“ตอนเริ่มต้น แม้ว่าเสด็จพ่อจะสนับสนุนอย่างเต็มที่ เนื่องจากต้องบังคับใช้แรงงานจำนวนมาก ดังนั้นในสายตาของผู้คนทั้งหลายก็คือการเผชิญหน้ากับความลำบากทุกย่างก้าว ทว่าหากใช้วิธีการขุดของข้า หนึ่งปีผ่านไป เมื่อพวกเขาตระหนักได้และเริ่มเล็งเห็นถึงประโยชน์จากโครงการนี้ พวกเขาย่อมอยากแบ่งผลประโยชน์บ้าง แม้ว่าขุนนางใหญ่ทั้งหลายจะเห็นแก่บุตรชายของตนจึงไม่ขัดขวางมากนัก ทว่าหากเป็พระโอรส ทุกอย่างก็ย่อมไม่แน่นอน”กงอี่โม่วิเคราะห์ออกมาเป็ข้อๆ
นางพูดไม่เร็ว มีเหตุมีผล ทุกคำทุกประโยคล้วนระบุถึงจุดสำคัญ
“แทนที่จะรอให้คนอื่นมาแย่งไป การแบ่งให้กงเจวี๋ยก็น่าจะดีกว่าและนี่ก็เป็หนึ่งในเหตุผลที่ข้าช่วยท่านอย่างเต็มที่”
“เกรงว่าเสด็จพ่อจะไม่ตกลง” ทั้งๆที่รู้อย่างชัดเจนว่าให้กงเจวี๋ยเข้ามาช่วยย่อมดีกว่าพวกเสือสิงห์กระทิงแรดเ่าั้ทว่ากงเช่อกลับรู้สึกอิจฉาโดยไม่อาจควบคุม
ใช่! เขาเป็องค์รัชทายาทการขุดคลองขนส่งแทนโอรส์ในสายตาของประชาชนก็เปรียบเสมือนโอรส์ดำเนินการด้วยตัวเอง ทว่ากงเจวี๋ยไม่มีอะไรเลยต่อไปแม้ว่าเขาจะเข้ามาแบ่งผลประโยชน์บางส่วน แล้วกงเจวี๋ยจะสามารถแย่งชิงกับคนเ่าั้ได้หรือ?
“ข้าสอนเขามากับมือ ข้ารู้เป็อย่างดีว่าเขามีความสามารถอะไรบ้างขอแค่ครั้งนี้เขาสามารถจัดการปัญหาภัยแล้งในแดนประจิมได้สำเร็จทั้งที่ปัญหานี้เป็ปัญหาที่แก้ไม่ได้มาหกเจ็ดปีแล้ว ดังนั้นเขาผู้มีประสบการณ์การแก้ปัญหาเื่น้ำก็ย่อมสู้คนอื่นได้อย่างแน่นอน” กงอี่โม่กลับส่งยิ้มอย่างมั่นใจ
หากเขายังสู้คนเหล่านี้ไม่ได้ในอนาคตเขาคงไม่ใช่เซ่อเจิ้งอ๋องที่ใครๆ ต่างหวาดกลัว
กงเช่อกลับครุ่นคิดมากยิ่งขึ้น เขารู้สึกว่าเขาในฐานะพี่ชายเวลานี้เขาควรยิ้มไม่ใช่หรือ? เพราะกงอี่โม่เป็ผู้เปิดเส้นทางให้กับเขาเขาควรซาบซึ้งมากกว่า ดังนั้นเขาต้องดีใจ ต้องยอมรับสิ่งเหล่านี้อย่างใจกว้าง
ทว่าเมื่อคิดว่ากงอี่โม่ไม่เคยลืมกงเจวี๋ยไม่ว่าเื่ใดนางมักคิดถึงกงเจวี๋ยก่อน กงเช่อจึงรู้สึกไม่อยากยอมรับเลยเขาควบคุมตัวเองไม่ได้จริงๆ
ก็แค่ใช้ชีวิตในตำหนักเย็นมาด้วยกันสามปีไม่ใช่หรือ? เพราะเหตุใดเขาจึงสู้อีกฝ่ายไม่ได้?
กงอี่โม่ไม่รู้ว่ากงเช่อกำลังคิดอะไร นางเห็นเขาครุ่นคิดอย่างหนัก จึงคิดว่าเขากำลังพิจารณาถึงรายละเอียดต่างๆเป้าหมายของนางไม่ได้มีเพียงเท่านี้อยู่แล้ว!
