เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยดี เขาก็เปิดหน้าจอสเตตัสขึ้นมา
เลเวล: 7
ประสบการณ์: 35100/40000
พละกำลัง: 51
ว่องไว: 20
ความแข็งแกร่ง: 34
สติปัญญา: 10
พลังโจมตี: 3-43
ความแม่นยำในการโจมตี: 114
ป้องกัน: 77
ความอดทน: 124
พลังชีวิต: 126
มานา: 19
ต้านทานเวทไฟ: 0
ต้านทานเวทน้ำแข็ง: 0
ต้านทานเวทสายฟ้า: 15
ต้านทานเวทพิษ: 0
……
ค่าสถานะตอนนี้เทียบกับตอนเริ่มต้นต่างกันราวกับฟ้าดินเลยทีเดียว
เห็นได้ชัดว่า เลเวลแค่นี้ไม่เพียงพอที่จะแก้ไขปัญหาในโลกจริงของซุนเฟยตอนนี้ได้
ตามที่ซุนเฟยคาดการไว้คร่าวๆ เลเวล 5 ในโลก Diablo เทียบเท่าได้กับนักรบหนึ่งดาวในโลกแห่งความจริง
ระหว่างเลเวล 5 ถึงเลเวล 10 เขาสามารถสังหารนักรบหนึ่งดาวได้อย่างง่ายดายและสามารถจัดการนักรบสองดาวที่เพิ่งเลื่อนขั้นเช่นตุลาการทหารคอนก้าได้ แต่หากต้องเผชิญหน้ากับนักรบสองดาวที่เชี่ยวชาญและอยู่มานานคงต้องเสียเวลานานสักหน่อย แน่นอนว่าเขาเอาชนะพวกนั้นได้แน่ แต่หากต้องเผชิญหน้ากับนักรบสามดาวอย่างแรนดุ๊กและแลมพาร์ดคงไม่อาจโจมตีซึ่งๆ หน้าได้และก็คงไม่มีโอกาสเอาชนะได้
แต่ถ้าเขามีเลเวลเกิน 10 ในโลก Diablo ซุนเฟยก็เชื่อว่าเขาสามารถเผชิญหน้ากับแรนดุ๊ก นักรบสามดาวฝ่ายศัตรูได้โดยไม่ต้องใช้ทักษะพิเศษอย่างทักษะ ‘คำราม’ ถ้าจะพูดให้ดูดีหน่อย เขาก็สามารถเอาชนะมันได้ง่ายๆ
ดังนั้น ซุนเฟยจำเป็ต้องรีบคว้าโอกาสนี้อัพเลเวลให้เร็วที่สุด
หากตัวละครคนเถื่อนเลเวล 10 ก็จะเป็หลักประกันว่าเมืองแซมบอร์ดปลอดภัยมากขึ้น
ซุนเฟยเริ่มปฏิบัติตามแผนที่วางไว้ก่อนเข้ามาโลก Diablo อย่างกระตือรือร้น
วิ้ง วิ้ง วิ้ง
เขาเปิดกระเป๋าแล้วใช้ ‘ม้วนคัมภีร์กลับเมือง’ ประตูมิติรูปครึ่งวงกลมสีฟ้าโผล่ออกมาข้างๆ
ซุนเฟยก้าวเท้าเข้าไป วินาทีต่อมาก็กลับมาที่ ‘ค่ายโรเจอร์’
เขาไปหาแม่ชีอาคาร่าก่อน
ตามที่แผนที่เขาคิดไว้ก่อนหน้า ซุนเฟยซื้อ ‘ม้วนคัมภีร์กลับเมือง’ และ ‘ม้วนคัมภีร์ตรวจสอบ’ อย่างละสิบม้วน ใส่เข้าไปในกระเป๋ามิติในช่องเดียวกัน
มันเหมือนเกมในคอมพิวเตอร์โลกเก่าไม่มีผิด จุดประสงค์ที่ซื้อม้วนคัมภีร์แค่สองเล่มก็เพื่อประหยัดพื้นที่ในกระเป๋ามิติ
เพราะกระเป๋ามิติแต่ละช่องสามารถบรรจุ ‘ม้วนคัมภีร์กลับเมือง’ และ ‘ม้วนคัมภีร์ตรวจสอบ’ ได้ยี่สิบเล่ม และกระเป๋ามิติมีเพียงสองแถว หากซื้อ ‘ม้วนคัมภีร์กลับเมือง’ และ ‘ม้วนคัมภีร์ตรวจสอบ’ อย่างละสี่สิบเล่ม คงพื้นที่ในกระเป๋ามิติหมดไม่ต้องคิดจะใส่ของอย่างอื่นเลย
