ลมหายใจแ่เบาของหญิงสาวอยู่บนใบหน้า ในความตึงเครียดดูเหมือนว่านางจะตื่นเต้นเล็กน้อย บนร่างกายของนางมีกลิ่นหอมแปลกๆ ที่แตกต่างจากกลิ่นหอมของดอกไม้ทั่วไป และในความเย็นะเืกลับมีพลังบางอย่างที่ทำให้ผู้คนสับสน
เขาคุ้นเคยเป็อย่างมาก
ทันใดนั้น เซียวเจวี๋ยก็นึกขึ้นมาได้ว่า นี่คล้ายกลิ่นหอมของบุปผาแห่งปรภพของถนนหวงเฉวียน
ใช่ นางคือน้องสาวของคนผู้นั้น
อารมณ์ที่ปั่นป่วนในใจก็ค่อยๆ สงบลง เหลือแค่เพียงความเย็นะเื
ชิงอีเบิกตากว้าง และจ้องไปที่ชายตรงหน้าอย่างไม่ละสายตา เมื่อแน่ใจว่าเขายังคงหลับอยู่ก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งใจ
ประสิทธิภาพกำยานของโลกมนุษย์อันนี้ไม่ค่อยน่าเชื่อถือสักเท่าไรเลยแฮะ พลิกตัวได้ขนาดนี้? ก็ไม่ควรที่จะนอนเหมือนหมูตายหรือไม่?
ชิงอีพึมพำในใจ หลังจากละทิ้งความคิดที่ไร้สาระไป สีหน้าก็กลับมาจริงจังขึ้นอีกครั้ง
ภายนอกของหนุ่มน้อยผู้นี้ก็ไม่ได้มีอะไรผิดแปลกไป เช่นนั้นความลับเล็กๆ ของเขาถูกซ่อนไว้ที่ไหนกันนะ?
เซียวเจวี๋ยรู้สึกได้ถึงสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยของนาง และคาดเดาไม่ถูกว่านางจะทำอะไรต่อไป
ทันใดนั้น ก็มีััที่นุ่มนวลบนริมฝีปาก
นี่นางกำลัง...
ชิงอีจับใบหน้าของเขาและกดริมฝีปากลงมา
นางััได้ถึงกระแสพลังที่ไหลรินกลับคืนสู่ร่างกายนาง พร้อมกับิญญาร้ายบริสุทธิ์บนร่างของชายหนุ่ม ชั่วขณะหนึ่งก็มีแสงสีแดงเล็กๆ ปรากฏขึ้นในดวงตาของนาง ทว่า นางก็ไม่ยอมเลิกรา
นางต้องรีบดูดพลังจากชายหนุ่มคนนี้ให้เกลี้ยง!
ระหว่างริมฝีปากและฟัน ลิ้นเล็กๆ ที่คล่องแคล่วเข้าไปสำรวจอย่างไม่เต็มใจ
บ้าเอ๊ย!
ดวงตาของชิงอีเบิกกว้างขึ้นทันที พลังที่น่ากลัวก็พุ่งออกมาจากร่างของเซียวเจวี๋ย จนทำให้นางกระเด็นออกไป เหตุการณ์ที่เกิดอย่างกะทันหันจนรับมือไม่ทัน ร่างทั้งร่างของนางกลิ้งลงไปจากตั่ง
ฟู่ นางที่ไม่สามารถต้านทานพลังได้ นางกัดปากของตนเองเพราะเจ็บ จนต้องสูดลมหายใจเข้าลึกๆ
ทว่า ในตอนนี้กลับไม่ได้สนใจอะไรมากนัก นางก็ลุกขึ้นจากพื้นแล้วมองที่ตั่งด้วยความใ
นางเห็นแสงสีทองจางๆ ส่องประกายอยู่ในร่างของเซียวเจวี๋ย ที่นิ้วนางข้างซ้ายของเขามีสิ่งที่เหมือนแหวนอยู่ มันกำลังส่องแสงออกมา
“แหวนจื่อจิน!”