สมองเล็กๆ ของนางกำลังทำงานอย่างรวดเร็วแต่ละประเด็นแต่ละจุดถูกคลี่ออกมา ทั้งผลดีผลเสียล้วนปรากฏขึ้นในสมองของนาง
อันดับแรก กงเช่อต้องได้รับประโยชน์มากมายจากโครงการนี้เพราะตระกูลมารดาของกงเช่อ บรรพบุรุษตระกูลหลิวก็อยู่ทางทักษิณอีกทั้งยังเป็ตระกูลใหญ่ หากไม่ได้อยู่ในเมืองหลวงอำนาจของตระกูลใหญ่เหล่านี้จะเด่นชัดมากยิ่งขึ้น ภายใต้การสนับสนุนของตระกูลหลิวหากสามารถเชื่อมต่ออุดรทักษิณทำให้การปกครองส่วนภูมิภาคของฮ่องเต้เข้มแข็งยิ่งขึ้นเมื่อฮ่องเต้ทรงพอพระทัยก็ย่อมแต่งตั้งตระกูลหลิวให้เป็ขุนนางใกล้ชิดอีกทั้งเมื่อเชื่อมต่ออุดรทักษิณได้แล้ว หากตระกูลหลิวสามารถคว้าโอกาสได้ก่อนใครพวกเขาก็ย่อมได้ประโยชน์จากคลองขนส่งไม่น้อยอย่างแน่นอน
อีกทั้งบุตรชายของขุนนางที่ติดตามกงเช่อเ่าั้แม้พวกเขาจะทำอะไรไม่เป็ ทว่าสิ่งที่ได้เปรียบคือพวกเขามีฐานะสูงส่งเมื่อผ่านการขัดเกลาแล้วก็ย่อมช่วยเหลือได้เช่นกัน
นี่เป็ประโยชน์ที่กงเช่อได้รับ แล้วสำหรับตัวนางเองล่ะ?
กงอี่โม่ดวงตาเป็ประกายมุมปากของนางปรากฏรอยยิ้มของผู้กุมชัยชนะอย่างอดไม่ได้
นางคือผู้คว้าโอกาสแรกไว้ และก็เป็ผู้ที่มีสิทธิ์มากที่สุด
ร้านค้าในมือของนางอยู่ในเมืองหลวงเท่านั้นซึ่งความ้าของนางไม่ได้มีเพียงเท่านี้ หากสามารถเดินทางไปตามคลองขนส่งกิจการของนางก็สามารถลงไปทางทักษิณ ที่สำคัญก็คือ ในขณะที่ทุกคนยังไม่ทันตั้งตัวนางสามารถใช้การขุดคลองขนส่งของกงเช่อไปขอสิทธิ์ในการขนส่งจากฮ่องเต้แม้ไม่อาจผูกขาดเบ็ดเสร็จ แต่นาง้าให้เรือสินค้าของนางถูกกฎหมาย
หากมีเพียงเรือสินค้าของนางแล่นอยู่ในคลองขนส่งขนาดใหญ่ผลประโยชน์ที่อยู่เื้ัสิ่งเหล่านี้จะเป็เช่นไร นางไม่กล้าแม้แต่จะคิด
น้ำเป็แหล่งทำเงิน ขอแค่นางได้รับสิทธิ์ไม่ว่าจะเป็การขนส่งสินค้า การรับส่งผู้โดยสาร หรือแม้กระทั่งการลักลอบขนส่งนางต้องสามารถผลประโยชน์ส่วนใหญ่
กงอี่โม่คิดถึงจุดนี้ นางผ่อนลมหายใจอย่างโล่งอกสุดท้ายนางจึงคลี่ยิ้มอวดฟันขาวสะอาด แต่ไหนแต่ไรนางไม่ได้เป็คนชอบยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวแต่นางชอบยิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัว ยิ่งเยอะยิ่งดี
กงเช่อรีบไปหาฮองเฮาั้แ่เช้าอีกทั้งยังโน้มน้าวให้ฮองเฮามอบตราประทับหงส์คืนไป จากนั้นให้ขอไปปฏิบัติธรรมสิ่งที่เหนือความคาดหมายก็คือ ฮองเฮาไม่ได้เอะอะโวยวาย แต่นางกลับเงียบจนน่ากลัว
เดิมทีกงเช่อก้มศีรษะอยู่ทว่าเมื่อเห็นเสด็จแม่ไม่ได้กล่าวอะไรอยู่เป็นาน เขาจึงเงยหน้าขึ้นมองแต่ใครจะรู้ว่านางกำลังร้องไห้
น้ำตาสองสายไหลลงมาอย่างเงียบๆ สายตาของนางเต็มไปด้วยความเศร้าทว่ากลับไม่สามารถส่งเสียงออกมา
“เสด็จแม่?!”
เขาก้าวขึ้นไปด้านหน้าสองสามก้าว เช็ดน้ำตาให้นางอย่างระมัดระวังทว่าน้ำตาของฮองเฮาราวกับไข่มุกที่ขาดออกจากเส้น มันไหลลงมาไม่ขาดสายระยะเวลาสั้นๆ เพียงหนึ่งเดือนกว่าๆ นางกลับดูชราไปกว่าสิบปี ความคิดจิตใจเปราะบางไม่เหลือท่วงท่าสง่างามในตอนนั้นอีกแล้ว
ฮองเฮาคว้ามือของกงเช่อ นางเงยหน้าน้ำตาไหลพรากพร้อมกล่าวขึ้น
“ลูกเอ๋ย เ้าวางใจเถิด แม่จะทำตามที่เ้าบอกเพียงแต่เ้าจะยอมแพ้ไปเช่นนี้จริงๆ หรือ?”