เนื่องจากยัยป้าอาคาร่าขี้งกชอบกดราคา ดังนั้นซุนเฟยจึงไม่คิดจะขายไอเทมที่นี่เขารีบกล่าวลาและเดินจากไปทันที ซุนเฟยเดินผ่านเต็นท์ไปอีกสองสามเต็นท์ หาที่เงียบๆ ก่อนจะเปิดใช้ ‘ม้วนคัมภีร์ตรวจสอบ’ ตรวจสอบไอเทม
ซุนเฟยตรวจสอบแรร์ไอเทมสามกล่องก่อน อันแรกคือโล่ที่มีเหล็กแหลมอยู่ตรงขอบ
‘ม้วนคัมภีร์ตรวจสอบ’ เล่มหนึ่งค่อยๆ หายไป คุณสมบัติทั้งหมดของโล่ก็ปรากฏตรงหน้าซุนเฟย
‘โล่ตราิญญาคชสาร’
ป้องกัน: +20
โอกาสติดบล็อก: +25%
ระดับความทนทาน: 10/10
พละกำลังที่้า: 35
เลเวลที่้า: 7
คุณสมบัติพิเศษ: ความเร็วในการฟื้นฟูการโจมตี 17%, มานา +7, ต้านทานความเย็น +9, ไม่มีตัวตน (ไม่สามารถซ่อมแซมได้)
คุณสมบัติของโล่ทำให้ซุนเฟยดีใจอย่างมาก นี่เป็อาวุธป้องกันที่เหมาะสำหรับคนเถื่อนเลเวล 7 ด้วยโล่นี้ ความสามารถในการป้องกันของคนเถื่อนสามารถก้าวไปอีกขั้นได้
เสียอย่างเดียว โล่นี้มีระดับความทนทานแค่ 10 และเป็อุปกรณ์ที่ไม่มีตัวตน เมื่อได้รับความเสียหายก็ไม่สามารถซ่อมแซมมันได้ เป็อุปกรณ์ใช้แล้วทิ้ง
แต่จุดด่างพร้อยเล็กๆ น้อยๆ ไม่สามารถบดบังจุดเด่นได้ โล่นี้เป็ไอเทมที่เหมาะกับซุนเฟยตอนนี้
เขาไม่ลังเลที่จะสวมโล่สักนิด
จากนั้นก็ทำการตรวจสอบต่อ
‘ม้วนคัมภีร์ตรวจสอบ’ อีกเล่มหนึ่งค่อยๆ หายไป คุณสมบัติมีดสั้นสีทองก็ปรากฏออกมา
‘มีดสั้นพายุ’
การโจมตี: 3-7
ระดับความทนทาน: 24/24
เลเวลที่้า: ไม่มี
คุณสมบัติพิเศษ: ค่าความเสียหายต่ำสุด +1, ความแม่นยำในการโจมตี +16,สร้างความเสียหายต่ออันเดด +51%, ความแม่นยำในการโจมตีอันเดด +69, สร้างความเสียหายด้วยไฟ +1, สร้างความเสียหายด้วยพิษ +6 ต่อเนื่อง 2 วินาที
เห็นคุณสมบัติของมีดสั้น ซุนเฟยกัดฟันแน่นอย่างมีความสุขจนฟันแทบหัก
เขาครุ่นคิด พลางใส่ไอเทม ‘มีดสั้นพายุ’ กับร่างตัวเองอย่างรวดเร็ว โลก Diablo นอกจากชุดเกราะ แหวน เครื่องรางและไอเทมอื่นๆ ตัวละครเกมทุกตัวสามารถติดตั้งอุปกรณ์อาวุธได้สองชุด ซึ่งสามารถสลับกันไปมาตามแต่สถานการณ์ได้
ซุนเฟยรวม ‘มีดสั้นพายุ’ และ ‘โล่ตราิญญาคชสาร’ เป็ชุดเดียวกัน มือขวาถือมีดสั้นมือซ้ายถือโล่ เลือกมันเป็อาวุธสำรองในการสับเปลี่ยนอาวุธ แต่อาวุธหลักในการโจมตีของซุนเฟยยังคงเป็ขวานคู่ั์อยู่ดี
ต่อมาก็เหลือไอเท็มสุดท้ายที่ต้องตรวจสอบ...ถุงมือสีบรอนซ์
