เย่เฟิงไม่ได้หวาดกลัวสถานะของหลี่เสวียน แม้เขาจะเป็หนึ่งในแปดผู้าุโคนสำคัญของตำหนักไท่จี๋ แต่สำหรับเย่เฟิงจะนับเป็อะไรได้ ตราบใดที่ซูเฟยหยิ่งสามารถสังหารราชันหั่วยวินเยาได้ หรือหากเขาไปถึงทะเลทรายและหาสิ่งที่สามารถส่งเขากลับไปยังโลกเทวะได้ ตำหนักไท่จี๋จะสามารถทำอะไรเขาได้?
ยิ่งกว่านั้นไม่ต้องกล่าวถึงการสังหารหลี่เสวียน ด้วยกำลังของเขาในตอนนี้สามารถต่อกรกับตำหนักไท่จี๋ได้ด้วยซ้ำ ถึงอย่างไรเขาก็มีเย่เวิ่นเทียนและตระกูลหลงคอยหนุนหลัง และฝีมือของปู่ก็น่ากลัวไม่แพ้กัน
สาเหตุที่เย่เฟิงไม่สังหารหลี่เสวียน เพื่อควบคุมอีกฝ่ายทำตามเป้าหมายบางอย่าง พิษใจสลายของสำนักอิ่นเซียนนับว่าใช้ประโยชน์ได้ดียิ่ง กระบี่ที่เย่เฟิงใช้แทงอีกฝ่ายเคลือบพิษใจสลายเอาไว้ เขาทำให้พิษนี้เข้าไปยังร่างกายของหลี่เสวียนได้สำเร็จ ทั้งฝ่ายตรงข้ามยังาเ็หนัก!
“ทำไมถึงไม่ฆ่าฉัน?”
หลี่เสวียนไม่รู้ว่าเย่เฟิงเคลื่อนไหวอย่างไร เขาเพียงแปลกใจกับการกระทำของเย่เฟิงเท่านั้น หรือว่าชายหนุ่มจะกังวลถึงสถานะาุโตำหนักไท่จี๋ของเขาจึงไม่กล้าลงมือ?
“ทำไมฉันต้องฆ่าแกด้วยล่ะ?” เย่เฟิงถามกลับ ก่อนหัวเราะแ่เบา “ตอนนี้ร่างกายของแกได้รับพิษใจสลายไปแล้ว ถ้าจะให้ดีก็ยอมว่าง่ายและเชื่อฟังฉันซะ ถ้าพวกแกไม่เข้ามาวุ่นวายกับฉัน ฉันก็คงไม่ต้องทำอย่างนี้หรอก...”
ความหมายจากคำพูดเ่าั้ ตราบใดที่หลี่เสวียนเชื่อฟังเขา ชายหนุ่มก็จะไม่ทำให้เขาลำบาก
“หึ ไม่ใช่แค่พิษใจสลาย...” หลี่เสวียนเย้ยหยัน ก่อนบีบข้อมือของเย่เฟิงเอาไว้แน่นเพื่อป้องกันอีกฝ่ายถอยหนี พลางะโขึ้น “เฉินฮุย ลงมือ!”
เย่เฟิงหน้าเปลี่ยนสี รับรู้ถึงแรงมหาศาลที่บีบข้อมือของตนจนไม่อาจเคลื่อนไหวได้ สถานการณ์ท่าไม่ดี เมื่อเผชิญหน้ากับหลี่เสวียนที่ทั้งาเ็และได้รับพิษมาเช่นนี้ เขาสามารถหลุดพ้นจากอีกฝ่ายได้อย่างง่ายดาย เพียงต้องใช้เวลาสองวินาที แต่ระหว่างสองวินาทีนี้ก็เพียงพอที่จะให้เฉินฮุยลงมือทำอะไรบางอย่าง
เมื่อสิ้นเสียงหลี่เสวียน เฉินฮุยและศิษย์สำนักไท่จี๋คนอื่นก็เริ่มเคลื่อนไหว ทุกคนพุ่งไปยังจื่อเจี้ยนหลานซึ่งนอนอยู่ไม่ไกล
“หยุดความคิดนั้นซะ!”
เย่เฟิงขบกรามแน่น โคจรพลังชี่จากทั่วร่างมาที่ข้อมือ คิดจะสลัดพันธนาการของหลี่เสวียน แต่เขาก็ต้องพบว่าพลังของหลี่เสวียนล้ำลึกกว่าเขามากนัก จึงไม่อาจสลัดอีกฝ่ายหลุดได้ในทันที
ในเวลานั้นเองจ้าวอี้เปยและหลิงเฉินที่ซ่อนตัวอยู่ก็เริ่มเคลื่อนไหวโดยไม่ต้องรอคำสั่งของเย่เฟิง
หอกกระดูกมวลพิษ!