ดวงตาที่สวยงามของชิงอีเบิกกว้างขึ้นทันที เ้าแมวอ้วนก็วิ่งเข้ามาเมื่อได้ยินการเคลื่อนไหวภายใน ทันทีที่เห็นแหวนจื่อจิน ดวงตาของมันก็แทบจะหลุดออกมา
“นี่ไม่ใช่แหวนจื่อจินของเทพจื่อเซียวหรอกหรือ? มันอยู่ในมือของเขาได้อย่างไรกัน!”
เ้าแมวอ้วนส่งเสียงดังออกมา
ชิงอีส่ายศีรษะ ดวงตาก็แปรเปลี่ยนเป็สว่างขึ้นในทันที
“ไม่แปลกใจเลยที่เด็กคนนี้สามารถกลืนกินพลังคาถาของข้าได้ ที่แท้แหวนจื่อจินก็อยู่ในมือของเขานี่เอง” ชิงอีก้าวเข้ามาด้วยความตื่นเต้นโดยไม่พูดอะไร รีบตรงเข้าไปที่ข้อมือของเซียวเจวี๋ย
ดวงตาของเ้าแมวอ้วนดูมึนงงเล็กน้อย พร้อมกับกลืนน้ำลาย “เทพจื่อเซียวเป็เทพบน์ ว่ากันว่าแหวนจื่อจินนี้ทำโดยเขาด้วยหินผานกู่ที่สามารถบรรจุทุกอย่างในโลกได้ ในคราแรกจักรพรรดิแห่ง์ก็ไปหาเขาและขอมันมา ทว่า ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่ให้! ชิงอี คราวนี้มันคือความโชคดีของเราไม่ใช่เหรอ?”
“แล้วใครว่าไม่ใช่ล่ะ?” ชิงอีจ้องไปที่มือของเซียวเจวี๋ยอย่างมัวเมา “หากมีแหวนจื่อจินวงนี้ แม้ว่าจะไม่มีไข่มุกราชัน เส้นทางแห่งการกลับชาติมาเกิดก็สามารถคงอยู่ได้นานหลายพันปี”
“เพียงแต่เซียวเจวี๋ยเป็แค่มนุษย์ธรรมดา เหตุใดเขาถึงมีแหวนจื่อจินได้กันนะ?” เ้าแมวอ้วนพึมพำ “หรือเขาแปลงร่างด้วยอาวุธิญญาวิเศษหรือเปล่า? หรือโดนลงทัณฑ์จาก์ให้มาบนโลกนี้?”
ชิงอีขมวดคิ้ว และคิดอะไรบางอย่าง “จื่อโตวผู้นั้นมาเมื่อหลายวันก่อน เพื่อสิ่งนี้งั้นหรือ?”
การกลับชาติมาเกิดของตระกูลเซียน โดนลงทัณฑ์จาก์ลงมายังโลกมนุษย์จะถูกควบคุมโดยยมโลก หากเซียวเจวี๋ยผู้นี้แปลงร่างด้วยอาวุธิญญาวิเศษจริงๆ การลงทัณฑ์จาก์ลงมายังโลกมนุษย์ แล้วจะกลายเป็เซียนได้ แล้วจื่อโต่วผู้นั้นก็ต้องรู้เื่นี้อย่างแน่นอน!
ดังนั้นมันจึงสมเหตุสมผลแล้ว ไม่เช่นนั้น เ้าหลงตัวเองนั่นจะมาที่วัดรกร้างบนูเาเพื่ออะไรกัน?
สายตาของชิงอีที่มองไปยังเซียวเจวี๋ยก็แปรเปลี่ยนเป็ความเสน่หาขึ้นมาทันใด ไอ้หยา เ้าหนุ่มน้อยผู้นี้ดูหล่อเหลาเสียจริงในตอนนี้ พลังก็ไม่ธรรมดา สมแล้วที่มีแหวนจื่อจิน!