‘ม้วนคัมภีร์ตรวจสอบ’ อีกเล่มหนึ่งค่อยๆ หายไป คุณสมบัติถุงมือก็ปรากฏออกมาตรงหน้าเขา
‘ถุงมือหนังสีบรอนซ์’
ป้องกัน: +6
ระดับความทนทาน: 14/14
คุณสมบัติพิเศษ: ความแม่นยำในการโจมตี +15, ต้านทานไฟ +10%, ต้านทางน้ำแข็ง +15%, ซ่อมแซมตัวเอง 1 ครั้ง ใน 33 วินาที
เป็แรร์ไอเทมชั้นยอดอีกหนึ่งชิ้น
ซุนเฟยรู้สึกมึนหัวนิดหน่อย เขาสงสัยว่าตัวเองทำความดีอะไรไว้ ่นี้ถึงได้โชคดีหล่นทับตลอด แรร์ไอเทมทั้งสามชิ้นไม่เพียงมีคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยม คนเถื่อนเลเวล 7 ยังสามารถใช้งานมันได้อีกด้วย ราวกับว่าเป็ของที่จัดเตรียมมาเพื่อเขาโดยเฉพาะ
เมื่อสติกลับมา ซุนเฟยก็สวม ‘ถุงมือหนังสีบรอนซ์’ แทนถุงหนังอันเก่าที่ใช้จนสึกหรออย่างไม่ลังเล ตอนนี้แรร์ไอเทมทั้งสามชิ้นได้เปล่งประกายอยู่บนร่างเขา ทำให้เขารู้สึกเหมือนเปลี่ยนจากปืนธรรมดากลายเป็ปืนลูกซอง เขาแทบอดใจรอไม่ไหวที่จะไปลุยกับพวกมอนสเตอร์ในบลัดมอร์
เมื่อตรวจสอบไอเทมทั้งสามเสร็จและจัดเก็บของให้เป็ระเบียบเรียบร้อย ซุนเฟยก็ไปหาช่างตีเหล็กสาวชาร์ซี
ในกระเป๋าของเขามีเมจิคไอเทมอยู่สองสามชิ้นที่ตัวเองใช่ไม่ได้ ซุนเฟยจึงขายมันทั้งหมดและได้เงินมาทั้งหมดหนึ่งหมื่นแปดพันหกร้อยหกสิบหกเหรียญทอง มองไปยังกระเป๋าที่ใส่เงินไว้ทั้งหมดสองหมื่นหนึ่งพันเหรียญทองอย่างชื่นชม เห็นจำนวนเงินที่จู่ๆ ทะยานเพิ่มขึ้นมา ซุนเฟยรู้สึกเหมือนจากขอทานกลายเป็เศรษฐีอย่างไรอย่างนั้น
เวลาเร่งด่วน เขาจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้วด้วย ซุนเฟยไม่กล้าอยู่ต่อ
หลังจากที่ให้ชาร์ซีซ่อมแซมอุปกรณ์ทั้งหมดและจ่ายเงินจำนวนหนึ่งเพื่อซื้อหมวกเหล็กหนึ่งใบและรองเท้าหนังหนึ่งคู่ เขาก็หันหลังเดินออกจากร้านช่างตีเหล็กทันที และตรงไปหาคาเชีย หัวหน้าทหารรับจ้างของ ‘ค่ายโร้ก’ เพื่อส่งเควส ‘สังหารบลัด เรเว่นที่ทรยศ’ และรับรางวัล
“โอ้ พระเ้าช่วย นักผจญภัยหนุ่ม เ้าสังหารคนทรยศผู้นั้นได้จริงๆ...ขอแสดงความยินดีกับเ้าด้วย เ้าจะได้รับมิตรภาพและความไว้วางใจจากข้า เพื่อเป็การตอบแทน เ้าจะได้รับโร้กสาวแข็งแกร่งหนึ่งนางไปเป็ทหารรับจ้างส่วนตัว”
คาเชียรู้สึกประหลาดใจมากที่ซุนเฟยทำเควสสำเร็จ
จบคำพูดของนางก็มีโร้กนักธนูสาวแสนสวยคนหนึ่งเดินออกมาจากเต็นท์ที่อยู่ด้านหลังคาเชีย แล้วมาหยุดตรงหน้าซุนเฟย
“นี่คือ เอเลน่า นักธนูเวทที่แข็งแกร่งที่สุดใน ‘ค่ายโร้ก’ นักผจญภัยหนุ่ม จากนี้ไปเอเลน่าจะเป็ผู้ติดตามของเ้า เพื่อร่วมสู้รบเคียงบ่าเคียงไหล่เ้า”
