ใช่แล้ว คุณชายห้าแห่งจวนแม่ทัพเหลยกล้าเสียมารยาทต่ออวิ๋นซูยามกลางวันแสกๆ ผู้ใดจะทราบว่าคืนนี้จะเกิดเื่อะไรขึ้นอีก
ภายในเรือนไผ่ เซี่ยเหอยืนเฝ้าอยู่นอกห้องของอนุห้า ทั่วทั้งเขตเรือนเงียบสงัด
“เจ็บใจนัก!” ภายในห้องอีกแห่งหนึ่ง เหลยเจิ้นทุบกำปั้นลงบนโต๊ะ ได้รับความโมโหมากเช่นนี้เขาจะหลับลงได้อย่างไร หลังจากที่ท่านป้ากลับมาจากเรือนฮูหยินผู้เฒ่า นางก็ไม่คุยกับเขาอีกเลย จะต้องเดือดดาลมากแน่
นังเด็กสมควรตาย หากนางทำตัวว่านอนสอนง่าย เขาก็ไม่ต้องเสียการควบคุม เขามองนางก็นับเป็โชคดีของนางแล้ว ทว่านางถึงกับไม่รู้สำนึกขนาดนี้! ต้องทราบว่าเขาจะช้าจะเร็วก็ต้องมีสักวันหนึ่งที่จะได้เลื่อนตำแหน่งอย่างแน่นอน โทสะที่ได้รับในวันนี้ สักวันหนึ่งเขาจะต้องคืนให้เป็เท่าตัว!
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้เหลยเจิ้นวางใจก็คือ บิดาดูจะไม่ไว้หน้าจวนโหวเท่าไรนัก เขายังคิดว่าจะถูกคนจากจวนแม่ทัพจับกลับไปเร็วๆ นี้เสียอีก ฮูหยินผู้เฒ่าท่านโหวคงจะร้ายกาจแค่เพียงเปลือกนอก จะอย่างไรคนก็แก่มากแล้ว สุดท้ายเื่หลังบ้าน คำพูดของท่านป้าก็ใหญ่ที่สุด
ดื่มชาเข้าไปอึกใหญ่ ในใจของเหลยเจิ้นคิดวางแผนว่า หากวันหน้ามีโอกาสพบอวิ๋นซูอีก จะต้องทำให้เด็กนั่นลิ้มรสความร้ายกาจของเขา! “ญาติผู้น้อง เ้าคอยดูเถอะ!”
แสงเทียนในห้องส่องไปบนหน้าต่าง ทันใดนั้นปรากฏเงาร่างหนึ่งผ่านไปอย่างรวดเร็ว
“ใคร?!” เหลยเจิ้นเพิ่มความระมัดระวังแล้วยืนขึ้น ดี ในจวนโหวถึงกับมีคนกล้ามาสอดส่องเขา!
เขาเปิดประตูออกดังปัง หยิบกระบี่ออกมาไล่ตามไป
เ้าเงาร่างนั้นเ้าเล่ห์ยิ่งนัก พริบตาเดียวก็เลี้ยวเข้าไปบนถนนเล็กๆ สายหนึ่ง เหลยเจิ้นไล่ตามไปติดๆ เบื้องหน้าปรากฏทางหินท่ามกลางป่าไม้อันมืดมิดสายหนึ่ง คดเคี้ยวจนไม่ทราบว่าเชื่อมไปถึงที่ใด
“ฮึ คิดว่าทำเช่นนี้แล้วข้าจะกลัวหรือ?” เขาสะบัดชายเสื้อเดินเข้าสู่ความมืด
แต่เมื่อเดินลึกเข้าไปข้างใน เหลยเจิ้นพบว่าตนเองได้เข้ามาถึงภายนอกรั้วกำแพงของเขตเรือนแห่งหนึ่งแล้ว มีแสงสว่างส่องอยู่ภายในห้อง
ที่นี่คือที่ไหน?
“เซี่ยเหอ นำน้ำร้อนเข้ามาอีก”
เสียงอันอ่อนโยนเสียงหนึ่งดังขึ้น เหลยซื่อเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ดูแล้วในห้องคงจะเป็สตรีนางหนึ่ง
สาวใช้ประคองอ่างน้ำร้อนเดินเข้าไป เมื่อประตูเปิดออก ก็มีไอน้ำหนาแน่นฟุ้งกระจายออกมา เหลยเจิ้นจำสาวใช้คนนั้นได้แม่นยำ มิใช่ว่าเป็คนที่อยู่ข้างกายลูกพี่ลูกน้องหกวันนี้หรอกหรือ?