มวลพิษจากอากาศโดยรอบหลอมรวมเป็หอก พุ่งเข้าใส่เหล่าลูกศิษย์ตำหนักไท่จี๋นับสิบคนที่วิ่งไปทางจื่อเจี้ยนหลาน
ฉากนี้ทำให้เหล่าลูกศิษย์ของตำหนักไท่จี๋ตกตะลึง
หอกแหลมน่ากลัวเ่าั้คืออะไรกัน ทำไมถึงปรากฏขึ้นกลางอากาศและพุ่งตรงมาทางพวกเขากันล่ะ? เื่นี้มันน่าแปลกใจพอๆ กับพร์ของเย่เฟิงเลย! หรือว่าเย่เฟิงไม่ได้อยู่เพียงลำพัง ยังมีคนอื่นคอยให้ความช่วยเหลือเขาอีกงั้นเหรอ?
กลุ่มคนเ่าั้รู้สึกกังวลขึ้นมา ทว่าสถานการณ์ตรงหน้าทำให้พวกเขาต้องโต้ตอบโดยสัญชาตญาณ พยายามหลบหลีกหอกกระดูกมวลพิษที่พุ่งเข้าใส่ และพุ่งไปหาจื่อเจี้ยนหลานเพื่อจับเธอเป็ตัวประกันจากการคุกคามของเย่เฟิง ไม่เช่นนั้นพวกเขาก็ไม่มีวิธีอื่นสามารถต่อกรกับเย่เฟิงได้แล้ว
วิชาเซียน ศรฝังดวงดาว!
วิชาเซียน เปลวสุริยะ!
ในที่สุดหลงหว่านเอ๋อร์และซูเมิ่งหานที่ซ่อนตัวอยู่ก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง ก่อนรีบใช้วิชาเซียนออกมาโจมตีคนของตำหนักไท่จี๋
หลงหว่านเอ๋อร์เป็ผู้ฝึกวิถีเซียนที่มีระดับพลังยี่สิบห้าปี เทียบได้กับผู้มีพลังห้าสิบปีในยุทธจักร เมื่อเธอลงมือ ศรฝังดวงดาวยิงถูกต้นขาของเด็กเคราะห์ร้ายคนหนึ่งอย่างไร้ความปรานี จากนั้นยิงใส่เด็กหนุ่มเคราะห์ร้ายอีกคน
ยิงศรนัดเดียวกลับโจมตีศัตรูได้ถึงสองคน!
ลูกไฟเปลวสุริยะของซูเมิ่งหานพุ่งใส่กลุ่มคนที่กำลังหลบหลีกหอกกระดูกมวลพิษอย่างรวดเร็ว ก่อนที่มันจะกระแทกหน้าอกศิษย์หญิงของตำหนักไท่จี๋คนหนึ่ง ฉับพลันเปลวเพลิงก็ลุกโชนแผดเผาผิวกายเธอ เคราะห์ดีที่หญิงสาวมีระดับวรยุทธ์ล้ำลึกกว่าซูเมิ่งหานมาก จึงกลิ้งตัวไปกับพื้นเพื่ออาศัยความชื้นจากต้นหญ้าช่วยดับไฟ เพียงแต่เวลานั้นเธอไม่สามารถลุกขึ้นยืนหรือสู้ได้อีก
“แย่แล้ว”
เฉินฮุยที่ซุ่มดูสถานการณ์พบว่าเพียงการโจมตีในรอบเดียวก็สามารถทำร้ายคนของเขาได้ถึงห้าคน นอกจากนี้อีกสองคนที่โดนหอกกระดูกมวลพิษโจมตีก็ล้มลงกับพื้น และร้องโหยหวนอย่างเ็ป
“พลังไท่จี๋ กระบวนท่าจับหางนกกระจอก!”
เฉินฮุยหวาดกลัวอยู่ภายในใจ จึงเร่งออกกระบวนท่า พลังภายในถูกปลดปล่อย จื่อเจี้ยนหลานที่นอนอยู่ไม่ไกลก็ถูกพลังนี้ดึงดูดเข้าหาเฉินฮุยอย่างไม่อาจต้านทานได้
หากเทียบกระบวนท่านี้กับของหลี่เสวียน พลังของเฉินฮุยถือว่าด้อยกว่ามาก แต่สำหรับจื่อเจี้ยนหลานที่นอนสลบไสลไร้แรงขัดขืนนั้นไม่มีทางต้านทานพลังที่เฉินฮุยปลดปล่อยออกมาเพื่อดึงร่างเธอเข้าไปหาได้
“พิษสลายิญญา!”
แววตาเฉินฮุยเปล่งประกายชั่วร้าย เขาใช้มือข้างหนึ่งหยิบลูกดอกพิษออกมาจากเอว ก่อยเหวี่ยงมันใส่จื่อเจี้ยนหลาน
เหตุการณ์นี้อยู่เหนือความคาดหมายของจ้าวอี้เปย หลิงเฉิน หลงหว่านเอ๋อร์ และซูเมิ่งหาน ทำให้พวกเขาไม่อาจขวางอีกฝ่ายได้ทัน
ฉึก!