เดิมทีนางคิดว่ากงเช่อรู้สึกสิ้นหวังจึงขอไปสร้างคลองขนส่งที่ใช้เวลาสร้างเป็ห้าหกปีก็อาจสร้างไม่สำเร็จเพราะเขาไม่คิดแย่งชิงบัลลังก์อีกแล้ว
กงเช่อหลุดยิ้มอย่างอดไม่ได้
ดังนั้นเขาจึงก้มหน้าลงที่ข้างหูของฮองเฮา จากนั้นกล่าวคำพูดของกงอี่โม่ซ้ำอีกครั้ง
เดิมทีเขาคิดว่าเมื่อเสด็จแม่รู้แล้ว นางจะต้องตั้งคำถาม เช่นกงอี่โม่มั่นใจจริงหรือเปล่า? นางจะมีวิธีที่สามารถขุดคลองขนส่งได้รวดเร็วขนาดนี้จริงๆหรือ? ......
“ที่เ้าพูดมาเป็ความจริงหรือ? นี่คือคำพูดที่องค์หญิงจาวหยางกล่าวจริงๆ หรือ?” แต่ใครจะรู้ เมื่อได้ยินคำพูดของกงเช่อแล้วดวงตาของฮองเฮากลับเป็ประกาย นางคว้ามือของกงเช่อพร้อมกล่าวอย่างร้อนใจ
กงเช่อพยักหน้ากล่าวว่าใช่
ฮองเฮาพลันหัวเราะเสียงดังเสียงหัวเราะของนางทำให้นางกำนัลที่เฝ้าอยู่หน้าประตูตำหนักได้ยินแล้วถึงกับหวาดกลัวฮองเฮาคงไม่ได้เสียสติเพราะเหตุการณ์ในหลายวันนี้หรอกกระมัง? แล้วพวกนางควรทำอย่างไรดี?
แม้กระทั่งกงเช่อก็รู้สึกกลัวอยู่บางส่วน เขาตบบ่าฮองเฮาเบาๆทว่ากลับพบว่าฮองเฮาเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างกะทันหันสายตาของนางทิ่มแทงจนทำให้เขารู้สึกใจสั่น
“ดี! ดี! ดี!!” นางพูดคำว่าดีต่อเนื่องสามครั้งหากสิ่งที่กงอี่โม่กล่าวมาทั้งหมดล้วนเป็ความจริงเช่นนั้นรอให้บุตรชายของนางกลับมาอีกครั้งถึงเวลานั้นก็มีโอกาสพลิกสถานการณ์ได้อีกไม่ใช่หรือ?! นี่เป็ผลงานยิ่งใหญ่มหาศาลเลยทีเดียว
“ดี ดีมาก” เวลานี้เป็เพราะเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงขึ้นๆ ลงๆฮองเฮาจึงมีสติไม่เต็มที่ ทว่านางยังคงคว้ามือบุตรชายของนางไว้แน่นใบหน้าเริ่มกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง หากการออกจากเมืองหลวงจะมีโอกาสที่ดีเช่นนี้ความมีเกียรติหนึ่งเดียวขององค์รัชทายาทก็ไม่ได้น่าเสียดายอีกแล้ว
“หากทั้งหมดนี้เป็คำพูดขององค์หญิงจาวหยาง ลูกก็ไปทำเถิด ลูกเอ๋ยแม่เชื่อเ้า แม่จะรอเ้าที่วัดเซิ่งโฝ แม่จะรอเ้ากลับมา”
“เสด็จแม่ไม่กลัวว่าลูกจะออกจากเมืองหลวงแล้วสูญเสียอำนาจตลอดกาลหรือ?” กงเช่อรู้สึกแปลกใจเขาไม่เข้าใจว่าเพราะเหตุใดเสด็จแม่จึงเชื่อมั่นในกงอี่โม่ขนาดนี้
ฮองเฮาส่ายศีรษะ ดวงตาหงส์คู่นั้นสะท้อนประกายอีกครั้งราวกับกำลังวางแผนบางอย่าง
“แม้ว่าแม่จะไปอยู่วัด แต่คนของตระกูลหลิวยังอยู่แม่จะช่วยดูแลเหตุการณ์ในเมืองหลวงแทนลูก อีกอย่างนี่เป็เจตนาขององค์หญิงจาวหยางในเมื่อนางกล่าวเช่นนี้ออกมา นางจะต้องทำได้อย่างแน่นอน”
ขณะที่กล่าวนั้นสายตาของนางเคร่งขรึมแต่แล้วนางก็ถอนหายใจผ่อนคลายอีกครั้ง
“กงอี่โม่มีจิตใจดีนางเป็สตรีที่มีความทะเยอทะยานไม่ธรรมดา ลูกเอ๋ย แต่ก่อนแม่มีตาหามีแววไม่จริงๆ”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้