ดูท่าแล้ว ที่แห่งนี้ก็คือที่ที่ลูกพี่ลูกน้องหกอาศัยอยู่ ส่วนคนด้านในผู้นั้น...
เมื่อคิดถึงตรงนี้ สายตาของเหลยเจิ้นพลันเย็นเยียบ เขาใคร่ครวญครู่หนึ่ง แล้วยื่นมือออกไปฉีกชายเสื้อของตนเองนำมาปิดบังใบหน้าเอาไว้
ไม่ต้องรอคราวหน้าแล้ว คืนนี้ก็ไปขู่นั่งเด็กสารเลวนั่นเสียหน่อยเลยแล้วกัน! แน่นอนว่าไม่อาจทำลายชื่อเสียงของนางได้โดยตรง เพราะคนในจวนโหวจะต้องสงสัยตนเองเป็แน่
เหลยเจิ้นยอบกายลง ใช้ป่าไผ่ผืนนี้อำพรางเงาของตน เข้าไปใกล้ห้องนั้นช้าๆ
“อี๋เหนียง ยัง้าน้ำร้อนอีกหรือไม่เ้าคะ” เสียงเลือนรางภายในทำให้เขาต้องขมวดคิ้ว อี๋เหนียง?
ตอนนี้เอง หลังคอเกิดความเ็ปรุนแรงแผ่ซ่านออกมา
“ใครก็ได้! ที่นี่มีโจร!” ข้างหลังมีเสียงแหลมสูงดังทะลุไปทั่วฟ้า ชุนเซียงยกท่อนไม้ในมือขึ้นตีลงมาที่หลังของเหลยเจิ้นครั้งแล้วครั้งเล่า นางเป็คนมีฝีมือ แรงที่ใช้ย่อมไม่น้อย ศีรษะด้านหลังของเหลยเจิ้นถูกตีไปครั้งหนึ่ง พลันนั้นเขาเกิดอาการตาพร่าหัวหมุน ล้มลงไปที่พื้น
องครักษ์จำนวนมากปรากฏตัวออกมาทุกทิศทาง ส่วนชุนเซียงนั้นหลังจากที่ตีมั่วๆ ลงไป เห็นบุรุษบนพื้นไม่ขยับ จึงวางอาวุธในมือลง “เร็ว มาดูสิว่าเป็โจรใจกล้าคนไหน มัดมันไว้!”
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเขตเรือนไผ่รู้ไปถึงฮูหยินผู้เฒ่าอย่างรวดเร็ว ภายในพริบตาทั้งจวนโหวก็สว่างไสวไปด้วยแสงไฟ
ภายในห้องโถง องครักษ์โยนบุรุษถูกหามมาไว้บนพื้น ใบหน้าบวมช้ำ กระทั่งฮูหยินผู้เฒ่ายังหวาดผวา
“เกิดอะไรขึ้น?” ด้านนอกมีเสียงเหลยซื่อดังเข้ามา
ในใจของนางรู้สึกไม่สงบ ได้ข่าวว่าในเขตเรือนไผ่เกิดเื่ขึ้นเล็กน้อย เหตุใดผู้หยินผู้เฒ่าต้องเรียกตนนางมาโดยลำพังด้วย?
เมื่อก้าวเข้าสู่ห้องโถง หลังจากที่เหลยซื่อเห็นบุรุษนอนสลบไสลไม่ได้สติอยู่บนพื้นก็พลันสูดหายใจลึก “ท่านแม่เ้าคะ นี่...”
อวิ๋นซูที่นั่งอยู่ข้างอนุห้าและสาวใช้ทั้งสามหันมองมาทางนางด้วยใบหน้าขาวซีด ในใจของเหลยซื่อเกิดความรู้สึกไม่ดี หรือว่า เ้าเด็กนั่นก่อเื่อีกแล้ว?