ลูกดอกยาพิษปักเอวบางของจื่อเจี้ยนหลาน ก่อนได้ยินเธอครางออกมาด้วยความเจ็บ
“ฮ่าๆๆ เย่เฟิงแกหยุดมือซะเถอะ!”
เมื่อเห็นดังนั้น เฉินฮุยก็หัวเราะด้วยความพึงพอใจ
จื่อเจี้ยนหลานถูกพิษสลายิญญาจากเขาไปแล้ว!
ลูกดอกนี้มีพิษร้ายแรง หากถูกพิษสิบสองชั่วโมงแล้วยังไม่ได้รับยาถอนพิษ สมองจะได้รับความเสียหายจนกลายเป็คนปัญญาอ่อนในที่สุด เขาได้รับลูกดอกพิษนี้มาจากเพื่อนที่อยู่วิหารดาบสววค์
“สาวน้อยของแกถูกพิษสลายิญญาแล้ว หยุดมือ ไม่อย่างนั้นฉันจะปลิดชีพเธอซะ!”
ในที่สุดเฉินฮุยก็สามารถเดินออกมาจากความกลัวที่เย่เฟิงหยิบยื่นมาให้ เวลานี้เขารู้สึกภูมิใจมากที่ตัวเองสามารถจัดการคนที่แม้แต่ผู้าุโของตำหนักไท่จี๋อย่างหลี่เสวียนก็ไม่อาจจัดการได้ หลี่เสวียนเกือบถูกเย่เฟิงสังหาร ทว่าตนกลับมีกลยุทธ์ที่สามารถหยุดยั้งเย่เฟิงไว้ได้ เขาช่างฉลาดปราดเปรื่องเสียจริง!
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเขาไม่มียาถอนพิษ! หาก้าถอนพิษ มีเพียงต้องตามหาคนของวิหารดาบ์เท่านั้น ไม่เช่นนั้นก็ต้องตามหาสมบัติวิเศษของตำหนักไท่จี๋อย่างกระจกครอบสุริยะ แต่มันก็สายเกินไปแล้ว เพราะอย่างหลังขึ้นอยู่กับพอใจของเฉินฮุยต่างหาก
อย่างดีเขาก็จะพาจื่อเจี้ยนหลานกลับตำหนักไท่จี๋ไปด้วยกัน หลังจากเธอหายดี เขาก็จะจัดการเธอโดยไม่รีรอ เพื่อให้เย่เฟิงลิ้มรสการถูกสวมหมวกเขียวเสียบ้าง...
“ไร้ยางอาย”
หลงหว่านเอ๋อร์ที่อยู่ด้านข้างะโด้วยความโกรธจัด ก่อนปรี่เข้ามาหาอีกฝ่ายด้วยความเร็วดุจพายุ
มังการฟาดหาง!
แรงเตะทำให้เฉินฮุยลอยขึ้นไปกลางอากาศ ก่อนกระแทกกับต้นไม้ใหญ่อย่างแรง
“เจี้ยนหลาน เธอเป็ยังไงบ้าง?”
หลงหว่านเอ๋อร์ประคองร่างนุ่มนิ่มของจื่อเจี้ยนหลานขึ้นมา ซูเมิ่งหานเองก็รีบวิ่งมาหยุดอยู่ด้านข้าง คอยขวางเหล่าลูกศิษย์ของตำหนักไท่จี๋อย่างกล้าหาญ พลางจ้องศัตรูด้วยสายตาดุดันและเดือดดาล
ด้านเย่เฟิงที่อยู่ไม่ไกล ในที่สุดเขาก็สามารถหลุดจากพันธนาการของหลี่เสวียนได้ หลี่เสวียนาเ็สาหัสทั้งยังถูกพิษ ทำให้พละกำลังอ่อนแอลงเรื่อยๆ เพียงไม่นานก็ไม่อาจฝืนจนต้องปล่อยเย่เฟิง ทว่ากลับถูกเย่เฟิงจับเอาไว้จนไม่อาจขยับได้
“พิษสลายิญญาคืออะไร?”
เย่เฟิงเงยหน้ามองเฉินฮุยที่ถูกหลงหว่านเอ๋อร์เล่นงานพลางหรี่ตา ชายคนนี้ช่างกล้านัก นึกไม่ถึงว่าเขาจะสามารถฝ่าการป้องกันของพวกจ้าวอี้เปยแล้วลงมือได้ สิ่งนี้ทำให้เย่เฟิงคาดไม่ถึงจริงๆ
ในเมื่อทำให้จื่อเจี้ยนหลานได้รับพิษแล้ว ยังจะให้เขาประนีประนอมได้อีกเหรอ?
ช่างไร้เดียงสาเกินไปแล้ว!