กรงเล็บเล็กๆ ของชิงอีกรีดกรายราวกับเล่นพิน ไหนๆ สมบัติชิ้นนี้ก็ส่งมาตรงหน้าแล้ว จะไม่ให้ยิ้มรับไว้ก็จะเสียมารยาทกระไรอยู่
ชิงอีคว้าแหวนจื่อจินแล้วใช้แรงถอดมันออกมา เฮ้อ มันจะแน่นอะไรขนาดนี้!
นางใช้พลังงานทั้งหมดที่มีดึงมันออกมา ทว่า แหวนจื่อจินไม่สามารถถอดออกได้เลย ราวกับว่ามันเติบโตบนนิ้วของเซียวเจวี๋ย
“ข้าตัดมือเ้าทิ้งซะดีไหมเนี่ย!” เ้าแมวอ้วนะโอยู่ข้างๆ อย่างร้อนรน น้ำลายของมันแทบจะไหลย้อยออกมา
“อย่าตื่นเต้นไป!” ชิงอีโบกมือและออกแรงอีกครั้ง
ด้วยความแข็งแกร่งของนางในตอนนี้ แท่งเหล็กยังสามารถบิดจนเป็เกลียวได้ ทว่า แค่ถอดแหวนจื่อจินกลับไม่ขยับแม้แต่นิด
คนหนึ่งคนและแมวหนึ่งตัวถึงกับหมดแรง ทั้งสองมองหน้ากัน
“ไปเอามีดมา!” ชิงอีกัดฟัน นางไม่ยอมจำนนต่อความชั่วร้ายหรอก!
“เอามีดมาทำไมกัน ข้าเอง!” เ้าแมวอ้วนกางกรงเล็บออกมา ความคมของมันไม่ได้น้อยไปกว่าอาวุธอื่นๆ บนโลกใบนี้เลย
เคร้ง
เสียงที่ทำให้คนรู้สึกเสียวจนรู้สึกขนลุกดังขึ้นในห้อง กรงเล็บของแมวอ้วนยังไม่ทันที่จะได้เข้าใกล้มือของเซียวเจวี๋ย ทว่า กลับถูกกีดขวางโดยสิ่งที่มองไม่เห็น เล็บของมันก็กระทบสิ่งที่กั้นไว้ จนเกิดเสียงขีดข่วนราวกับข่วนลงไปบนโลหะ
โอ๊ย อยากจะตัดมือก็ตัดไม่ได้อีก!
“อาวุธเทพอย่างแหวนจื่อจินวงนี้จะปกป้องเ้าของมันทันที” ชิงอีพูดด้วยสายตาที่ลึกล้ำ “หากเล็บของเ้าหักมันได้ มันก็ไม่ใช่สมบัติที่จื่อเซียวลงทุนลงแรงทำมันออกมาน่ะสิ”
“เช่นนั้นต้องทำอย่างไรล่ะ?” เ้าแมวอ้วนร้องลั่น เนื้ออวบอ้วนชิ้นใหญ่อยู่ตรงหน้าก็กินไม่ได้ ทำได้แค่กลืนน้ำลาย ทรมานจริงๆ!
ชิงอีลูบคาง ในดวงตาเป็ประกายไปด้วยความชั่วร้าย
“หากเขาเต็มใจที่ถอดมันออกมาให้ข้าด้วยตนเอง เช่นนั้นข้าก็คงช่วยอะไรไม่ได้”
เ้าแมวอ้วนมองนางราวกับเป็คนโง่ และอดไม่ได้ที่จะถามว่า “ใครให้ความกล้าหาญแก่ท่าน...” ในการพูดเช่นนี้?
ดวงตาสวยของชิงอีจ้องเขม็ง “ข้าผู้นี้มีขาสวยเรียวยาวและทรวงอกที่...ถึงแม้จะไม่ใหญ่ ทว่าใบหน้าก็งดงาม! แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว! ต่อให้เขาจะกลับชาติมาเกิดด้วยอาวุธเทพ ทว่า ตอนนี้เซียวเจวี๋ยก็เป็แค่หนุ่มน้อยคนหนึ่ง เ้ารอดูได้เลย!”