“ชุนเซียง เ้าพูดเสียหน่อยเถิดว่าเกิดเื่อะไรขึ้น” ฮูหยินผู้เฒ่ากล่าวอย่างเ็า
“ตอบผู้หยินผู้เฒ่า บ่าวกำลังเดินผ่านถนนเล็กๆ นอกเรือนอี๋เหนียง เห็นเงาลับๆ ล่อๆ เหมือนกำลังแอบมองเข้าไปในห้องของอี๋เหนียง บ่าวจึงใช้ท่อนไม้ตีโจรผู้นั้นจนสลบ โชคดีที่ไม่เกิดเื่ใหญ่ที่แก้ไขไม่ได้เ้าค่ะ”
ท่าทางของอนุห้าราวกับได้รับความะเืใจครั้งใหญ่ “ตอบฮูหยินผู้เฒ่า ยามนั้นผู้น้อยกำลังแช่น้ำยาสมุนไพรอยู่เ้าค่ะ”
เช่นนั้นมิใช่จะบอกว่า เหลยเจิ้นใจกล้าถึงขนาดแอบมองอี๋เหนียงของจวนโหวหรือ?! ช่างเป็พฤติกรรมที่ทำให้ผู้คนรังเกียจอย่างแท้จริง!
“จะ จะเป็ไปได้อย่างไรเล่า มิใช่ว่าเป็การเข้าใจผิดหรือ? เหตุใดอนุห้าจึงได้แช่น้ำสมุนไพรดึกดื่นเช่นนี้?” เหลยซื่อย่อมไม่เชื่อเป็ธรรมดา แม้ว่าเหลยเจิ้นจะเป็ลูกอนุ แต่ด้วยตำแหน่งของเขา ข้างกายจะต้องไม่ขาดสตรี จะมาเสี่ยงอันตรายไปแอบดูอนุห้าทำไมกัน?
สายตาของเหลยซื่อเลื่อนไปยังอวิ๋นซูที่อยู่ข้างๆ ในใจคาดเดาไปว่าเป็นังเด็กสารเลวนี่ที่ใส่ร้ายเจิ้นเอ๋อร์อย่างแน่นอน! จิตใจอำมหิตยิ่งนัก!
มองไปยังบุรุษที่ถูกตีจนหน้าบวมช้ำ ใจของเหลยซื่อยิ่งทวีความเย็นะเื เื่นี้หากสอบสวนลงไป ตนเองเป็คนกลางวางตัวลำบาก ท่านแม่จะต้องตำหนิตนแน่ ส่วนแม่ทัพเหลยก็จะโกรธเคืองตนเองเพราะลูกอนุของเขาถูกคนจวนโหวตี
เ้าลูกอนุคนนี้ทำไมถึงได้โง่ขนาดนี้! เหตุใดดึกๆ ดื่นๆ ต้องวิ่งมาที่เรือนไผ่ด้วย?!
“ฮูหยินผู้เฒ่าเ้าคะ หลายวันนี้ตอนกลางคืนผู้น้อยนอนไม่ค่อยหลับ ทุกวันจะต้องแช่ยาที่คุณหนูหกปรุงถึงจะหลับสบายเ้าค่ะ” เหตุผลของอนุห้าครอบคลุมยิ่งนัก นางไม่ได้มาแช่ยาสมุนไพรดึกๆ ดื่นๆ โดยเฉพาะเพื่อ้าใส่ร้ายเหลยเจิ้น ล้วนไม่มีใครกล้านำชื่อเสียงของตนมาล้อเล่นแน่!
“ฮูหยินผู้เฒ่าโปรดวางใจ ตอนที่บ่าวไปพบ คุณชายเหลยยังอยู่นอกเขตเรือน ยังไม่ได้เข้าไปเ้าคะ” ความหมายของชุนเซียงก็คือ เหลยเจิ้นกระทำการไม่สำเร็จ
สายตาคมกริบของฮูหยินผู้เฒ่ากวาดมองไปยังใบหน้าของเหลยเจิ้น ไปโผล่ที่เรือนไผ่ดึกดื่นเช่นนั้น ไปเดินเล่นหรืออย่างไร? นางพลันคิดถึงเื่เมื่อตอนกลางวัน ไม่แน่ว่าเป้าหมายของเขาจะไม่ใช่อนุห้า แต่เป็อวิ๋นซู!
คิดถึงตรงนี้ ฮูหยินผู้เฒ่าก็โกรธจนเืพลุ่งพล่านขึ้นสู่สมอง! หากเกิดเื่อะไรขึ้นมา จวนโหวของพวกเขาจะต้องถูกผู้คนหัวเราะเยาะจริงๆ แล้ว!