คาเชียแนะนำโร้กสาวตรงหน้าให้ซุนเฟยรู้จัก
ซุนเฟยสังเกตอย่างรอบคอบ
นักธนูเวทสาวที่ชื่อเอเลน่า อายุน่าจะประมาณยี่สิบเอ็ดปี นางตัวเล็กกว่าซุนเฟยเล็กน้อย ผมยาวสลวยสีแดงเหมือนเปลวไฟใช้ผ้าหยาบๆ มัดรวบผมไปด้านหลัง รูปร่างเพรียวบางสวมเกราะหยาบปกปิดเฉพาะส่วนสำคัญเท่านั้น สวมรองเท้าบูทหนังยาวและเผยต้นขาขาวเนียนนุ่ม นางสวมกระโปรงหนังยาวปิดถึงต้นขา รอบเอวบางและหน้าอกหน้าใจที่อุดมสมบูรณ์จนแทบทำให้ผู้คนเืกำเดากระฉูด โอ้ นี่สินะที่เขาว่าหน้าประถม นมมหาลัย อย่างที่คาเชียกล่าวมา นักธนูเวทสาวคนนี้มีกลิ่นอายที่หาได้ยากจากผู้หญิง เป็ความทระนงกล้าหาญนั่นเอง
“สวัสดี ตามที่ท่านหัวหน้าคาเชียกล่าว ข้าจะร่วมสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ท่าน ท่านนักรบผู้กล้าหาญ”
เอเลน่าไม่ชอบพูด หลังจากที่พูดประโยคนี้กับซุนเฟยอย่างเบาๆ ก็เดินไปอยู่ด้านหลังซุนเฟยราวกับเป็บอดี้การ์ดส่วนตัว และไม่พูดอะไรอีกด้วยท่าทางเงียบสงบ ราวกับกล้วยไม้ป่าที่หายากที่ให้ความรู้สึกเงียบสงบ แต่ไม่ได้ทำให้คนรู้สึกว่าเ็า
ซุนเฟยจำได้ว่าความสามารถของทหารรับจ้างในโลกเก่าเก่งกาจเพียงใด
หากจำไม่ผิด เมื่อนำทหารรับจ้างไปสู้ ด้วยความเร็วในการสังหารมอนสเตอร์จะเร็วกว่าที่ฆ่าเพียงคนเดียว และทำให้เลเวลอัพขึ้นอย่างรวดเร็วมาก ดังนั้นเขาจึงไม่ปฏิเสธและรู้สึกขอบคุณคาเชียมาก จากนั้นก็พาบอดี้การ์ดสาวสวยไปรับเควสที่สามของ ‘ค่ายโร้ก’ หากจำไม่ผิดต้องไปรับเควสที่ยัยป้าแม่ชีอาคาร่า เควสที่ต้องค้นหาและช่วยชีวิตตาเฒ่าเคน
เงื่อนไขของเควสนี้ซับซ้อนเล็กน้อย
ซุนเฟยต้องตะลุยผ่านพวกมอนสเตอร์ใน ‘อันเดอร์กราวด์ แพสซิส’ เพื่อไปที่ป่าแห่งความมืดและหาต้นไม้ใหญ่อิวอร์นีและนำม้วนคัมภีร์ลึกลับมาที่ ‘ค่ายโร้ก’ เพื่อให้ยัยป้าแม่ชีช่วยแปลม้วนคัมภีร์ แล้วจะได้ตัวเลขเรียงกันหนึ่งชุด จากนั้นไป ‘สโตนี่ ฟีลด์’ เพื่อไปััเสาหินทั้งห้าเสา เสาหินทั้งห้านี้หลังจากที่ถูกเราััก็จะมีลำแสงพุ่งออกมาก่อนจะรวมตัวกันเป็ประตูมิติแล้วส่งเราไปที่มิติลี้ลับแห่งหนึ่ง ในมิติลี้ลับชายชราที่ชื่อว่าเคนที่ถูกปีศาจห้อยไว้ในกรงต้นไม้เหมือนลิง ภารกิจสุดท้ายของเราคือการฆ่าปีศาจเ่าั้เพื่อช่วยชีวิตเคนหลังจากนั้นถึงสามารถกลับไปรับรางวัลที่ ‘ค่ายโร้ก’
-------------------
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้