“ทำให้เขายอมจำนนต่อความงามของข้า แค่ชั่วพริบตา ข้าก็ทำได้แล้ว!”
เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ของนาง ในใจของเซียวเจวี๋ยทั้งโกรธทั้งมีจิตสังหารขึ้นมา เขาเกือบจะสูญเสียการควบคุมและหัวเราะออกมาแล้ว!
เ้าแมวอ้วนดึงหนวดของมัน อยากพูดว่าท่านอย่ามั่นใจตนเองมากเกินไป พอถึงเวลานั้นเดี๋ยวจะหน้าแหกเอาได้!
“เช่นนั้นตอนนี้ต้องทำอย่างไรล่ะ แหวนจื่อจินก็ถอดออกมาไม่ได้ ทั้งแหวนวงนี้ยังปกป้องเ้าของทันทีอีก เกิดไม่ระวังขึ้นมา พลังของท่านก็คงถูกกลืนกินโดยชายหนุ่มผู้นี้อีกครั้ง”
“ในเมื่อไม่สามารถถอดมันออกได้ในตอนนี้ เช่นนั้นตอนนี้ก็คงรออีกสักหน่อย รออีกหน่อย...” ชิงอีส่งเสียงพึมพำออกมา
จะปล่อยไปอย่างนั้นหรือ? เ้าแมวอ้วนนั้นงุนงงเล็กน้อย และในวินาทีต่อมามันก็เห็นชิงอีพุ่งเข้าไปราวกับหมาป่าผู้หิวโหย
มั้วะ มั้วะ มั้วะ นางกุมใบหน้าของชายหนุ่มไว้ จากนั้นก็ประโคมจูบอย่างบ้าคลั่ง
เ้าแมวอ้วนที่ขนลุกไปหมดทั้งตัว แม่เ้า! ใครก็ได้มาหยุดการกระทำน่ารังเกียจเช่นนี้หน่อย!
มีเสียงอู้อี้ดังขึ้นในหัวของเซียวเจวี๋ย ััที่อบอุ่นบนริมฝีปาก ทำให้จิตใจของเขาสงบนิ่ง ทันใดนั้น เขาได้ยินเสียงแกร๊ง เหมือนกับว่ามีบางอย่างตกลงบนพื้น
“แหวนจื่อจิน!”
ชิงอีหยุดการอนาจารลง มองดูแหวนจื่อจินที่ตกลงไปบนพื้น แล้วพูดว่า “นี่ เ้าว่าแหวนจื่อจิน มันชอบให้ใช้ไม้อ่อนหรือไม่ รู้งี้น่าจะทำตั้งนานแล้ว”
เ้าแมวอ้วนคิดว่าเกรงว่ามันคงใกลัวท่าทางที่ดุร้ายราวกับเสือของท่านน่ะสิไม่ว่า
นางหยิบแหวนจื่อจินขึ้นมาสวมบนนิ้วของตนเอง และยิ้มอย่างพึงพอใจ
สมบัติมาอยู่ในมือแล้ว ดูซิว่าต่อจากนี้เ้าหนุ่มน้อยผู้นี้จะยังโชว์พลังอะไรกับนางอีกหรือไม่!
เ้าแมวอ้วนกลืนน้ำลาย “เช่นนั้นเราควรฆ่าคนผู้นี้หรือไม่?”
“เก็บไว้ก่อนก็แล้วกัน บางทีอาจจะมีประโยชน์ในอนาคต” ในใจของชิงอีขณะนี้คิดแค่เื่สมบัติ นางได้ไปสนใจเื่เซียวเจวี๋ยเสียที่ไหนกัน
นางลุกขึ้น จากนั้นเตะประตูให้เปิดออก แล้วเดินออกไปอย่างมีความสุข
ชิวอวี่ที่เฝ้าประตูอยู่ก็ใ เมื่อเห็นร่างข้างหลังของหญิงสาวที่ตื่นเต้นดีใจราวกับขโมยไก่ได้ ใช้เวลาอยู่นานกว่าสติจะกลับมา เขารีบวิ่งไล่ตามนางไป ในใจก็ยังพึมพำว่าองค์หญิงคงไม่ได้วาดรูปเต่าลงบนหน้าเซ่อเจิ้งอ๋องอีกแล้วใช่หรือไม่?