“ท่านแม่เ้าคะ นี่เป็เื่เข้าใจผิดแน่ๆ เจิ้นเอ๋อร์อาจจะนอนไม่หลับ จึงออกมาเดินเล่นใจลอยอยู่ข้างนอก จนเดินไปถึงเรือนไผ่โดยไม่ทันระวัง” เหลยซื่อพยายามพูดแก้ตัวให้เหลยเจิ้น ไม่คิดว่ากลับสบเข้ากับสายตาเย็นเยียบของฮูหยินผู้เฒ่า
“เดินเล่น? พวกองครักษ์กล่าวว่า ตอนที่คุณชายห้าเหลยถูกพบ บนใบหน้ามีผ้าปิดบังเอาไว้!” ผู้ใดกันที่จะปิดซ่อนใบหน้าของตนแล้วออกไปเดินเล่น หากมิใช่ว่ามีเื่ชั่วอยู่ในใจแล้วจะเป็อะไรไปได้
เหลยซื่อตกตะลึง เ้าโง่นี่เกิดมีความคิดชั่วๆ ขึ้นมาจริงหรือ? หากเป็เช่นนี้ นางพอจะเดาได้คร่าวๆ เกรงว่าเ้าโง่นี่คิดจะไปหานังเด็กสารเลวเพื่อแก้แค้น! ไร้ประโยชน์จริง นอกจากไม่สำเร็จแล้วยังถูกสาวใช้เจอตัวอีก!
“เด็กๆ!”
ทันใดนั้นมีองครักษ์หลายคนเดินเข้ามา ฮูหยินผู้เฒ่ากวาดตามองใบหน้าอันซีดขาวของเหลยซื่อปราดหนึ่ง “ส่งตัวคุณชายห้าเหลยกลับจวนแม่ทัพ แล้วนำจดหมายฉบับนี้มอบให้แม่ทัพเหลย!”
จดหมาย? ดวงตาของเหลยซื่อจับจ้องไปยังจดหมายฉบับนั้น ใจเต้นตึกตักอย่างร้อนรน ยามนี้ท่านแม่โกรธจริงๆ แล้ว เนื้อความในจดหมายอาจจะรุนแรงมากก็เป็ได้ แต่ว่าครั้งนี้นางเองก็พูดอะไรไม่ได้ เ้าโง่นี่ช่างรนหาที่ตายแท้ๆ!
หากรู้เช่นนี้ นางจะส่งเขากลับจวนแม่ทัพไปด้วยตัวเองนานแล้ว จะปล่อยให้ก่อเื่ใหญ่ขนาดนี้ได้อย่างไร!
“อี๋เหนียง สุขภาพเป็สิ่งสำคัญ รีบกลับไปพักผ่อนเถิดเ้าค่ะ” อวิ๋นซูมองอนุห้าผู้อ่อนแออย่างใส่ใจ คำนี้เมื่อได้ยินไปถึงหูเหลยซื่อ นางกลับรู้สึกว่าช่างบาดหูยิ่งนัก
เดิมทีอนุห้าคิดจะอยู่ต่อ แต่ว่าฮูหยินผู้เฒ่าเองก็เอ่ยออกมา “ใช่แล้ว รีบกลับไปเถิด อากาศเย็นนัก”
น้ำเสียงอ่อนโยนเช่นนี้ทำให้เหลยซื่อไม่สบอารมณ์ ท่านแม่ถึงกับอ่อนโยนต่ออนุห้าขนาดนี้ แต่กับตน่นี้กลับยิ่งเข้มงวดมากขึ้นทุกวัน! มารดาพึ่งบุตรจริงๆ อนุห้าตั้งครรภ์ ตำแหน่งของตนในจวนโหวก็ยิ่งอันตราย
“ชุนเซียง เซี่ยเหอ ยังไม่รีบประคองอนุห้ากลับไปอีก!”
“เ้าค่ะ ฮูหยินผู้เฒ่า”
ในห้องโถงเหลือเพียงบุรุษบนพื้น ฮูหยินผู้เฒ่า อวิ๋นซูและเหลยซื่อ
“สะใภ้ เตรียมของชดเชยเสียหน่อย วันงานพระราชพิธีเฉลิมฉลองจำไว้ว่าต้องขอโทษแม่ทัพเหลย อย่างไรเสียคุณชายห้าก็ได้รับาเ็ที่จวนโหวของพวกเรา ไม่ว่าจะเพราะเหตุใด อย่างไรก็ล้วนเป็พวกเราจวนโหวที่จัดการไม่เหมาะสม ขอให้แม่ทัพเหลยอย่าได้ตำหนิ” ฮูหยินผู้เฒ่าไม่เอ่ยถึงเื่ที่เหลยเจิ้นแอบมองอนุห้าแช่น้ำยาสมุนไพร นี่ยิ่งทำให้เหลยซื่อรู้สึกกระวนกระวาย
้าให้ตนขอโทษแม่ทัพเหลยที่งานพระราชพิธีเฉลิมฉลอง? นี่มัน...
