายเป็พลังปราณที่บริสุทธิ์ เติมเต็มร่างกายตัวเอง
จากนั้นก็ทิ้งศพของปีศาจอสูรเข้าไปในถุงผ้าเฉียนคุน ราชสีห์หิรัณย์กัดกินอย่างเอร็ดอร่อยแล้วทิ้งโครงกระดูกออกมา!
“สิงโตน้อย ตอนนี้ร่างกายเป็เช่นไรบ้าง…”
“ยังไม่พอๆ ยังห่างอีกไกล!”
หลงเหยียนหมดคำพูด สัตว์เทพตัวนี้กระเพาะใหญ่จริงๆ หากไม่มีปีศาจอสูรพวกนี้ เกรงว่าปริมาณการกินของมันต้องทำให้ตระกูลหลงหมดตัวแน่
เมื่อเดินเข้าไปลึกมากขึ้น กลิ่นหอมจากต้นเซียนหอมหมื่นลี้ก็รุนแรง…
พลังิญญาของหลงเหยียนััได้ถึงรังสีที่ทะลุทะลวงของปีศาจอสูรด้านหน้า เขาปล่อยพลังจิตที่แข็งแกร่งออกไปปกคลุมรัศมีห้าลี้
หลงเหยียนพูดด้วยความตื่นตระหนก “สิงโตน้อย ในที่สุดพวกเราก็หาปีศาจอสูรพวกนี้เจอแล้ว พวกมันมาตามกลิ่นของเซียนหอมหมื่นลี้จริงดังคาด ทว่าเพราะมียอดฝีมือระดับชีพเทพเฝ้าอยู่สองคน ตอนนี้ปีศาจอสูรพวกนั้นคงไม่กล้าเข้าใกล้!”
ต่อให้ยอดฝีมือระดับชีพเทพสองคนนั้นเห็นตน หลงเหยียนก็ไม่กลัว เพราะมีปีศาจอสูรมากเพียงนั้น พวกเขาคงไม่มีเวลามีจัดการหลงเหยียน ต้องเอาเวลาไปเฝ้าเซียนหอมหมื่นลี้สามตอนนั้นให้ดี!
--------------------