เ้าแมวอ้วนะโลงจากหัวเตียง และมองไปที่ใบหน้าที่หล่อเหลาของชายหนุ่ม จากนั้นจึงพูดเบาๆ ว่า “หากเป็ิญญาที่กลับมาเกิดใหม่ด้วยอาวุธิญญาวิเศษจริงๆ รสชาติก็คงจะหวานเจี๊ยบแน่ๆ หรือข้าควรจะกินสักสองคำดี?”
อาการเสียวสันหลังที่ไม่สามารถอธิบายได้เกิดขึ้นที่หลังของมัน จู่ๆ เ้าแมวอ้วนก็รู้สึกว่าใบหน้าของชายตรงหน้าดูมืดมน
มันตัวสั่น และมีความกลัวบางอย่างที่อธิบายไม่ได้
“ช่างมันเถอะ...โดนน้ำลายชิงอีหมดแล้ว มันสกปรกเกินไป!”
หลังจากบ่นงึมงำเสร็จ เ้าแมวอ้วนก็หายออกไปจากห้อง
ในห้อง ชายหนุ่มก็ลืมตาขึ้นและลุกขึ้นนั่งบนตั่ง
เซียวเจวี๋ยสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ระงับอารมณ์ที่พลุ่งพล่านอยู่ในดวงตา ขณะที่เขาเม้มปากก็ตระหนักได้ว่ามีใครบางคนทำอะไรบนใบหน้าของเขาก่อนหน้านี้ มีความรู้สึกอธิบายไม่ถูกผุดขึ้นมาในจิตใจ
ทั้งรู้สึกจักจี้และรู้สึกน่าขันในเวลาเดียวกัน
ทั้งยังรู้สึกจนมุมอย่างบอกไม่ถูก...
เห็นได้ชัดว่านางเป็หญิงสาวที่เย่อหยิ่ง ก้าวร้าว ร้ายกาจ และไร้ยางอาย เหตุใด...เหตุใดถึงทำเื่แต่เื่โง่ๆ เช่นนี้อยู่บ่อยๆ?
เซียวเจวี๋ยััใบหน้าของตนเองและยิ้มอย่างขมขื่น โชคดีที่นางไม่ได้วาดรูปเต่าในครั้งนี้
น่าปวดหัวจริงๆ
เขาขมวดคิ้ว ในดวงตามีรอยยิ้มจางๆ แวบเข้ามา
นอกประตู ฉู่สือที่ถูกเหยียบก็ตื่นขึ้นมา เมื่อลุกขึ้นมาสิ่งแรกที่เขาทำคือรีบเข้าไปในห้อง
“าา!”
รอยยิ้มบนใบหน้าของเซียวเจวี๋ยหายไปในทันที เมื่อเห็นฉู่สือจ้องมาที่เขาด้วยความใพร้อมกับดวงตาที่เบิกกว้าง
และจู่ๆ เขาก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นได้
อีกด้านหนึ่ง ดวงตาของฉู่สือแปรเปลี่ยนเป็แดงก่ำ และเขาดูเหมือนกำลังจะร้องไห้
“าาต้องแบกรับความอัปยศอดสู ราชินีชิงอีผู้ชั่วร้ายนั่นเป็เพียงแค่คนโลภ”
มีรอยประทับเต็มไปทั่วใบหน้าของาา พระเ้า! หญิงสาวผู้นั้นไร้ยางอายเกินไปจริงๆ
เซียวเจวี๋ย : ...
เขา้าความสงบ ขอแค่ความสงบจริงๆ!