“อย่างไรเสียพวกเ้าก็เป็ครอบครัวเดียวกัน เชื่อว่าแม่ทัพเหลยไม่ตำหนิเ้าแน่” ฮูหยินผู้เฒ่านั่งยืดตัว จดหมายฉบับนี้เรียกว่าปฏิบัติต่อผู้อื่นเฉกเช่นที่ผู้อื่นปฏิบัติต่อตน จวนโหวมีน้ำใจเปี่ยมคุณธรรม ไม่ส่งเหลยเจิ้นให้สำนักตรวจการก็นับว่าไม่เลวแล้ว นาง้าให้แม่ทัพเหลยทราบว่า จวนโหวของพวกเขามีจุดอ่อนของเหลยเจิ้นอยู่ วันหน้าหากจะพูดจาหรือกระทำอะไรก็ต้องชั่งน้ำหนักให้ดี
อวิ๋นซูรู้สึกนับถือวิธีการของฮูหยินผู้เฒ่า ดูท่าแล้วในงานพระราชพิธีเฉลิมฉลอง เหลยซื่อคงต้องวุ่นวายแน่ ด้านหนึ่งต้องรับการขอโทษจากแม่ทัพเหลย อีกด้านหนึ่งก็ต้องขอโทษแม่ทัพเหลย ไม่ว่าจะกล่าวอย่างไร ผู้ที่ต้องลำบากก็ล้วนเป็คนสกุลเหลย
ฮูหยินผู้เฒ่าเอ่ยออกไปแล้ว เหลยซื่อไม่อาจไม่ทำตาม งานพระราชพิธีเฉลิมฉลองมีคนมากมาย อาจมีคนจับตาดูอยู่ก็เป็ได้ เื่ที่เหลยเจิ้นล่วงเกินอี๋เหนียงในจวนโหวก็จะแพร่ออกไปอย่างรวดเร็ว ทั้งหมดนี่ก็จะกลายเป็ความผิดของตนที่จัดการได้ไม่เหมาะสม ในใจของเหลยซื่อกรีดร้องอย่างขมขื่น ฮูหยินผู้เฒ่าโยนปัญหายุ่งยากมาให้นางแล้ว
นางจะทำให้คนบ้านเดิมคลายโทสะได้อย่างไร จะทำให้ฮูหยินผู้เฒ่าคลายโทสะได้อย่างไร? แล้วยังมีท่านโหว...ตอนนี้อนุห้าเป็หัวใจของท่านโหว หากนางไปร้องห่มร้องไห้ข้างหมอนท่านโหว ตนเองจะยิ่งลำบาก
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เหลยซื่อพลันกัดฟัน ในใจด่ากราดเหลยเจิ้นไปนับครั้งไม่ถ้วน “สะใภ้สำนึกผิดแล้วเ้าค่ะ...”
“คิดให้ดีๆ เถิดว่าจะพูดกับท่านแม่ทัพใหญ่เหลยอย่างไร เ้าออกไปได้” ฮูหยินผู้เฒ่ากล่าวไล่เสียงเย็น เหลยซื่อค้อมกายถอยออกไปอย่างเศร้าหมอง
“ฮึ วันนี้วุ่นวายดีจริงๆ! มีแต่คนพาลเต็มไปหมด!” ฮูหยินผู้เฒ่าตบลงบนที่วางแขนอย่างแรง
เมื่อกลับมาถึงเรือนของตน หลิ่วอวิ๋นฮว๋ารีบออกมาต้อนรับ “ท่านแม่ เกิดเื่อะไรขึ้นเ้าคะ ในเขตเรือนของนังสารเลวนั่นมีโจรเก่งๆ เข้าไปหรือ?”
ทันใดนั้น ใบหน้าของเหลยซื่อพลันกลายเป็เหี้ยมเกรียม “นังเด็กสารเลว! ข้าไม่ไว้ชีวิตมันแน่!”